เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 17, 2024, 05:43:34 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ธปท จะแก้กฎหมาย ให้รัฐบาลเอาสำรองระหว่างประเทศไปเล่นหุ้นต่างประเทศ...  (อ่าน 1784 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 3 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 09:41:17 AM »

ธปท. จะแก้กฎหมาย ให้รัฐบาลเอาสำรองระหว่างประเทศไปเล่นหุ้นต่างประเทศ บอกตรงๆ สยองครับ, ที่สยองไม่ใช่เพราะว่ากลัวเล่นหุ้นไม่เป็นแล้วขาดทุน แต่สยองอีตรงคนโกงมันก็มีช่องโกงเพิ่ม(โดยเฉพาะคนขี้โกงที่ควบคุมนโยบายฯ)...

คราวก่อน คนโกงมันก็เอาเงิน กบข. ไปปั่นหุ้นตัวเองจนตัวเองรวย แต่ กบข.เจ๊ง, วิธีการก็มีเยอะแยะ แค่เอาวิธีง่ายๆก็ได้ เช่นตัวเองซื้อก่อนแล้วใช้เงินคนอื่นไล่ราคา, และเมื่อราคาสูงก็เอาเงินคนอื่นซื้อหุ้นตัวเอง จากนั้นปล่อยให้หุ้นรูดฯ...

นายสมชายเอามาจากที่นี่... http://www.naewna.com/business/66186 ...

ธปท.เจียดเงินสำรองตั้งกองทุนหากำไร

เล็งเป้าแรกหุ้นต่างประเทศ

ทุนไหลออกไม่กระทบไทย




นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า ไม่กังวลใจกับการอ่อนค่าของเงินบาทที่เคลื่อนไหวอยู่ที่ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอ่อนค่าจากต้นปี 4% และยังไม่จำเป็นต้องมีมาตรการดูแลเงินทุนไหลออก เพราะถือเป็นเรื่องปกติของนักลงทุนต้องเปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุนเพื่อทำกำไร ขณะเดียวกันการที่ธนาคารสหรัฐ (เฟด) ได้มีการส่งสัญญาณว่าจะชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ คิวอี ตั้งแต่การประชุมเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้มีเงินทุนไหลออกเป็นระยะ

โดยในขณะนี้ได้ไหลออกแล้ว 15% ของสินทรัพย์ที่ต่างชาติถือครอง เช่น พันธบัตร หุ้น แต่เชื่อว่าทรัพย์สินและเงินสำรองของธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีอยู่ในบัญชีกิจการธปท. และบัญชีฐานะล่วงหน้าของ ธปท. (SWAP BOOK) ที่มีอยู่ 125,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพียงพอรองรับการไหลออกของเงินทุนได้ และเชื่อว่าการไหลออกของเงินทุนต่างชาติรุนแรงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่อื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนต้องมีการป้องกันความเสี่ยงเพราะ ธปท. จะดูแลอัตราแลกเปลี่ยนให้เป็นไปตามกลไกตลาด หากมีความผันผวนมากจนเกินไปจะเข้าไปดูแลไม่ให้กระทบต่อการกำหนดราคาสินค้าส่งออก

นางผ่องเพ็ญกล่าวว่า ธปท.ได้ทำบททดสอบเพื่อศึกษาสถานการณ์เงินทุนไหลออกไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงมั่นใจว่า พื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ยังดี สามารถรองรับสถานการณ์ได้ เพราะในปัจจุบันดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยยังเกินดุล หากหักลบการนำเข้าทองคำ และเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะพิจารณาจากความสามารถในการขยายตัวของเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งหลังจากนี้ รัฐบาลจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งและทำให้ประเทศมีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ และทำให้นักลงทุนมีความเชื่อถือต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้น

ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเป็นผลดีต่อฐานะการเงินของ ธปท. ที่สิ้นปี 2555 ขาดทุน 530,892 ล้านบาท ซึ่ง ธปท. ทำแผนและมีแนวทางที่จะลดการขาดทุนโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อนำเงินทุนสำรองส่วนเกินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่ได้รับอนุญาตภายใต้ พ.ร.บ. ธปท. ปัจจุบัน เช่น หุ้น และจัดตั้งกองทุนระยะยาวเพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ หรือ new opportunity fund ซึ่งต้องออกเป็นกฎหมายใหม่ โดยหลังจากศึกษาแล้วเสร็จ จะเสนอให้คณะกรรมการ ธปท. พิจารณาต่อไป

