ตอนที่จะลองเปลี่ยน C ต้องแกะซิลิโคนออก ก่อนอื่นเอาทั้งบอร์ดแช่น้ำมันกาดให้ซิลิโคนแกะได้ง่ายเพราะน้ำมันกาดไำม่กัดพลาสติกและไม่ละลายน้ำยาวานิสที่เคลือบคอยล์ขดลวดพลัลไฟสูง(แปลงไฟจาก 1.5 X 2 = 3 โวลล์ให้เป็นไฟ 23 โวลล์เพื่อจ่ายให้โซลินอย) พอแกะซิลิโคนออกแล้วก็แช่รอนสัน(น้ำมันไฟแชค)เพื่อไล่น้ำมันกาดที่ตกค้างในตัวสวิทซ์และอุปกรณ์ทั้งหมดออกโดยใช้แปรงสีฟันขัด ๆ ถู ๆ ตอนแรกที่ต้องแกะซิลิโคนออกเพราะต้องการเช็คลายวงจรและวัดไฟการทำงานในจุดต่าง ๆ
C ที่เปลี่ยนเป็นค่า 470uF/35V ค่าเท่าตัวเก่า(ตัวข้างล่าง) ตัวใหม่เป็นตัวบน แต่เปลี่ยนแล้วก็ไม่เป็นผลครับเหนี่ยวไกไม่แต๊กไม่ตั๊กเลยครับ ทั้ง ๆ ที่ C มีโอกาสเสื่อมมากที่สุดเพราะเป็น C แบบอิเล็คโทรไลท์
ต่อมาเมื่อคืนเช็คแล้วเช็คอีกหลายสิบรอบก็พบสาเหตุคือ R(RESISTER)ค่า 10K ที่ต่อระหว่างไมโครคอนโทรลเลอร์กับสวิทซ์ลั่นไกข้างนึงอีกข้่างนึงต่อกับไฟ+3Vจากแบตเตอรี่เพื่อให้ไมโครคอนโทรลเลอร์ที่ขานี้มีสถานะเป็น1(มีไฟเลี้ยง)ปกติไม่เหนี่ยวไกสวิทซ์ที่ ON พอเราเหนี่ยวไกสวิทซ์จะOFF ขาไมโครคอนโทรลเลอร์ขานี้ก็จะกลายเป็นไม่มีไฟเลี้ยงทำให้มีสถานะเป็น 0 ไมโครคอนโทรลเลอร์ก็จะสั่งงานให้ชุดวงจรพลัลไฟสูงจ่ายไฟให้โซลินอยด์ทำงานเป็นแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อดูดแกนเหล็ให้พุ่งขึ้นไปกระแทกเซียร์เพื่อปล่อยฆ้อนให้พุ่งไปกระแทกวาวล์ปล่อยลม แต่พอเปลี่ยน R 10K ตัวนี้(โอากาส R เสียมีน้อยมาก)แล้วเหนี่ยวไกแต๊ก ๆ ดรายไฟร์ได้แล้วครับประกอบวงจรเข้าปืนปิดสวิทซ์เก็บปืนเข้ากล่องสบายใจแล้ว.......แต่พอเช้ามาลองเปิดสวิทซ์ดูปรากฏว่าแบตเตอรี่หมดครับ เอาหละซิงานนี้ เช็คอีกรอบนึงโดยมุ่งประเด็นไปที่ทรานซิสเตอร์ที่ต่อกับ R ตัวนี้รั่วทำให้ไฟรั่วลงกราว(ดูดแบต'ซะเกลี้ยง) ลองเปลี่ยนดูแล้วเช็คการกินกระแสของวงวจรขณะเปิดสวิทซ์ว่ากินกระแสเท่าไหร่ และขณะปิดสวิทซ์ปรากฏว่าขณะปิดสวิทซ์ก็ยังกินกระแสอยู่ 10mAh(10มิลิแอมป์) แสดงว่าไม่ใช่ทรานซิสเตอร์ตัวนี้แน่ ๆ ใส่ทรานซิสเตอร์ตัวเก่ากลับคืนปิดสวิทซ์เช็คการกินกระแส เท่ากันเป๊ะกับตอนที่ลองเปลี่ยนทรานซิสเตอร์เลยครับ(เก่าหัวต่ออีก 8 ครั้ง) สมมุติว่าแบตเตอรี่เรามีความจุ 800 mAh ปิดสวิทซ์แล้วกินกระแส 10 mAh นั่นหมายความว่าปิดสวิทซ์ไว้ 8 ชั่วโมงแบตเตอรี่ก็หมดครับ นอนพักสมอง 1 ชั่วโมงเพื่อมาสู้ต่อครับ
