เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 28, 2024, 05:40:43 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เด็ก มธ. "เยอะ" เกินไปไหมครับ  (อ่าน 4868 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
แอบดูที่รูเดิม
เกิดเป็นคน ควรรู้จักกตัญญู
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 622
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3747


ปลวกน้อยกัดกินบ้าน..นักการเมืองคอรัปชั่นกัดกินชาติ


« ตอบ #60 เมื่อ: กันยายน 12, 2013, 01:51:16 PM »



 เยี่ยม
บันทึกการเข้า
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #61 เมื่อ: กันยายน 12, 2013, 01:56:19 PM »

ดีครับ ออกมาติดเบรคกันเสียบ้าง อย่าอ้างแต่สิทธิตัวเองจนละเมิดสิทธิผู้อื่น
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
JUNGLE
ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว
Hero Member
*****

คะแนน 1204
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17188


การต่อสู้คือชัยชนะ


« ตอบ #62 เมื่อ: กันยายน 12, 2013, 02:14:21 PM »


เยี่ยม เยี่ยม เยี่ยม

บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #63 เมื่อ: กันยายน 12, 2013, 02:28:43 PM »

นายสมชายไปตอบไว้ที่อีกกระทู้นึง ว่าเด็กพวกนี้มันเพ้อเจ้อมาก ไร้สาระ, ทีแรกนึกว่าจะมีเหตุผลทางเสรีภาพทางความคิด หรืออะไรก็ตามแต่ ที่มันน่าจะมีเหตุมีผลมั่ง, ที่แท้ก็ไร้สาระครับ มันเริ่มใโง่กันตั้งแต่อยู่ในรั้วมหาลัยแล้ว... ไปอ่านในเฟสบุคที่ว่า, เจอแต่ความไร้สาระทั้ง 2 ฝ่ายครับ เหมือนกับว่าเด็กในมหาลัยเดี๋ยวนี้มันไม่ค่อยได้อ่านหนังสืออะไรกันเป็นเรื่องเป็นราวกันเลย, ภาษาวิบัติ ประโยคขาดๆวิ่นๆ สื่อสารไม่รู้ว่ามันอยากจะบอกอะไรกัน...

แล้วนายสมชายก็ยืนยันตามข้างล่างครับ...

เข้าไปอ่านได้แค่ผิวๆทั้ง 2 ฝั่งครับ... ไร้สาระมาก เด็กสมัยนี้มันไม่เหมือนเด็กมหาลัยเลยครับ เหมือนเด็กมัธยมที่ไม่มีสาระในหัวอะไรเรียกร้องความสนใจจากผู้อื่น เลยกระพือเรื่องเล่นๆ...

ตรรกะที่เสียเปล่าอันแรกสุดเลยของทั้งคู่ คือใช้เฟสบุคสำหรับเผยแพร่แนวคิด... เฟสบุคไม่เหมาะสำหรับใช้สื่อสารเรื่องราวที่มีความต่อเนื่่องยาวที่ต้องใช้ตรรกะในการลำดับความคิด เพราะเฟสบุคจัดหน้าแบ่งเป็นช่องสั้นๆ เหมาะสำหรับสนทนาประโยคสั้นๆ คุยยาวแล้วหลุดประเด็นง่าย...

หน้าแรกของเฟสบุคแต่ละฝ่ายไม่ได้แสดงเหตุผลแบบแรงๆทำนองอ่านปุ๊บเข้าใจหลักการพื้นฐาน แนวคิดเบื้องหลัง และสิ่งที่ประสงค์อยากให้เป็น... เปิดเข้าไปมีแต่ภาษาวิบัติ+เรื่องราวเพ้อเจ้อ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #64 เมื่อ: กันยายน 12, 2013, 02:31:00 PM »

สงสารประเทศไทยครับ... นี่มันในมหาลัย นะพวกเอ็งเอ๋ย, ถ้าเปลี่ยนเป็นพวกคนงานก่อสร้างไปเถียงกันในไซต์งาน ยังพอมีเหตุอ้างกันได้ว่าเขาไม่ได้เรียนหนังสือ... โห...
บันทึกการเข้า
telekbook - รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1124
ออฟไลน์

กระทู้: 3629


« ตอบ #65 เมื่อ: กันยายน 12, 2013, 03:35:50 PM »