ด้านนางลักษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโส สำนักงานผู้แทนประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี ส่วนสถานการณ์เงินทุนเคลื่อนย้าย เป็นสถานการณ์ที่เอดีบีคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟด ส่งสัญญาณว่าจะถอนมาตรการคิวอี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเงินทุนไหลกลับ แต่เชื่อว่า สถานการณ์ในไทยจะไม่รุนแรงเท่ากับประเทศอินโดนีเซียและอินเดีย เนื่องจากไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง จึงยังไม่น่ากังวล ส่วนความกังวลหนี้ภาคครัวเรือน เอดีบีไม่มีความเป็นห่วง แม้ว่าระดับหนี้ภาคครัวเรือนจะสูง แต่ขณะนี้ก็ยังไม่เกิดหนี้เสีย ยังมีการชำระหนี้ได้ตามปกติ แต่ยอมรับว่า ส่งผลต่อการใช้จ่ายของประชาชนลดลง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 28, 2013, 09:55:47 AM โดย นายสมชาย(ฮา) - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
TUI 48
Sr. Member
****

คะแนน 332
ออฟไลน์

กระทู้: 927


« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 10:02:59 AM »

จะกินจะโกงยังไงก็ขอให้เหลือมาจ่ายบำนาญให้อาตมาบ้างเด้ออออ..เดี๋ยวอดตายยามแก่..
บันทึกการเข้า
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 10:23:40 AM »

หา หนี้ ให้ คนในชาติ

หมดวาระ ก็เปิดตูด

ที่เหลือ ก็ ...........
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #3 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 10:25:51 AM »

เงินกองทุนประกันสังคมที่คนทำงานช่วยกันสะสมไว้มีจำนวนมากเป็นแสนๆล้าน
หลายคนจ้องตาเป็นมันอยากยืนมือเข้าฉกเหลือเกิน.....ระวังพวกปลิงเหลือบเห็บเหาพวกนี้ให้ดีๆ
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #4 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 10:32:15 AM »

ถ้าเกิดความเสียหาย คนพวกนี้รับผิดชอบไหม
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #5 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 10:56:10 AM »

เรื่องนี้ไม่อยากออกชื่อเสียงเรียงนาม เอาเป็นว่าเป็นเรื่องจริง มีเจ้าอาวาสวัดหนึ่ง เอาเงินของวัดไปเล่นหุ้นแล้วเจ๊ง มีคนไปฟ้องศาลๆตัดสินว่าผิดต้องโทษจำคุก แต่เจ้าอาวาส อายุ

มากแล้ว ศาลเลยรอลงอาญา อ๋อย
บันทึกการเข้า

JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #6 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 11:13:08 AM »

ถ้าเกิดความเสียหาย คนพวกนี้รับผิดชอบไหม

ย้อนไปเรื่อง กบข. นะครับ... คณะกรรมการบริหารเอาเงินสมาชิกไปบริหารผิดพลาดจนขาดทุน... จนมีเรื่องมีราวกับสมาชิก... เลยเอาเงินของสมาชิกไปจ้างทนายมาฟ้องร้องสมาชิก... แบบนี้ถือว่า "มัน" รับผิดชอบมั๊ยครับ...

