เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
ตุลาคม 10, 2024, 10:20:28 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: งานนี้ผมตัดสินใจถูกจริงๆครับ  (อ่าน 1406 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 02:32:35 PM »

 เจ้าลูกชายคนโตผม แต่ไหนแต่ไรไม่ค่อยสนใจเรียนพาไปเรียนพิเศษครูก็บอกว่าคุณพ่อไม่ต้องพามาเรียนหรอกเปลืองเงินเปล่าเค้าไม่สนใจเรียนมัวแต่ชมนกชมไม้ ประชุมผู้ปกครองทีครูก็ฟ้องแต่เรื่องเดิมๆเพื่อนเข้าห้องเรียนแล้วแต่เจ้าตัวยังมัวชมนกชมไม้กวาดใบไม้อยู่ สอบทีไรติด ๐กับร.เป็น๑๐ตัว ติดตั้งแต่มอ๑ก็ยังไม่ได้แก้ เทอมที่แล้วครูเรียกไปอีกทีผมเลยตัดสินใจยุครูให้เค้าซํ้าชั้นมอ๒ ดูเผื่อจะทำให้เค้าดีขึ้นมาบ้าง ปรากฏว่าเทอมที่ผ่านมานี่เค้าเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยสนใจไปเรียนพิเศษโดยที่ไม่มีใครใช้ให้ไป วันนี้ไปดูผลสอบเค้าโทรมาบอกด้วยนํ้าเสียงที่บ่งบอกถึงความดีใจว่า เทอมนี้เค้าติด ๐แค่สองวิชาเอง ได้เกรดสี่มาตัวนึงสามอีกสองตัว ที่เหลือก็๑กว่าๆ เค้าพูดด้วยนํ้าเสียงเสียดายว่าวิชาคณิตศาสตร์ที่ติด๐นั้นเหลืออีกแค่สี่คะแนนเองก็จะได้๑แล้ว งานนี้ผมว่าผมคิดถูกจริงๆที่บอกครูให้ซํ้าชั้นเค้า เพราะผมคิดว่าให้ซํ้าตอนมอต้นก็ไม่มีอะไรเสียหาย เผื่อเค้าจะคิดได้ก็ได้ผลดีจริง เผื่อท่านใดมีปัญหาแบบผมจะลองดูบ้างก็ได้นะครับ
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 5711
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 48212



« ตอบ #1 เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 02:46:59 PM »

 ยินดีด้วยครับ เด็กมีพัฒนาการทางความคิดได้เองเป็นสิ่งที่ดีครับ
เหมือนเมื่อก่อนไอ้ตัวเล็ก ไม่เคยสนใจไปเรียนพิเศษเลย
พอตอนนี้เริ่มสนใจ หาคอร์ส หาที่เรียนเอง แค่มาเบิกค่าเรียนไปจ่ายเท่านั้น
ทั้งๆที่เมื่อก่อน พาไปดู ไปลอง แค่นให้เรียนยังไงก็ไม่เรียน
บันทึกการเข้า

๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง  แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง
ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง   จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง
                      
                             โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
chonthai-รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 353
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1291


4152


« ตอบ #2 เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 03:11:55 PM »

ตัดสินใจถูกแล้วครับ ผมก็ใช้วิธีนี้กับหลาน ได้ผลครับ
บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #3 เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 03:30:47 PM »

มันอยู่ที่เด็กครับ ขุนยังไง ถ้าเขาไม่สนใจก็ขุนไม่ขึ้น คิก คิก
บันทึกการเข้า

montri รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -120
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1056



« ตอบ #4 เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 03:44:03 PM »

ยินดีด้วยนะครับ ลูกๆมีความคิดดี พ่อแม่ก็มีความสุข











บันทึกการเข้า
submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #5 เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 03:46:59 PM »

เห็นเพื่อนร่วมชั้นได้เลื่อนไป เราซ้ำชั้นอยู่กับรุ่นน้อง
คงเป็นความรู้สึก ยากบรรยายได้
แต่คิดถูกที่ดัดไม้ยามยังอ่อนอยู่ เสียเวลาปีเดียว แต่ได้ผล ดีใจด้วยครับ
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

