บอกตามตรงนะครับ โดยรวมๆผมก็ชอบคุณสมชายนะ ดูๆแล้วก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือดูเหมือนจะมีความเก็บกด มีปมนใจ ที่ผมคิดแบบนี้เพราะรู้สึกคุณจะเป็นคนค่อนข้างขี้คุยและอวดเบ่ง คุยและเบ่งถึงความร่ำรวย คุยว่าตัวเองมีความรู้สูง มาบอกทำไมครับ ผมไม่ได้ถามและผมไม่ได้สนใจหรอกว่าคุณจะเป็นเศรษฐีหรือยาจก จะจบ ป๔ หรือ ดอกเตอร์
และถ้าดูจากการตอบกระทู้ ผมว่าความรู้คุณก็ไม่เท่าไหร่ ออกแนวประมาณศึกษาเรื่องอะไรก็ไม่ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ อาศัยท่องจำ คัดลอกแปลส่งๆไปก็เท่านั้น คนที่รู้จริงต้องเข้าใจ มองปัญหาทะลุปรุโปร่ง สรุปเป็นใจความสำคัญสั้นๆที่ตรงประเด็นได้ครับ ไม่ใช่ลอกอะไรที่ไม่ตรงประเด็นมาตอบ เปเปอร์ปึกนึง เท็กบุ๊คเล่มนึง สรุปง่ายๆเนื้อหาใจความสำคัญสั้นๆให้เข้าใจน่ะทำเป็นไหม หรือ เจื้อยแจ้วไปเรื่อยไม่ตรงประเด็น ความรู้คุณก็ประมาณแบบหลังนี่แหละครับ
ยก ต.ย. ที่สร้างความขำขัน ให้กับผมนะครับ เช่น ผมวิจารณ์ว่าคุณทำงานใหญ่ไม่ได้ คุณก็เถียงมาทันใดว่าทำได้ เพราะฉันแต่งตำรากินค่าลิขสิทธิ์ เล่นหุ้น ฮ่าๆๆๆ.... นี่เหรองานใหญ่ในความหมายของคุณ เหอๆๆ...จะว่าใหญ่ก็ได้ครับ คิดได้แค่นี้ทุกคนมันก็ทำงานใหญ่ทั้งนั้นแหละ เพราะทุกคนก็ต้องทำมาหารับประทานเลี้ยงชีพด้วยกันทั้งนั้น แต่ใช้สมองหน่อยครับ คำว่างานใหญ่ที่เรากำลังเถียงกันอยู่มันเป็นเรื่องของชาติ บ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องส่วนตัว เรื่องแค่นี้คุณยังแยกแยะไม่ออก ไม่เข้าใจความหมายที่ถูกต้องของคำว่า "งานใหญ่" ที่เรากำลังเถียงกัน มันบ่งบอกถึงระดับไอคิว สติปัญญาของคุณได้เป็นอย่างดี และก็แสดงถึงปมในใจด้วยที่พยายามแสดงให้คนอื่นเข้าใจว่าตัวคุณเองเป็นคนเก่ง
อย่ายึดมั่นถือมั่นนักเลยครับ ปล่อยวางเสียบ้าง ตัดโลกสมมุติหรืออุปโลกป์เสียบ้าง แล้วใจจะเป็นสุข
ว่าแล้ว... โชว์โง่ซ้ำอีก ช่างโง่เสียจริงเชียว...
ลองย้อนกลับไปอ่านใหม่นะ แล้วจับประเด็นให้ได้... งานใหญ่งานเล็กนั่นเส้นแบ่งหลายอย่าง เช่นจำนวนผู้คนที่เข้าร่วมแผนปฎิบัติการฯ หรือจำนวนงบประมาณฯ หรือความซับซ้อนของแผนงานฯ หรือความซับซ้อนของการประเมินผล และเกี่ยวพันกับการวางแผนในอีกขั้นตอนหลังจากนี้ต่อไป ฯลฯ, แล้วก็นึกต่อไปอีกด้วยว่างานระดับไหนถึงขั้นต้องมี"คนเขียนรายงานสรุป" เพราะงานเล็กๆน่ะ ใครทำงาน ก็คนนั้นเขียนรายงาน... ฮา...
