ครั้งหนึ่ง ณ ตลาดริมน้ำคลองแดน

[tum610]

ครั้งหนึ่ง   ณ  ตลาดริมน้ำคลองแดน...

เที่ยวคลองแดน เดินตลาดริมน้ำ ชมบ้านหนังสืออัจฉริยะ ที่เต็มไปของเก่าโบราณ รุ่นคุณทวด ที่คนสมัยใหม่อาจจะไม่รู้จัก
และยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม นำทรัพยากรธรรมชาติมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว สัมผัสวีถีชุมชนชนบท ชาร์ตแบตเติมพลังกาย
สูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด อบอุ่นกับการต้อนรับและรอยยิ้มของชาวชุมชน

ชุมชนคลองแดน ตั้งอยู่ที่ทางทิศเหนือของอำเภอเมืองสงขลา ประมาณ 100 กิโลเมตร (กม. 15 จากแยกบ้านรับแพรก - ระโนด)
และมีระยะทางจากอำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราชไปทางทิศใต้ประมาณ 100 กิโลเมตรเช่นเดียวกัน จึงกล่าวได้ว่าชุมชนคลองแดน
มีที่ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางระหว่างจังหวัดสงขลากับ จังหวัดนครศรีธรรมราช

ครูสายัณห์ เล่าว่า สมัยก่อนตลาดที่ชุมชนคลองแดนเคยเป็นเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรืองมาก มีร้านทอง ร้านตัดเสื้อผ้า ร้านขายของชำ ร้านยา
ร้านตัดผม มีโรงสี นับได้ว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำเลยทีเดียว สมรภูมิเหมาะกับการค้าขาย คนจีนก็ฉลาดได้ชักชวนญาติพี่น้องมาอาศัยอยู่ที่นี่เพิ่มมากขึ้น
มีการตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนอยู่กันอย่างหนาแน่นตลอดแนวริมน้ำคลองแดน คลองระโนด คลองชะอวดและคลองปากพนัง
จนกระทั่งเมื่อทางหลวงสาย 408 เริ่มใช้งาน ทำให้ความนิยมในการใช้การสัญจรทางน้ำลดลง คนเริ่มอพยพออกจากพื้นที่
จนปัจจุบันไม่มีการใช้การสัญจรทางน้ำอีกเลย

จากนั้น เมื่อปี พ.ศ. 2552 เจ้าอาวาสวัดคลองแดน มีความคิดที่อยากจะพัฒนาวัดให้มีความเจริญเหมือนแต่เก่าก่อน
เลยได้ไปหาผู้ที่มีความรู้ด้านสถาปัตยกรรม ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ดร.จเร สุวรรณชาติ
จึงได้ทำการวิจัยและพัฒนาวัดให้เจริญขึ้นมาได้พอสมควร และได้มาสัมผัสกับชุมชนในตลาดริมน้ำคลองแดน
ซึ่งเป็นตลาดที่ทรุดโทรมมาก แต่ยังคงมีร่องรอย และได้สอบถามถึงชาวได้ จึงได้ทราบถึงความรุ่งเรื่องในสมัยก่อน
จึงอยากจะปรับปรุงพัฒนาให้เหมือนแต่ก่อน ก็ได้ประสานไปยังการเคหะแห่งชาติ เพื่อจะของบมาช่วยสนับสนุน
จึงได้เชิญชวนชาวชุมชนคลองแดนได้ไปศึกษาดูงานที่ ตลาดน้ำอัมพวา และสามชุก


ขอบคุณบทความจาก manager.co.th อ่านเพิ่มเติมได้ที่...
http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9560000056363

[tum610]

[tum610]

[รัตตรา]

ภาพสวย ชัด คม ลึกได้อารมณ์มากเลยนะอาตุ้ม

[โมโม่153]

 

[รัตตรา]

 ดูในมือถือไม่จุใจ ตามมาดูในเครื่องใหญ่ดูได้เต็มตาดีกว่านะ แจ่มจริงๆ...

[tum610]

ภาพสวย ชัด คม ลึกได้อารมณ์มากเลยนะอาตุ้ม

ขอบคุณครับ....


เสียดายตอนที่ไปถึงค่ำมืดซะแล้ว....
ไม่งั้นได้เห็นแสงท้องฟ้ารำไรไม่มืดตึ้บแบบนี้... อิ อิ..


อีกอันที่เสียดาย...
ตอนเช้าไปเดินเที่ยวชมแถวหมู่บ้าน....วัดคลองแดน
ไม่ได้หยิบกล้องไปด้วย..   กะไปเดินเล่น ๆ แถวห้องพัก..
ผบ.เดินตามมาทีหลัง...จูงมือเดินไปวัดเลย..

ไม่ได้กลับมาเอากล้องที่ห้อง...


ปล.กล้องที่ใช้.. Oly EPL 2 แก่ ๆ โบราณ ติดเลนส์ Pana 20/1.7 ตัวเดียว..
(ยกเว้นภาพข้าวต้ม)
จัดการไฟล์ด้วย Photoscape   

[tum610]

ที่น่าเสียดายอีกอย่างนึง....

ช่วงนี้เป็นช่วงไว้ทุกข์(สมเด็จพระสังฆราช)
เวทีแสดงจึงมีแต่บรรเลงเพลง กะการแสดงโนราห์ และชุดพรานบุญ ของเยาวชน

ซึ่งถ้าเป็นช่วงปกติ จะมีการแสดงโชว์รื่นเริงมากกว่านี้...
แม่ค้าชาวบ้านแถบนั้นมาบ่นให้ฟังว่า ถูกริบมัดจำของการแสดงไปหลายชุด...
เพราะไม่ได้คิดว่าจะเกิดเหตุ...ขอความร่วมมืองดการแสดงโชว์แบบสนุกสนาน...


และอีกอย่างงง...(หลายอย่างจัง) คิ คิ
คืนที่พวกเราไปเป็นคืนวันเสาร์..
แต่หากเป็นคืนวันอาทิตย์ถัดมาอีกคืน...จะเป็นคืนลอยกระทง..
คาดว่าตลาดจะคึกคักมาก...
(ตามปกติตลาดจะเปิดเฉพาะวันเสาร์วันเดียว..
แต่เนื่องในโอกาสพิเศษคืนลอยกระทงตรงกับคืนวันอาทิตย์
จึงต้องเปิดตลาดเพิ่มอีกวัน...)
                เสียด๊ายยยยย....

[รัตตรา]

 

[ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙]

Olympus E-PL2 สร้างชื่อครั้งสำคัญเมื่อผู้กำกับหนังใหญ่ Secretariat (เป็นชื่อม้าแข่งระดับตำนาน) ใช้กล้องตัวนี้ถ่ายวิดิโอในฉากหนึ่ง  โดยติดตั้งกล้องไว้ใต้ท้องม้า  จับภาพจากมุมต่ำเห็นกีบม้าตะกุยดิน

หนังสนุกครับ ลองหามาดูกัน

[ธนัท รักในหลวง]

+1 ครับ...
ตอนนี้ชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำลำคลองแปรสภาพกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวกันครึกครื้นกันดีครับ...น่าไปเที่ยว