ไม่ใช่เรื่องฉี่ครับ แต่เป็นเรื่องเมาแล้วหาเรื่องผู้อื่น ไม่พอใจที่โดนต่อว่าอันเนื่องจากความมักง่ายของตนเอง... เรื่องฉี่นั่นจบเรื่องไปแล้วตั้งแต่โดนต่อว่า และแยกย้ายกันฝ่ายหนึ่งเดิน อีกฝ่ายหนึ่งขับรถไปกันคนละทางแล้วครับ...
เรื่องจอดรถขวางหน้าบ้านในซอยหมู่บ้านทาวน์เฮ้าส์นี่ก็เหมือนกัน... มีปัญญาซื้อรถยนต์ แต่ไม่มีปัญญาหาที่จอด ต้องจอดขวางหน้าบ้านคนอื่น จะเข้าจะออกก็ลำบาก, ทะเลาะยิงกันมาแล้วแยะ(นี่ยังไม่นับเรื่องหมาๆ จูงหมาขี้ใส่หน้าบ้านคนอื่น)...
สรุปว่าคนมักง่ายมันแยะครับ... โง่ทั้งนั้น อยู่ดีๆก็ไปเบียดเบียนผู้อื่นให้มันเกิดเรื่อง...
เริ่มต่นทำงานก็ซื้อทาวเฮาส์ เจอแต่รถชาวบ้าน กับอึหมาคนอื่น ไปขอร้องก็เจอนักเลงใส่อีก ยอมทนเป็นหนี้ หนีออกมาซื้อบ้านเดี่ยว สบายใจอยู่หลายปี แต่หนีไม่พ้นเรื่องอึหมากับรถยนต์คันแรกที่เจ้าของมักงายอีกแล้ว คราวนี้หนีมาอยู่หมู่บ้านที่แต่ละหลังมีขนาดที่ดินไร่กว่าๆ มี รปภ.มาคอยแปะใบสั่งรถยนต์ที่จอดทิ้งบนถนนโครงการไม่ยอมเข้าบ้าน ดูซิว่ามันจะสุขสบายใจไปได้แค่ไหน เงินคงไม่สามารถเป็นเครื่องมือความรับผิดชอบและจิตสาธารณะของตนได้ แต่เงินซื้ออาณาเขตไม่ให้คนไร้สำนึกรับผิดชอบเข้ามาใกล้ตัวเราได้ครับ แบบนี้ยอมเป็นหนี้อีกสิบปียังดีกว่า
มีเงินแยะๆแล้วดีเอง... ฮา...
สมัยก่อนนายสมชายยังอายุน้อยก็อยากเก่ง อยากขึ้นชื่อในองค์กร อยากมีหน้ามีตา อยากมีตำแหน่งสูงขึ้น ฯลฯ เพราะคิดไปว่าหากได้สิ่งที่ว่ามานั้นจะทำให้ก้าวหน้าในหน้าที่ราชการ แล้วในที่สุดก็จะได้เงินแยะๆ ชีวิตมีความสุข... แต่ตอนหลังฉลาดขึ้น ค้นพบว่าหาเงินตรงๆ ดื้อๆ มันง่ายกว่าพยายามเก่ง... ฮา...