เล่นแรงเอาเรื่องครับ แต่ในที่สุดก็พิสูจน์แล้วว่า"ยาแรง"สามารถรักษาโรคได้ครับ... เรื่องเด็กเรียนหนังสือช้าไปแค่ปีเดียวไม่มีผลอะไรหรอกครับ ลองนึกถึงคนผู้ใหญ่ทำมาหากินแล้วต้องลองผิดลองถูกตั้งหลายปีกว่าจะคลำทางได้ฯ จึงประสบความสำเร็จในชีวิตซิครับ...
ผู้ใหญ่บางคนเรียนหนังสือเร็วเกินไป ไม่รู้ความถนัดของตัวเอง ในที่สุดกว่าจะรู้ว่าตัวเองจะไปทางไหนดี... ก็ต้องเรียน ป.ตรี ใหม่ก็มี หรือบางคนย้ายจากสายงานหนึ่งไปเริ่มต้นอีกสายงานหนึ่งก็มีแยะครับ...
เตรียมความพร้อมให้ตัวเขาได้ตระหนักใน"เกมส์ชีวิต"ได้ตั้งแต่เด็กเลยนี่แหละดีที่สุดแล้วครับ... เขาจะได้รู้ว่าต้องตั้งใจทำ"ทุกเม็ด"ให้ดีที่สุด เพราะเมื่อเวลาผ่านไปแล้วเราย้อนกลับมาแก้ตัวไม่ได้ครับ...
ต้องลองเสี่ยงครับเพราะเด็กอยู่กับย่าโดนเลี้ยงแบบตามใจครับผมเคยตีครั้งนึงแล้วเค้าเอาเชือกไปกำลังจะผูกคอตายโชคดีที่ย่าเค้ามาเจอครับ เลยต้องหาวิธีอื่นครับ ผมลองมาหลายวิธีเลยครับทั้งเอาของมาล่อก็แล้วเค้าไม่สนครับ พูดคุยก็แล้ว สุดท้ายเลยต้องใช้วิธีนี้ครับ
เด็กใจเด็ดครับ...
อย่างนี้หาหนังสือให้อ่านแยะๆครับ หนังสือนิยายก็ได้ ยังไม่ต้องสนใจว่าหนังสืออะไร, ประเด็นคือเตรียมฐานข้อมูลในสมองให้แกแยะๆครับ แล้วความใจเด็ดจะประมวลผลหาทางเลือกได้เอง... เพราะต่อไปอ่านหนังสือนิยายเบื่อแล้วก็จะตะลุยหนังสือประเภทอื่นไปเรื่อยๆ ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งเปิดโลก+มุมมองชีวิตกว้างขึ้นเรื่อยๆ...
ปรกติเด็กแบบนี้ถ้าปลูกนิสัยรักการอ่าน+เล่นกีฬาได้สำเร็จ แกจะตะลุยอ่านจนหมดห้องสมุดเป็นแห่งๆไป ต้องย้ายห้องสมุดไปเรื่อยครับ... อันนี้เรื่องจริง...
แต่อย่าให้เล่นเกมส์มากๆ เป็นอันขาด เพราะจะเสียเวลาเตรียมฐานข้อมูลในสมอง... เด็กใจเด็ดแบบนี้กล้าได้กล้าเสีย กล้าเสี่ยง, หากปล่อยให้เสี่ยงตัดสินใจโดยไม่มีข้อมูลเพียงพอ ก็จะกล้าเสี่ยงเอากับเรื่องไม่คุ้มค่าครับ...
อีกเรื่องครับ... ม.1 แล้ว อายุคงประมาณ 14 ปี, อย่างนี้ชวนแกเพาะกายก็ได้แล้วนะครับ อันนี้ลิ้งก์สำหรับอายุน้อยกว่า 15 ปีแล้วฝึกเพาะกาย
http://www.tuvayanon.net/15dwn.html ... อุปกรณ์ก็มีแล้ว, ตกเย็นชวนยกลูกเหล็กประสา พ่อๆ ลูกๆ ก็ดีครับ มีความสุขดี ยกเหวทเสร็จก็สอนการบ้านต่อ... เย้...