เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 27, 2024, 09:35:14 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 28 29 30 [31] 32 33 34 ... 49
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มาดูกันว่า ราคายางพารา 55 บาท ชาวสวนยางจะอยู่กันได้หรือไม่ ???  (อ่าน 68346 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 25 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
INTERCEPTER - รักในหลวง
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 155
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 871


ไปช้าๆ.... มองโลกได้เยอะขึ้น


« ตอบ #450 เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2014, 07:49:58 PM »

ดูข่าวเมื่อสักครู่ เห็นว่า สกย. ส่งเสริมให้ปลูกพันธุ์ ๒๕๑ ทดแทนพันธุ์ ๖๐ ที่นิยมปลูกกันทั่วไป และแนะนำให้ใช้เทคนิคการติดตาในถุง ครับ ไม่ทราบว่าชาวสวนมีความเห็นว่าอย่างไรบ้างครับ


251 ระยะยาวยังไม่รู้ครับ  .... แต่ตอนนี้ที่มีกรีดได้  น้ำยางออกเยอะพอสมควร   

พันธ์ 600 ถ้าจะให้ดี  ต้องมีเมล็ดพันธ์ที่เป็นยางโบราณ (ยางพาราชุดแรกๆที่ปลูกในไทย)ปลูกในแปลงแล้วค่อยติดตาครับ  ทนโรค โตเร็วพอสมควร

ถ้าซื้อยางชำถุงที่ทำขายกันตอนนี้ ไม่รู้เป็นยังไง ปลูกแล้วไม่ค่อยโต  ตายง่าย (ผมได้เมล็ดมาจากตราด   ต้นยางอายุเกือบ 60 ปี  กรีดมาตั้งแต่พ่อยันลูก)
บันทึกการเข้า
Pandanus
Hero Member
*****

คะแนน 6378
ออฟไลน์

กระทู้: 40175


เรื่องบังเอิญไม่มีจริง


« ตอบ #451 เมื่อ: กรกฎาคม 22, 2014, 09:28:53 PM »

เลี่ยง ๒๕๑ ในพื้นที่ลมกระโชกแรง  และพื้นที่เนินเขาที่ความชื้นในดินต่ำ ๆ นอกนั้นก็ เยี่ยมครับ

อ้อ ยางเล็ก ๆ พันธุ์นี้ ให้ปุ๋ยหนักตัวหลังนิดนึงนะครับ เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้ลำต้น

เพราะมันโตเร็วมาก เสียจนเนื้อไม้แข็งไม่พอ ทำให้หักโค่นง่ายเวลาเจอลม



ส่วนหกร้อย  ๖๐๐ จะเป็นมาเลย์หรือยอดดำ หรือดั้งเดิมที่เรียก หกร้อยต้นดำ

ตอนนี้หาสายพันธุ์ที่สู้ไฟธอปเทอร่าได้ ยากเต็มทีแล้วครับ  สวนไหนสวนนั้น ลุกลามเอาไม่อยู่กันเลย

แล้วไม่เข้าใจ เขาทู่ซี้ปลูกกันทำไม ในเมื่อน้ำยางแทบจะแพ้พันธุ์อื่นหลุดลุ่ย

มีดีอย่างเดียว เนื้อไม้น้ำหนักดีกว่าเขา แถมลำต้นสวยด้วย


ส่วนเรื่องต้นตอที่มาจากเมล็ดพันธุ์ยางโบราณนั้น ที่นี่ก็มีความเชื่อเช่นนั้นเหมือนกัน

โดยนิยมเว้นต้นยางพาราที่ไม่ได้ติดตาเอาไว้สักต้น ดูแลรักษาโคนยางไม่ให้รกเรื้อเป็นเชื้อให้โรคก่อตัว

เอาไว้ร่มเงาและเก็บเมล็ดอย่างเดียวเลย ไม่กรีด(เพราะกรีดไปก็ให้น้ำยางต่ำ)

กับอีกความเชื่อ คือ เอาเมล็ดพันธุ์ของยาง พันธุ์ PB311 พันธุ์นี้เก่าแก่เชียวแหละ ร่วม ๆ ห้าสิบปีแล้ว

