เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 10, 2024, 04:27:45 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 6 7 8 [9] 10 11
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เกียร์ธรรมดากับออโต้ ใครทนกว่า  (อ่าน 14880 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 18 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #120 เมื่อ: กันยายน 14, 2013, 08:52:11 PM »

รถเกียร์ออโต้ก็มีวิธีรักษารอบเครื่องครับพี่สมชาย ช่วงหลังผมใช้บ่อยเพราะขับรถออโต้มากกว่าเกียร์ธรรมดา
วิธีที่ว่าคือ "Left-foot braking หรือ เบรคเท้าซ้าย" ใช้งานกับรถเกียร์ออโต้ขับเคลื่อนล้อหน้าได้ดีมาก รวมถึงรถที่มีอาการเบาดับด้วยครับ

ส่วนรถขับหลังก็ใช้ได้แต่จะยากกว่า ถ้าส่งคันเร่งแรงล้อหลังจะปั่นฟรี ถ้ารถไม่อยู่ในแนวตรงรถจะเกิดOversteer
คนที่เคยเล่นโกคาร์ทจะเข้าใจวิธีการคุมรถกับวิธีการเบรคแบบนี้ครับ  ไหว้ ไหว้

ขอบคุณครับ... สำหรับรถนายสมชายช่วงล่างบ้านๆ เลยไม่มีปัญหาเรื่องเลี้ยงรอบ เพราะหากเร่งไม่ระวังช่วงล่างมันเอาไม่อยู่ครับ
คือล้อหน้ามันจะลากเหวี่ยงท้ายปัดเลยครับ, คือลิมิตรถอยู่ที่ช่วงล่าง ทั้งที่แรงบิดยังเหลือ เลยไม่ต้องเลี้ยงรอบครับ... แฮ่ๆ...

เยี่ยม เยี่ยม

อีกสองส่วนอยู่ที่ น้ำหนัก และบาลานส์ของรถ
บันทึกการเข้า
Udomkd
รักษ์ธรรมชาติ
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 3700
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 41046



« ตอบ #121 เมื่อ: กันยายน 14, 2013, 08:57:49 PM »

ส่วนใคร ทนกว่า ก็ตอบไม่ได้ มีรถใช้ทั้งธรรมดาและออโตฯ ใช้มามากอยู่ แต่มันไม่เคยพังสักที ทั้งสองแบบ เลยไม่รู้ ครับ

เสริม ...แก่แล้ว ชอบขับออโตมากกว่าธรรมดาครับ...เพราะ

สะดวกสะบาย จะเอายังไงกะมันก็ได้ (หากรู้จักที่จะใช้มัน) อันนี้พูดถึงออโตใหม่ๆ มิใช่ย้อนยุคสมัยยี่สิบปีที่แล้วครับ เอาเป็นว่าก้มดู ที่มีตำแหน่งเกียร์ แค่ P R N D พวกที่มี D 123 นั่นเกียร์ติดโบราณหน่อย

เท้าซ้ายตั้งยันให้สบายๆ ไม่ต้องเหยียบครัทช์ให้เมื่อย

มือซ้าย ว่างมากมาย เอาใว้ทำอะไรอย่างอื่น เยอะแยะ และยังเอามาช่วยหมุนพวงมาลัย เวลาเข้าโค้ง ยังจะดีกว่า ที่จะเอาไปหยำหัวเกียร์

ที่สำคัญ ต้องรู้จักจังหวะของรถคันที่เราขับครับ จังหวะคิกดาวมันตอบสนองอย่างไร เบรคเป็นไง

สนุก คนที่ไม่เคยขับออโต หรือเคยขับแต่ใช้น้อย อย่าแอนตี้มาก ลองดู ใช้ให้ดี แล้วจะชอบครับ

อ้อ....สมุดคู่มือการใช้รถ เล่มหลายบาทน๊ะครับ เราเสียตังค์ด้วยน๊ะนั่น เปิดอ่านทำความเข้าใจรถเราซ๊ะ อิๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 15, 2013, 01:33:31 PM โดย Udomkd » บันทึกการเข้า

รักมิตร รักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีด้ามขวาน
   รักมิตรรักเพื่อนรักผอง ดั่งขวานทอง ต้องมีคมขวาน
   รักมิตร รักเพื่อน
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #122 เมื่อ: กันยายน 14, 2013, 09:01:15 PM »

เพิ่งหัดขับรถมาบ้างครับจากเกียร์ธรรมดารถกระบะ2500cc ไปดูปัญหาที่ถกกันในหลายๆเวปแล้วผมยังฟันธงไม่ได้ว่าอันไหนดีกว่ากันแบบขาดๆ หลายคนว่าออโต้จุกจิกน้อยกว่า เพราะบอกว่ารถซื้อมาพร้อมกัน ใช้ได้100000โลก็ต้องยกชุดคลัทใหม่แล้ว สว่นออโต้ใช้มาสิบกว่าปีถ่ายแต่น้ำมันเกียร์ตามระยะ ไม่รู้จะเชื่อใครดีครับ แต่ที่แน่ๆออโต้เหมาะสำหรับในเมืองกับรถตัวสั้นๆเล็กๆที่ไม่เน้นแรงมาก และเกียร์ธรรมดาก็ออกตัวคมดี


Ha  Ha Ha ฮา "ฮั่นแน่"  พี่ ปิศาจ รีป๊อตเตอร์อ่ะ ฮา

กระทู้เดินมา "เก้า"หน้าแล้วอ่ะ ฮา

5555 กลับไปขี่ "มอไซด์"  เห๊อะ อ่ะ ฮา
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
Ghostreporting
Hero Member
*****

