เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 19, 2024, 08:22:48 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อยากถามพี่ๆทหารว่า มีค่ายไหนที่เขารับซ่อมเสริมพฤติกรรมของเด็กแบบเจ้านี่บ้างไหมครับ?  (อ่าน 1559 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Jakkathorn
Full Member
***

คะแนน 39
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 294


« เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2013, 12:02:25 AM »

เจ้าเด็กที่ออกรายการวอยซ์ทีวีว่าอยากให้ยกเลิกระบบความเป็นไทยในโรงเรียนเมื่อวันก่อนน่ะครับ วันนี้ มีข่าวแรงๆออกมาอีกแล้ว  แบร่ แบร่ แบร่

1 ก.ค.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล เลขาธิการสมาพันธ์นักเรียนไทยเพื่อการปฏิวัติระบบการศึกษาไทย และบรรณาธิการ นิตยสารปาจารย์สาร ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คส่วนตัว ที่ใช้ชื่อว่า Netiwit Ntw โดยโพสต์ไว้เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา แสดงความเห็นภายใต้เรื่องว่า ความเป็นไทยตั้งแต่หัวจรดตีน – ผ่านระบบการศึกษาไทย โดยเขียนถึงระบบการศึกษา เนื้อหาสาระ และเรื่องการเรียนการสอน

นายเนติวิทย์ โพสต์ตอนหนึ่งว่า ระบบโซตัส เป็นสิ่งที่พิเศษสำหรับประเทศแห่งนี้ ความคิดการจัดวางลำดับชั้นต่ำสูง ระบบอาวุโส ระบบอุปถัมภ์ ครู – นักเรียน แบบพ้นยุคพ้นสมัย จึงเป็นสิ่งสำคัญ นักเรียนก็ไม่เท่าเทียมกับครู ปัญหาการโต้เถียงถกเถียงครูอาจารย์ในสังคมไทยบางทีก็เป็นเรื่องรับไม่ได้ นักเรียนคิดแย้งก็มีน้อยและส่วนมากไม่กล้า เพราะสภาพที่กดดันและอำนาจนิยม

แม้ครูกับครูเองก็มีปัญหา คือผู้บริหารคิดว่าตัวเองวิเศษ สูงส่งกว่าครูธรรมดา ครูก็มีหน้าที่รับฟัง เชื่อฟัง ขัดแย้งไม่ได้ แม้มีคนขัดแย้งก็หาพวกรวมกลุ่มกันได้ยาก เพราะครูเองก็เคยเป็นนักเรียนถูกหลอมผ่านระบบการศึกษาที่เห็นระบบอาวุโส เป็นของดี วันไหว้ครูก็ต้องหมอบคลานเข้าไปเหมือนสิงสาราสัตว์ แล้วก็อ้างว่า เป็นของไทย น้ำตาจะไหลเพราะซึ้งจัด

ในเรื่องของเนื้อหาสาระนั้น เน้นไปเฉพาะวิชาสังคมศึกษา หมวดประวัติศาสตร์ เราแคบมาก เน้นการท่องจำจนเกินไป แบบไม่มีความสุข ไม่ให้ศึกษาวิเคราะห์ ซ้ำร้ายที่สุดคือชุดความคิดที่พวกเขาสร้างประดิษฐ์กรรมขึ้นมา ซึ่งซึมเข้าสู่สังคมจนสังคมเป็นแบบที่เราเห็น ไม่มีการเรียนการสอน การศึกษาอดีตของเราจึงเป็นของปลอม ไม่ให้คนมีความลึกซึ้ง คนที่อยากจะเรียนรู้จึงหวังพึ่งตำราเรียนไม่ได้

