ผมมองคนที่สักตามร่างกายว่าเป็นกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในเกณฑ์เฉลี่ย
ด้านหนึ่งคือเชื่อมั่นตัวเองสูงต้องการแสดงอัตตลักษณ์ ปัจจุบันมีการสักแนวศิลป เพื่อความสวยงาม
อีกด้านหนึ่งคือเชื่อมั่นในตัวเองต่ำต้องการสิ่งยึดเหนี่ยว
แต่ทั้งหมด คือสักแล้วอยากโชว์
มีไม่มากที่สักน้ำมัน เก็บรอยสักมิดชิด
ผมมีประสพการณ์ตรง ในช่วงบวช...อาจารย์ท่านเป็นเกจิ ท่านสักให้หนุ่มๆรุ่นๆ ได้เห็นว่าเหนียวจริงฟันแทงไม่เข้า
พอสึกก็ไปขอท่าน ท่านบอกว่าผมไม่ควรรับไป เพราะคนที่ท่านให้คือคนที่ดูจะหลุดในอบาย ในทางต่ำ
พอสักแล้วเป็นการคุมให้อยู่ในคำครู ไม่กล่าวเท็จ ไม่ดื่มสุรา ไม่ผิดลูกเมีย ไม่กล่าวคำหยาบ ไม่ข่มเหงรังแกใคร ..... จะได้เป็นคนดี
ท่านบอกว่าบวชเรียนแล้ว จะให้คาถาบทหนึ่ง เป็นคาถาให้เฉพาะกับตัว......ขอพระแม่ธรณีมากำหราบสรรพสัตว์เหล่านี้
และผมเคยคาถานี้ใช้ขี่เสือ ที่ผิดครูดื่มสุรา ของขึ้น สะกดให้นิ่งเป็นแมวเชื่องได้น่าอัศจรรย์
ผมจึงเห็นว่าการประพฤติธรรม ทำให้เรารอดปลอดภัยได้ โดยไม่ต้องแปลงร่างเป็นสัตว์
ส่วนการสักเป็นศิลปนั้นเป็นอีกมุม ที่ต้องการแสดงอัตตลักษณ์ ทั้งยังต้องรักษารูปทรงของร่างกายให้คงที่ไว้เสมอ ซึ่งไม่ง่ายเลย
หลายคนเลือกลายสักเป็นการเฉพาะตัว เป็นหนึ่งเดียวในโลก .... ช่างสักงานศิลประดับสากล มีรายได้สูง เลือกลูกค้าได้ ลูกค้าบินมาหาเองถึงไทย
ส่วนตัวผมเองไม่คิดสักอะไรบนร่างกายครับ