ยายนำ "มุมมอง" ของ ออ. จรัญ กรณี บัคส์ ฟ้อง บัง มาให้อ่าน อ่ะ ฮา
http://www.mcot.net/site/content?id=5271d939150ba0c5450001f0#.UnsiwyeeraRกรณีศึกษา 'สตาร์บัค' เชือด 'สตาร์บัง' กับข้อกฎหมายควรรู้ โดย รศ.จรัญ ภักดีธนากุล
หากใครผ่านไป ผ่านมา แถวถนนพระอาทิตย์ บริเวณหน้าบ้านพระอาทิตย์ หากสังเกตร้านกาแฟรถเข็นที่คนขายหน้าตาเหมือนอาบังคนหนึ่ง แหงนมองโลโก้หน้าร้านปรากฏชื่อ สตาร์บัง หลายคนอมยิ้มและนึกไปถึงกาแฟยี่ห้อดัง สตาร์บัค แล้วจู่ๆ วันหนึ่งมีข่าวบอกว่า สตาร์บังถูกฟ้องโดยร้านกาแฟชื่อดัง สตาร์บัค ฐานลอกเลียนเครื่องหมายการค้า วันนี้ 29 ต.ค.2556 รายการเวทีความคิด FM 96.5 ได้รับเกียรติอธิบายอย่างชัดแจ้งจาก รศ.จรัญ ภักดีธนากุล
อ.จรัญ เริ่มอธิบายว่า สตาร์บัค ตั้งฐานคิดแบบกฎหมายสหรัฐ คือ กฎหมายเครื่องหมายการค้า ชื่อทางการค้า เครื่องหมายบริการ ของต่างประเทศได้พัฒนาต่อยอดจากที่มุ่งประสงค์ที่จะให้ผู้บริโภคไม่ให้ประชาชนสับสนหลงผิดในแหล่งกำเนิดของสินค้าหรือบริการต่างๆ คุ้มครองสิทธิประโยชน์เจ้าของเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ ชื่อทางการค้าเหล่านั้น เป็นฐานดั้งเดิมที่กฎหมายเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ ชื่อทางการค้าของไทยใช้เป็นฐานอยู่ แต่ต่อมาในการเจรจาทางการค้าที่อุรุกวัยได้มีการลงมติกันในข้อตกลงเกี่ยวกับสิทธิในด้านทรัพย์สินทางปัญญา ได้ขยายฐานออกไปครอบคลุมไปถึงการคุ้มครองเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการไม่ให้เสื่อมเสียลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัวไปด้วย โดยคนที่จะไปลอกเลียนเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ ของคนอื่น ถึงแม้ว่า จะไม่ทำให้ประชาชนหลงผิดหรือเสียมาร์ก็ตแชร์ในตลาด แต่ว่าเสียความโดดเด่นลักษณะเฉพาะของเครื่องหมายของเขามันเสื่อมสภาพ เสียความเป็นลักษณะเฉพาะตัว ให้คุ้มครองด้วย แต่ปัจจุบันกฎหมายไทยยังไม่ได้รับเข้ามาผูกพัน ยังไม่ได้เขียนบัญญัติไว้ชัดเจน แต่ศาลไทยก็พยายามใช้กฎหมายที่มีอยู่ ขยายความคุ้มครองให้เท่าที่กฎหมายจะเปิดช่อง แต่ไม่ถึงหลักการใหม่เสียทีเดียว
ถ้าว่ากันตามกฎหมายไทย จะเห็นได้ว่า ใช้ตามกฎหมายไทย ไม่ถึงละเมิดสิทธิเครื่องหมายการค้าของสตาร์บัคหรอก เพราะไม่ได้ทำให้ประชาชนคนไทยสับสนหลงผิดว่า กาแฟของอาบังที่เป็นรถเข็นขายอยู่ข้างถนนจะเป็นแหล่งที่มาจากอเมริกา เป็นกาแฟของสตาร์บัค ที่แสนแพง ถ้วยหนึ่งเป็นร้อย ไม่มีทางจะไปแย่งมาร์เก็ตแชร์ของสตาร์บัคได้เลย แต่ถ้าผมไปเปิดร้านใหญ่ๆ แล้วใช้เครื่องหมายการค้าและชื่อคล้ายๆ แบบสตาร์บัค อันนี้ ถือว่าละเมิดสิทธิเครื่องหมายการค้า อ.จรัญ ยกตัวอย่าง