สงสารประเทศไทยครับ... นี่มันในมหาลัย นะพวกเอ็งเอ๋ย, ถ้าเปลี่ยนเป็นพวกคนงานก่อสร้างไปเถียงกันในไซต์งาน ยังพอมีเหตุอ้างกันได้ว่าเขาไม่ได้เรียนหนังสือ... โห...
เด็กพวกนี้น่าจะบันทึกชื่อไว้ในบัญชีดำ และส่งต่อไปหน่วยงานต่างๆ ต่อไปจะได้ไม่รับเข้าทำงาน
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #66 เมื่อ: กันยายน 13, 2013, 07:05:53 PM »



นักศึกษาไม่อยากใส่
อ.เมย์ กับ อ.กุ้ง คณะวารสาร ธรรมศาสตร์
เลยใส่ชุดนักศึกษาแทน 555...

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=589383964433406&set=a.227046790667127.52752.226733814031758&type=1&theater
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

zamphol
ปืน-อยู่-ที่-ปาก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 831
ออฟไลน์

กระทู้: 2628


ชีวิต-ดั่ง-ละคร


« ตอบ #67 เมื่อ: กันยายน 13, 2013, 09:11:08 PM »

น้าซับ..ถูกตาต้องใจคนไหนเหรอครับ...อาจารย์ทั้งสองท่าน ผมเดินผ่านอยู่บ่อยๆ พอจะเป็นพ่อชักพ่อสื่อให้ได้ ผมเชียร์นะเนี้ย...เผื่อน้าซับจะได้ตำแหน่ง ผศ 



นักศึกษาไม่อยากใส่
อ.เมย์ กับ อ.กุ้ง คณะวารสาร ธรรมศาสตร์
เลยใส่ชุดนักศึกษาแทน 555...

https://www.facebook.com/photo.php?fbid=589383964433406&set=a.227046790667127.52752.226733814031758&type=1&theater
บันทึกการเข้า
Daimyo
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 924
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 9042



« ตอบ #68 เมื่อ: กันยายน 14, 2013, 05:48:15 PM »

  ก็อปมาแชร์ครับ.....

---------------------------------------------   

'อั้ม เนโกะ' ผู้ปฏิเสธเครื่องแบบ มธ.