แอบดูที่รูเดิม
เกิดเป็นคน ควรรู้จักกตัญญู
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 622
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 3747


ปลวกน้อยกัดกินบ้าน..นักการเมืองคอรัปชั่นกัดกินชาติ


« ตอบ #6 เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 03:57:15 PM »

วันก่อนเค้าอาจจะยังไม่คิดอะไรครับ
แต่วันนี้เค้าน่าจะเริ่มคิดอะไรได้บ้าง
คนเราถ้าตั้งใจ ยังไงก็ทำได้ครับ ผมเชื่ออย่างนั้นจริงๆ
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 05:21:22 PM »

เล่นแรงเอาเรื่องครับ แต่ในที่สุดก็พิสูจน์แล้วว่า"ยาแรง"สามารถรักษาโรคได้ครับ... เรื่องเด็กเรียนหนังสือช้าไปแค่ปีเดียวไม่มีผลอะไรหรอกครับ ลองนึกถึงคนผู้ใหญ่ทำมาหากินแล้วต้องลองผิดลองถูกตั้งหลายปีกว่าจะคลำทางได้ฯ จึงประสบความสำเร็จในชีวิตซิครับ...

ผู้ใหญ่บางคนเรียนหนังสือเร็วเกินไป ไม่รู้ความถนัดของตัวเอง ในที่สุดกว่าจะรู้ว่าตัวเองจะไปทางไหนดี... ก็ต้องเรียน ป.ตรี ใหม่ก็มี หรือบางคนย้ายจากสายงานหนึ่งไปเริ่มต้นอีกสายงานหนึ่งก็มีแยะครับ...

เตรียมความพร้อมให้ตัวเขาได้ตระหนักใน"เกมส์ชีวิต"ได้ตั้งแต่เด็กเลยนี่แหละดีที่สุดแล้วครับ... เขาจะได้รู้ว่าต้องตั้งใจทำ"ทุกเม็ด"ให้ดีที่สุด เพราะเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราย้อนกลับมาแก้ตัวไม่ได้ครับ...
บันทึกการเข้า
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #8 เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 05:33:50 PM »

ไม่มีสูตรสำเร็จสำหรับการศึกษาของเด็กหรอกครับ...

ที่แน่นอนมีอย่างเดียว...

คือความเอาใจใส่ของผู้ปกครองและครูอาจารย์...

ต้องมีให้เพียงพอ ไม่อย่างนั้นเรียนได้ไม่ดีหรอกครับ... Cheesy
บันทึกการเข้า
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #9 เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 05:41:13 PM »

เล่นแรงเอาเรื่องครับ แต่ในที่สุดก็พิสูจน์แล้วว่า"ยาแรง"สามารถรักษาโรคได้ครับ... เรื่องเด็กเรียนหนังสือช้าไปแค่ปีเดียวไม่มีผลอะไรหรอกครับ ลองนึกถึงคนผู้ใหญ่ทำมาหากินแล้วต้องลองผิดลองถูกตั้งหลายปีกว่าจะคลำทางได้ฯ จึงประสบความสำเร็จในชีวิตซิครับ...

ผู้ใหญ่บางคนเรียนหนังสือเร็วเกินไป ไม่รู้ความถนัดของตัวเอง ในที่สุดกว่าจะรู้ว่าตัวเองจะไปทางไหนดี... ก็ต้องเรียน ป.ตรี ใหม่ก็มี หรือบางคนย้ายจากสายงานหนึ่งไปเริ่มต้นอีกสายงานหนึ่งก็มีแยะครับ...