บันทึกการเข้า
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #7 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 11:16:54 AM »

เงินประกันสังคมของข้าใครอย่าแตะ.....เตือนแล้ว
ถ้าไม่เชื่อฟัง ม็อบคนทำงานทั่วประเทศถล่มทลาย....แน่น๊อน ครับพี่น้อง

ปล.ส่วนเงินกองทุนสำรองระหว่างประเทศ ก็เป็นเงินของพี่น้องชาวไทยทุกคน ยอมให้ใครเอาไปเสี่ยงไม่ได้เช่นกัน
      ถ้าใครอ้างว่า เงิน อยู่เฉยๆไม่เอาไปบริหารให้งอกเงยถือว่า ไม่ฉลาดบริหารไม่เป็น ก็ไม่เป็นไร เอาเงินบิดามันไปเล่นหุ้นก่อนแล้วกัน ตกใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 28, 2013, 11:21:59 AM โดย Southlander » บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
PU45™
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3692
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 62457



« ตอบ #8 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 11:19:47 AM »

จะเหมือนกองทุนประกันสังคมที่เคยถลุงกันหรือเปล่า
บันทึกการเข้า

                
พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1870
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10363



« ตอบ #9 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 11:24:58 AM »

จะอะไรยังไงก็แล้วแต่ อีก9ปีอาตมาก็ว่าจะ Early Retire (อายุราชการครบ25ปีพอดี) ไปเลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย ยิงนก ยิงหนู ตามเรื่องตามราวแก้เหงาอยู่ทุ่งนาแถวๆริมโขง บำนาญ กับ กบข อย่าลืมจ่ายอาตมาก็แล้วกัน.ตอนนี้ค่า กบข ก็ยังหักอาตมาอยู่ 613.50 บ.ทุกๆเดือน เดี่ยวจะอดตายตอนแก่ Wink Grin คิก คิก
บันทึกการเข้า

..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing..
"สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 11:36:39 AM »

คราวก่อนรัฐบาลนายชวน หลีกภัยชุดที่ 2 ก็จะเอาทองหลวงตาฯ ไปซื้อตราสารหนี้ฯ... เฮ้อ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 28, 2013, 11:43:33 AM โดย นายสมชาย(ฮา) - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
Ghostreporting
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

กระทู้: 1392


ขอเจอตัวจริงของเทอสักครั้ง


« ตอบ #11 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 11:46:04 AM »

รอชม วอลเปเปอร์พรรคเพื่อแม้วมาแถ
บันทึกการเข้า

http://www.thaispyshot.com/index.php?topic=718.0 อ้างเพิ่มระดับความเขี้ยวของมาตรฐานไอเสีย เพื่อรักษาสภาพแวดล้อม เราไม่โง่พอที่จะเชื่อคุณหรอก ที่รถบรรทุกทิ้งหินทิ้งทราย ทิ้งควันดำปื๋อดันไม่ไปกวดขัน ทุเรศประเทศสารขันธ์
telekbook - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1124
ออฟไลน์

กระทู้: 3629


« ตอบ #12 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 11:49:07 AM »

ช่างคิดสร้างสรรค์กันจริงๆ
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 11:51:19 AM »

ส่วนคราวนี้เป็นของพรรครัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งมีร่อยรอยมาแล้วตั้งแต่ปี 2011 ครับ... รายละเอียดเอามาจากนี่ https://www.facebook.com/notes/%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E-%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A9%E0%B9%8C%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87-%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%9D%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A7%E0%B9%89-%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD-%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A2-%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E-%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A9/263713800323981 ...

“กองทุนมั่งคั่ง” จะล้วงเงินคลังหลวงที่หลวงตาฝากไว้ คิดดีแล้วหรือ !? โดย ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

ทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยดำเนินการเชิงรุกอย่างมาก และมีความคิดหลุดกรอบความคิดเดิมๆทางเศรษฐกิจ ซึ่งมีทั้งเรื่องที่น่าสนใจและเรื่องที่น่าเป็นห่วงในเวลาเดียวกัน

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นผู้ที่ประกาศถึงแนวคิดที่จะนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเอาไปลงทุนด้านพลังงานและด้านอื่นๆ โดยให้ความเห็นระหว่างวันที่ 15-16 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ความตอนหนึ่งว่า:

“รูปแบบของการนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศไปลงทุน จะเป็นรูปแบบที่เรียกว่า การจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ (Sovereign Wealth Fund) ซึ่งไม่ได้จำกัดการลงทุนอยู่ในการเข้าไปซื้อแหล่งพลังงานในต่างชาติเท่านั้น แต่หมายถึงการกระจายความเสี่ยงถือครองสินทรัพย์ที่ความมั่นคงสูงในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นทองคำ หรือเงินสกุลหยวน ซึ่งจากการที่ศึกษาพบว่าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ที่ ธปท. ควรมีไว้เพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคง และค่าใช้จ่ายต่างๆของประเทศ ควรมีไว้ให้เพียงพอประมาณ 5-6 เดือนเท่านั้น ที่เหลือควรมีการนำไปลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศมากขึ้นในอนาคต