เปลว สีเงิน 12 September 2556 - 00:00

   ผมก็ฟัง-อ่าน-ดู มาเป็นสัปดาห์แล้วมัง เรื่องนักศึกษาหญิงธรรมศาสตร์คนหนึ่งที่ใช้ชื่อ "อั้ม เนโกะ" ต่อต้านการใส่เครื่องแบบนักศึกษาถึงขึ้น ทำโปสเตอร์รณรงค์ให้ยกเลิกการใส่เครื่องแบบด้วยการ "ใส่เครื่องแบบ" แสดงท่า Kamasutra ดังที่ทราบกันอยู่
    ถึงวันนี้กระแสชัง-กระแสเชียร์ก็ยังไม่จาง สำหรับผม แน่นอนอยู่แล้ว...ไม่เห็นด้วยกับแนวคิด และวิธีการที่ใช้กามสูตรนักศึกษาเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านอยู่แล้ว
    แต่หลังจากเปิดคลิปเสียง "อั้ม เนโกะ" ฟัง เธอตั้งเป็นโจทย์ขึ้นว่า "อะไรคืออัตลักษณ์ของ มธ.?" จากนั้น เธอก็อธิบายพร้อมเหตุผลทางประวัติศาสตร์ ทั้งกำเนิดธรรมศาสตร์ ประกอบเรื่องราวความเป็นมาทางการเมือง การปกครอง การทหารในอดีต
    แล้วเธอก็สรุปด้วยเหตุผลนั้นสู่การปฏิบัติตามแนวคิด คือการแอนตี้การใส่เครื่องแบบนักศึกษา โดยสรุปว่า
    "เครื่องแบบคือรากเหง้าเผด็จการ"!
    ท่านใดสนใจ และอยากศึกษาถึงแรงโน้มน้าวสู่แนวคิด สู่แนวทำของเธอ หาคลิปเปิดฟังที่เธออธิบายไว้ได้ไม่ยาก มีเกลื่อนตามเว็บ
    ผมนั้น แรกเห็นโปสเตอร์และอ่านข่าว มีกลิ่นคาวจากเธอเป็นความเข้าใจ แต่เมื่อฟังคลิปแล้ว เกิด "ทัศนคติใหม่" เข้าไปจัดระเบียบ "ความเข้าใจ" ในตัวเธอไปอีกด้าน ก็อยากให้ไปหาฟังกัน เพื่อการมองเห็นมิติ "หนุ่ม-สาว" พ.ศ.นี้
    เธอเป็นคนรุ่นใหม่ที่ "สังคมคิด" มีรากจากสาระตรงข้ามกับภาพในโปสเตอร์และการแต่งกายโชว์เนื้อหนัง อาจพูดได้ว่า เธอเป็นคนมีความเชื่อตามแนวคิด และมีความเป็นตัวของตัวเอง "คาบโลก-คาบเส้น" น่าศึกษา พูดจาด้วยแนวคิดพรั่งพรู
    ฟังจากที่เธอพูด ก็สมแล้วที่เป็นนักศึกษาศิลปศาสตร์  ธรรมศาสตร์!
    เธอหยิบสาระมาพูด ส่วนตกผลึกถึงแก่นสาระนั้นด้วยหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ในคลิป เธออธิบายจากเปลี่ยนแปลงการปกครอง พูดถึงคณะราษฎร พูดถึงรัฐประหาร พูดถึงท่านปรีดี พนมยงค์ พูดถึงกำเนิดธรรมศาสตร์ พูดถึงสังคมปกครองต่อยุคกันมา และพูดถึงอำนาจทหาร
    แล้วเธอก็สรุปโจทย์ที่ว่า "อะไรคืออัตลักษณ์ มธ.?" ด้วยคำตอบเธอเองว่า เพราะฉะนั้น...เครื่องแบบ (อย่างทหาร) คือรากเหง้าเผด็จการ!
    ผมฟังแบบจับความนะครับ เธอพูดติดต่อรวดเดียว จึงหยิบรายละเอียดมาไม่ครบ แต่เพียงแค่นี้ ก็เพียงพอให้ผมมีความเข้าใจในตัวอั้ม เนโกะ ได้ชัดเจนกว่าตอนฟังจากเสียงวิจารณ์ และภาพโปสเตอร์
    นับเป็นเคสน่าสนใจมากทีเดียว อย่าด่วนสรุปตัวเธอจากแค่พฤติกรรมภายนอก แล้วส่งเข้าแผนกจิตเวช หรือผลักไสไปจากสถาบันศึกษา
    ถ้าจะว่าอั้ม เนโกะ เป็นนักศึกษา มธ.เพี้ยน
    ผมว่าใน มธ.มีอาจารย์เพี้ยน "อาการน่าบำบัด" กว่าอั้ม  เนโกะ มากกว่าเยอะเลย!