นักเรียนส่วนมากถูกปลูกฝังเรื่องชาตินิยม ปลุกฝังเรื่องของการเสียดินแดน 14 ครั้ง ทั้งที่ดินแดนเหล่านั้นไม่ใช่ของไทยจริงๆ อาการเหยียดเพื่อนบ้านก็ย่อมมี แสดงว่าเราจะเข้าประชาคมอาเซียนแบบดูถูกเพื่อนบ้าน ไม่เป็นเรื่องที่ฉลาดเลย พวก 14 ตุลา หรือ 6 ตุลาคม เราได้บทเรียนอะไรไม่มี ประวัติศาสตร์ของเราที่สอนๆกัน เน้นไปเมื่อ 100 – 700 ปีที่แล้ว ดังนั้นคนในประเทศเราไม่แปลกที่มีความคิดแบบ หนึ่งร้อยปีก่อน ก็ไม่แปลกที่คนรุ่นใหม่ไม่รู้จักนายปรีดี พนมยงค์ นายป๋วย อึ้งภากรณ์

นายเนติวิทย์ โพสต์ในเรื่องการสอนว่า มี 2 แบบ คือ 1.สอนให้โง่ กับ 2.สอนให้ฉลาด เวลานี้ดูเหมือนสอนให้โง่ ถ้าสอนให้ฉลาดต้องสอนให้มีการตั้งคำถาม ตรวจสอบกับอดีตซึ่งมีผลกับปัจจุบันทั้งนั้น เหตุใด ทำไมจึงเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ นี่ไม่มี การสอนแบบนี้คือสอนให้โง่

“สุดท้ายแม้เราจะไม่รู้หรอกว่าความเป็นไทยคืออะไร ถามครู ถามนักเรียน ถามใครๆ หาคำตอบที่ชัดเจนไม่ได้ แต่เราก็ยังยินดีอุทิศตัวให้กับนามธรรมแบบนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชนชั้นปกครองเห็นว่าเป็นของดี เพราะถ้าคุณถาม อำนาจของพวกเขาก็สั่นคลอน ความเป็นไทยที่ครอบงำสมอง ทรงผม เครื่องแบบ จากหัวจรดตีน ก็จะพินาศไป ผมอยากให้เราไปพ้นความเป็นไทย ซึ่งความเป็นไทยแบบนี้คือความเป็นทาสที่ไม่ต้องล่ามโซ่พันธนาการก็ยินดีกับความเป็นทาส ฉีกกรอบไปหาความเป็นไท ที่อิสรเสรี แล้วคิดว่านักเรียนเวลานี้ก็ตื่นตัวกันมากแล้วที่จะเป็นไท”

ที่มาของข่าว: http://www.naewna.com/local/58054
https://www.facebook.com/pages/Netiwit-Ntw/144948172233316

อ่านความคิดของเจ้านี่แล้วทั้งในข่าวและตามไปในเฟซบุ๊คมัน (ได้ข่าวว่ามีพวกผู้ใหญ่บางกลุ่มที่เป็นนักวิชาเกินเพี้ยนๆตามมหาลัยหนุนมันอยู่) ทางโรงเรียนน่าจะจับไปละลายพฤติกรรมต่อต้านสังคมบ้างก็ดีนะผมว่า เลยอยากถามพี่ๆที่เป็นทหารว่า เคสนี้ทหารรับเข้าค่ายเพื่อทำการซ่อมเสริมนิสัย จะไหวไหมครับผม 555+  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า
sombat_
Full Member
***

คะแนน -166
ออฟไลน์

กระทู้: 382


หูดับตับไหม้


« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2013, 01:55:37 AM »

ก่อนที่จะถึงมือพี่ๆทหาร เรามาคุยกันก่อนดีมั๊ย ระบบอุปถัมภ์มีจริงหรือเปล่า นักเรียน ครู ผู้บริหารโรงเรียนความสัมพันธ์เป็นอย่างไร ระบบโซตัส
การเรียนการสอนเราเน้นท่องจำจนเกินไปจริงมั๊ย ที่ว่ายิ่งเรียนยิ่งโง่ มันจริงหรือเปล่า คนไทยเรามีความคิดเหยียดเพื่อนบ้านอย่างที่เด็กมันว่าหรือเปล่า
ปัญหาเรื่องอำนาจนิยม และใครช่วยอธิบายคำจำกัดความของคำว่าความเป็นไทยหน่อยว่ามันเป็นประมาณไหน เพราะผมคนไทยแท้ๆอธิบายไม่ถูก
บันทึกการเข้า

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2013, 09:00:29 AM »

ระบบอุปถัมภ์ในประเทศไทยมีจริงตั้งแต่ระดับโรงเรียนอนุบาลไปจนถึงระดับแต่งตั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งนี้เกิดจากความเน่าในเนื้อในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย/ระเบียบไม่ได้ผล... แต่เรื่องระบบท่องจำนั่นเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งครับ...