คะแนน 112
ออฟไลน์

กระทู้: 1392


ขอเจอตัวจริงของเทอสักครั้ง


« ตอบ #123 เมื่อ: กันยายน 14, 2013, 10:01:34 PM »

ยาย ไม่ชักใบให้เรือเสีย จะทำให้เป็นง่อยกว่าเดิมแค่ไหนกันครับ คนเขาแค่ถามเพื่อปูทางแล้วมารวนทำไม
บันทึกการเข้า

http://www.thaispyshot.com/index.php?topic=718.0 อ้างเพิ่มระดับความเขี้ยวของมาตรฐานไอเสีย เพื่อรักษาสภาพแวดล้อม เราไม่โง่พอที่จะเชื่อคุณหรอก ที่รถบรรทุกทิ้งหินทิ้งทราย ทิ้งควันดำปื๋อดันไม่ไปกวดขัน ทุเรศประเทศสารขันธ์
your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
****

คะแนน 925
ออฟไลน์

กระทู้: 509


« ตอบ #124 เมื่อ: กันยายน 15, 2013, 12:48:57 AM »

ถ้าคนขับแน่จรืง...ใช้เทคนนิคฮีลแอนโทได้ครับ คือมือขวาคุมตรงกลางพวงมาลัย(ด้านบน)เท้าซ้ายเหยียบครัทช์ มือซ้ายเปลี่ยนจับที่คันเกียร์เตรียมไว้ ปลายเท้าขวากดแป้นเบรค แล้วบิดส้นเท้าขวามาเบิ้ลหรือกระทืบคีนเร่งให้รอบเครื่งดีดสูงขึ้นอย่างเหมาะสมเพียงครั้งเดียว(โดยที่ปลายเท้าขวาก็ยังคงกดแป้นเบรคไว้ตลอดเวลา) จากนั้นเปลี่ยนเกียร์ลงทันที จะทำให้เข้าเกียร์และควบคุมความเร็วรถได้ในเวลาเดียวกัน

เก็บไว้ใช้คนเดียวเถอะครับ

Heel-and-toe ใช้เพื่อการรักษารอบเครื่องยนต์ให้อยู่ในช่วงที่ให้กำลังสูงสุด รวมถึงลดการการหน่วงของเครื่องยนต์เมื่อถอนครัช
เป็นเทคนิค "ใช้ในการคงกำลังและพร้อมจะเพิ่มความเร็ว" ไม่ใช่เทคนิคที่ใช้เพื่อลดความเร็ว หน้าที่ในการลดความเร็วคือระบบเบรค
ถ้าทะลึ่งไปทำแบบนี้ในทางชันก็คงต้องตามไปเก็บศพในเหว 

การลงเขาแล้วความเร็วเกินต้องเบรคให้ความเร็วและรอบลดลงเท่านั้นจึงลดเกียร์ต่ำลง มิใช่เอาเทคนิคที่ใช้แข่งความเร็วอย่าง Heel-and-toe มาใช้
ใช้เอนจิ้นเบรคช่วยและเบรคเพื่อลดความเร็วดีกว่าปล่อยเกียร์ว่างลงเขามาแน่นอนครับ เวลาที่อัดมาทางตรงหนักๆแล้วเบรกเพื่อเข้าโค้งแคบๆนักแข่งจะใช้วิธีนี้เช่นกันเพราะจะยัดเกียร์ต่ำไม่ได้ คุณคงไม่รู้เรื่องเลยคิดว่าเป็นการรักษาเพาเว่อร์แบนเพียงอย่างเดียว และผมใช้เฉพาะเวลาคับขันสุดวิสัยเมื่อยัดเกียร์ไม่เข้าจริงๆ(เพราะความเร็วก่อนโค้งมากไป) ส่วนใหญ่ผมจะอ่านโค้งและเปลี่ยนเกียร์เพื่อลงเขาได้ก่อนจะเข้าเอเปกอยู่แล้ว ยกเว้นหมั่นไส้รถบางคันแล้วอัดแข่งกันมา เจอมาแล้วทุกสภาพเส้นทางครับทั้งทางตรง ทางโค้ง ขึ้นเขา ลงเขา


1. อ่านภาษาไทยไม่แตกอีกแล้ว วิ่งลงเขามาแล้วลดเกียร์ต่ำไม่ได้เพราะ "รอบเครื่องสูงเกินไป" จึงยัดเกียร์ต่ำเข้าไปไม่ได้
ทางแก้คือต้องลดรอบเครื่องยนต์ให้ต่ำลงพอที่จะเข้าเกียร์ต่ำได้นั่นคือต้องเบรค แต่ดันบอกให้ใช้ Heel-and-toe ซึ่งเป็นวิธีรักษารอบและกำลัง
แล้วเกียร์รถยนต์ทั่วๆไปเวลาเหยียบคันเร่งให้รอบสูงขึ้นไป มันลงเกียร์ต่ำง่ายขึ้นหรือ? ถ้ามันทำได้อย่างที่ว่า วิ่งเกียร์5ก็คงลงมาเกียร์2ได้เลย 

2. คุณเคยวิ่งสนามป่ะเนี่ย นักแข่งเวลาเจอโค้งแคบน่ะเขาใช้ "Full Braking" ก่อนถึงโค้ง พอ "รอบต่ำลงแล้ว"
จึงใช้เท้าซ้ายเหยี่ยบครัชและเท้าขวาใช้ Heel-and-toe เพิ่อคงแรงบิดและรอบเครื่องยนต์ระหว่างเข้าโค้ง พร้อมจะกดส่งเมื่อออกโค้ง
ย้ำนะว่านักแข่งเขาใช้เบรคก่อนเพื่อลดความเร็วและรอบเครื่อง เมื่อความเร็วและรอบเครื่องลดลงพอเหมาะแล้วจึงทำ Heel-and-toe

