Ha Ha Ha ฮา " Oh yes " จ๊านโฉมชาย(ฮา) อ่ะ 5555
เรื่อง "หม่อม ขี้เมี่ยง" เนี่ยะ เหรอ ฮา
คาบเอา "อินไซค์เดอร์" มาบอก นายปลื้ม หูตูบ ฮา
เขาจะไปรู้เรื่อง รู้ราวอะไร "ศักดินา" ขนาดนั้นอ่ะฮา
ทนดู ทนเห็น คนจน มีหน้ามีตา อ้าปาก ไม่ได้ร๊อกส์ อ่ะ ฮา
ขาดทุนให้ "คนจน" แสนล้านเนี่ยะ เรื่องเล็กมาก อ่ะ ฮา
5555 เมื่อเปรียบเทียบกับการ "อุ้ม" ศักดินา เศรษฐี อ่ะ ฮา
ส่วนเรื่อง พรบ. นิรโทษกรรม ฮา
โถ โถ โถ พ่อทูนหัว ทำสมองไร้เดียงสา เสียจริงเลยอ่ะ ฮา
ไอ้ต้นตอ ของความวุ่นวาย เนี่ยะ ฮา
มันเกิดจากการเอา "ปากกระบอกปืน" ไปจี้ ปล้นตำแหน่ง เขามาอ่ะ ฮา
พอจี้เสร็จ ก็ตั้งโน่นเลย คตส. ปปช คตง กบว ควย ตรวจสอบเขา ฮา
ไอ้นิติรัฐ มันก็เลยพริ้ว บิดเบี้ยวไปหมด ฮา
ไอ้นั่นโกง ไอ้นี่ก็จะโกง ไอ้นั่นโกงแล้ว ฮา
ยายยังไม่เห็น "เจอ" ความผิดของ แม้วดอยปุย เลยอ่ะ ฮา
นอกจาก "เซ็นต์ชื่อ" ให้เมียซื้อที่ดิน อ่ะ ฮา
ต้นไม้ที่เป็นพิษ ผลของมันก็ออกมาเป็นพิษ อ่ะ ฮา
พี่บังสนธิ เขาบอก "ตายไป ก็พูดไม่ได้ อ่ะ ฮา
55555 จานโฉมชาย ไปเข้าเครื่อง TC Scan เช็คสมอง บ้างน๊าาาา ฮา
แหม... Post นี่ยายบ๊าบโง่แบบหมาเห่าไม่ออกเลย... ฮา...
มันมีหลายเรื่องซ้อนกัน... สรุปย่อสั้นๆดีกว่าเพราะคุยยาวก็ไม่จบ...
เรื่องแรกเอาปืนจี้ให้ลงจากตำแหน่ง... ตรงนี้เจตนาดี เพราะคนขี้โกงมันไม่ควรกินเมือง, แต่ปัญหามันเกิดจากผู้บริหารแผ่นดินหลังจากนั้นอ่อนเกิน จัดการไม่เด็ดขาดแล้วทิ้งปัญหาเอาไว้ข้างหลัง เริ่มตั้งแต่รัฐบาลขิงแก่ เรื่อยมาจนรัฐบาลหน่อมแน้มฯ, ทั้งหมดคือเรื่องการ"ไม่เอาจริง"...
เรื่องถัดมาคือเรื่องโกงภาษีหุ้น... เรื่องนี้ผู้คนทั้งหลายยังไม่เข้าใจว่าในเมื่อผุ้คนทั่วไปที่เล่นหุ้นเขาก็ขายหุ้นได้กำไรแล้วไม่ต้องเสียภาษี แล้วทำไมทักษิณขายหุ้นได้กำไรเหมือนกัน ก็ไม่ต้องจ่ายภาษีเหมือนกันซิ...
เรื่องแบบนี้ต้องดูที่เจตนาเริ่มแรก หรือเป็นเรื่องการ"เล็งเห็นผล"ทำนองเดียวกับการที่อ้างว่าฉันแค่เหนี่ยวไกปืนเท่านั้น ลูกปืนมันวิ่งในอากาศฉันก็ไม่ได้จับถือมันเอาไว้เหมือนถือด้ามมีดด้ามหอกเสียหน่อย ลูกปืนมันวิ่งไปชนคนอื่นตาย ฉันก็ไม่ต้องรับผิดชอบซิ, ซึ่งมันไม่ถูกต้อง... ทักษิณขายหุ้นให้เทมาเส็กจงใจเลี่ยงภาษีเงินได้นิติบุคคลด้วยการโอนให้โอ้ค-เอม เป็นคนถือหุ้นแล้วขายให้เทมาเส็ก เพราะหากปล่อยให้นิติบุคคลเป็นคนขาย กำไรที่ได้แม้จะไม่ต้องโดนเก็บภาษี ณ. ที่จ่ายก็จริง แต่จะไปโดนเก็บภาษีนิติบุคคลจากผลกำไรเมื่อปิดบัญชีปลายปี(บุคคลธรรมดาได้กำไรไม่ต้องเสียภาษี)...