วิธีการท่องจำไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ผลเสมอไป เพราะขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่ให้ท่องนั้นคืออะไรครับ... ขยายความได้ว่าในบางกรณีความคิดรวบยอดไม่สามารถตกผลึกให้ใสกระจ่างได้ในมันสมองระดับเด็กที่ประสบการณ์+ฐานข้อมูลในสมองมีน้อย ดังนั้นวิธีลัดคือให้"ท่องสูตร"เอาไว้เลยครับ...

ทำนองเดียวกับสูตรคูณฯ หรือสูตรในการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ ฯลฯ ของแบบนี้ต้องท่องเอาไว้เลย เพราะเมื่อจะเอาใช้งานจะได้ไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งไล่ตรรกะทางทฤษฏีต่างๆกันใหม่ ซึ่งเสียเวลาไม่คุ้มค่า... แล้วในทางสังคมศาสตร์มันก็มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นแยะเช่นกันครับ, ที่เห็นชัดเจนก็เช่นการท่องตัวบทกฎหมาย เพราะเหตุผลที่มาและเจตนารมณ์ของกฎหมายนั่นนักเรียนกฎหมายจะไม่มีวันเข้าใจลึกซึ้ง เนื่องจากตัวบทล้วนแต่เกิดมาจากประสบการณ์รวบยอดของปทัสถาน ค่านิยม วิถีประชา ฯลฯ แล้วคั้นจนงวดลง เหลือเป็นกฎหมายครับ...

ในวิชาอื่นเช่นสังคมศาสตร์ เช่นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคมวิทยา หรือแม้แต่บริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ ฯลฯ ก็มีเรื่องทำนองนี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องท่องจำเอาไว้ก่อนแล้วเมื่อสมองมีฐานข้อมูลมากพอจึงเข้าใจในภายหลังครับ... และในระดับเด็กประถมก็เช่นกัน ฐานข้อมูลในสมองของเด็กประถมก็ไม่สามารถสร้างความเข้าใจจนกระจ่างในหลายเรื่อง เป็นเพราะประสบการณ์ชีวิตยังน้อยอยู่(ฐานข้อมูลในสมองยังน้อย), ดังนั้นจึงให้เด็กท่องอาขยานเอาไว้ก่อน เมื่อโตขึ้นจะเข้าใจเองครับ...

ตัวอย่างเช่นอาขยาน "มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสนฯ "... ลองค้นกูเกิ้ลดู จะพบว่านั่นคือ"สูตรและการสร้างแรงจูงใจ"สำหรับการเรียนรู้ครับ(ยังเป็นเด็ก ก็ยังไม่เข้าใจหรอกครับ - เลยให้เด็กท่องจำ) http://www.google.com/search?q=%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99&sourceid=ie7&rls=com.microsoft:en-us:IE-SearchBox&ie=&oe= ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 02, 2013, 09:11:12 AM โดย นายสมชาย(ฮา) - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2013, 09:09:20 AM »

ทีนี้กลับมาเข้าเรื่องตามกระทู้...