3. การที่คุณบอกว่าพุ่งเข้าโค้งแล้วความเร็วเกินแล้วต้องใช้ Heel-and-toe เข้าโค้งน่ะ ถ้ารถมันยังอยู่แปลว่าความเร็วไม่เกินลิมิตของรถ
เพราะถ้ามันเกินจริงๆอย่างที่ว่า แล้วยังทะลึ่ง Heel-and-toe คุณคงหลุดโค้งลงเหวไปแล้ว
วิธีแก้ Overspeed เข้าโค้งคือใช้ Braking Drift เข้า และใช้ Power Slide ออก




..ยุคสมัยนี้  เกียร์ธรรมดาในรถเก๋ง..แทบจะสูญพันธุ์  เพราะการจราจรที่ติดขัด+ความสะดวกสบาย
..สมองเกียร์ออโต้พัฒนาไปไกลละครับ  แถมมีPaddle Shiftให้เขี่ยเล่น  หลายท่านที่กล่าว...อาจไปเจอเกียร์ออโต้ในรถรุ่นเก่า

..ส่วนที่มีการอ้างอิงถึงรถแข่งไม่ว่าจะเป็นF1หรือแรลลี่  หรือรถสปอร์ตหรูบ้าพลัง   ส่วนมากก็พัฒนาเป็นSemi-Automatic+ Paddle Shiftหรือคันโยก   คือไม่ต้องมีครัช  เกียร์ใช้นิ้วเขี่ย.. หลงรัก

..ยุคปัจจุบัน  น่าจะถกกันเรื่องเกียร์ออโต้ระบบTorque Converter หรือ CVT  ซะมากกว่า  ว่า..CVT อนาคตจะไปถึงไหน  เรื่องความทนทานในเครื่องยนต์แรงสูง ไหว้


เกียร์ธรรมดาคงอีกนานกว่าจะสูญพันธุ์ รถที่ขายในบ้านเรามันมีแค่ไม่กี่ยี่ห้อรถอีกมากมายที่ใช้เกียร์ธรรมดาครับ

รถสปอร์ทแรงๆที่ว่ามี Paddle Shift ให้ใช้น่ะ หน้าตามันอาจจะเหมือนเกียร์ออโต้ในรถบ้านจ่ายตลาดก็จริง แต่หลักการทำงานมันคือเกียร์ธรรมดาใช้เฟืองโลหะ
เพียงแต่ที่ไม่มีแป้นคลัชให้เหยียบเพราะยกคลัชด้วยระบบไฟฟ้าหรือไฮดรอลิค ที่ผู้ผลิตพัฒนาระบบเกียร์นี้ขึ้นมาเพราะมันรวดเร็วและแม่นยำกว่าคนทั่วไปความสบายเป็นของแถม
อย่าเอาไปเทียบกับเกียร์ CVT รถจ่ายตลาดที่ให้ Paddle Shift มาเพื่อทำเท่ครับ
เวรแล้วครับคุณมองภาพไม่ออกนี่ เมื่อลงเขาจนความเร็วรถสูงเกินไป ทันที่ที่เราเหยียบครัทช์รอบเครื่องจะตกลงมาทันที โดยความเร็วของรถ เฟืองท้าย และเฟืองเกียร์ไม่ตกลงมาด้วยจึงใส่เกียร์ต่ำไม่ได้ แต่ของคุณนี่แทนที่จะเพิ่มรอบเครื่องให้สัมพันธ์กับความเร็วของรถหรือชุดเกียร์ กลับให้ลดรอบเครื่อง มันจะเข้าเกียร์ได้ยังไง ผมก็บอกแล้วว่าให้เบรคไปด้วย(เพื่อลดความเร็วของเกียร์ที่มันหมุนตามความเร็วจากเฟืองท้าย) แล้วเบิ้ลคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์มันจึงจะยัดเกียร์ลงไปได้ ใส่เกียร์ได้แล้วต้องให้บอกอีกมั่ยว่าให้ยกส้นตีนออกจากแป้นคันเร่ง..
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 15, 2013, 01:21:04 AM โดย your-ประชาธิปไตย » บันทึกการเข้า

"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู"
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
****

คะแนน 925
ออฟไลน์

กระทู้: 509


« ตอบ #125 เมื่อ: กันยายน 15, 2013, 01:16:46 AM »

บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด
ผมเรียกเกียร์พวกนี้ว่าเกียร์ครัทช์คู่ การมีชุดครัทช์อัตโนมัติสองชุดต้องใช้พลังงานมาขับมากกว่าเกียร์ธรรมดา
บันทึกการเข้า

"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู"
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #126 เมื่อ: กันยายน 15, 2013, 01:28:58 AM »

บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด
ผมเรียกเกียร์พวกนี้ว่าเกียร์ครัทช์คู่ การมีชุดครัทช์อัตโนมัติสองชุดต้องใช้พลังงานมาขับมากกว่าเกียร์ธรรมดา

มีคลัช2ชุดแต่ไม่ได้ออกแรงกดพร้อมกันเพราะแบ่งการทำงานแยกกัน  ถามว่าต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์มากกว่าคลัชเดี่ยวอย่างไร?
บันทึกการเข้า
686
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 471
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3988



« ตอบ #127 เมื่อ: กันยายน 15, 2013, 08:27:38 AM »

รถที่ผม ใช้อยู่ ก็เป็น เกียร์ ธรรมดา ครับ ไม่เคยคิดใช้ เกียร์ ออโต ปกติ ใช้รถไฟฟ้า หรือไม่ก็ รถเมล์ เวลาใช้รถ ส่วนใหญ่ ก็จะใช้เดินทางไกล เลยไม่สนใจ เกียร์ ออโต
บันทึกการเข้า
_RANGER_
ENGINEER FIRST NCO.7/46
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 62
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1219