ผมก็มีดั้งเดิมกับเขาอยู่สวนหนึ่งด้วย เกือบสี่สิบปีแล้ว  นัยว่า ระบบรากดี ไม่โค่นล้มง่ายแถมหากินเก่ง อดน้ำก็ไม่เดือดร้อน

ซึ่งผมก็เห็นด้วย เพราะอยู่กับยางสวนนี้มาร่วมยี่สิบปีแล้ว ตั้งแต่รับช่วงมาจากพ่อ

แล้งแค่ไหนก็ไม่เห็นมันจะเป็นอะไร ทั้ง ๆ ที่ปลูกบนเขาด้วยซ้ำ
บันทึกการเข้า
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #452 เมื่อ: กรกฎาคม 23, 2014, 01:18:50 AM »

ไม่ใช่ไรครับ ที่เล่าเรื่องค่าเงินบาท ผมเล่นทองไว้ แต่เงินบาทแข็งมาก จากกำไรหลายหมื่น ตอนนี้จะถึงทุนแล้ว ขาดทุนจากค่าเงินบาทๆละหลายร้อยเลย  หัวเราะร่าน้ำตาริน
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #453 เมื่อ: สิงหาคม 01, 2014, 09:31:52 PM »

เห็นได้ข่าวว่าจะขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการอีก แล้วชาวสวนและแรงงานภาคเกษตรสวนยางพาราละ มีอะไรออกมาช่วยเหลือกันแล้วบ้างครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #454 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 07:55:23 AM »


เห็นได้ข่าวว่า   จะขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการอีก
แล้วชาวสวน  และแรงงานภาคเกษตรสวนยางพาราละ
มีอะไรออกมาช่วยเหลือกันแล้วบ้างครับ




55555  เรื่องนี้  " หลิ่ม " ม่ะอยากยุ่ง อ่ะ ฮา 55555 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #455 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 08:16:10 AM »

555555  คุณสมชาย จะเอา  " เงิน " ที่ไหนมาอุ้ม อ่ะ ฮา 5555

เงิน  สอง ล้านล้าน   ได้  " รถไฟความเร็วสูง " วิ่งเร็ว  สองร้อยกว่า กิโล / ชั่วโมง  ฮา
แต่ท่าน  ตั้งงบ  "  รางคู่ "   สองจุดสี่  ล้านๆ   วิ่งเร็ว  ร้อยกว่าๆ กิโล  / ชั่วโมง  ฮา

แล้วอย่างนี้  ลุง  " ไข่มุก "  ไม่บอกให้ ทำถนนลาดยาง  ก่อนเร๊อะ อ่ะ ฮา

ปีหน้า  ส่งออก   " เอวัง "  อ่ะ ฮา 55555
โดน  ตัด  " จี เอส พี "  ส่งออกโดนภาษี ขาเข้า 30 % จาก เดิม 10 % ฮา
โรงงาน  ต่างๆ  วางแผน  " ย้าย " จากเมืองไทย ไปประเทศเพื่อนบ้านแล้วอ่ะ ฮา

5555555  ปรี๊ด ๆ  " กำนัน "  ช่วยหน่อยเร้ว  อ่ะ ฮา 55555 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #456 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 08:19:06 AM »


เห็นได้ข่าวว่า   จะขึ้นเงินเดือนให้ข้าราชการอีก
แล้วชาวสวน  และแรงงานภาคเกษตรสวนยางพาราละ
มีอะไรออกมาช่วยเหลือกันแล้วบ้างครับ




55555  เรื่องนี้  " หลิ่ม " ม่ะอยากยุ่ง อ่ะ ฮา 55555 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก





โห อุตส่าห์เข้ามาบวกให้ยายแต้มนึง สักนิดเถอะครับยาย พอเป็นกระษัยครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #457 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 08:20:14 AM »

555555  คุณสมชาย จะเอา  " เงิน " ที่ไหนมาอุ้ม อ่ะ ฮา 5555

เงิน  สอง ล้านล้าน   ได้  " รถไฟความเร็วสูง " วิ่งเร็ว  สองร้อยกว่า กิโล / ชั่วโมง  ฮา
แต่ท่าน  ตั้งงบ  "  รางคู่ "   สองจุดสี่  ล้านๆ   วิ่งเร็ว  ร้อยกว่าๆ กิโล  / ชั่วโมง  ฮา