.....1ชั่วโมงผ่านไปเอ้ามาลองเปลี่ยน R เป็นค่า 470K ขนานกับ R 10K ตัวนี้ลองดูลั่นไกแต๊ก ๆ ได้เหมือนเดิม ต่อมาเช็คการกินกระแบตเตอรี่ขณะปิดสวิทซ์ดูเป็นศูนย์ครับ เปิดสวิทซ์ก็กินกระแสปกติครับไม่เหนี่ยวไกกินกระแส 5mAh ลั่นไกกินกระแส 100mAhแว๊ปเดียวตอนโวลินอยด์ทำงาน
ค่อยโลงใจครับ
คราวนี้ R มีมันตัวเบ้อเล้อครับ ขนาด 1/8W ในวงจรเค้าตัวเท่าเม็ดงาทำไงดีเวลาเทซิลิโคนปิดลายปริ้นท์กันความชื้นมันจะต้องสูงกว่าส่วนอื่นเพราะเป็นคนละด้านกับฝั่งที่เปลี่ยน C แผ่นปริ้นท์ด้านนี้ต้องเรียบให้มากที่สุดเพราะติดกับด้านในของด้าม ในที่สุดก็ได้ตำแหน่งวาง R 470K แล้วครับ ไล่ตามลายวงจรแล้วจะมาโผล่เชื่อมกับขากซ็อกเก็ทที่เสียบแผงวงจรเข้ากับโซลินอย์และสวิทซ์ในตำแหน่งขาที่ 1 และ 3 ถ้านับจากซ้ายไปขวาครับ
รูปนี้เป็นรูปที่ผมวางเชื่อมต่อ R 470K กับขาซ็อกเก็ท โดยหันกลับหน้ากลับหลังซ็อกเก็ทมาเพื่อง่ายในการทำงานเพราะสายไฟบังอยู่ คราวนี้ขา 1 จะอยู่ด้านขวาแทนครับ
เช็คการกินกระแสอีกครั้งปกติครับปิดสวิทซ์ไม่กินกระแสแล้ว ประกอบปืนเก็บใส่กระเป๋าเดี๋ยวพรุ่งนี้มาดูซิว่าแบตเตอรี่ยังมีพลังงานอยู่เหมือนเดิมรึปล่าว ผมดีใจระดับนึงที่ปืนทำงานได้ปกติแต่คาใจว่าเพราะอะไรทำไม่ต้องต่อ R ขนานกับตัวที่มีในวงจรอยู่เดิม เอาไว้ว่าง ๆ ค่อยมาแกะลายวงจร(หมายถึงวาดผังวงจร)ให้ละเอียดแล้วหาวิธีซ่อมโดยไม่ต้องพึง R 470K ตัวนี้
เผื่อน้องโมของท่านใดมีปัญหาเหมือนน้องโมของผม ก็ลองใส่ R470K แบบนี้ดูครับจะได้ไม่ต้องแกะซิลิโคน ***แต่ใช่ว่าอาการนี้จะเกิดจากอุปกรณ์ตัวเดียวกันอาจเกิดจากจุดอื่น ๆ ตามที่พี่ ๆ หลาย ๆ ท่านแนะนำให้ผมเบื้องต้น แต่ผมเช็คหมดแล้วทุกจุดก็ปกติดีครับก็มาจบที่ R ตัวนี้****
แนะนำเพิ่มเติมครับหากท่านใดใช้โซแน็กล้างคอนแท็คสวิทซ์ ผมแนะนำให้ใช้น้ำมันรอนสันล้างอีกรอบครับเอาสวิทซ์แช่รอนสันเลยก็ได้เหมือนช่างล้างเครื่องนาฬิกาเพื่อไล่คราบโซแน็กเดี๋ยวฝุ่นจับคอนแทคสวิทซ์ง่ายกว่าเก่าครับ
