เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 17, 2024, 05:34:01 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 3 4 5 [6]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สหรัฐอเมริกาถังแตก เริ่มปิดหน่วยงานรัฐบาลแล้ว!!!  (อ่าน 16111 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #75 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2013, 04:13:26 PM »

+ครับพี่วัฒน์  Grin

รอวันล่มสลายอย่างเดียว น่ากลัวจริงๆ อเมริกาถล้ำตัวก่อหนี้มานานแสนนาน แปลกจริง ทำไมถึงอยู่ได้กับหนี้มหาศาล Huh Huh Huh

ปั้มเงินได้ไม่จำกัดไงครับ   Grin
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #76 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2013, 04:35:25 PM »

ประเทศอื่นเขาเอาทองคำค้ำประกันเงินตรา... แต่ประเทศอเมริกามีเงินตราของตัวเองที่ประเทศอื่นใช้เป็นตัวกลางแลกเปลี่ยนสินค้า, ก็เลยปล่อยให้ Demand & Supply เป็นตัวกำหนดค่าเงินครับ...

แปลว่าสามารถพิมพ์เงินออกมาได้เรื่อย จนกว่าชาวบ้านเริ่มส่ายหัว ค่อยเลิกพิมพ์... ฮา...
บันทึกการเข้า
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #77 เมื่อ: ตุลาคม 26, 2013, 05:48:11 PM »

+ทุกท่านครับ มึนจริงๆ พิมพ์เงินตามใจชอบ  ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #78 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2013, 09:23:50 AM »



แม้ฝ่ายการเมืองสหรัฐผ่านกฎหมายขยายเพดานหนี้และงบประมาณชั่วคราว เพื่อส่งเงินหล่อเลี้ยงหน่วยงานภาครัฐที่ปิดทำการไปตั้งแต่ 1 ตุลาคม ก่อนเส้นตายไม่กี่ชั่วโมง แต่เป็นเพียงการต่อลมหายใจระยะสั้น เขตเศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลกยังเสี่ยงที่จะเจอการงัดข้อการคลัง

อีกครั้งในไม่กี่เดือนข้างหน้า เพราะปมปัญหาที่เป็นศูนย์กลางของความขัดแย้งครั้งนี้ยังไม่ได้รับการแก้ไข

ไฟแนนเชียล ไทมส์ ชี้ว่า แรงกดดันที่เพิ่มขึ้นทุกขณะจากภาคธุรกิจในสหรัฐเองรวมถึงเจ้าหนี้รายใหญ่อย่างจีน ทำให้วุฒิสภาและสภาผู้แทนฯไฟเขียวให้กับแผนผ่าทางตันการคลังชั่วคราว ซึ่งขยายเพดานหนี้ไปจนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ และอนุมัติงบประมาณที่จะส่งผลให้หน่วยงานภาครัฐสามารถเปิดทำการไปจนถึง 15 มกราคมปีหน้า

พร้อมกำหนดเส้นตายให้พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันหาทางบรรลุข้อตกลงระยะยาวภายใน 16 ธันวาคมนี้

อย่างไรก็ตาม ชาติเอเชียซึ่งเป็นผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมูลค่าหลายล้านล้านดอลลาร์ ยังคลางแคลงใจต่อแผนขยายเพดานหนี้ครั้งนี้ เพราะแม้จะช่วยให้มะกัน

หลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ไปชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด แต่ความขัดแย้งระหว่าง 2 พรรคใหญ่ในสภาคองเกรสยังคงอยู่

"เรื่องยังไม่จบ ทั้ง 2 พรรคจะสาดโคลนกันอีกใน 2-3 เดือนข้างหน้า" เชา หยงฟู่ นักวิจัยจากสถาบันเศรษฐกิจและการเมืองโลกในกรุงปักกิ่ง ให้ความเห็นเอบีซี นิวส์ ตั้งข้อสังเกตว่า ข้อตกลงของสภาคองเกรสไม่ช่วยคลายปมเห็นต่างอย่างสุดขั้วของ 2 พรรคใหญ่ เรื่องกฎหมายหลักประกันสุขภาพ (โอบามาแคร์) ภาษี การตัดลดรายจ่าย ที่เป็นต้นตอของมหากาพย์ความขัดแย้ง ดังนั้นทั่วโลกยังต้องหวาดผวากับความเสี่ยงที่สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ต่อไป

แม้ในข้อตกลงดังกล่าวจะระบุให้สภาผู้แทนฯและวุฒิสภาหาทางออกระยะยาวภายใน 13 ธันวาคม แต่ถ้าไม่เป็นไปตามนั้น