สงครามมีวันจบ สหายร่วมรบคงอยู่ตลอดไป


« ตอบ #128 เมื่อ: กันยายน 15, 2013, 08:35:08 AM »

เกียร์ออโตขับสบายครับ พอมาขับเกียร์ออโตแล้วไม่คิดจะกลับไปขับเกียร์ธรรมดาอีกเลย  เยี่ยม
ส่วนเรื่องอันไหนทนกว่ากันนั้นผมคิดว่าอยู่ที่เท้าคนขับ กับ การบำรุงรักษาครับ
บันทึกการเข้า

ต้นไม้แห่งเสรีภาพ ต้องรดด้วยเลือดของทรราช และผู้รักชาติเป็นครั้งคราว
your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
****

คะแนน 925
ออฟไลน์

กระทู้: 509


« ตอบ #129 เมื่อ: กันยายน 15, 2013, 09:29:33 AM »

บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด
ผมเรียกเกียร์พวกนี้ว่าเกียร์ครัทช์คู่ การมีชุดครัทช์อัตโนมัติสองชุดต้องใช้พลังงานมาขับมากกว่าเกียร์ธรรมดา

มีคลัช2ชุดแต่ไม่ได้ออกแรงกดพร้อมกันเพราะแบ่งการทำงานแยกกัน  ถามว่าต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์มากกว่าคลัชเดี่ยวอย่างไร?
ครัชทมันไม่ได้มีผีสิงต้องใช้พลังงานในการขับ ไฟฟ้าก็ต้องปั่นไฟ ใช้แรงดันน้ำมันก็ต้องมีปั้ม ใช้แรงดันลม(พวกเกียร์รถแข่ง)ก็ต้องมัปั่มลม อย่างเกียร์รถบ้านๆที่เป็นครัทช์คู่เวลาระบบไฟรวนหรือแบตฯอ่อนแทบจะวิ่งไม่เป็นกันเลยทีเดียว ..ส่วนเกียร์ธรรมดาใช้ปั้มไฮโดรลิคบวกกำลังขา ไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์หรือไฟฟ้าใดๆ ...อ้อที่บอกว่ามันไม่จับเกียร์ต่อไปรอไปลองค้นข้อมูลดูดีๆ สมองกลมันกะและเตรียมให้แล้ว เหลือแค่รอให้ครัทช์ไปจับแค่นั้น ดังนั้นช่วงที่ต้องดันชุดเกียร์ต่อไป(สูงหรือต่ำ)มารอๆอีกชุดก็ทำให้เกิดภาระแก่เครื่องยนต์ได้ ไม่งั้นอัตราเร่งของเฟียสต้าที่มีแรงบิดน้อยนิดแต่ดันใช้ระบบเกีบร์ไฮเทคนี่คงสู้ชาวบ้านเค้าได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 15, 2013, 09:38:56 AM โดย your-ประชาธิปไตย » บันทึกการเข้า

"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู"
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #130 เมื่อ: กันยายน 15, 2013, 09:46:14 AM »


ยาย ไม่ชักใบให้เรือเสีย จะทำให้เป็นง่อยกว่าเดิมแค่ไหนกันครับ
คนเขาแค่ถามเพื่อปูทางแล้วมารวนทำไม


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ ปิศาจ รีปอร์ตเตอร์ อ่ะ ฮา

พี่แค่ถามว่า  แมนวล  กับ ออโต อย่างไหน ดีกว่ากัน อ่ะ ฮา
แต่พวกพี่ๆ  เขาคุยกันเรื่อง เกียร์  "ไฮเทค"  แล้ว อ่ะ ฮา
อย่าพี่ ปิศาจ รีปอร์ตเตอร์   "ฟัง"  ไม่รู้เรื่อง  ร๊อกส์ ฮา

เอออ.... ถ้าเป็น  ยันมาร์  คูโบต้า   นิสสัน ฮา
ยายคิดว่า  คงพอรู้เรื่อง  บ้าง แหละ อ่ะ ฮา  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก

กะอีแค่เรื่อง  ขับมอไซค์  ไม่ "ปิด"  ฝาถังน้ำมัน  ก็ยังขบไม่แตก ฮา

55555  กลับไปขี่  มอไซค์ เห๊อะ อ่ะ ฮา  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
อรชุน-รักในหลวง
หมู่โลหิต O
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1599
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10265


ขาย-อัพเกรด คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง


« ตอบ #131 เมื่อ: กันยายน 15, 2013, 10:33:21 AM »

เวรแล้วครับคุณมองภาพไม่ออกนี่ เมื่อลงเขาจนความเร็วรถสูงเกินไป ทันที่ที่เราเหยียบครัทช์รอบเครื่องจะตกลงมาทันที โดยความเร็วของรถ เฟืองท้าย และเฟืองเกียร์ไม่ตกลงมาด้วยจึงใส่เกียร์ต่ำไม่ได้ แต่ของคุณนี่แทนที่จะเพิ่มรอบเครื่องให้สัมพันธ์กับความเร็วของรถหรือชุดเกียร์ กลับให้ลดรอบเครื่อง มันจะเข้าเกียร์ได้ยังไง ผมก็บอกแล้วว่าให้เบรคไปด้วย(เพื่อลดความเร็วของเกียร์ที่มันหมุนตามความเร็วจากเฟืองท้าย) แล้วเบิ้ลคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์มันจึงจะยัดเกียร์ลงไปได้ ใส่เกียร์ได้แล้วต้องให้บอกอีกมั่ยว่าให้ยกส้นตีนออกจากแป้นคันเร่ง..