    ผมไม่ทราบประวัติพื้นฐานครอบครัว และวงชีวิตแห่งการเติบโตของเธอ เพียงพิเคราะห์จากความเป็นเด็กมีข้อมูล สะท้อนความซึมซับจากข้อมูลนั้นมาเป็นปฏิกิริยาสนองตอบ จากที่เธอพูด มันสะท้อนชัดเจน
    เธอไม่ใช่คนรุ่นใหม่ตกคลั่กในกระแส ฝากเบอร์โทร. คันหู แน่นอก ทำผม ทำนม ทำหน้า กรีดตา ยกดั้ง ปากกระจับ  ตัดกราม เรียนมันไปอย่างนั้น มุ่งมั่นเป็นดารา ควานหาแต่เวทีประกวด หรือโตขึ้นมาหน่อย นิยมสติปัญญาระดับสมาร์ทเลดี้ หนูไม่รู้ บูรณาการ อะไรประเภทนั้น
    จากที่เธอพูด ธรรมศาสตร์เหมาะกับเธอแล้ว เพราะมันแสดงถึงว่าเธอสนใจในการอ่าน การศึกษา-ค้นคว้า ประวัติศาสตร์ชาติและการปกครองแต่ละยุคสมัย
    ในแต่ละรอยหยักสมองเธอ ขณะนี้บรรจุด้วยข้อมูลประวัติศาสตร์แต่ละยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง เธอรู้จักคณะราษฎร รู้จักท่านอาจารย์ปรีดี รู้จักเผด็จการซ้อนยุคประชาธิปไตยแรกรุ่น รู้จักแนวกำเนิดธรรมศาสตร์และการเมือง
    และรู้จักนำบทบาทเผด็จการทหารในยุคนั้นๆ สร้างเป็นรูปธรรมปิศาจผ่านเครื่องแบบ แล้วใช้อิสรเสรีภาพแห่งมวลชนคนประชาธิปไตยตามเธอศึกษา สะท้อนเป็นปฏิกิริยาต้านและปฏิเสธระบบเผด็จการ
    ผ่าน "เครื่องแบบทหาร"!
    เธอสรุปความไม่เป็นประชาธิปไตยทั้งมวลไปไว้ที่ "เครื่องแบบทหาร" และอะไรที่ต้องอยู่ในเครื่องแบบทั้งหมดว่านั่นคือ "รากเหง้าแห่งเผด็จการ"
    นี่คือความคิดดิบที่เป็นตัวตนของ "อั้ม เนโกะ" เด็ก มธ.ยุคใหม่ ผู้ปฏิเสธเครื่องแบบนักศึกษา!
    ถ้าถามกันว่า "ปฏิกิริยาอั้ม เนโกะ" บอกอะไรเราบ้าง?
    ในความเห็นผม เห็นว่า อั้ม เนโกะ เป็นทรัพยากรบุคคล "เพื่อการศึกษา" ของธรรมศาสตร์ ที่ต้องโอบอุ้มพิสูจน์การสอน มากกว่าคิดปฏิเสธผลักไสด้วยรังเกียจ
    เพราะในตัวเธอ มีวัตถุดิบเพื่อการเจียระไนบรรจุอยู่ในหัวสมองพร้อมเป็นพิเศษ รอแต่ผู้มีสายตาและฝีมือจะเข้ามาเจียระไน "เพชรสังคม" ประชาธิปไตยเม็ดนี้ให้เกิดประโยชน์สมคุณค่าในตัวมันเท่านั้น!
    ลำพัง "อั้ม เนโกะ" ผมมีความเห็นว่า เธอบรรจุ "ข้อมูลดิบ" ไว้ในคลังสมองจนอัดแน่น เหมือนคนจ่ายตลาด ซื้อตามที่ชอบจนเต็มกระจาด
    แต่ทั้งไม่รู้ ทั้งไม่สามารถ นำสิ่งที่ซื้อนั้นมาต้มยำทำแกงให้รวมรส ด้วยรู้วิธีที่เรียกว่าส่วนผสม-เครื่องปรุง นำมาใช้ผสมผสานให้เกิดเป็นอาหารอร่อยที่เกิดประโยชน์ได้!
    พูดง่ายๆ คือ อยู่ระหว่าง "ร้อนวิชา" จากที่ศึกษา-ค้นคว้ามา เหมือนนักศึกษาเรียนรัฐศาสตร์ปีแรก อยากปฏิวัติโลกวันนี้-วันพรุ่งแทบทุกคน
    และสิ่งปรากฏจากตัวนักศึกษาผู้มีความคิดว่า "เครื่องแบบเป็นรากเหง้าเผด็จการ" คนนี้ ผมมีมุมมองย้อนทางเป็นคำถามกลับไปยังอาจารย์ด้วยความสงสัยว่า....