แล้วอย่างนี้  ลุง  " ไข่มุก "  ไม่บอกให้ ทำถนนลาดยาง  ก่อนเร๊อะ อ่ะ ฮา

ปีหน้า  ส่งออก   " เอวัง "  อ่ะ ฮา 55555
โดน  ตัด  " จี เอส พี "  ส่งออกโดนภาษี ขาเข้า 30 % จาก เดิม 10 % ฮา
โรงงาน  ต่างๆ  วางแผน  " ย้าย " จากเมืองไทย ไปประเทศเพื่อนบ้านแล้วอ่ะ ฮา

5555555  ปรี๊ด ๆ  " กำนัน "  ช่วยหน่อยเร้ว  อ่ะ ฮา 55555 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก



ลาสิกขากลางพรรษาเห้นท่าจะลำบากครับ ถ้าไม่หนักหนาจริงครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #458 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 08:31:47 AM »

 นายเซ็ทซึโอะ อิอุจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นประจำกรุงเทพ
(Japan External Trade Organization,Bangkok : JETRO Bangkok)

 ระบุว่า ไทยอาจไม่เป็นประเทศที่น่าสนใจในการลงทุนเหมือนที่ผ่านมาในสายตาของนักลงทุนญี่ปุ่น
โดยได้แสดงทรรศนะถึง “จุดอ่อน” ของคนไทยไว้ 10 ข้อ คือ

1 . คนไทยรู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก โดยเฉพาะ หน้าที่ต่อสังคม
คือ เป็นประเภทมือใครยาวสาวได้สาวเอา เกิดเป็น ธุรกิจการเมือง ธุรกิจราชการ
ธุรกิจการศึกษา ทำให้ประเทศชาติล้าหลังไปเรื่อยๆ

2. การศึกษายังไม่ทันสมัย คนไทยจะเก่งแต่ภาษาของตัวเอง
ทำให้ขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างชาติในเวทีต่างๆ ไม่กล้าแสดงออก
ขี้อายไม่มั่นใจในตัวเอง เราจึงตามหลังชาติอื่น
จะเห็นว่าคนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอกเพื่อโอกาสที่ดีกว่า

3. มองอนาคตไม่เป็น คนไทยมากกว่า 70% ทำงานแบบไร้อนาคตทำแบบวันต่อวัน
แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ น้อยคนนักที่จะทำงานแบบเป็นระบบ เป็นขั้นเป็นตอน
มีเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจน

4. ไม่จริงจังในความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ทำแบบผักชีโรยหน้า หรือทำด้วยความเกรงใจ
ต่างกับคนญี่ปุ่นหรือยุโรปที่จะให้ความสำคัญกับสัญญาหรือข้อตกลงอย่างเคร่งครัด
เพราะหมายถึง ความเชื่อถือในระยะยาว ปัจจุบันคนไทยถูกลดเครดิตความน่าเชื่อถือด้านนี้ลงเรื่อยๆ

5. การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่ ประชากรประมาณ 60-70%
ที่อยู่ห่างไกลจะขาดโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเองและชุมชน
ซึ่งเป็น หน้าที่ของภาครัฐที่ต้องส่งเสริม

6. การบังคับกฎหมายไม่เข้มแข็ง และดำเนินการไม่ต่อเนื่อง ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก
ปราบปรามไม่จริงจัง การดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำนาจหรือบริวาร
จะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อน ไม่มีมาตรฐาน ต่างกับประเทศที่เจริญแล้ว
ข้อนี้กระบวนการยุติธรรมจะต้องปรับปรุง

7. อิจฉาตาร้อน สังคมไทยไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษ เลี้ยงเป็นศรีธนญชัย
ยกย่องคนมีอำนาจ มีเงิน โดยไม่สนใจภูมิหลัง โดยเฉพาะคนที่ล้มบนฟูก
แล้วไปเกาะผู้มีอำนาจ เอาตัวรอด คนพวกนี้ร้ายยิ่งกว่า ผู้ก่อการร้าย ดีแต่พูด
มือไม่พายเอาเท้ารานํ้า ทำให้คนดีไม่กล้าเข้ามาเพราะกลัวเปลืองตัว