เจ้าเด็กที่ว่านั่นมันยังไม่เข้าใจเรื่องที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนักหรอกครับ เมื่อใดที่ไม่มีเกราะผู้ใหญ่คอยกางร่มบังลมบังฝนเอาไว้ให้... เจ้าเด็กคนนี้จะโดนวิชามารสกัดดาวรุ่ง(หรือโดนหลอกใช้) จนเดินไม่เป็นเชียวครับ...
บันทึกการเข้า
kpai
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 109
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 694



« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2013, 11:25:21 AM »

 เยี่ยม เยี่ยม
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2013, 11:30:22 AM »

ตอบแทนทหารก็ได้ ไม่รับซ่อมหรอก ให้ไปปรีกษาจิตแพทย์ดีกว่า
บันทึกการเข้า
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2013, 02:08:46 PM »

นังเด็กนี่ มองข้ามช็อต  มองเห็นในสิ่งที่ตัวเองอยากเห็น มองข้ามในสิ่งที่ไม่อยากเห็น....



ความเหลื่อมล้ำระหว่างครูกับศิษย์ อธิบายแบบทุย ๆ ได้ง่ายมาก ๆ ว่า..

"ถ้าจะเทน้ำจากเหยือกใส่แก้ว เหยือกกับแก้วทัดเทียมกันมันจะเทได้ไหม??"  แก้วต้องว่าง เหยือกต้องสูง มันจึงถ่ายเทน้ำได้



ส่วนเรื่องท่องจำ....มันเป็นวิธีลัด ที่ไม่ต้องประมวลผลเรื่องเล็ก ๆ ซ้ำเวลาออกงานใหญ่

เหมือนฟังก์ชั่น หรือโพรซีเยอร์ที่เขียนตั้งเอาไว้ก่อน พอเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก็เรียกมาใช้ได้ทันทีไม่ต้องเขียนซ้ำ



เหมือนนักมวยแหละ  การซ้อมเหมือนการท่องจำ ขึ้นเวทีมัวแต่ไปเปิดตำราหาทางแก้มวย เพื่อนชกตายพอดี
บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2013, 02:11:24 PM »

นังเด็กนี่ มองข้ามช็อต  มองเห็นในสิ่งที่ตัวเองอยากเห็น มองข้ามในสิ่งที่ไม่อยากเห็น....



ความเหลื่อมล้ำระหว่างครูกับศิษย์ อธิบายแบบทุย ๆ ได้ง่ายมาก ๆ ว่า..

"ถ้าจะเทน้ำจากเหยือกใส่แก้ว เหยือกกับแก้วทัดเทียมกันมันจะเทได้ไหม??"  แก้วต้องว่าง เหยือกต้องสูง มันจึงถ่ายเทน้ำได้



ส่วนเรื่องท่องจำ....มันเป็นวิธีลัด ที่ไม่ต้องประมวลผลเรื่องเล็ก ๆ ซ้ำเวลาออกงานใหญ่

เหมือนฟังก์ชั่น หรือโพรซีเยอร์ที่เขียนตั้งเอาไว้ก่อน พอเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ก็เรียกมาใช้ได้ทันทีไม่ต้องเขียนซ้ำ



เหมือนนักมวยแหละ  การซ้อมเหมือนการท่องจำ ขึ้นเวทีมัวแต่ไปเปิดตำราหาทางแก้มวย เพื่อนชกตายพอดี

เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม

บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2013, 02:15:52 PM »

เขาเรียนโรงเรียนไหน โรงเรียนอื่นอาจไม่เป็นอย่างนี้ก็ได้ Grin Grin Grin
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2013, 08:20:50 PM »

บันทึกการเข้า
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2013, 09:02:17 PM »



ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก

 
บันทึกการเข้า
dignitua-รักในหลวง
เราจะสู้เพื่อในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1414
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8341


จะมีพรุ่งนี้ ได้อีกกี่วัน...


« ตอบ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2013, 09:56:18 PM »

ก่อนอื่นคงต้องถาม voice tv ก่อน ว่าต้องการยัดเยียดแนวนี้เพื่อหวังผลในตลาดใด คงมีการหวังผลว่าอาจทำให้สั่นสะเทือนในกลุ่มของประชาชนที่เสพสื่อของตัวเอง แต่ไม่มีทางพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดินได้แน่นอน...