    "ทุกวันนี้-ยุคนี้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อาจารย์ธรรมศาสตร์ สอนนักศึกษากันด้วย 'จุดมุ่งหมาย' ใด"?
    สอนนักศึกษาเป็นกระดาษซับหมึก เพื่อออกไปเป็นสินค้าเลิกใช้?
    หรือสอนคนให้เป็นคน เพื่อออกไปเป็นทรัพยากรบุคคลสร้างชาติ?
    นักศึกษาทุกคน ก็แค่ "เหยื่อ" ระบบ ทุกสิ่งที่เป็นปฏิกิริยาจากตัวนักศึกษา ล้วนสะท้อนมาจากผู้บ่มเพาะ อย่างอั้ม เนโกะ มีแนวคิด-แนวปฏิบัติอย่างนี้ ก็ต้องมองย้อนขึ้นไปว่า
    ระดับมหาวิทยาลัยแล้ว ควรที่จะ "ฝึกคนให้เป็นคนสมบูรณ์" มากกว่าสอนคนให้รู้ตำราแลกปริญญามิใช่หรือ?
    สอนคนให้รู้ตำรา สังคมบัณทิตไทยจะเต็มไปด้วยปัญญาชนสไตล์อั้ม เนโกะ คือ เรียนรู้สูตร ท่องจำสูตรได้หมด เพื่อแลกปริญญา
    แต่ครูบาอาจารย์ไม่ได้บ่มเพาะเคล็ดลับวิชา ว่าด้วยการนำแต่ละสูตรที่รู้มาแบบดิบๆ ไปผสมผสานในการใช้ด้วยอัตราส่วนที่ลงตัว เกิดประสิทธิภาพทางสร้างสรรค์ทั้งกับตัวเองและสังคม
    ไม่ใช่ปล่อยให้ "มิจฉาทิฐิ" คือความเห็นผิดเกิดการควบแน่น จนระเบิดใส่ตัวเองและผู้อื่น อย่างอั้ม เนโกะ ที่รู้สูตรประวัติศาสตร์สังคม แต่ไม่สามารถนำความรู้นั้นเรียบเรียงให้เป็นกระบวนการ เพื่อสังเคราะห์ให้ตกผลึกทางปฏิบัติที่เป็นจริง!
    ยุคธรรมศาสตร์การเมือง อย่างที่อั้ม เนโกะ พูดในคลิป ยุคนั้น ครูบาอาจารย์มุ่งสอนนักศึกษาให้เป็นคนสมบูรณ์ออกไปรับใช้สังคม กระทั่งยุคต่อมาจนถึง พศ.๒๕๑๙ มธ.ก็ยังเคี่ยวคลั่งให้คน มธ.เป็นคนเพื่อสังคมชาติ
    สามารถยืนยันได้ นักศึกษาจาก ๒๕๐๐-๒๕๑๙ ด้วยอาจารย์บ่มเพาะคนให้เป็นคนสมบูรณ์ ประวัติศาสตร์ชาติประชาธิปไตยไทยจึงเปลี่ยนได้ด้วย "พลังนักศึกษา" ๑๔ ตุลา ๑๖ และ ๖ ตุลา ๑๙
    นับแต่นั้นมา ถึงยุค "สอนหนังสือแลกเงินเดือน" นักศึกษาจึงมีความหมายเป็น "ลูกค้า" ที่พ่อค้าต้องเอาอก-เอาใจ สอนเพื่อขายใบปริญญา ไม่ได้บ่มเพาะจิตวิญญาณความเป็น "คนเพื่อสังคมชาติ" ให้อยู่ในสายเลือดนักศึกษาด้วย
    อดีต ประชาชนฝากผี-ฝากไข้ในการเปลี่ยนแปลงประเทศ "สู่อนาคตใหม่" ที่ดีกว่าแต่ละยุค ไว้ที่การนำของนักศึกษา
    แต่ปัจจุบัน ประชาธิปไตยนำชาติของนักศึกษา สะท้อนออกมาด้วยภาพเสพสังวาสต้านการใส่เครื่องแบบ ด้วยความคิด มธ.บ่มเพาะว่า "เครื่องแบบคือรากเหง้าเผด็จการ"!?
    ดูเหมือนมีสาระ แต่ขยะในบ่อเพชรจริงๆ!
    ครับ..ผมถือว่ากรณี "อั้ม เนโกะ" เป็นเคสทดสอบแนวบริหาร แนวการสอนของธรรมศาสตร์วันนี้ อยากจะดูว่า ครูบาอาจารย์ตั้งแต่ตัวอธิการบดีลงมา จะมีศิลปะการเจียระไนจากข้อมูลในตัวอั้ม ที่ส่งประกายซ่านออกมาเป็นการคิด-การทำภายนอกอย่างไร ว่า...
    "รากเหง้าเผด็จการ" ไม่ได้อยู่ที่เครื่องแบบ
    มันอยู่ที่ "ตัวคนใส่"
    และตัวคนบันดาล "ตำแหน่งนี้..พี่ให้" ตะหาก!
บันทึกการเข้า