8. เอ็นจีโอค้านลูกเดียว เอ็น จีโอ บางกลุ่มอิงอยู่กับผลประโยชน์ เอ็นจีโอดีๆก็มี
แต่บ้านเรามีน้อย บ่อยครั้งที่ประเทศเราเสียโอกาสอย่างมหาศาล
เพราะการค้านหัวชนฝา เหตุผลจริงๆ ไม่ได้พูดกัน

9. ยังไม่พร้อมในเวทีโลก การสร้างความน่าเชื่อถือในเวทีการค้าระดับโลกของเรา
ยังขาดทักษะและทีม เวิร์คที่ดี ทำให้สู้ประเทศเล็กๆ อย่างสิงคโปร์ไม่ได้

10. เลี้ยงลูกไม่เป็น ปัจจุบัน เด็กไทยขาดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกันเป็นขี้โรคทางจิตใจ
ไม่เข้มแข็ง เพราะเราเลี้ยงลูกแบบไข่ในหิน ไม่สอนให้ลูกช่วยตัวเอง ต่างกับชาติที่เจริญแล้ว
 เขาจะกระตือรือร้นช่วยตนเองขวนขวาย แสวงหา ค้นหาตัวเอง
และเขาจะสอนให้สำนึกรับผิดชอบต่อสังคม

เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เห็นทีคนไทยต้องกลับมาพิจารณาตนเองอีกครั้ง
แล้วเร่ง “กำจัดจุดอ่อน” โดยด่วน!!
ก่อนที่โอกาสที่มีอยู่จะหลุดลอยไปอย่างไม่มีวันหวนกลับคืน..
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #459 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 09:11:00 AM »

5555  ในอนาคต  ถ้า  " ประเทศไทย " มีความจำเป็นต้อง กู้เงินจากต่างประเทศ ฮา

เราจะพบปัญหา  คือ  เขา  " ไม่ให้กู้ "  หรือ  จะโดน อัตราดอกเบี้ย  ที่สูงขึ้น อ่ะ ฮา 5555  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก

555555    " กำ "  มั้ย  ท่านผู้ชม  อ่ะ ฮา 55555  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก



http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05qY3pORFF6TXc9PQ%3D%3D&sectionid

เสียงเตือน"มูดี้ส์"ถึงคสช.

ทวี มีเงิน

สัปดาห์ ที่แล้วมีข่าวที่หลายคนอาจมองผ่านๆ กรณีที่ "มูดี้ส์อินเวสเตอร์เซอร์วิส"
บริษัทจัดอันดับเครดิตชื่อดังส่งสัญญาณให้ไทยต้องเร่งปฏิรูปเศรษฐกิจเร่ง ด่วน
เพราะที่ผ่านมาอัตรา "จีดีพี" ของไทยอยู่ในระดับ 2-3% โดยเฉลี่ย ซึ่งอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องกันมาหลายปี

เมื่อเอ่ยถึงชื่อ "มูดี้ส์" ทีไรคนไทยจะขวัญผวา ยังไม่ลืมความทรงจำเก่าๆ
เมื่อก่อนวิกฤตต้มยำกุ้ง มูดี้ส์ตัวดีนี่แหละที่ออกมาลดเครดิตไทยทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น
เจ้าหนี้ไล่บี้ทวงหนี้คืนกันจ้าละหวั่น เพราะสัญญาณจากมูดี้ส์สะท้อนว่าเศรษฐกิจไทยมีปัญหา

แต่คราว นี้มาแปลก จู่ๆ ก็ออกมาขู่ว่าจะ "ปรับลดอันดับเครดิตลง"
ในจังหวะเวลาที่ "คสช." เพิ่งเข้ามาทำงานและประกาศปฏิรูปเศรษฐกิจ
ทั้งที่โดยธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมาหาก "มูดี้ส์" จะลดเครดิตใครจะต้องมีขั้นตอน
จะต้องทำรายงาน หรือ "Economic Outlook" ออกมาก่อนเท่ากับแจ้งเตือนล่วงหน้า
โดยจะวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจล่าสุดเป็นอย่างไร
จะต้องทำอย่างไร ถ้าไม่ดีขึ้นจึงจะปรับลดเครดิต