ประเทศไทยมีเงินสำรองระหว่างประเทศสูงถึง 1.87 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่ามีความมั่นคงสูงและใช้อย่างไรก็ไม่มีวันหมดสิ้น ควรที่จะมีการนำไปลงทุนเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งการเข้าไปซื้อแหล่งพลังงานในต่างประเทศและทำการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ให้เพียงพอที่จะเป็นปริมาณสำรองพลังงานในประเทศ ก็เป็นช่องทางหนึ่งที่ควรจะมีการพิจารณา”

จริงอยู่ที่ว่าการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ผ่านมามีปัญหาและสร้างความเสียหายอยู่ไม่น้อย  นับตั้งแต่วิกฤติเศรษฐกิจ พ.ศ. 2540 ซึ่งสะท้อนถึงความอ่อนแอในการกำกับดูแลระบบสถาบันการเงินและการดูแลเรื่องค่าเงินบาทก่อนปี 2540 ที่ปล่อยให้มีเงินกู้นอกประเทศระยะสั้นไหลเข้าประเทศอย่างไร้ขีดจำกัด ลามมาจนถึงความเสื่อมศรัทธาของธนาคารแห่งประเทศไทยในปี 2540 ที่ได้เคยนำทุนสำรองระหว่างประเทศเกือบทั้งหมดไปเล่นพนันปกป้องการโจมตีค่าเงินจนพ่ายแพ้อย่างราบคาบ  อีกทั้งในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมาธนาคารแห่งประเทศไทยถือทรัพย์สินเงินสกุลดอลลาร์มากเกินไปจนเกิดการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในที่สุด

ตัวเลขที่เป็นสักขีพยานแห่งความล้มเหลวของธนาคารแห่งประเทศไทยยังคงปรากฏให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ในฐานะการเงินประจำสัปดาห์ของธนาคารแห่งประเทศไทยในปัจจุบันว่า... ธนาคารแห่งประเทศไทยขาดทุนสะสมรวม 199,569 ล้านบาท!!!

ด้วยความล้มเหลวและไม่น่าไว้วางใจทั้งนักการเมืองและบทบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย เวลาที่ผ่านมาทำให้ภาคประชาชนโดยเฉพาะลูกศิษย์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ ที่ออกมาคัดค้านการรวมบัญชีที่รัฐบาลนายชวน หลีกภัยชุดที่ 2  หวังจะนำเงินจากทุนสำรองเงินตรา (คลังหลวง)ซึ่งมีเอาไว้ในการค้ำประกันหนุนหลังค่าเงินของประเทศไปล้างหนี้และความผิดพลาดของรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย  และต่อมาภาคประชาชนได้คัดค้านรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์ จุลลานนท์ ในปี 2550 ที่หวังจะแก้ไข พรบ. เงินตรา พ.ศ. 2501 ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยนำเงินคลังหลวงไปลงทุนสินทรัพย์เอกชนได้

ความจริงแล้วไม่ได้แปลว่าทุนสำรองเงินตรา จะจำกัดให้ถือเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐอเมริกาแต่เพียงอย่างเดียว เพราะ พรบ.เงินตรา พ.ศ. 2501 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2521  ได้กำหนดเอาไว้ในมาตรา 30 ว่าให้สินทรัพย์ต่อไปนี้เป็นสิ่งอันชอบด้วยกฎหมายที่จะประกอบขึ้นเป็นทุนสำรองเงินตรา ได้แก่