ดังสายลมที่พัดผ่านลานป่า..พาใบไม้พลัดถิ่น..ดั่งสายน้ำที่ไหลรินพัดพา..นำดวงใจฉันมาใกล้เธอ..
"ความหวังดีที่เธอให้สังคม ฉันชื่นชมเธอเสมอ"
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #69 เมื่อ: กันยายน 15, 2013, 03:37:25 AM »

อ่านกลอนของอธิการบดีแล้ว  ผมว่าลาออกดีกว่า  หน้าที่มีไม่ทำ คุมอาจารย์ คุมนักศึกษา ไม่ได้   บ่งบอกถึงความไร้ปัญญาของ ผู้มีวุฒิการศึกษาสูง  หรือ มองอีกแง่ คือ อาการห่วงเก้าอี้ โดยฝืนอยู่ต่อไปแม้ตัวเองจะไม่มีอำนาจ

ตั้งแต่ประเด็นรับนักศึกษา พิลึกๆ นั้นแล้ว พฤติกรรมของครูบาอาจารย์ที่ล่วงละเมิดสถาบันอีก  

มิน่าละ ลูกศิษย์ถึงมีแต่กระแนะกระแหน  ก็มันเป็นมันตั้งแต่อาจารย์มันแล้ว   มาตรการมันมีตั้งเยอะ  ไม่จำเป็นต้องหักด้ามพร้าด้วยเข่า

เรื่องเครื่องแบบมันขี้ปะติ๋ว  มันสำคัญที่การสร้างความภูมิใจ ให้ตนเองมากกว่า  ..... เดี๋ยวๆ  ในที่นี้หมายถึงความภูมิใจนะ  ไม่ใช่การหลงตัวเอง
ถ้าสถาบันบ่มเพาะความภูมิใจในหน้าที ที่ตนเองต้องรับผิดชอบต่อประเทศชาติ  แก่นักศึกษาอย่างพอเพียง   เชื่อเถอะแม้จะไม่มีเครื่องแบบในระเบียบ  แต่เด็กมันจะหามาใส่เอง  ขวันขวาย สร้างอัตลักษณ์ของตนขึ้นมาเอง  

ดูพวกอาสาสมัคร ต่างๆสิ แรกก็ไม่มีเครื่องแบบ อาจจะมีแค่ผ้าพันคอเพื่อเป็นสัญลักษณ์เท่านั้น  พอสักพัก พวกเขาภูมิใจในงานที่เขาทำ เริ่มสร้างเครื่องแบบ มีสัญลักษณ์  หรืออย่างคนบ้านอกภูมิใจที่ได้คาดผ้าขาวม้า   ก็พร้อมใจกันคาดทั้งหมดบ้านเวลามีงาน

ส่วนตัวเคยเห็น ทส. นายพลต่วน ทหารจีนคณะชาติ อายุประมาณ 90 แกยังพยายามใส่เครื่องแบบทหาร (ตามมีตามเกิด)  ไปยืนเฝ้าสุสาน  นายพลตายไปนานแล้ว แกยังไปทำความสะอาดเฝ้าสุสานอยู่หลายสิบปี  ความภูมิใจของคนไม่มีชาติจะอยู่  ก็ยังภูมิจะสวมเครื่องแบบ  

มนุษย์เรา ตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ไม่ใส่เสื้อผ้า  พัฒนาจนมีเครื่องแต่งกาย และมีแต่งกายอย่างมีแบบแผน   แต่นี้กลับสอนให้คน มีวิวัฒนาการถอยหลัง เพราะค่านิยมที่อาจารย์บางท่าน รวมถึงรุ่นพี่บ่มเพาะกันมา ว่า การทำอะไรแผลงๆ ต่อต้านกระแส  คือความเหมาะสมคือความถูกต้องไปเสียทั้งหมด

มันไม่ได้เพิ่งเป็น แต่เขาบ่มเพาะแนวคิดนี้มานานแล้ว ที่นี้ก็จะเหมือนกรรมตามสนอง

ถ้าสร้างความภูมิใจให้เด็กไม่ได้  ก็หมดค่าของผู้สอนแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 15, 2013, 03:40:28 AM โดย โทน73 -รักในหลวง- » บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #70 เมื่อ: กันยายน 15, 2013, 07:37:05 PM »

วันนี้ได้ดูการดีเบตของทั้งสองฝ่ายผ่านช่อง TPBS ในการตอบหักล้างของทั้งสองฝ่ายยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร แต่ก็ได้แง่คิดหลากหลายและมุมมองของแต่ละฝ่ายเพิ่มขึ้น
บันทึกการเข้า
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #71 เมื่อ: กันยายน 16, 2013, 02:27:32 AM »