ไม่รู้ว่าอารมณ์ของมูดี้ส์จะเหมือนรัฐบาลสหรัฐหรือเปล่า
ที่ไม่เอารัฐประหารก็เลยออกมาขู่ให้ไข้ขึ้นเล่นๆ

อัน ที่จริงก็ไม่น่าจะต้องวิตกกังวลอะไรกับคำขู่ของมูดี้ส์
สถานะประเทศไทยวันนี้กับก่อนวิกฤตต้มยำกุ้งต่างกันราวหน้ามือกับหลังมือ
ในช่วงก่อนวิกฤตต้มยำกุ้งที่โดน "ลดเครดิต" มีผลอย่างมาก
เพราะตอนนั้นไทยมีหนี้ต่างประเทศสูงมาก

การลดอันดับเครดิตมีผลต่อการกู้เงินจะต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงขึ้น
เจ้าหนี้จะให้กู้หรือเรียกเงินคืนก็จะดูว่าอันดับเครดิตเราเป็นอย่างไร
เจ้าหนี้จะยึดเอาการจัดอันดับเครดิตในการตัดสินใจ

ทุกวันนี้ไทยมีหนี้ต่างประเทศน้อยมาก คำขู่ของมูดี้ส์จึงไม่มีผลโดยตรง

แต่ น่ากลัวตรงผลข้างเคียง ซึ่งบรรดานักลงทุนโดยตรงที่จะเข้ามาลงทุนจริงๆ
บางรายรู้จักเมืองไทยน้อย หรืออ่านข่าวจากสื่อต่างประเทศอย่างเดียวก็อาจจะหวั่นไหวไปบ้าง

ส่วน การปฏิรูปเศรษฐกิจเป็นเรื่องที่ คสช.หรือรัฐบาลชุดใหม่จะต้องเดินหน้า
คนไทยก็เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่กลัวถูกลดเครดิต
แต่มันเป็นความเป็นความตายของเศรษฐกิจไทยเลยทีเดียว
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #460 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 09:40:50 AM »

 https://www.moodys.com/research/Moodys-Political-polarization-pressures-Thailands-competitiveness--PR_304862


Announcement:
Moody's: Political polarization pressures Thailand's competitiveness
Global Credit Research - 24 Jul 2014

Singapore, July 24, 2014 -- Moody's Investors Service says that
deep political polarization in Thailand (Baa1 stable) since 2006
is adding to structural challenges to the country's competitiveness,
and that reform delays could eventually negatively affect the sovereign's credit profile,
which has largely remained immune to the country's political disturbances.

Specifically, Moody's views that the coup d'état of May 2014 has likely,
for now, put a floor on deteriorating consumer and investor confidence.
But progress in structural economic reform likely hinges on reduced political uncertainty,
otherwise competitiveness and economic growth would further erode over the medium term.

Moody's analysis was contained in its just-released report
"Thailand: Political Polarization Adds to Structural Competitiveness Issues".

As Moody's report points out, Thailand's diversified and competitive economy
is a credit strength for the sovereign's Baa1 government bond rating.

Moody's .sment of the country's economic strength is supported
by the competitiveness of its manufacturing sector.

The sophisticated manufacturing base has helped Thailand fend off
homemade political as well as external and domestic economic shocks.

Furthermore, growth has remained resilient
during the politically turbulent periods in 2006, 2008, and 2010.

However, Thailand's trend growth has slowed sharply since late 2013.
And anti-government protests between November 2013 and May 2014
 have negatively affected new investments
and the implementation of long-term structural economic policy measures.

Thailand's lead over regional competitors has also been eroding
since the 2006 coup d'état. Moody's states that challenges to the country's
competitiveness are seen in rising labor costs, and structural factors,
such as demographic changes and a falling public investment ratio.

In addition, Thailand's scores in the Global Competitiveness Index
have weakened since 2006, whereas regional competitors,
 like Indonesia (Baa3 stable) and the Philippines (Baa3 positive) have been catching up.

Moody's report states that the experience during the recent period
of political unrest has shown that Thailand's sovereign credit profile
 has remained largely immune to the episodes of political disturbances
since the 2006 coup. Nonetheless, improved political stability would likely provide
a more favorable environment for foreign and domestic private investment,
which in turn is needed to complement public investment.