(1)   ทองคำ
(2)   เงินตราต่างประเทศอันเป็นเงินตราที่พึงเปลี่ยนได้ หรือเงินตราต่างประเทศอื่นใดที่กำหนดโดยกฎกระทรวง ทั้งนี้ต้องเป็นรูปเงินฝากในธนาคารนอกราชอาณาจักรหรือในสถาบันการเงินระหว่างประเทศ
(3)   หลักทรัพย์ต่างประเทศที่จะมีการชำระหนี้เงินตราต่างประเทศที่ระบุไว้ใน (2)
(4)   ทองคำ สินทรัพย์ต่างประเทศ และสิทธิพิเศษถอนเงิน ทั่งนี้นำส่งสมทบกองทุนการเงิน
(5)   ใบสำคัญสิทธิซื้อส่วนสำรอง
(6)   ใบสำคัญสิทธิพิเศษถอนเงิน
(7)   หลักทรัพย์รัฐบาลไทยที่จะมีการชำระหนี้เป็นเงินตราต่างประเทศที่ระบุไว้ใน (2) หรือเป็น บาท
(8.)   ตั๋วเงินในประเทศที่ธนาคารแห่งประเทศไทยพึงซื้อหรือรับช่วง ซื้อลดได้ แต่ต้องมีค่ารวมกันไม่เกินร้อยละยี่สิบของจำนวนธนบัตรออกใช้

สินทรัพย์ตาม (1) (2) (3) (4) (5) และ (6) นั้นธนาคารแห่งประเทศไทยจะต้องจัดดำรงไว้ให้มีค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่าร้อยละหกสิบของจำนวนธนบัตรออกใช้

ในบรรดาสินทรัพย์เหล่านี้ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้ให้ความสำคัญกับการบริจาคทองคำจากประชาชนเข้าทุนสำรองเงินตรามากที่สุด โดยได้เคยเทศน์เอาไว้ความตอนหนึ่งว่า:

“ทองคำเป็นสิ่งที่ต้องการมากที่สุดเพื่อเป็นหลักสมบัติประกันชาติไทยของเราเมื่อมีทองคำมากแล้ว การพิมพ์ธนบัตรเพิ่มเติมใช้อีกก็ยังได้อีก ตามปริมาณของทองคำที่มีมากน้อยในคลัง นี่ยังมีส่วนได้อีกนะ เราจึงต้องเสาะแสวงหาทองคำมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งเลย ให้เป็นอันดับหนึ่ง เรียกว่าทองคำนี้เป็นสมบัติคงคลังว่างั้นเถอะ ให้เหลืองอร่ามอยู่ในคลังหลวงของเราแล้วสง่างามมองอาจกล้าหาญ ถ้ามีทองคำอยู่ในคลัง ถ้าไม่มีนี้ไม่องอาจนะ ถ้ามีทองคำคงคลังแล้วก็แน่นหนามั่นคง”

ถึงขนาดหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้จัดทำพินัยกรรมเอาไว้เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2543 (ขณะนั้นทองคำตลาดโลกราคา 275 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยเอานซ์ ปัจจุบันราคา 1,789 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยเอานซ์ หรือเพิ่มขึ้นเป็น 6.5 เท่าตัว) ความตอนหนึ่งว่า:

“ 1. บรรดาทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วในขณะที่ข้าพเจ้ามรณภาพ และบรรดาทรัพย์สินต่างๆที่จะได้รับบริจาคในงานศพของข้าพเจ้าให้จัดการดังนี้
      1.1 ส่วนที่เป็นทองคำให้หลอมเป็นแท่ง
      1.2 ส่วนที่เป็นเงินไม่ว่าจะเป็นสกุลใดให้นำเข้าซื้อทองคำแท่ง

ให้นำทองคำแท่งทั้งข้อ 1.1 และ 1.2 ไปมอบให้ธนาคารแห่งประเทศไทย โดยข้าพเจ้าไม่มีเจตนาที่ใช้บุคคลใดหรือคณะบุคคลใดนำไปใช้งานอันใด นอกจากเป็นเงินทุนสำรองของประเทศ”

ซึ่งถ้าธนาคารแห่งประเทศไทยยึดแนวทางของหลวงตาที่ได้เทศน์ชี้ทางสว่างมานานกว่า 10 ปีที่แล้ว ป่านนี้ประเทศไทยคงมั่งคั่งที่สุดมากกว่านี้หลายเท่านัก

แต่ในความเป็นจริงแม้แต่สินทรัพย์ที่เป็นอยู่ 8 ประการนี้  ธนาคารแห่งประเทศไทยเพิ่งจะเริ่มสะสมทองคำเมื่อไม่นานมานี้เอง  แสดงให้เห็นว่าธนาคารแห่งประเทศไทยยังล่าช้าจัดการบริหารได้ไม่ดีพอ แล้วใครจะไปไว้ใจในเรื่องการขยายขอบเขตให้ไปถือสินทรัพย์ของเอกชน หรือสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากกว่านี้ได้?