เฮ้อ.............. ไปลองดูแล้วกันนะว่าถ้าวิ่งมาเกียร์4-5 รอบซัก4,000+ ถ้าไม่เบรคจนรอบและความเร็วลดลงมันจะยัดเกียร์1-2เข้าไปได้อย่างไร
นี่ซ้ำรอบที่3แล้วนะ ว่าต้องเบรคก่อนถึงจะยัดเกียร์ต่ำเข้าไปได้ ซึ่งถ้ารอบมันต่ำพอจะยัดเข้าได้แล้ว ความจำเป็นอะไรต้องใช้ Heel-and-toe
เพราะลงเขาต้องการใช้เอนจิ้นเบรคเพื่อลดความเร็ว ไม่ได้ต้องการคุมรอบเครื่องเพื่ออัดส่งเพิ่มความเร็ว  Heel-and-toe แนะนำมาทำไม

อย่าคิดเอาเองดีกว่ามั้ยเคยบอกในกระทู้ .357 แรงกว่า .44mag ของคุณไปทีนึงแล้วนะ ว่าอย่าเอาอะไรที่คิดเองเออเองมาเผยแพร่
กระทู้นี้ก็เหมือนกันตัวคุณเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Heel-and-toe จุดประสงค์จริงๆเขาเอาไว้ทำอะไร วิธีแก้ Overspeed เข้าโค้งก็ยังมั่ว
อย่าเอาเรื่องผิดๆมาแนะนำให้คนอื่นเสี่ยงชีวิตเลย เก็บเอาไว้ใช้คนเดียวเถอะ



บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด
ผมเรียกเกียร์พวกนี้ว่าเกียร์ครัทช์คู่ การมีชุดครัทช์อัตโนมัติสองชุดต้องใช้พลังงานมาขับมากกว่าเกียร์ธรรมดา

มีคลัช2ชุดแต่ไม่ได้ออกแรงกดพร้อมกันเพราะแบ่งการทำงานแยกกัน  ถามว่าต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์มากกว่าคลัชเดี่ยวอย่างไร?
ครัชทมันไม่ได้มีผีสิงต้องใช้พลังงานในการขับ ไฟฟ้าก็ต้องปั่นไฟ ใช้แรงดันน้ำมันก็ต้องมีปั้ม ใช้แรงดันลม(พวกเกียร์รถแข่ง)ก็ต้องมัปั่มลม อย่างเกียร์รถบ้านๆที่เป็นครัทช์คู่เวลาระบบไฟรวนหรือแบตฯอ่อนแทบจะวิ่งไม่เป็นกันเลยทีเดียว ..ส่วนเกียร์ธรรมดาใช้ปั้มไฮโดรลิคบวกกำลังขา ไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์หรือไฟฟ้าใดๆ ...อ้อที่บอกว่ามันไม่จับเกียร์ต่อไปรอไปลองค้นข้อมูลดูดีๆ สมองกลมันกะและเตรียมให้แล้ว เหลือแค่รอให้ครัทช์ไปจับแค่นั้น ดังนั้นช่วงที่ต้องดันชุดเกียร์ต่อไป(สูงหรือต่ำ)มารอๆอีกชุดก็ทำให้เกิดภาระแก่เครื่องยนต์ได้ ไม่งั้นอัตราเร่งของเฟียสต้าที่มีแรงบิดน้อยนิดแต่ดันใช้ระบบเกีบร์ไฮเทคนี่คงสู้ชาวบ้านเค้าได้

เอาเหอะ ขี้เกียจอธิบายเดี๋ยวยาวเหมือนกระทู้ .357แรงกว่า.44Mag
บันทึกการเข้า
your-ประชาธิปไตย
Sr. Member
****

คะแนน 925
ออฟไลน์

กระทู้: 509


« ตอบ #132 เมื่อ: กันยายน 15, 2013, 10:42:27 AM »

เวรแล้วครับคุณมองภาพไม่ออกนี่ เมื่อลงเขาจนความเร็วรถสูงเกินไป ทันที่ที่เราเหยียบครัทช์รอบเครื่องจะตกลงมาทันที โดยความเร็วของรถ เฟืองท้าย และเฟืองเกียร์ไม่ตกลงมาด้วยจึงใส่เกียร์ต่ำไม่ได้ แต่ของคุณนี่แทนที่จะเพิ่มรอบเครื่องให้สัมพันธ์กับความเร็วของรถหรือชุดเกียร์ กลับให้ลดรอบเครื่อง มันจะเข้าเกียร์ได้ยังไง ผมก็บอกแล้วว่าให้เบรคไปด้วย(เพื่อลดความเร็วของเกียร์ที่มันหมุนตามความเร็วจากเฟืองท้าย) แล้วเบิ้ลคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์มันจึงจะยัดเกียร์ลงไปได้ ใส่เกียร์ได้แล้วต้องให้บอกอีกมั่ยว่าให้ยกส้นตีนออกจากแป้นคันเร่ง..