However, Moody's notes that this will also most likely mean further delays to,
or only partial implementation of structural reforms. In addition,
 if this was to translate into multiple years of below trend growth,
this could eventually be negative for Thailand's sovereign credit profile.
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #461 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 11:45:12 AM »

แค่ดันโปรเจครถไฟสามล้านล้านและขยายสนามบินให้เต็มเสียทีคนก็แห่กันมาแล้ว
บันทึกการเข้า
lek
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1594
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 13942


การแบ่งปัน ทำให้เราและคนอื่นมีความสุข


« ตอบ #462 เมื่อ: สิงหาคม 02, 2014, 11:57:43 AM »

กระตุ้นอะไรมากมาย  ยุคป๋าลดค่าเงินไปแบบช้าๆสุดท้ายก็ไปได้สวย   ตอนนี้ไปดูเวปพวกขายหนี้เสียคอนโดคอนด้อม บ้านที่ดินเหลือบานเบอะ  รอให้ยึดอีกตั้งเยอะคนเราอยากรวยก็จำเป็นแหละ  เขาถึงเตือนการลงทุนมีความเสียวไง Grin  อย่าคิดมากน่าเวลารวยก็รวยเวลาเจ๊งก็ขายถูกๆ ไปดูคนรวยกว่าเขาจะรวยมาแทบล้มแทบตาย  บางคนว่าข้ากินเกลือมามากกว่าเอ็งกินข้าว  มันไม่ง่ายเหมือนเจนี่คิดหรอก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 02, 2014, 12:00:59 PM โดย lek » บันทึกการเข้า

มีความสุขแบบที่เรามีก็พอhttp://www.gunsandgames.com/smf/index.php?board=29.0  (รวมพลคนอีสาน)
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #463 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2014, 05:59:42 PM »

ยางราคาร่วง ทุบกำลังซื้อทรุด ลุ้นคสช.ทุ่ม3หมื่นล.อุ้มชาวสวน


updated: 21 ส.ค. 2557 เวลา 12:38:12 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ราคายางพาราร่วงไม่หยุด พ่อค้า-ชาวสวน-สหกรณ์ยางขาดทุนยับ รายได้หาย กำลังซื้อทรุดหนักลามกระทบยอดขายสินค้า รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ด้าน 2 แบงก์รัฐ "ธ.ก.ส.-ออมสิน" รับลูกพร้อมปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำช่วยซื้อยางเก็บ-เสริมสภาพคล่องสหกรณ์ โรงงานแปรรูป วงเงินรวม 3 หมื่นล้าน ด้านกรมส่งเสริมสหกรณ์ชง คสช. เร่งเคาะแผนอุ้มอุตฯยางทั้งระบบ 26 ส.ค.นี้

แหล่งข่าวจากนัก วิชาการยางพาราเปิดเผย"ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ราคายางพาราตกต่ำหนักสุด ราคายางแผ่นรมควันชั้นสาม เฉลี่ยอยู่ที่ 55.19 บาท/กก. ขณะที่ราคาต้นทุนการผลิตของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรอยู่ที่ 64.14 บาท/กก. ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางขาดทุน 9-10 บาท/กิโลกรัม ซึ่งไทยมีผลผลิตยางพารา 4.2 ล้านตันเท่ากับเงินหายไปจากระบบ 4 แสนล้านบาทในปีนี้ หรือรายได้ชาวสวนยางหายไปกว่า 3,000 ล้านบาท/เดือน ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อและยอดขายสินค้าอื่น ๆ ด้วย

นายสมพร ดียวง ผู้จัดการสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านพรุนายขาว จำกัด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กล่าวว่า ราคายางพาราวิกฤตหนักไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำให้สหกรณ์ชาวสวนยางพาราเจอปัญหาขาดทุนมา 5 เดือนแล้ว (เม.ย.-ส.ค.) โดยขาดทุนไม่ต่ำกว่า 22 ล้านบาท จากทั้งหมด 45 สหกรณ์ในจังหวัดพัทลุง