วันนี้ได้ดูการดีเบตของทั้งสองฝ่ายผ่านช่อง TPBS ในการตอบหักล้างของทั้งสองฝ่ายยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร แต่ก็ได้แง่คิดหลากหลายและมุมมองของแต่ละฝ่ายเพิ่มขึ้น

สำหรับผม ถือว่าตรงกันข้ามครับ เพราะผู้จัดรายการ ไม่เอาคู่กรณีจริงๆมาถกปัญหากัน 

ถึงตอนนี้ผมกลับคิดว่า ปัญหาไม่ใช่เด็ก แต่เป็นผู้จัดรายการมากกว่า  การที่ไม่วิเคราะห์ที่มาที่ไป หาความจำเป็นว่าเรื่องไหนควรจะออกถ่ายทอด จะกลายเป็นรายการทีวีหรือสื่อมวลชนเป็นผู้บงการเรื่องราวต่างๆ หวังเพียงหากินบนความขัดแย้งที่เขาสร้างขึ้น

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร  กฎระเบียบข้อบังคับของมหาวิทยาลัย ที่ตราเป็นกฎหมายรับรอง ว่าไว้อย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น  จะอ้างอะไร ก็ต้องถือว่าทันที่ได้ได้สมัครเข้ามาเรียนก็ต้องได้ทราบกฎระเบียบเหล่านั้นอยู่แล้ว  อย่างบริษัทเอกชน บังคับให้พนักงานอ่านกฎระเบียบข้อบังคับ แล้วลงชื่อรับทราบก่อนเข้าทำงาน

เด็กคนนี้น่าจะเข้าเรียนก่อนบรรลุนิติภาวะ ตอนสมัครเข้าเรียนผู้ปกครองคงมาทำนิติกรรม ถ้ามีปัญหาก็เชิญผู้ปกครองมาทำการชี้แจง ก็จบ
แต่ถ้าทุกอย่างไม่ผิดระเบียบข้อบังคับอะไร ก็ต้องไปดูกฎหมายที่สูงกว่า ไล่จนถึงกฎกระทรวง เมื่อไม่เป้นข้อห้ามก็ต้องเป็นไปตามนั้น

ทั้งผู้บริหารสถาบัน สื่อมวลชน เหมือนจะเลี้ยงไข้สงคราม อย่างที่เราชอบว่าโลกตะวันตกสร้างสงครามเพื่อขายอาวุธ



บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
*****

คะแนน 586
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8574


« ตอบ #72 เมื่อ: กันยายน 16, 2013, 02:42:35 AM »

รายการทีวีที่เอาเธอมาออกคิดรับผิดชอบบ้างไหม อายุเธอยังน้อย  แล้วอนาคตของเธอละ  อาจจะรุ่งหรือร่วง ก็ได้ การเอาเรื่องเดิมมาพูดซ้ำๆ ก็จะกลายเป็นการสร้างความชอบธรรมให้กะเรื่องนั้นๆต่อไป

กระบวนการทางความคิดของเจ้าของเรื่อง จะพูดถึงแต่เผด็จการ  แล้วเผด็จการ มันไม่ดีอย่างไร บางสถานะการณ์ ระบบเผด็จการ ก็เหมาะสม  แล้วก็คงจะโยงถึงประชาธิปไตย   ...โอ้... นี้มันแนวคิดยุคสงครามเย็น .... ที่ตะวันตกยัดเยียดกรอกหูเราว่า เผด็จการ มันไม่ดี ประชาธิปไตย คือยาวิเศษ

ดูเหมือนผู้ชมกำลังถูกหลอก  ชงเรื่อง สร้างกระแส  แล้วอีกฝ่ายก็เล่นบทตรงกันข้าม  สรุปมันก็พวกเดียวกันหมด

บันทึกการเข้า

....ตามล่า...อีตอแหล
babor
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #73 เมื่อ: กันยายน 16, 2013, 09:36:15 AM »

หลายคำถามจากพิธีกร ฟังแล้วก็งง ๆ เหมือนกัน... แต่ชอบแขกรับเชิญอีกคนที่เป็นผู้ถนัดงานกฎหมาย ตอบแต่ละครั้งว่ากันไปตามตัวอักษรเลย ฟังแล้วชัดเจนดี เยี่ยม
บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #74 เมื่อ: กันยายน 16, 2013, 03:25:17 PM »



http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000116683
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

หน้า: 1 2 3 4 [5] 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.083 วินาที กับ 22 คำสั่ง