เฮ้อ.............. ไปลองดูแล้วกันนะว่าถ้าวิ่งมาเกียร์4-5 รอบซัก4,000+ ถ้าไม่เบรคจนรอบและความเร็วลดลงมันจะยัดเกียร์1-2เข้าไปได้อย่างไร
นี่ซ้ำรอบที่3แล้วนะ ว่าต้องเบรคก่อนถึงจะยัดเกียร์ต่ำเข้าไปได้ ซึ่งถ้ารอบมันต่ำพอจะยัดเข้าได้แล้ว ความจำเป็นอะไรต้องใช้ Heel-and-toe
เพราะลงเขาต้องการใช้เอนจิ้นเบรคเพื่อลดความเร็ว ไม่ได้ต้องการคุมรอบเครื่องเพื่ออัดส่งเพิ่มความเร็ว  Heel-and-toe แนะนำมาทำไม

อย่าคิดเอาเองดีกว่ามั้ยเคยบอกในกระทู้ .357 แรงกว่า .44mag ของคุณไปทีนึงแล้วนะ ว่าอย่าเอาอะไรที่คิดเองเออเองมาเผยแพร่
กระทู้นี้ก็เหมือนกันตัวคุณเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Heel-and-toe จุดประสงค์จริงๆเขาเอาไว้ทำอะไร วิธีแก้ Overspeed เข้าโค้งก็ยังมั่ว
อย่าเอาเรื่องผิดๆมาแนะนำให้คนอื่นเสี่ยงชีวิตเลย เก็บเอาไว้ใช้คนเดียวเถอะ



บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด
ผมเรียกเกียร์พวกนี้ว่าเกียร์ครัทช์คู่ การมีชุดครัทช์อัตโนมัติสองชุดต้องใช้พลังงานมาขับมากกว่าเกียร์ธรรมดา

มีคลัช2ชุดแต่ไม่ได้ออกแรงกดพร้อมกันเพราะแบ่งการทำงานแยกกัน  ถามว่าต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์มากกว่าคลัชเดี่ยวอย่างไร?
ครัชทมันไม่ได้มีผีสิงต้องใช้พลังงานในการขับ ไฟฟ้าก็ต้องปั่นไฟ ใช้แรงดันน้ำมันก็ต้องมีปั้ม ใช้แรงดันลม(พวกเกียร์รถแข่ง)ก็ต้องมัปั่มลม อย่างเกียร์รถบ้านๆที่เป็นครัทช์คู่เวลาระบบไฟรวนหรือแบตฯอ่อนแทบจะวิ่งไม่เป็นกันเลยทีเดียว ..ส่วนเกียร์ธรรมดาใช้ปั้มไฮโดรลิคบวกกำลังขา ไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์หรือไฟฟ้าใดๆ ...อ้อที่บอกว่ามันไม่จับเกียร์ต่อไปรอไปลองค้นข้อมูลดูดีๆ สมองกลมันกะและเตรียมให้แล้ว เหลือแค่รอให้ครัทช์ไปจับแค่นั้น ดังนั้นช่วงที่ต้องดันชุดเกียร์ต่อไป(สูงหรือต่ำ)มารอๆอีกชุดก็ทำให้เกิดภาระแก่เครื่องยนต์ได้ ไม่งั้นอัตราเร่งของเฟียสต้าที่มีแรงบิดน้อยนิดแต่ดันใช้ระบบเกีบร์ไฮเทคนี่คงสู้ชาวบ้านเค้าได้

เอาเหอะ ขี้เกียจอธิบายเดี๋ยวยาวเหมือนกระทู้ .357แรงกว่า.44Mag
คุณก็มั่วนะครับมีตรงไหนที่ผมบอกให้ใช้ฮีลแอนโทเลย ผมก็บอกให้เบรกก่อนทำฮีลแอนโททั้งนั้น ที่ให้ทำเพื่อให้ใส่เกียร์ต่ำลงได้ ในกรณีที่มาเร็วหรือลงเขาแล้วความเร็วสูงจนใส่เกียร์ไม่ได้ เคยขับรถเกียร์ธรรมดารึเปล่า รึว่าไปกอปเอาขี้ปากคนอื่นมาเถียง.... และมีตรงไหนที่ผมบอกว่า.357 แรงกว่า.44 ที่ผมบอกน่ะคืออำนาจหยุดยั้งมันสูงกว่า .44 แต่แรงปะทะปากลำกล้อง .44 มากกว่า เราจะไปมองเรื่องแรงปะทะปากลำกล้องอย่างเดียวมาตัดสินอำนาจหนุดยั้งได้ยังไง
บันทึกการเข้า

"ข้าพเจ้าต่อสู้เพื่อคุณธรรมที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า ใครที่ขัดขวางคุณธรรมนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ใด เราจะถือว่าเป็นศัตรู"
ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย เป็นประชารัฐ...
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #133 เมื่อ: กันยายน 15, 2013, 10:56:27 AM »

เวรแล้วครับคุณมองภาพไม่ออกนี่ เมื่อลงเขาจนความเร็วรถสูงเกินไป ทันที่ที่เราเหยียบครัทช์รอบเครื่องจะตกลงมาทันที โดยความเร็วของรถ เฟืองท้าย และเฟืองเกียร์ไม่ตกลงมาด้วยจึงใส่เกียร์ต่ำไม่ได้ แต่ของคุณนี่แทนที่จะเพิ่มรอบเครื่องให้สัมพันธ์กับความเร็วของรถหรือชุดเกียร์ กลับให้ลดรอบเครื่อง มันจะเข้าเกียร์ได้ยังไง ผมก็บอกแล้วว่าให้เบรคไปด้วย(เพื่อลดความเร็วของเกียร์ที่มันหมุนตามความเร็วจากเฟืองท้าย) แล้วเบิ้ลคันเร่งเพื่อเพิ่มความเร็วเครื่องยนต์ให้สัมพันธ์มันจึงจะยัดเกียร์ลงไปได้ ใส่เกียร์ได้แล้วต้องให้บอกอีกมั่ยว่าให้ยกส้นตีนออกจากแป้นคันเร่ง..