เตรียมความพร้อมให้ตัวเขาได้ตระหนักใน"เกมส์ชีวิต"ได้ตั้งแต่เด็กเลยนี่แหละดีที่สุดแล้วครับ... เขาจะได้รู้ว่าต้องตั้งใจทำ"ทุกเม็ด"ให้ดีที่สุด เพราะเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราย้อนกลับมาแก้ตัวไม่ได้ครับ...
ต้องลองเสี่ยงครับเพราะเด็กอยู่กับย่าโดนเลี้ยงแบบตามใจครับผมเคยตีครั้งนึงแล้วเค้าเอาเชือกไปกำลังจะผูกคอตายโชคดีที่ย่าเค้ามาเจอครับ เลยต้องหาวิธีอื่นครับ ผมลองมาหลายวิธีเลยครับทั้งเอาของมาล่อก็แล้วเค้าไม่สนครับ พูดคุยก็แล้ว สุดท้ายเลยต้องใช้วิธีนี้ครับ
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 08:57:10 PM »

เล่นแรงเอาเรื่องครับ แต่ในที่สุดก็พิสูจน์แล้วว่า"ยาแรง"สามารถรักษาโรคได้ครับ... เรื่องเด็กเรียนหนังสือช้าไปแค่ปีเดียวไม่มีผลอะไรหรอกครับ ลองนึกถึงคนผู้ใหญ่ทำมาหากินแล้วต้องลองผิดลองถูกตั้งหลายปีกว่าจะคลำทางได้ฯ จึงประสบความสำเร็จในชีวิตซิครับ...

ผู้ใหญ่บางคนเรียนหนังสือเร็วเกินไป ไม่รู้ความถนัดของตัวเอง ในที่สุดกว่าจะรู้ว่าตัวเองจะไปทางไหนดี... ก็ต้องเรียน ป.ตรี ใหม่ก็มี หรือบางคนย้ายจากสายงานหนึ่งไปเริ่มต้นอีกสายงานหนึ่งก็มีแยะครับ...

เตรียมความพร้อมให้ตัวเขาได้ตระหนักใน"เกมส์ชีวิต"ได้ตั้งแต่เด็กเลยนี่แหละดีที่สุดแล้วครับ... เขาจะได้รู้ว่าต้องตั้งใจทำ"ทุกเม็ด"ให้ดีที่สุด เพราะเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราย้อนกลับมาแก้ตัวไม่ได้ครับ...
ต้องลองเสี่ยงครับเพราะเด็กอยู่กับย่าโดนเลี้ยงแบบตามใจครับผมเคยตีครั้งนึงแล้วเค้าเอาเชือกไปกำลังจะผูกคอตายโชคดีที่ย่าเค้ามาเจอครับ เลยต้องหาวิธีอื่นครับ ผมลองมาหลายวิธีเลยครับทั้งเอาของมาล่อก็แล้วเค้าไม่สนครับ พูดคุยก็แล้ว สุดท้ายเลยต้องใช้วิธีนี้ครับ

เด็กใจเด็ดครับ...

อย่างนี้หาหนังสือให้อ่านแยะๆครับ หนังสือนิยายก็ได้ ยังไม่ต้องสนใจว่าหนังสืออะไร, ประเด็นคือเตรียมฐานข้อมูลในสมองให้แกแยะๆครับ แล้วความใจเด็ดจะประมวลผลหาทางเลือกได้เอง... เพราะต่อไปอ่านหนังสือนิยายเบื่อแล้วก็จะตะลุยหนังสือประเภทอื่นไปเรื่อยๆ ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งเปิดโลก+มุมมองชีวิตกว้างขึ้นเรื่อยๆ...

ปรกติเด็กแบบนี้ถ้าปลูกนิสัยรักการอ่าน+เล่นกีฬาได้สำเร็จ แกจะตะลุยอ่านจนหมดห้องสมุดเป็นแห่งๆไป ต้องย้ายห้องสมุดไปเรื่อยครับ... อันนี้เรื่องจริง...

แต่อย่าให้เล่นเกมส์มากๆ เป็นอันขาด เพราะจะเสียเวลาเตรียมฐานข้อมูลในสมอง... เด็กใจเด็ดแบบนี้กล้าได้กล้าเสีย กล้าเสี่ยง, หากปล่อยให้เสี่ยงตัดสินใจโดยไม่มีข้อมูลเพียงพอ ก็จะกล้าเสี่ยงเอากับเรื่องไม่คุ้มค่าครับ...