ทีนี้มาถึงเรื่องประวัติศาสตร์ เหมือนที่พี่แพนด้ากล่าว คือเป็นการสอนให้เรียนรู้ในสิ่งที่ถูกหรือผิด อาจมีการเล่าซ้ำทำซ้ำ แต่ทุกอย่างก็เพื่อปูพื้นฐานทางความรู้เพื่อที่จะมีแนวคิดในการดำรงชีวิตต่อไปได้...

เหมือนเรานั่งคุยกับผู้ใหญ่ ซึ่งบางท่านได้ถ่ายทอดประสบการณ์เรียนรู้ถูกผิดมา แล้วมาสั่งสอนเราเพื่อไม่ให้เราต้องเรียนรู้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง ซึ่งบางครั้งถ้าเราด้อยประสบการณ์ก็อาจเดินผิดพลาดหลงผิด ชีวิตล้มเหลว ติดคุกติดตาราง หรือถึงขั้นตายไปเลยโดยที่ยังไม่เคยได้รับรู้ถึงความยากลำบากอะไรที่หนักหนากว่านั้น ในชีวิต..

คนแค่คนเดียว หากเดินคนเดียวโดยไม่มีคำปรึกษา ไม่มีทางเลยว่าจะเดินได้ไกล...

ไม่มีทางที่จะมีใครจะตรัสรู้ได้ทุกสิ่งได้ตั้งแต่เกิด ไม่มีทางที่เด็กหนึ่งคนให้เรียนเก่งแค่ไหนจะฉลาดรอบรู้ได้เท่าผู้ใหญ่...

สัมมาคารวะจึงเกิดขึ้นตอนนั้น เหมือนสุภาษิต "เดินตามผู้ใหญ่ หมาไม่กัด"

ไม่ใช่หมายถึงเดินตามหลังผู้ใหญ่แล้วหมาจะไม่กัดนะ แต่ผู้ใหญ่รู้ว่าจะก้าวเดินอย่างไรไม่ให้เกิดปัญหาซึ่งสั่งสมมาจากประสบการณ์ทั้งชีวิต..

ที่เหลือก็คือแนวความคิด ปฏิพาน ไหวพริบ ของแต่ละเหตุการณ์ของแต่ละบุคคล ในการแก้ปัญหาต่างๆที่อยู่นอกเหนือการอบรมสั่งสอนกันมา ว่าจะผ่านหรือไม่ ถ้าไม่จะแก้อะไรกันอย่างไร...

เด็กคนนี้มั่นใจในความคิด ก็ต้องปล่อยไป แล้ววิถีชีวิตจะกำหนดการใช้ชีวิตของตัวเด็กเอง ซึ่งถ้ายังคงเช่นนี้อยู่ คิดว่าอีกไม่นานครับ.....
บันทึกการเข้า

dignitua-รักในหลวง
เราจะสู้เพื่อในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1414
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8341


จะมีพรุ่งนี้ ได้อีกกี่วัน...


« ตอบ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 02, 2013, 10:21:09 PM »

ระบบอุปถัมภ์ในประเทศไทยมีจริงตั้งแต่ระดับโรงเรียนอนุบาลไปจนถึงระดับแต่งตั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทั้งนี้เกิดจากความเน่าในเนื้อในเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย/ระเบียบไม่ได้ผล... แต่เรื่องระบบท่องจำนั่นเป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งครับ...

วิธีการท่องจำไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ผลเสมอไป เพราะขึ้นอยู่กับว่าสิ่งที่ให้ท่องนั้นคืออะไรครับ... ขยายความได้ว่าในบางกรณีความคิดรวบยอดไม่สามารถตกผลึกให้ใสกระจ่างได้ในมันสมองระดับเด็กที่ประสบการณ์+ฐานข้อมูลในสมองมีน้อย ดังนั้นวิธีลัดคือให้"ท่องสูตร"เอาไว้เลยครับ...