จะว่าไปแล้วหากปี 2550 มีการแก้ไข พรบ. เงินตรา ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยขยายขอบเขตการลงทุนในทุนสำรองเงินตรามากกว่านี้  เราคงขาดทุนเจ๊งมากกว่านี้ไปแล้ว ด้วยความล่มสลายและถดถอยของตราสารหนี้ทั้งในสหรัฐอเมริกาและยุโรป

และเมื่อดูเช่นนี้ก็แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ได้แนะนำว่า กองทุนมั่งคั่งนั้น จะลงทุนในทองคำ หรือ เงินสกุลหยวน แท้ที่จริงเป็นสิ่งที่ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถทำได้อยู่แล้วตามขอบเขตของ พรบ.เงินตรา พ.ศ. 2501 (แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2521) มาตรา 30 โดยไม่ต้องมีการตั้งกองทุนใดๆทั้งสิ้น 

เหลือเพียงแต่ว่าเราได้คนบริหารธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีความสามารถ โปร่งใส และกล้าตัดสินใจหรือไม่เท่านั้น !?

ส่วนเรื่องน้ำมันและแหล่งพลังงานนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญและเป็นยุทธศาสตร์ของโลกไปแล้ว แต่เรื่องน้ำมันและแหล่งพลังงานไม่น่าจะใช่วัตถุประสงค์และความเชี่ยวชาญของธนาคารแห่งประเทศไทย  แต่น่าจะเป็นเรื่องของรัฐบาล กระทรวงพลังงาน และกระทรวงการคลังมากกว่า

ซึ่งก็ต้องตอบคำถามว่าแล้วเราจะมี ปตท. และ ปตท.สผ.ซึ่งกำลังสำรวจขุดเจาะพลังงานต่างประเทศไปเพื่ออะไร? และถ้าจะอ้างว่าว่า ปตท. และ ปตท.สผ. ไม่ใช่ของรัฐบาลทั้งหมด ก็ยิ่งต้องตอบคำถามให้ได้ว่าที่ผ่านมาเราจะไปแปรรูปรัฐวิสาหกิจเหล่านี้ไปทำไม?  และทำไม่ไม่หาทางเอา ปตท. และ ปตท.สผ.กลับคืนมาเป็นของรัฐเหมือนเดิม

ยกเว้นเสียแต่ว่ารัฐบาลอยากจะจัดตั้ง “กองทุนมั่งคั่งแห่งชาติ” อย่างมากจนขัดขวางไม่ได้ รัฐบาลก็ควรไปดำเนินการโดยให้กระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงานจัดตั้งกองทุนนี้เสียเอง แล้วรัฐบาลไทยระดมทุนออกพันธบัตรรัฐบาลไทยเป็นเงินบาทกู้ระยะยาว เพื่อส่งออกทุนเป็นดอลลาร์ไปซื้อแหล่งพลังงานในประเทศอื่น  ซึ่งถ้าธนาคารแห่งประเทศไทยมีความสนใจก็จะสามารถแปลงสินทรัพย์ในส่วนที่เป็นดอลลาร์สหรัฐในทุนสำรองระหว่างประเทศไปลงทุนพันธบัตรรัฐบาลไทยได้ตาม พรบ.เงินตรา พ.ศ. 2501 มาตรา 30 (7)

ส่วนจะถึงขั้นที่กระทรวงพลังงานจะเสนอแก้ไข พรบ.เงินตรา พ.ศ. 2501 เพื่อหวังแปลงร่างให้ธนาคารแห่งประเทศไทยไปลงทุนเป็นเจ้าของกองทุนมั่งคั่งแห่งชาติ โดยล้วงเงินจากทุนสำรองเงินตราไปลงทุนทางพลังงานนั้น คงต้องเผชิญหน้ากับลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นแน่ !

