http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1391686298&grpid=00&catid=&subcatid=ป.ป.ช. มติเอกฉันท์ ชี้มูล ′เสถียร′ ร่ำรวยผิดปกติ เล็งส่งอสส.สัปดาห์หน้า ส่งศาลยึดทรัพย์ 296 ล้าน
เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 6 กุมภาพันธ์
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี
นายวิชา มหาคุณ กรรมการและโฆษก ป.ป.ช. แถลงข่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ว่า
คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์กรณีพล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์
กรณีเข้ารับตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม และนางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์
กรณีเข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลคำขวาง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
มีเหตุอันควรสงสัยว่า ร่ำรวยผิดปกติตามมาตรา 77 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)
ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) พ.ศ.2542
โดยสั่งยึดทรัพย์สินมูลค่ารวม296,323,911 บาท
และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดในสัปดาห์หน้าเพื่อส่งเรื่องต่อไปยังศาลยุติธรรม
คือ ศาลชั้นต้นยึดทรัพย์ต่อไป
นายวิชา กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหา
ซึ่งนำทรัพย์สินไปไว้ในชื่อของบุคคลอื่นจำนวนหลายรายการ
และที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินไว้มีเพียงจำนวน 69,089,835บาท
น้อยกว่าจำนวนที่ขอให้ตกเป็นของแผ่นดินจำนวนมาก
จึงมีมติให้อายัดทรัพย์สินของผู้ถูกกล่าวหาและผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
จำนวน 22 ล้านบาทเศษ เป็นการชั่วคราว ตามมาตรา 78 แห่งพ.ร.บ. ป.ป.ช. พ.ศ.2542
แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่2) พ.ศ.2554 รวม 80 กว่าล้านบาท
นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการกรรมการป.ป.ช.กล่าวว่า
ส่วนรายการทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติจำนวน 296,323,911 บาท ประกอบด้วย
1.ทรัพย์สินในชื่อของ พล.อ.เสถียร ประกอบด้วย บัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ จำนวน 9 บัญชี
รวมเป็นเงิน 118,444,056 บาท
บัญชีเงินฝากสหกรณ์ออมทรัพย์ จำนวน 2 บัญชี รวมเป็น 1,034,683 บาท
หลักทรัพย์ในบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาติ จำกัด (มหาชน) มูลค่า 8,312,605 บาท
และรถยนต์ 2 คัน รวมมูลค่า 2,500,000 บาท
2.ทรัพย์สินในชื่อของ นางณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์ คู่สมรสของ พล.อ.เสถียร ประกอบด้วย
เงินลงทุนในสินค้าและวัตถุมงคล ร้านศิริมงคลช็อป มูลค่า 3,912,656 บาท
ที่ดิน จำนวน 16 แปลง รวมมูลค่า 25,900,000 บาท
สิ่งปลูกสร้าง จำนวน 3 แห่ง รวมมูลค่า 4,600,000 บาทและอัญมณี จำนวน 5,620,000 บาท
3.ทรัพย์สินในชื่อ น.ส.ณิชาพัฒน์ เพิ่มทองอินทร์ บุตรบุญธรรมของ พล.อ.เสถียร ประกอบด้วย
บัญชีเงินฝากธนาคารพาณิชย์ จำนวน 8 บัญชี รวมเป็นเงิน 30,485,465 บาท
สลากออมสิน จำนวน 800,000 บาท ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง จำนวน 3 แห่ง
รวมมูลค่า 23,427,100 บาทและรถยนต์ 2 คัน รวมมูลค่า 4,750,000 บาท
4.ทรัพย์สินที่อยู่ในชื่อบุคคลอื่น ประกอบด้วย เงินฝากในสหกรณ์ออมทรัพย์ จำนวน 1 บัญชี
เป็นเงิน 27,720,000 บาท และที่ดิน 4 แปลง รวมมูลค่า 3,400,000 บาท
ส่วนเงินที่เหลืออีกจำนวน 28,223,637 บาท เป็นการทำธุรกรรมโดยเงินสด
ไม่สามารถติดตามได้ เนื่องจากถูกจำหน่ายจ่ายโอนไปแล้ว
นายวรวิทย์กล่าวว่า ส่วนรายละเอียดทรัพย์สินที่คณะกรรมการป.ป.ช.สั่งยึด
กรณีอ้างมาจากกงสีทางคณะกรรมการป.ปช.มีมติกรณีพล.อ.เสถียร อ้างว่า
ได้ทรัพย์สินรายได้มาจากการจำหน่ายพระเครื่องตั้งแต่เมื่อปี2550- 2555
รวมทั้งไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มีกำไร 49 ล้าน รวมรายได้ที่เป็นกงสีจำนวน 238
โดยป.ป.ช. มีมติให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน 182 ล้านบาท
กลุ่มที่2 ที่อ้างว่าได้มาจากการขายที่ดินให้กับบริษัทสยามโกลบอลเฮ้าท์ นั้น
ได้ตรวจสอบพบว่า ก่อนที่จะดำเนินการขายที่ดินให้บริษัทดังกล่าวภรรยา
ได้ไปซื้อที่ดินจากธนาคารกรุงเทพ ในราคา 15 ล้านบาท
แต่ไม่สามารถชี้แจงที่มาของเงินที่นำไปซื้อได้ ซึ่งทรัพย์สินที่ได้จากดอกผลเป็นทรัพย์สิน
ที่ได้มาจากการร่ำรวยผิดปกติทั้งหมด ซึ่งได้ยึดทรัพย์สินเป็นจำนวน 106 ล้านบาท
นายวรวิทย์กล่าวว่า กลุ่มที่ 3 พล.อ.เสถียร อ้างว่าเป็นบัญชีของเพื่อเตรียมทหารรุ่น 11 ที่นำมาฝากไว้
และบัญชีของจปร.รุ่น 22 รวมทั้งวปอ.รุ่น 48 ซึ่งจาการตรวจสอบมีที่มาจากบัญชีเดิมอยู่แล้ว
คณะกรรมการป.ป.ช.จึงเห็นว่าสามารถชี้แจงที่มาของเงินได้
จึงเป็นทรัพย์สินที่มาโดยชอบ ส่วนกลุ่มที่เป็นเงินฝากของนางณิชาพัฒน์
คณะกรรมการป.ป.ช.วินิจฉัยว่า ให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน มูลค่า 6,900,000 บาท