กำลังซื้อทรุด-ยึดรถคืน

นาย เจตน์ เกตุจำนงค์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดบึงกาฬ เปิดเผยว่า บึงกาฬมีพื้นที่ปลูกยางพารา 8 แสนไร่ มากที่สุดในภาคอีสาน ให้ผลผลิตได้แล้ว 60% ของพื้นที่ ผลิตน้ำยางได้ 1 หมื่นตัน/ปีสร้างรายได้ 1.2 หมื่นล้านบาท/ปี ขณะนี้เกษตรกรกำลังประสบปัญหาราคาตกต่ำอย่างหนัก ส่วนใหญ่จะผลิตยางก้อนถ้วยราคาลดลงเหลือ 20-24 บาท/กิโลกรัม จากเมื่อปี 2556 อยู่ที่ 35 บาท/กก. ส่วนยางแผ่นรมควัน ราคาลดลงเหลือ 30-35 บาท/กก.จากเมื่อปีที่แล้ว 60 บาท/กก.

ราคายางพาราที่ตกต่ำได้ส่งผล ต่อกำลังซื้อของประชาชนลดลงอย่างชัดเจน ตลาดสด ร้านอาหาร การค้าขายต่าง ๆ ภายในจังหวัดบึงกาฬไม่คึกคักเหมือนกับช่วงที่ยางราคาดี ภาคค้าปลีกค้าส่ง ยอดขายลดลง 40-50% ขณะที่เกษตรกรที่ผ่อนชำระรถยนต์มีโอกาสถูกยึดรถสูงมากเนื่องจากไม่สามารถ จ่ายค่างวดได้ตามกำหนด

สอดคล้องกับนายวิฑูรย์ คู่พันธุ์ทวี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท พิธานพาณิชย์ จำกัด ผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าภาคใต้ตอนล่าง เปิดเผยว่า ภาวะราคายางพาราถดถอยลงเป็นปีที่ 3 ทำให้กำลังซื้อหดหายไป เกิดภาวะเงินฝืด สินค้าที่กระทบหนักที่สุดคือ หมวดสินค้าคงทน เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสินค้าทั่วไป"ปีนี้ยอดขายรถจักรยานยนต์ รถปิกอัพในภาพรวมหายไป 30% มีการคืนรถและปล่อยให้ถูกยึดมากขึ้น แม้ว่าจะมีการยืดเวลาผ่อนชำระ และลดวงเงินผ่อนชำระแล้ว" สั่ง 2 แบงก์รัฐปล่อย 3 หมื่นล้าน


แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่าตาม ที่คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติ (กนย.) ที่มี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เป็นประธาน ได้มีมติแก้ปัญหายางพาราทั้งระบบนั้น มาตรการหนึ่งที่มอบหมายให้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ 2 แห่ง ให้การสนับสนุนสินเชื่อวงเงิน 30,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องแก่สหกรณ์การเกษตรและผู้ประกอบการในการรวบรวมผลิต และการแปรรูปผลผลิตทั้งนี้ วงเงินสินเชื่อ 3 หมื่นล้านบาท จะแบ่งเป็นของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 15,000 ล้านบาทและธนาคารออมสินอีก 15,000 ล้านบาท ซึ่ง คสช.จะอุดหนุนดอกเบี้ยให้ 3%

ธ.ก.ส.ปล่อยกู้ 3 โครงการ

ด้านนายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การให้สินเชื่อเพื่อแก้ปัญหายางพาราตามที่ กนย.เสนอ ไม่ได้เป็นการแทรกแซงราคายางในตลาด แต่เป็นการเติมสภาพคล่อง และจะทำควบคู่ไปกับการปรับโครงสร้าง การวิจัยและพัฒนา สนับสนุนให้เกิดการบริโภคในประเทศมากขึ้น และลดซัพพลายที่ไม่มีประสิทธิภาพลง ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะให้สินเชื่อแก่สหกรณ์การเกษตรในการรวบรวม เก็บ จำหน่ายผลผลิต รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น การทำยางแท่งรมควัน ยางแห้ง ยางลูกขุน เป็นต้น ส่วนธนาคารออมสินจะให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่ต้องการเงินทุนสำหรับรับ ซื้อยางแหล่งข่าวจาก ธ.ก.ส.อีกรายกล่าวว่า สินเชื่อที่ ธ.ก.ส.จะดำเนินการ ได้แก่ 1)สินเชื่อเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนแก่สหกรณ์การเกษตร เพื่อรวบรวมผลผลิตแบบซื้อมาขายไป วงเงิน 10,000 ล้านบาท 2)สินเชื่อแก่สหกรณ์ที่ต้องการลงทุนซื้อเครื่องจักรสำหรับแปรรูปยางพารา วงเงิน 3,500 ล้านบาท และ 3)สินเชื่อเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนแก่สหกรณ์ที่รับซื้อผลผลิตมาแปรรูป เช่น ถุงมือยาง ยางแท่งรมควัน ยางคอมพาวนด์ วงเงิน 1,500 ล้านบาท