อีกเรื่องครับ... ม.1 แล้ว อายุคงประมาณ 14 ปี, อย่างนี้ชวนแกเพาะกายก็ได้แล้วนะครับ อันนี้ลิ้งก์สำหรับอายุน้อยกว่า 15 ปีแล้วฝึกเพาะกาย http://www.tuvayanon.net/15dwn.html ... อุปกรณ์ก็มีแล้ว, ตกเย็นชวนยกลูกเหล็กประสา พ่อๆ ลูกๆ ก็ดีครับ มีความสุขดี ยกเหวทเสร็จก็สอนการบ้านต่อ... เย้...
บันทึกการเข้า
schamp
Sr. Member
****

คะแนน 131
ออฟไลน์

กระทู้: 583


« ตอบ #11 เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 08:58:39 PM »

อย่างน้อยก็รู้ว่าเด็กยังรักที่จะเรียนอยู่นะครับท่าน..คงหมายความว่าเด็กยังต้องการมีอนาคตที่ดีอยู่แต่ที่ผ่านมาแค่หลงทางชั่วครู่ชั่วคราว..เด็กสมัยนี้มันมีสิ่งล่อลวงหูล่อตาเยอะนะครับผมว่าช่วงมอต้นนี่แหละครับที่มันอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อเพราะเริ่มที่จะคบกับเพื่อนกลุ่มใหม่ๆที่ยังไม่รู้กับนิสัยใจคอกลัวว่าจะพากันเกเรได้ผู้ใหญ่อย่างเราๆท่านๆควรใส่ใจเรื่องนี้บ้างนะครับ..ลูกชายผมก็มอหนึ่งครับคุยกันเรื่องในโรงเรียนทุกวันตอนกินข้าวเย็น เยี่ยม
บันทึกการเข้า
sopon7
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 139
ออฟไลน์

กระทู้: 1095


« ตอบ #12 เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 09:34:08 PM »

ดีใจด้วยครับที่เด็กดีขึ้น  มุมมองของผมแนะนำให้ใกล้ชิดน้องมากๆ
อีกไม่นานเราจะได้ใจลูกเต็มร้อย   ไหว้
บันทึกการเข้า
Hang Forever
Hero Member
*****

คะแนน 349
ออฟไลน์

กระทู้: 2215


« ตอบ #13 เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 10:48:18 PM »

เอ้อ  ผมว่า.... จะเป็นผลเสียทำให้เด็กมีปมด้อย 
ครูก็ถูกตำหนิ ทำผลงานวิชาการไม่ผ่านเพราะมีเด็กตกซ้ำชั้น
ผอ.ก็จะถูกทางเขตฯ ด่า
ทางเขตพื้นที่ฯก็จะถูก สพฐ.ตำหนิ
ทางสพฐ.ก็ต้องถูกกระทรวงศึกษาธิการ ต่อว่า
ทางกระทรวงฯก็จะถูกท่านนายกฯตำหนิต่อหน้า ครม.
ประเทศไทยก็จะไม่พ้นการถูกจัดให้อยู่อันดับโหล่ของอาเซี่ยน มันเป็นเรื่องใหญ่....นะเธอ

มันขัดกับนโยบายทางการศึกษาของรัฐ... ห้ามตี  ห้ามตก.. แบร่
บันทึกการเข้า
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #14 เมื่อ: กันยายน 30, 2013, 11:47:08 PM »

เล่นแรงเอาเรื่องครับ แต่ในที่สุดก็พิสูจน์แล้วว่า"ยาแรง"สามารถรักษาโรคได้ครับ... เรื่องเด็กเรียนหนังสือช้าไปแค่ปีเดียวไม่มีผลอะไรหรอกครับ ลองนึกถึงคนผู้ใหญ่ทำมาหากินแล้วต้องลองผิดลองถูกตั้งหลายปีกว่าจะคลำทางได้ฯ จึงประสบความสำเร็จในชีวิตซิครับ...