สรุปคือมองเห็นว่าหากนิติบุคคลขายได้กำไร แล้วกำไรจะโดนเก็บภาษี... ก็เลยโอนให้บุคคล แล้วขายทันที ซึ่งเป็นกิจกรรมต่อเนื่องกันโดยมีเจตนาเลี่ยงภาษี, แล้วที่แสบก็คือหลังจากแก้กฎหมายอนุญาตให้ต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของบริษัทโทรคมนาคมได้ปุ๊บ ก็โอนหุ้น+ขายหุ้นทันที, ซึ่ง พ.ร.บ.มีผลบังคับใช้ในวันเสาร์ที่ 21 ม.ค. 2549 จากนั้นขายหุ้นทันทีในวันจันทร์ที่ 23 ม.ค. 2549 ซึ่งเป็นวันแรกที่ตลาดหุ้นเปิดทำการซื้อขายหลังจากวันที่ พ.ร.บ.มีผลบังคับใช้...
เรื่องแบบนี้ยายบ๊าบไม่เคยรู้... เป็นเพราะอ่านหนังสือแล้วสรุปความไม่เป็น เห็นแต่จิ๊กซอว์เล็กๆจนตาลายไปหมด แล้วก็นั่งคุยรวมกลุ่มสุมหัวแต่คนโง่ ก็เลยรู้แต่เรื่องโง่ๆจนเต็มสมอง...
เรื่องขายหุ้นให้เทมาเส็กนี่ก็เลี่ยงกฎตลาด(ทำให้เห็นเจตนาเลี่ยงภาษี), เพราะเขากำหนดให้ใครก็ตามหากจะซื้อหุ้น บ.มหาชนในตลาดเกิน 25 เปอร์เซ็นต์ จะต้องจัดทำ"คำเสนอซื้อ" หรือสรุปบ้านๆว่าต้องประกาศให้ผู้คนได้รับรู้ ใครมีหุ้นอยู่ในมือจะได้ขายได้... แต่ทักษิณให้เทมาเส็กเอาบริษัทลูก 2 แห่งคือบริษัท ซีดาร์ โฮลดิ้งส์ จำกัด และบริษัท แอสเพน โฮลดิ้งส์ จำกัด แยกกันซื้อ จะได้"แอบมุบมิบ"ซื้อขายกันโดยไม่มีรายย่อยแย่งขายหุ้น...
สำหรับเรื่องเซ็นชื่อให้คุณหญิงพจมานซื้อที่ดินรัชดาฯ นี่เราก็เคยคุยกันมาแล้ว... สรุปสั้นๆ ว่าเขาไปประมูลซื้อที่ดินจากหลวง แล้วในรายชื่อผู้เข้าร่วมประมูลก็ดั๊นมีชื่อหราอยู่ว่า"คุณหญิงของนายกรัฐมนตรีฯ"เข้าร่วมประมูลด้วย, ที่เหลือเขาก็เลยถอนตัวกันเกลี้ยงฉาด!!!(หมาที่ไหนมันจะเข้ามาประมูลแข่ง)...
แล้วในที่สุดคุณหญิงก็ได้ที่ดินไปถูกแสนถูก เพราะหมาที่ไหนมันจะกล้าประมูลแข่ง, ก็ที่เหลือชื่ออยู่ยังไม่ถอนตัว ก็เพราะระเบียบมันต้องมีคนอื่นนั่งประมูลด้วยให้ครบ 3 ราย ก็เลยถูกบังคับห้ามถอนตัว เดี๋ยวเขาก็ล้มประมูลได้เพราะคนเข้าประมูลไม่ครบ(แล้วหมาที่ไหนมันจะกล้าชูป้ายราคาแข่ง)... พวกคนโง่มันไม่รู้ก็เอามาเถียงว่า"แค่เซ็นต์ชื่อยอมให้เมียไปประมูล"ก็ยังติดคุกด๊ายยย... ฮา...
มันก็ทำนองกับบอกว่า"ธ่อ!!! แค่เหนี่ยวไกปืนเอ๊ง ลูกปืนมันปลิวไปนี่หว่า", ใครโดนยิงตายฉันก็ไม่เกี๊ยววว... นั่นคือตรรกะคนขี้โกง...