เฮ้อ.............. ไปลองดูแล้วกันนะว่าถ้าวิ่งมาเกียร์4-5 รอบซัก4,000+ ถ้าไม่เบรคจนรอบและความเร็วลดลงมันจะยัดเกียร์1-2เข้าไปได้อย่างไร
นี่ซ้ำรอบที่3แล้วนะ ว่าต้องเบรคก่อนถึงจะยัดเกียร์ต่ำเข้าไปได้ ซึ่งถ้ารอบมันต่ำพอจะยัดเข้าได้แล้ว ความจำเป็นอะไรต้องใช้ Heel-and-toe
เพราะลงเขาต้องการใช้เอนจิ้นเบรคเพื่อลดความเร็ว ไม่ได้ต้องการคุมรอบเครื่องเพื่ออัดส่งเพิ่มความเร็ว  Heel-and-toe แนะนำมาทำไม

อย่าคิดเอาเองดีกว่ามั้ยเคยบอกในกระทู้ .357 แรงกว่า .44mag ของคุณไปทีนึงแล้วนะ ว่าอย่าเอาอะไรที่คิดเองเออเองมาเผยแพร่
กระทู้นี้ก็เหมือนกันตัวคุณเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่า Heel-and-toe จุดประสงค์จริงๆเขาเอาไว้ทำอะไร วิธีแก้ Overspeed เข้าโค้งก็ยังมั่ว
อย่าเอาเรื่องผิดๆมาแนะนำให้คนอื่นเสี่ยงชีวิตเลย เก็บเอาไว้ใช้คนเดียวเถอะ



บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด
ผมเรียกเกียร์พวกนี้ว่าเกียร์ครัทช์คู่ การมีชุดครัทช์อัตโนมัติสองชุดต้องใช้พลังงานมาขับมากกว่าเกียร์ธรรมดา

มีคลัช2ชุดแต่ไม่ได้ออกแรงกดพร้อมกันเพราะแบ่งการทำงานแยกกัน  ถามว่าต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์มากกว่าคลัชเดี่ยวอย่างไร?
ครัชทมันไม่ได้มีผีสิงต้องใช้พลังงานในการขับ ไฟฟ้าก็ต้องปั่นไฟ ใช้แรงดันน้ำมันก็ต้องมีปั้ม ใช้แรงดันลม(พวกเกียร์รถแข่ง)ก็ต้องมัปั่มลม อย่างเกียร์รถบ้านๆที่เป็นครัทช์คู่เวลาระบบไฟรวนหรือแบตฯอ่อนแทบจะวิ่งไม่เป็นกันเลยทีเดียว ..ส่วนเกียร์ธรรมดาใช้ปั้มไฮโดรลิคบวกกำลังขา ไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์หรือไฟฟ้าใดๆ ...อ้อที่บอกว่ามันไม่จับเกียร์ต่อไปรอไปลองค้นข้อมูลดูดีๆ สมองกลมันกะและเตรียมให้แล้ว เหลือแค่รอให้ครัทช์ไปจับแค่นั้น ดังนั้นช่วงที่ต้องดันชุดเกียร์ต่อไป(สูงหรือต่ำ)มารอๆอีกชุดก็ทำให้เกิดภาระแก่เครื่องยนต์ได้ ไม่งั้นอัตราเร่งของเฟียสต้าที่มีแรงบิดน้อยนิดแต่ดันใช้ระบบเกีบร์ไฮเทคนี่คงสู้ชาวบ้านเค้าได้

เอาเหอะ ขี้เกียจอธิบายเดี๋ยวยาวเหมือนกระทู้ .357แรงกว่า.44Mag
คุณก็มั่วนะครับมีตรงไหนที่ผมบอกให้ใช้ฮีลแอนโทเลย ผมก็บอกให้เบรกก่อนทำฮีลแอนโททั้งนั้น ที่ให้ทำเพื่อให้ใส่เกียร์ต่ำลงได้ ในกรณีที่มาเร็วหรือลงเขาแล้วความเร็วสูงจนใส่เกียร์ไม่ได้ เคยขับรถเกียร์ธรรมดารึเปล่า รึว่าไปกอปเอาขี้ปากคนอื่นมาเถียง.... และมีตรงไหนที่ผมบอกว่า.357 แรงกว่า.44 ที่ผมบอกน่ะคืออำนาจหยุดยั้งมันสูงกว่า .44 แต่แรงปะทะปากลำกล้อง .44 มากกว่า เราจะไปมองเรื่องแรงปะทะปากลำกล้องอย่างเดียวมาตัดสินอำนาจหนุดยั้งได้ยังไง


Ha Ha Ha  ฮา  "ฮั่นแน่"  พี่ อั้ม ปากแดง เนี่ยะ ฮา

ยายก็ว่า  "เหม่ง ๆ" น๊ะ  ฮา  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
ไอ้เรื่อง    ขับรถ "ลงเขา"  เนี่ยะ 
มันต้องใช้เบรคช่วย  เหยียบปล่อย เหยียบปล่อย  เพื่อเปลี่ยนเกียร์ต่ำทั้งนั้น อ่ะ ฮา
ใครมันจะเร่ง "ส่ง"  ลงไปหาหุบ  หาเหว  อ่ะ ฮา
แต่พอใกล้จะถึง  "แอ่ง" ด้านล่าง  ก็เปลี่ยนเกียร์ อัดขึ้นไปใหม่อ่ะ ฮา  ขำก๊าก ขำก๊าก

ส่วนเรื่อง .357 หรือ .44 เคยยิงมากี่นัด อ่ะ ฮา  ขำก๊าก ขำก๊าก

ยายแปลกใจมานานแล้วอ่ะ ฮา
เอาหม้อ "ต้มกาแฟ"  ไปเสียบปลั้ก ใส่น้ำ ต้มล้างบอร์ด คอม อ่ะ ฮา