ทำนองเดียวกับสูตรคูณฯ หรือสูตรในการคำนวณทางวิทยาศาสตร์ ฯลฯ ของแบบนี้ต้องท่องเอาไว้เลย เพราะเมื่อจะเอาใช้งานจะได้ไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งไล่ตรรกะทางทฤษฏีต่างๆกันใหม่ ซึ่งเสียเวลาไม่คุ้มค่า... แล้วในทางสังคมศาสตร์มันก็มีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นแยะเช่นกันครับ, ที่เห็นชัดเจนก็เช่นการท่องตัวบทกฎหมาย เพราะเหตุผลที่มาและเจตนารมณ์ของกฎหมายนั่นนักเรียนกฎหมายจะไม่มีวันเข้าใจลึกซึ้ง เนื่องจากตัวบทล้วนแต่เกิดมาจากประสบการณ์รวบยอดของปทัสถาน ค่านิยม วิถีประชา ฯลฯ แล้วคั้นจนงวดลง เหลือเป็นกฎหมายครับ...

ในวิชาอื่นเช่นสังคมศาสตร์ เช่นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ สังคมวิทยา หรือแม้แต่บริหารธุรกิจ เศรษฐศาสตร์ ฯลฯ ก็มีเรื่องทำนองนี้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงต้องท่องจำเอาไว้ก่อนแล้วเมื่อสมองมีฐานข้อมูลมากพอจึงเข้าใจในภายหลังครับ... และในระดับเด็กประถมก็เช่นกัน ฐานข้อมูลในสมองของเด็กประถมก็ไม่สามารถสร้างความเข้าใจจนกระจ่างในหลายเรื่อง เป็นเพราะประสบการณ์ชีวิตยังน้อยอยู่(ฐานข้อมูลในสมองยังน้อย), ดังนั้นจึงให้เด็กท่องอาขยานเอาไว้ก่อน เมื่อโตขึ้นจะเข้าใจเองครับ...

ตัวอย่างเช่นอาขยาน "มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสนฯ "... ลองค้นกูเกิ้ลดู จะพบว่านั่นคือ"สูตรและการสร้างแรงจูงใจ"สำหรับการเรียนรู้ครับ(ยังเป็นเด็ก ก็ยังไม่เข้าใจหรอกครับ - เลยให้เด็กท่องจำ) http://www.google.com/search?q=%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99&sourceid=ie7&rls=com.microsoft:en-us:IE-SearchBox&ie=&oe= ...

การศึกษาสำคัญมากครับ ผมขอยกข้อความพี่สมชายขึ้นมา เพราะรู้ว่ายายบ๊าบอ่านแล้วไม่เข้าใจ...

หลักสูตรการศึกษาคือการเรียนซ้ำ แต่มี "สูตร" ทุกอย่างตั้งต้นทุกอย่างแล้ว ที่เหลือคือการประมวลผลของเด็กแต่ละคน ว่าจะใช้ต้นทุนความรู้ไปต่อยอดได้มากแค่ไหนในชีวิต...

"การถาม" เป็นสิ่งที่ดีในสิ่งที่เราไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้เป็นวิถีที่แปลกอะไรตามที่เด็กคนนี้เข้าใจ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 03, 2013, 07:08:30 AM โดย dignitua-รักในหลวง » บันทึกการเข้า

แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2013, 12:09:19 AM »

ขี้ยาก็ส่งให้ทหาร คนบ้านี่ก็จะส่งให้ทหารอีกเหรอครับ555
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
oil
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 187
ออฟไลน์

กระทู้: 4146


ใครหนอ โกงข้าว ล้มเจ้า เผาเมือง


« ตอบ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 03, 2013, 07:32:57 AM »

ลองฟังด้วยใจเป็นกลาง คนรุ่นใหม่เขาก็มีมุมมองแตกต่าง อาจฟังดูบ้าจนรับไม่ได้  แต่คิดนอกกรอบแบบนี้แหละทำให้บ้านเมืองก้าวหน้าได้  ขอให้ผู้ใหญ่ฟังเด็กบ้าง แต่ถ้าเยอะเกินก็จัดการแบบผู้ใหญ่อย่างที่ผมเคยแสดงความเห็นไว้ก่อน
บันทึกการเข้า

Thailand must not welcome f..cking bag packer, get lost
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.262 วินาที กับ 22 คำสั่ง