"สำหรับ การอุดหนุนดอกเบี้ยนั้นในส่วนของวงเงิน 10,000 ล้านบาท ที่เป็นแบบซื้อมาขายไปนั้น คสช.ให้คิดดอกเบี้ยจากสถาบันเกษตรกร 4% โดยรัฐจะชดเชยให้3% สหกรณ์เสียแค่ 1% ส่วนกรณีการแปรรูป เฉพาะที่เป็นทุนหมุนเวียน 1,500 ล้านบาท ให้คิด 4% เหมือนกัน ซึ่งรัฐจะอุดหนุน 3.99% และสหกรณ์เสียแค่ 0.01% มาตรการเหล่านี้จะเริ่มดำเนินการได้ทันที หลัง คสช.มีมติเห็นชอบ และ ธ.ก.ส.จะนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารภายในเดือน ส.ค.นี้" แหล่งข่าวกล่าว

ออมสินให้กู้รง.คาดดอก 2.875%

นาย ธัชพล กาญจนกูล รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า เบื้องต้นธนาคารอนุมัติในหลักการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ วงเงิน 15,000 ล้านบาท กับผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยางพารา เช่น ผู้ผลิตล้อรถยนต์ ถุงมือยาง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราในช่วงที่ราคายางตกต่ำ โดยคิดดอกเบี้ย 6.875% แต่ผู้ประกอบการจ่ายเพียง 2.875% ส่วนอีก 4% กระทรวงการคลังจะตั้งงบประมาณมาชดเชยให้ แต่รายละเอียดต้องรอเข้าที่ประชุม คสช.อีกครั้ง คาดว่าจะปล่อยสินเชื่อได้ภายในไตรมาส 3 นี้ด้านนายวินัย กสิรักษ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า สินเชื่อ ธ.ก.ส. 1.5 หมื่นล้านนั้น แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.สินเชื่อเพื่อสร้างหรือปรับปรุงโรงงานแปรรูปยาง 5 พันล้านบาท และสินเชื่อเพื่อการรวบรวมยางและเสริมสภาพคล่อง 1 หมื่นล้านบาท ใช้เพื่อเสริมสภาพคล่องธุรกิจรวบรวมยางของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร 723 แห่ง ซึ่งปกติมีกำลังรวบรวมยางได้ 7 แสนตัน/ปี โดยจะช่วยชะลอยางไม่ให้ตกสู่มือพ่อค้าคนกลางทันที และช่วยพยุงราคาไว้ได้ โดยสินเชื่อนี้มีกรอบระยะเวลาจ่ายคืน 1 ปี ขณะนี้มีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรแจ้งความประสงค์กู้สินเชื่อมาแล้ว 245 แห่งนายวินัยเปิดเผยอีกว่า การคัดเลือกสหกรณ์และผู้ที่จะได้รับสินเชื่อทั้ง 2 กลุ่มนี้ เกณฑ์การคัดเลือกเบื้องต้นจะพิจารณาจากแผนการตลาดและการสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งแผนงานทั้งหมดนี้ กระทรวงเกษตรฯจะเสนอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ หาก คสช.อนุมัติ จะดำเนินการได้ทันทีเดือน ก.ย.นี้

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1408599530
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #464 เมื่อ: สิงหาคม 21, 2014, 06:24:54 PM »

ลดได้ลดไป มีโอกาสเมื่อไหร่ผมก็จะซื้อสวนยางอีกครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
หน้า: 1 ... 28 29 30 [31] 32 33 34 ... 49
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.104 วินาที กับ 22 คำสั่ง