ถ้าอ่านฉบับหลอกวนจงที่พระยาพระคลัง(หน)แปล จะรู้สึกว่าเล่าปี่เป็นคนดี มีศิลปะในการพูดและครองใจคน เพราะหลอกวนจงก็เป็นขุนนางเขียนเข้าข้างเชื้อพระวงศ์อยู่แล้ว (คนละยุคกันนะครับ หลอกวนจงนี่ขุนนางราชวงศ์หมิง)
ถ้าอ่านฉบับนายทุน มรว คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ท่านจะชอบโจโฉ เพราะโจโฉนี่แนวคิดผู้นำที่แท้ ยอมเป็นทรราชย์ รวมศูนย์อำนาจไว้ที่ตน (จากการที่กษัตริย์อ่อนแอตั้งแต่ยุคสิบขันที) เพื่อกำจัดทรราชย์ ยอดนักบริหาร ใช้คนถูกกับงาน จิตใจเด็ดขาด
แต่ทั้งสองฉบับกล่าวหา ซุนกวน แห่ง กังตั๋งว่าเป็นพวกปัญญาดีแต่เชื่อถือไม่ค่อยได้ ฮา
ถ้าอ่านฉบับประวัติศาสตร์แท้ๆ ทุกคนเล่าปี่ โจโฉ ซุนกวน ทุกคนมีดีมีเลวในตนเอง เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง
ในเว็บผู้จัดการมี ฉบับฉบับคนขายชาติ (เรือง วิทยาคม) ฉบับนี้ยอดเยี่ยมที่สุดครับ เอาเหตุการณ์ในแต่ละเล่มที่เขียนไม่เหมือนกันมาอธิบาย และอธิบายด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ในแนวของตนเองด้วย
อย่างเช่นตอนจูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า จูล่งขี่ม้าตกหล่ม ข้าศึกเข้าประชิด ฉบับหลอกวนจงบอกว่าเป็นเพราะบารมีอาเต๊าจะได้เป็นกษัตริย์ เปล่งแสงจากหลุมทำให้ม้าข้าศึกกระเจิง
แต่ฉบับคนขายชาติ อธิบายว่าเพราะจูล่งใส่เกราะสีเงิน ด้วยแสงแดดที่สะท้อนกับเกราะไปเข้าตาม้าศึกทำให้ชะงัก
ว่าไปผมอ่านไปจบหนึ่งแล้ว แต่ลืมซะหมด เดี๋ยวไปอ่านอีกสักสองจบ (ฮา)
อย่างที่หนึ่งสอนให้เราเข้าใจสภาพการณ์ปัจจุบันได้ดีคือ ประวัติศาสตร์ขึ้นกับใครเป็นผู้เขียนครับ ฝ่ายรุกรานไปรุกรานคนอื่น ฆ่าคนล้มตายก็บอกว่าฝ่ายถูกรุกรานเลว ต้องกำจัดและเพื่อแผ่อำนาจ แต่หากตนถูกรุกรานบ้างบอกว่าฝ่ายรุกรานเลว ทำร้าย
ประวัติศาสตร์สำหรับผมคือสิ่งที่ศึกษาอดีตได้คร่าวๆเท่านั้นเอง ยิ่งสิ่งที่เรียกว่าพงศาวดารนี่แทบจริงสามเท็จเจ็ด
ลิงค์ครับ
http://www.manager.co.th/home/samkok.asp