จานโฉมชาย(ฮา)  บอกว่าอยู่คอนโด "ริมน้ำ" ฮา
ยายขับผ่านแถว "แจ้งวัฒนะ"  มอหาไอ้หลังริมน้ำ ไม่เจออ่ะ ฮา
เอ้อ  ยายสงสัย คอนโดหลังนั้น  มองออกมาเห็น "ปล่องภูเขาไฟ" ข้างๆ อ่ะ ฮา

55555 ยายเสียความ "เชื่อมั่น"  เลยอ่ะ ฮา  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก

บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
TakeFive
Sr. Member
****

คะแนน 171
ออฟไลน์

กระทู้: 794


« ตอบ #134 เมื่อ: กันยายน 15, 2013, 11:06:54 AM »

บางท่านให้ความเห็นเรื่องเทคนิค ว่าจะไม่ขวางแล้วนะครับ แต่อดไม่ได้ครับ เพราะถ้าคนไม่รู้ไปทำตาม อาจถึงตายได้ อย่างheel and toeเนี่ย เป็นเทคนิคเพื่อทำrev matching อย่าว่าแต่รถบรรทุกเลย รถบ้านลงเขา ถ้าขืนเอาไปทำ มีสิทธ์ลงเหวสูงมาก ประโยชน์ที่ได้จากการลด forward weight transfer มาใช้ผิดที่ผิดทาง นอกจากจะเปนพวกรถกระบะขนผักตีนผี ไม่กลัวตาย แข่งกับเวลา ประเภทเข้าโค้งกินไปอีกเลน  อันนั้นอีกเรื่อง

ปล่อยไก่ตั้งแต่เกียร์double clutch จับเกียร์ถัดไปล่วงหน้าทำให้กินน้ำมันมาทีแล้ว ชัดเจนเลยว่าไม่ได้มีความรู้พื้นฐานใดๆเลยซักนิด
ผมเรียกเกียร์พวกนี้ว่าเกียร์ครัทช์คู่ การมีชุดครัทช์อัตโนมัติสองชุดต้องใช้พลังงานมาขับมากกว่าเกียร์ธรรมดา

มีคลัช2ชุดแต่ไม่ได้ออกแรงกดพร้อมกันเพราะแบ่งการทำงานแยกกัน  ถามว่าต้องใช้กำลังของเครื่องยนต์มากกว่าคลัชเดี่ยวอย่างไร?
ครัชทมันไม่ได้มีผีสิงต้องใช้พลังงานในการขับ ไฟฟ้าก็ต้องปั่นไฟ ใช้แรงดันน้ำมันก็ต้องมีปั้ม ใช้แรงดันลม(พวกเกียร์รถแข่ง)ก็ต้องมัปั่มลม อย่างเกียร์รถบ้านๆที่เป็นครัทช์คู่เวลาระบบไฟรวนหรือแบตฯอ่อนแทบจะวิ่งไม่เป็นกันเลยทีเดียว ..ส่วนเกียร์ธรรมดาใช้ปั้มไฮโดรลิคบวกกำลังขา ไม่เกี่ยวกับเครื่องยนต์หรือไฟฟ้าใดๆ ...อ้อที่บอกว่ามันไม่จับเกียร์ต่อไปรอไปลองค้นข้อมูลดูดีๆ สมองกลมันกะและเตรียมให้แล้ว เหลือแค่รอให้ครัทช์ไปจับแค่นั้น ดังนั้นช่วงที่ต้องดันชุดเกียร์ต่อไป(สูงหรือต่ำ)มารอๆอีกชุดก็ทำให้เกิดภาระแก่เครื่องยนต์ได้ ไม่งั้นอัตราเร่งของเฟียสต้าที่มีแรงบิดน้อยนิดแต่ดันใช้ระบบเกีบร์ไฮเทคนี่คงสู้ชาวบ้านเค้าได้
โอย อ่านแล้วเพลียครับ ท่านต้องถามตัวเองแล้วแหละครับ ว่าเคยศึกษา หาข้อมูลใดๆ ก่อนจะมาให้ความเห็นหรือเปล่า?
เกียร์ clutch คู่ มีclutch 2 ชุด แยกกันขับ เพลาขับเฟืองเกียร์ 2 ชุด ที่วางซ้อนกันเหมือนปลอกปากกา กับ ไส้ปากกา โดยแต่ละชุดไปขับกับเฟืองเกียร์สลับลำดับกัน เช่น ชุด1 ต่อกับ เกียร์1,3,5 ชุด 2 ต่อกับ เกียร์ 2,4,6 แล้วแต่ละชุด จะมี selector เลือกขับ ทีละเกียร์ ไม่ได้ต่อกันเป็นพรวนทั้งระบบ
เช่น ถ้าคนขับ อยู่ที่เกียร์ 2 เร่งความเร็วถึงจุดหนึ่งจน ecu เตรียมสั่งให้เปลี่ยนเป็นเกียร์ 3 ชุด hydrulic ก็จะ disengage เพลาเกียร์ชุดแรก ที่แต่เดิมต่อ กับเกียร์ 1 เป็นเกียร์ 3 แทน พอถึงจังหวะต้องเปลี่ยน clutch ชุดแรก ก็ปล่อย clutchชุดสอง ก็เริ่มจับ อยากถามว่ามันจะไปเสียกำลังตรงไหน?

ที่นี้ท่านคงเข้าใจ ว่า มันต่อกันทั้งระบบกระมัง แต่เป็นโชคดีของผู้บริโภคครับ ที่ท่านไปเป็นตำรวจ ไม่ได้เป็น วิศวกร ฮาฮาฮา
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 6 7 8 [9] 10 11
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.148 วินาที กับ 22 คำสั่ง