อ.จรัญ อธิบายต่ออีกว่า กฎหมายในสหรัฐที่ขยายการคุ้มครองไปถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัว ความโดดเด่นของเครื่องหมายการค้าของเจ้าของไม่ให้ใครเอาไปใช้ แล้วทำให้คนความรู้สึดเสื่อม ถึงแม้ขยายไป ศาลอุทธรณ์ในสหรัฐก็ได้ตัดสินเป็นบรรทัดฐานไว้เมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว เป็นบรรทัดฐานที่รู้กันไปทั่วในวงการนักกฎหมายทางทรัพย์สินทางปัญญาว่า การกระทำอย่างนี้ ก็ไม่เป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้า ชื่อทางการค้า ตามหลักใหม่ที่ขยายออกไป เขาเรียกข้อยกเว้นนี้ว่า parody รากศัพท์ของมันแปลว่า ขบขัน ล้อเลียนทำให้คลายเครียด ทำให้ตลกโปกฮา
ศาลอุทธรณ์สหรัฐวินิจฉัยในคดีหลุยส์ วิคตอง กับจำเลยซึ่งเป็นร้านขายตุ๊กตาหรือยางที่ให้สุนัขกัดเล่น ชื่อ ชิววี่ วิคตอง ซึ่งหลุยส์ วิคตอง ฟ้องว่าละเมิดเครื่องหมายการค้าของเขา ในฐานที่สอง ศาลสหรัฐบอก อย่าเคร่งเครียดจนเกินไป แค่อารมณ์ขัน ตั้งใจทำให้เป็นที่ล้อเลียน ให้คลายเครียด คนทั่วไปก็รู้ได้ทันทีว่า ตุ๊กตาหรือยางทีให้สุนัขกัดเล่นไม่ได้เกี่ยวข้องกับกระเป๋าเซเลบที่ราคาแพงมากของหลุยส์ วิคตอง ที่จะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หรือเสียคุณค่าอะไร ไม่ได้แย่งมาร์เก็ตแชร์ ไม่ได้ทำให้ประชาชนอเมริกันหลงผิด ก็เลยยกฟ้องไป มันเห็นชัด เมื่อเทียบคดีนี้กับคดีสตาร์บัค-สตาร์บังของไทย อ.จรัญ อธิบายละเอียด และกล่าวอีกว่า
หลักของ parody คือ ประชาชนไม่มีความสับสน ไม่ได้ทำให้เจ้าของที่แท้จริงเสียสิทธิประโยชน์อะไรไปเลย และเมื่อแสดงให้เห็นว่า เป็นเรื่องตลกโปกฮา ไม่ได้ทำให้คุณค่าของเครื่องหมายการค้าของเจ้าของเสียไป เขาแค่ล้อเลียนลักษณะของชนชั้นสูง หัวสูงเท่านั้น
อ.จรัญ ตั้งข้อสังเกตทิ้งท้ายว่า นักกฎหมายของสตาร์บัค น่าจะรู้คดีหลุยส์ วิคตอง กับ ชิววี่ วิคตอง แต่ทำไมถึงมาดำเนินคดีกับสตาร์บัง ซึ่งเดาได้ว่า มีความแตกต่างกันนิดหนึ่ง คือตัวสินค้าในคดี หลุยส์ วิคตอง กับ ชิววี่ วิคตอง เป็นสินค้าคนละประเภท แต่ในคดีของสตาร์บัค-สตาร์บัง เป็นสินค้าตัวเดียวกัน แต่ศาลสหรัฐก็ไม่ได้บอกว่า ต้องเป็นสินค้าชนิดเดียวกันนะ
**ติดตามฟังภาคต่อ สตาร์บัค-สตาร์บังได้อีกในวันอังคารหน้า**