หลวงตามหาบัว  ญาณสัมปันโน ซึ่งนอกจากจะทำนายคาดการณ์ล่วงหน้าเรื่องทองคำอย่างแม่นยำที่สุดยิ่งกว่านักวิชาการและนักการเงินคนใดแล้ว หลวงตาฯยังได้แสดงธรรมเกี่ยวกับเงินและทองคำที่บริจาคเข้าคลังหลวงเอาไว้ความตอนหนึ่งว่า:

“เงินนี้เป็นเงินพระนะ ไม่ได้เหมือนเงินธรรมดาของคนทั่วๆไป นี้รวมเข้ามาให้เราแล้ว กลายเป็นเงินพระไปแล้ว เป็นเงินสงฆ์ด้วย เพราะฉะนั้นใครจึงมาทำสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ตกนรกไม่มีวันขึ้นเลย เรื่องนี้กรรมหนักนะ เพราะมหากุศลของชาตินี่นะ จะทำเล่นๆได้เหรอ จมอย่างไม่มีวันฟื้นเลย หมดทางเลยว่างั้นเถอะน่า ถ้าใครมาแต่มายุ่งกับเงินเหล่านี้ เพราะมันบาปหนัก กรรมหนักจริงๆไม่ใช่ธรรมดา  ไม่ได้เหมือนเงินทั่วๆไป สงฆ์ยกให้เพื่อชาติ นั่นมีแต่เรื่องใหญ่ๆทั้งนั้น ฉะนั้นจึงได้เตือนไว้ให้ทราบทุกคน อย่ามาทำสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ”
บันทึกการเข้า
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #14 เมื่อ: สิงหาคม 28, 2013, 12:01:27 PM »


ธปท. จะแก้กฎหมาย   ให้รัฐบาลเอาสำรองระหว่างประเทศ
ไปเล่นหุ้นต่างประเทศ บอกตรงๆ สยองครับ,
ที่สยองไม่ใช่เพราะว่ากลัวเล่นหุ้นไม่เป็นแล้วขาดทุน
แต่สยองอีตรงคนโกงมันก็มีช่องโกงเพิ่ม(โดยเฉพาะคนขี้โกงที่ควบคุมนโยบายฯ)...


คราวก่อน คนโกงมันก็เอาเงิน กบข. ไปปั่นหุ้นตัวเองจนตัวเองรวย แต่ กบข.เจ๊ง, วิธีการก็มีเยอะแยะ แค่เอาวิธีง่ายๆก็ได้ เช่นตัวเองซื้อก่อนแล้วใช้เงินคนอื่นไล่ราคา, และเมื่อราคาสูงก็เอาเงินคนอื่นซื้อหุ้นตัวเอง จากนั้นปล่อยให้หุ้นรูดฯ...

นายสมชายเอามาจากที่นี่... http://www.naewna.com/business/66186 ...

ธปท.เจียดเงินสำรองตั้งกองทุนหากำไร

เล็งเป้าแรกหุ้นต่างประเทศ

ทุนไหลออกไม่กระทบไทย




นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงินธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. เปิดเผยว่า ไม่กังวลใจกับการอ่อนค่าของเงินบาทที่เคลื่อนไหวอยู่ที่ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอ่อนค่าจากต้นปี 4% และยังไม่จำเป็นต้องมีมาตรการดูแลเงินทุนไหลออก เพราะถือเป็นเรื่องปกติของนักลงทุนต้องเปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุนเพื่อทำกำไร ขณะเดียวกันการที่ธนาคารสหรัฐ (เฟด) ได้มีการส่งสัญญาณว่าจะชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ คิวอี ตั้งแต่การประชุมเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทำให้มีเงินทุนไหลออกเป็นระยะ