ผู้ใหญ่บางคนเรียนหนังสือเร็วเกินไป ไม่รู้ความถนัดของตัวเอง ในที่สุดกว่าจะรู้ว่าตัวเองจะไปทางไหนดี... ก็ต้องเรียน ป.ตรี ใหม่ก็มี หรือบางคนย้ายจากสายงานหนึ่งไปเริ่มต้นอีกสายงานหนึ่งก็มีแยะครับ...

เตรียมความพร้อมให้ตัวเขาได้ตระหนักใน"เกมส์ชีวิต"ได้ตั้งแต่เด็กเลยนี่แหละดีที่สุดแล้วครับ... เขาจะได้รู้ว่าต้องตั้งใจทำ"ทุกเม็ด"ให้ดีที่สุด เพราะเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราย้อนกลับมาแก้ตัวไม่ได้ครับ...
ต้องลองเสี่ยงครับเพราะเด็กอยู่กับย่าโดนเลี้ยงแบบตามใจครับผมเคยตีครั้งนึงแล้วเค้าเอาเชือกไปกำลังจะผูกคอตายโชคดีที่ย่าเค้ามาเจอครับ เลยต้องหาวิธีอื่นครับ ผมลองมาหลายวิธีเลยครับทั้งเอาของมาล่อก็แล้วเค้าไม่สนครับ พูดคุยก็แล้ว สุดท้ายเลยต้องใช้วิธีนี้ครับ

เด็กใจเด็ดครับ...

อย่างนี้หาหนังสือให้อ่านแยะๆครับ หนังสือนิยายก็ได้ ยังไม่ต้องสนใจว่าหนังสืออะไร, ประเด็นคือเตรียมฐานข้อมูลในสมองให้แกแยะๆครับ แล้วความใจเด็ดจะประมวลผลหาทางเลือกได้เอง... เพราะต่อไปอ่านหนังสือนิยายเบื่อแล้วก็จะตะลุยหนังสือประเภทอื่นไปเรื่อยๆ ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งเปิดโลก+มุมมองชีวิตกว้างขึ้นเรื่อยๆ...

ปรกติเด็กแบบนี้ถ้าปลูกนิสัยรักการอ่าน+เล่นกีฬาได้สำเร็จ แกจะตะลุยอ่านจนหมดห้องสมุดเป็นแห่งๆไป ต้องย้ายห้องสมุดไปเรื่อยครับ... อันนี้เรื่องจริง...

แต่อย่าให้เล่นเกมส์มากๆ เป็นอันขาด เพราะจะเสียเวลาเตรียมฐานข้อมูลในสมอง... เด็กใจเด็ดแบบนี้กล้าได้กล้าเสีย กล้าเสี่ยง, หากปล่อยให้เสี่ยงตัดสินใจโดยไม่มีข้อมูลเพียงพอ ก็จะกล้าเสี่ยงเอากับเรื่องไม่คุ้มค่าครับ...

อีกเรื่องครับ... ม.1 แล้ว อายุคงประมาณ 14 ปี, อย่างนี้ชวนแกเพาะกายก็ได้แล้วนะครับ อันนี้ลิ้งก์สำหรับอายุน้อยกว่า 15 ปีแล้วฝึกเพาะกาย http://www.tuvayanon.net/15dwn.html ... อุปกรณ์ก็มีแล้ว, ตกเย็นชวนยกลูกเหล็กประสา พ่อๆ ลูกๆ ก็ดีครับ มีความสุขดี ยกเหวทเสร็จก็สอนการบ้านต่อ... เย้...
อายุสิบห้าครับผมชวนฝึกเพาะกายแล้วครับเค้าไม่เอาครับ ที่เค้าชอบก็มีปั่นจักรยานกับทำอาหารครับดูเหมือนเค้ามีพรสวรรค์ทางด้านทำอาหารครับดูรายการทีวีครั้งเดียวก็ทำตามได้ครับอร่อยอีกต่างหากครับ บางทีก็คิดสูตรเอาเองครับทำกับข้าวอร่อยกว่าแม่เค้าอีกครับ ผมยังคิดไว้ว่าถ้าไม่สนใจเรียนจริงๆจะให้เค้าไปเรียนด้านการทำอาหารครับ
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.061 วินาที กับ 21 คำสั่ง