ก็ไม่มีบทลงโทษหรือมาตรการใด ๆ รองรับ นอกจากนี้หากพิจารณาจากผลการทำงานของ "ซูเปอร์คอมมิตตี" ซึ่งเป็นคณะกรรมาธิการร่วมสภาผู้แทนฯ-วุฒิสภา เพื่อผ่าทางตันเพดานหนี้ในปี 2554 ที่ทันเส้นตายแบบฉิวเฉียด ก็ดูเหมือนว่าอาจฝากความหวังไปกับการเจรจารอบนี้ได้ไม่มากนัก

ความเห็นต่างระหว่างเดโมแครตกับรีพับลิกันส่อเค้าจะนำไปสู่ทางตันการคลัง การปิดทำการหน่วยงานรัฐ ตลอดจนหนี้สาธารณะชนเพดานอีกครั้ง

สัญญาณที่บ่งบอกถึงการต่อสู้ทางการเมืองอย่างถึงพริกถึงขิงในอนาคต คือ เท็ด ครูซ ส.ว.รัฐเทกซัส จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที ปาร์ตี้ หัวอนุรักษนิยมสุดโต่ง ประกาศปักหลักต่อต้านโอบามาแคร์ชนิด

หัวชนฝา ซึ่งแน่นอนว่าประธานาธิบดี บารัก โอบามา ย่อมไม่ยอมอ่อนข้อให้ยิ่งไปกว่านั้น หากในอนาคตมีการปิดหน่วยงานรัฐบาลกลาง เนื่องจากขาดงบประมาณอีกรอบ ก็จะยิ่งเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยบทวิเคราะห์ของสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ

สแตนดาร์ดแอนด์พัว ร์สระบุว่า 16 วันที่หน่วยงานภาครัฐปิดทำการ สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศเป็นมูลค่า 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 1.5 พันล้านดอลลาร์ต่อวัน

สภาคองเกรสผ่านแผนขยายเพดานหนี้ได้ทันเวลาก็จริง แต่เอสแอนด์พีมองว่า กรอบเวลาที่มาพร้อมกับแผนดังกล่าวสะท้อนว่า ฝ่ายการเมืองสหรัฐจะต้องเผชิญกับเส้นตายอีกครั้งช่วงต้นปี 2557 ระยะเวลาเว้นวรรคเพียงสั้น ๆ ก่อนกลับสู่โต๊ะเจรจาอีกครั้งจะกดดันความเชื่อมั่นของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มพนักงานของรัฐที่ถูกพักงานช่วงครึ่งแรกของเดือนตุลาคม

"ถ้าชาวอเมริกันกังวลว่าจะเกิดทางตันทางการเมืองซ้ำรอยเดิมอีก และเกิดภาวะชะงักงันในหน่วยงานภาครัฐหรือร้ายแรงกว่า ก็จะไม่กล้าหยิบเงินออกจากกระเป๋า กระทบต่อยอดขายสินค้าช่วงวันหยุดยาวปลายปี ซึ่งเป็นช่วงโกยรายได้ของภาคธุรกิจ" เอสแอนด์พีเตือน

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
thotsaporn
Hero Member
*****

คะแนน 706
ออฟไลน์

กระทู้: 3603


« ตอบ #79 เมื่อ: ตุลาคม 27, 2013, 12:37:56 PM »

นี่คือเบื้องหลังของเจ้าโลก บู่ บู่ บู่
บันทึกการเข้า
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #80 เมื่อ: ตุลาคม 28, 2013, 02:26:21 PM »



จุดเริ่มต้นของจุดจบของเปโตรดอลล่าร์

Voice of Russia รายงานว่าซาอุดิ อาราเบียกำลังพิจรณาที่จะลดระดับความสัมพันธ์กับสหรัฐฯอเมริกาลงอย่างจริงจัง เนื่องจากประธานาธิบดีโอบามาไม่ยอมจัดการกับซีเรีย และมิหนำซ้ำกลับมีท่าทีที่จะฟื้นความสัมพันธ์กับอิหร่าน ซึ่งเป็นคู่อริของซาอุดิ อาราเบีย มีความเป็นไปได้ที่ความระหองระแหงใจนี้ จะนำไปสู่การลดความสำคัญของเปโตรดอลล่าร์ลงไป ซึ่งจะเป็นภัยต่อสถานภาพของดอลล่าร์ในฐานะเป็นเงินสกุลหลักของโลก เปโตรดอลล่าร์ คือ ข้อตกลงที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน่ำมัน นำโดยซาอุฯ ที่จะขายน้ำมันเป็นดอลล่าร์ และจะนำรายได้ดอลล่าร์ รีไซเกิ็ลกลับไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯเพื่อที่จะให้สหรัฐฯสามารถก่อหนี้ได้ต่อไป ในทางกลับกันสหรัฐฯจะให้ความช่วยเหลือทางทหาร และความมั่นคงกับกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางเป็นข้อแลกเปลี่ยน เปโตรดอลล่าร์เป็นเสาค้ำดอลล่าร์ ซึ่งพิมพ์ออกมาโดยไม่มีหลักทรัพย์อะไรหนุน