แล้วลองนึกถึงคนที่มีหน้าที่ทำรายงานสรุป ว่าเขาต้องทำอย่างไรบ้าง ต้องจับประเด็นให้ได้ละเอียดหมดจดแค่ไหน แล้วต้องประสานกับใครเพื่อให้ได้ข้อมูลอะไร ซึ่งข้อมูลหลายอย่างคนปฎิบัติงานก็ไม่อยากบอก(มีความผิดอาญาฯ) หรืออยากบอกจนเกินเลย(เอาหน้ากับ ผบ.)... ตำแหน่งงานราชการคนที่ทำหน้าที่เขียนรายงานสรุปแล้วรายงานตามสายงานบังคับบัญชาในระบบราชการน่ะ มีหลายรูปแบบ, แต่ JD คล้ายกัน และเกินจินตนาการของนายชงโคไปแยะ...
ใน Post ข้างบนน่ะ บอกว่าเคยทำงานใหญ่ แล้วบอกว่าปัจจุบันนั่งเล่นหุ้น+กินเงินค่าลิขสิทธิ์ตำราน่ะ... แค่อยากบอกว่า"มันเลยจุดทำงานใหญ่มาแล้ว", ส่วนเรื่องการแต่งตำราน่ะ เขาดูกันที่ยอดจัดพิมพ์ หาก"แปล"ออกมาดื้อๆ มันก็ไม่มีใครซื้อหรอก แล้วสำนักพิมพ์เขาก็ไม่พิมพ์ซ้ำหลายครั้งให้คนเขียนเอามาคุยโตในเว็บนี้ร๊อก... ฮา...
เรื่องแต่งตำรา กับเรื่องงานราชการนั่นไม่มีใครในเว็บนี้รู้เห็น จะคุยมากไปมันก็จะเกินเลยจิตนาการมากไป... เอาปัจจุบันนี้ดีกว่า ลองไปเปิดกระทู้หุ้นอ่านดูฯ, ในนั้นมีองค์ความรู้เรื่องหุ้นที่ใช้งานได้จริง และพิสูจน์มาแล้วจนไม่รู้จะพิสูจน์ยังไงแล้วว่า"รู้ล่วงหน้าว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง", แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำตามสูตรได้ เพราะมันมีเรื่องของวินัยบังคับตนเองให้ทำตามสูตร+ความชำนาญ เหมือนขับรถยนต์ที่ไม่มีสูตรเป๊ะๆ...
เรื่องความร่ำรวย นี่ก็เลยจุดนั้นมาได้ไกลแล้ว เพราะชีวิตสมถะ ไม่ทำตัวเด่นเกินจนเงินทองจะสร้างความเดือดร้อน เพราะมันจะเรียกภัยมาหาตัว, แต่ถ้าคิดเรื่องนี้ไม่ตก แล้วตะบี้ตะบันเล่นหุ้นโดยไม่บันยะบันยัง ก็ลองเอา Excel คำนวณดูว่าเล่นหุ้นได้กำไรเฉลี่ย 20 เปอร์เซ็นต์/เดือน แล้วทบต้นเข้าไปอีกเรื่อยๆ 1 ปีจะมีขนาดพอร์ตเท่าไหร่... ลองคำนวณดูก็แล้วกัน หากนึกไม่ออกก็เริ่มต้นที่ขนาดพอร์ต 5 แสนบาทก็พอ(เท่าราคารถยนต์อีโค่คาร์ 1 คัน), จะเห็นว่าเกินจินตนาการนายชงโคไปมาก...
ลองคิด Excel ดู แล้วกลับมาอ่านกระทู้หุ้นย้อนหลังไปไกลๆ... จะพบว่าจะบ้าไป"ทำงานใหญ่"ให้ลำบากตัวเองไปทำไมกันหนอ ในเมื่อเล่นหุ้นไปเรื่อยๆ แล้วทำตัวสมถะและทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม(ด่าควายแดงอย่างที่กำลังทำอยู่) ชีวิตมันง่ายกว่าแยะ... ฮา...