นับเป็นข่าวดีมากเลยครับ ที่กระทรวงกลาโหมกำลังดำเนินถอดเสื้อเกราะออกจากบัญชียุทธภัณฑ์ควบคุม...
เพราะมันไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่เลยที่สุจริตชนจะหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายจากลูกปืนมาใช้ แล้วต้องผิดกฏหมายด้วย
เห็นด้วยในเรื่องที่คนดีจะหาอุปกรณ์ป้องกันตัวครับ... แต่ในทางกลับกัน... ถ้าคนร้ายหาเกราะดีๆ มาใช้... แล้วก่อคดีล่ะครับ... จำได้ว่าคนร้ายในอเมริกาใส่เสื้อเกราะเลเวลที่กันกระสุนปืนพกได้อย่างเด็ดขาด... ดวลกับตำรวจทั้งโรงพัก... ปืนพกที่เจ้าหน้าที่ใช้ม่สามารถหยุดคนร้ายได้ในทันทีครับ(เพราะยิงไปก็ดดนเสื้อเกราะ) จนเจ้าหน้าที่ต้องไปขอยืม AR-15 จากร้านขายอาวุธปืนในละแวกนั้น(ถ้าข้อมูลผิดพลาดก็ขออภัยครับ) มาจัดการกับคนร้ายทั้งสอง... จึงสามารถสังหารคนร้ายทั้งสองได้... งานนั้นเจ้าหน้าที่ทั้งเจ็บและตายกันหลายนายครับ...
งานนั้นปืนที่ไปยืมจากร้านมาไม่ได้ใช้ครับ คนหนึ่งยิงตัวตายเสียก่อนหลังปืนอาก้าติดขัด
อีกคนหน่วยสวาทมาจัดการ จุดที่ยิงกลับเป็นเท้าที่ไม่ได้สวมเกราะ เพราะยิงลอดใต้ท้องรถ
แต่สงสัยว่าส่วนหัวไม่มีอะไรป้องกันเลย โดนกระหน่ำยิงแบบนั้นทั้งลูกซอง ปืนพก แต่ไม่เป็นอะไร ผมว่าโจรโชคดีมากๆเลยครับ
....
สำหรับเรื่องเสื้อเกราะ ก็น่าจะควรให้ประชาชนมีเสรีในการป้องกันตัวเองบ้างก็ดีเหมือนกันครับ
ตามจริงแล้วตร.เองก็มีไรเฟิลจู่โจมอยู่แล้วในสน.(HK33, FN FAL) อย่างสน.แถวบ้านผมมี HK33 ไม่ต่ำกว่า 20 กระบอก แต่ควรจะพัฒนาเพื่อต่อกรกับโจรร้ายในปัจจุบันมากขึ้นนะครับ