โดยในขณะนี้ได้ไหลออกแล้ว 15% ของสินทรัพย์ที่ต่างชาติถือครอง เช่น พันธบัตร หุ้น แต่เชื่อว่าทรัพย์สินและเงินสำรองของธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีอยู่ในบัญชีกิจการธปท. และบัญชีฐานะล่วงหน้าของ ธปท. (SWAP BOOK) ที่มีอยู่ 125,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพียงพอรองรับการไหลออกของเงินทุนได้ และเชื่อว่าการไหลออกของเงินทุนต่างชาติรุนแรงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่อื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนต้องมีการป้องกันความเสี่ยงเพราะ ธปท. จะดูแลอัตราแลกเปลี่ยนให้เป็นไปตามกลไกตลาด หากมีความผันผวนมากจนเกินไปจะเข้าไปดูแลไม่ให้กระทบต่อการกำหนดราคาสินค้าส่งออก

นางผ่องเพ็ญกล่าวว่า ธปท.ได้ทำบททดสอบเพื่อศึกษาสถานการณ์เงินทุนไหลออกไว้ล่วงหน้าแล้ว จึงมั่นใจว่า พื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ยังดี สามารถรองรับสถานการณ์ได้ เพราะในปัจจุบันดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยยังเกินดุล หากหักลบการนำเข้าทองคำ และเชื่อว่านักลงทุนต่างชาติจะพิจารณาจากความสามารถในการขยายตัวของเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งหลังจากนี้ รัฐบาลจะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่จะช่วยลดต้นทุนด้านการขนส่งและทำให้ประเทศมีศักยภาพมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ และทำให้นักลงทุนมีความเชื่อถือต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้น

ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงเป็นผลดีต่อฐานะการเงินของ ธปท. ที่สิ้นปี 2555 ขาดทุน 530,892 ล้านบาท ซึ่ง ธปท. ทำแผนและมีแนวทางที่จะลดการขาดทุนโดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อนำเงินทุนสำรองส่วนเกินไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ไม่ได้รับอนุญาตภายใต้ พ.ร.บ. ธปท. ปัจจุบัน เช่น หุ้น และจัดตั้งกองทุนระยะยาวเพื่อแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ หรือ new opportunity fund ซึ่งต้องออกเป็นกฎหมายใหม่ โดยหลังจากศึกษาแล้วเสร็จ จะเสนอให้คณะกรรมการ ธปท. พิจารณาต่อไป

ด้านนางลักษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโส สำนักงานผู้แทนประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี ส่วนสถานการณ์เงินทุนเคลื่อนย้าย เป็นสถานการณ์ที่เอดีบีคาดการณ์ไว้ตั้งแต่ช่วงที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟด ส่งสัญญาณว่าจะถอนมาตรการคิวอี ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเงินทุนไหลกลับ แต่เชื่อว่า สถานการณ์ในไทยจะไม่รุนแรงเท่ากับประเทศอินโดนีเซียและอินเดีย เนื่องจากไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง เงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง จึงยังไม่น่ากังวล ส่วนความกังวลหนี้ภาคครัวเรือน เอดีบีไม่มีความเป็นห่วง แม้ว่าระดับหนี้ภาคครัวเรือนจะสูง แต่ขณะนี้ก็ยังไม่เกิดหนี้เสีย ยังมีการชำระหนี้ได้ตามปกติ แต่ยอมรับว่า ส่งผลต่อการใช้จ่ายของประชาชนลดลง




Ha Ha Ha  ฮา  "Oh yes"  จ๊านโฉมชาย(ฮา)  อ่ะ 5555

ระดับจาน โฉมชาย(ฮา)  ไม่น่าจะ "เต้าข่าว"  น๊า  ฮา
ธปท. เป็นองค์กร ที่เขาบริหารการเงิน  จัดการได้เอง อ่ะ ฮา
เขาจะทำอะไร  ตั้งแต่กำหนดทิศทาง  ค่าเงิน เงินเข้าเงินออก ฮา
เขาทำได้เอง  "รัฐบาล" ได้แต่  มองดูแล้วทำตา "ปริบๆ" แค่นั้น อ่ะ ฮา

ตามข่าว  ไม่มีอะไรเกี่ยวกับ "รัฐบาล"  เลยอ่ะ ฮา  ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.107 วินาที กับ 22 คำสั่ง