อยู่บนโลกไซเบอร์อย่าเชื่อง่ายครับ ตอนนี้คนปล่อยมันก็ลบเฟรชไปแล้ว
น่าจะเป็นเรื่องโคมลอยซะมากกว่า เพราะถ้าแอปตัวนี้จะดักรหัสผ่านในมือถือของเราได้ เครื่องเราต้ออง root หรือ jailbreak เสียก่อน หรือต่อให้มันดักจับรหัสผ่านของเราได้จริงๆ ถ้าจะโอนเงินไปบัญชีของบุคคลอื่นที่เราไม่รู้จัก ระบบจะส่งรหัสมาที่มือถือของเราก่อน มิฉะนั้นจะโอนเงินได้
เฉพาะบัญชีที่เรารู้จักเท่านั้น
ส่วนเรื่องที่ว่าแอปตัวนี้ดักข้อมูลบัตรเครดิต ปรกติแล้วข้อมูลบัตรเครดิตของ apple ID จะเก็บไว้ที่เซิฟเวอร์ของ Apple นะครับ ไม่ได้เก็บในเครื่องเรา แล้วมันจะขโมยข้อมูลบัตรเครดิตเราไปได้ไง
สรุปว่างานนี้น่าจะเป็นข่าวโคมลอยที่กุขึ้นมาด้วยวัตถุประสงค์อะไรบางอย่างนะครับ
เรื่อง Permission ในระบบมือถือ
PC, Unix, Linux(ทั่วไป) : 1 user login = 1 คน(คน 1 คนใช้ได้หลาย App และไม่สามารถไปยุ่งกับ Dir(Folder) ของคนอื่นได้ยกเว้นมีสิทธิ์)
iOS, Android(มือถือ) : 1 user = 1 App (App มีพื้นที่ของตัวเองออกไปยุ่งของคนอื่นไม่ได้เลย ยกเว้นขอสิทธิ์(ที่มีจำกัด))
ข้อจำกัดเหล่านี้จะถูกทำลายได้ก็ต่อเมื่อ user หรือ App ถ้าเป็นกรณีมือถือได้สิทธิ์ root (jailbreak บน iOS)
App จะข้ามขีดจำกัดไปยุ่งกับส่วนอื่นๆ ของ Application ได้เช่น อ่านข้อมูล ,ดู Email ,แก้ไขไฟล์,...
เพราะงั้นถ้าไม่ได้ไปทำลายกำแพงเหล่านั้น App ส่วนใหญ่ก็ทำอะไรกับข้อมูลสำคัญเราได้น้อยมากครับ
อีกอย่าง ตอนนี้ลองเช็คดูที่ apple store หรือ google play store ถ้ายังมี app นี้อยู่แสดงว่าข่าวลือไม่เป็นจริง