มีความเป็นไปได้ที่ซาอุฯ จะทะยอยทิ้งทรัพย์สินดอลล่าร์ที่ถืออยู่ $690,000ล้าน ซึ่งเป็นรายได้จากการขายน้ำมัน โดยจะขายออกไปเพื่อถือทรัพย์สินอื่นของยุโรปหรือจีน ถ้าทำเช่นนั้น เปโตรดอลล่าร์จะอยู่ไม่ได้ และความสำคัญของค่าเงินดอลล่าร์ที่จะเป็นเงินสกุลหลักของโลกจะเสื่อมไป

thanong
27/10/2013

http://voiceofrussia.com/2013_10_27/The-beginning-of-the-end-for-the-petrodollar-2572/
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
วัฒน์
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4114
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 17223


เนรเทศยกโคตรดีกว่านิรโทษยกเข่ง


เว็บไซต์
« ตอบ #81 เมื่อ: พฤศจิกายน 01, 2013, 11:49:34 AM »



จีนน่าจะซื้อ JP Morgan ไปเรียบร้อยแล้ว

ข่าวของ David Wilcock ที่รายงานว่า บุชบอกกับพ่อมดเบนว่า จีนได้ซื้อ JP Morgan จากตระกูล Rockefeller ไปเรียบร้อยแล้ว

ข่าวนี้มีน้ำหนัก น่าจะเป็นจริง

เพราะว่าเดือนตุลาคม มีรายงานว่า Fosun International ของจีนได้ซื้อ One Chase Manhattan Plaza ของตะกูล Rockefeller และเป็นสำนักงานใหญ่ของ JP Morgan Chase ไปแล้วด้วยราคา $725 ล้าน ถ้าขายสำนักงานใหญ่ ก็ต้องขายหุ้นแบงค์ทิ้งไปด้วย

แสดงว่า Rockefeller รู้ตัวดีว่าระบบการเงินสหรัฐฯไปไม่รอด หลังจากระบบการเงินล่มมาแล้วปี2008 เฟดทำคิวอี อุ้มมาได้ถึง2013 แต่ต่อไปเฟดคงจะพิมพ์เงินอุ้มต่อไปเรื่อยๆ ไม่ได้ เพราะมีแรงกดดันมากมายจากภายนอกและภายในที่จะล้มทั้งเฟดและเงินดอลล่าร์

Rockefeller คงต้องขายหนีตาย ก่อนที่จะเจอแบงค์รัน คือคนแห่ถอนเงิน มาตรการห้ามคนโอนเงินออกนอกเกิน$50,000ที่JP Morganออกมาเมื่อเร้ซๆนี้ อาจจะเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นใหม่Fosun International เพราะว่าอย่างน้อยbank run ไม่สะดวกโยธิน

การที่จีนเข้ามาซื้อ JP Morgan ซึ่งถือได้ว่าเป็นเพชรเม็ดงาม crown jewel ของระบบการเงินสหรัฐฯได้ แสดงว่าต้องมีการตกลงอะไรกันระหว่างผู้มีอำนาจสูงสุด ที่ไม่เอาพวก Rockefeller อีกแล้ว คือโอบามาต่อไปจะไม่อุ้มแบงค์อีก

หลังประชุมมหาสมาคมจีนกลางเดือนตุลาคม ทางจีนคงประกาศนโยบายสำคัญๆ ที่เกี่ยวโยงกับบทบาทหยวน เมื่อหยวนขึ้น ดอลล่าร์ก็ต้องไปเป็นของธรรมดา Rockefeller ขายแบงค์หนี ตอนนี้ก่อนจะหนีไม่ทัน แต่จะหนีไปใหน? จีนกำลัง take over สหรัฐฯ หลังจากสหรัฐฯเตะถ่วง ไม่ยอมให้ take over หลังระบบการเงินล่มปี2008 เพราะว่าสหัฐฯล้มละลายแล้ว ต้องปรองดองหนี้อย่างเดียว ลากไปอีกนานๆ จะไม่เหลืออะไรเลยจริงๆ

thanong
1/11/2013
บันทึกการเข้า

ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหน ไม่เคยบ่นสักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ

จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา จะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า ถึงเวลาก็ต้องไป เหลือไว้แต่คุณงามความดี
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #82 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2013, 06:13:22 AM »

สมบัติผลัดกันชม Grin Grin Grin โลกเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ปรับตัวกันให้ดี
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #83 เมื่อ: พฤศจิกายน 02, 2013, 12:18:49 PM »

สงสัยต้องค่ิอยๆเซ้งไปทีละหน่อย จีนเงินเยอะจริงๆ ทั้งเอกชนและรัฐบาล +ครับพี่วัฒน์  Grin
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
หน้า: 1 ... 3 4 5 [6]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.068 วินาที กับ 22 คำสั่ง