คันนี้เดิมเป็นเสือภูเขาคันที่ 3 แต่ก็นานหลายปีมาแล้ว แซะจากโรงรถมาแปลงร่างใส่ยางเล็กเป็นจักรยานทางเรียบ
เปลี่ยนชุดสเตอหน้าเป็นจานใหญ่ขึ้น นัยว่าทดสอบตัวเองก่อนว่าจะยังชอบอยู่ไหม
ดุมหลังเดิม 9 ชั้น ก็นับว่าเป็นเทคโนโลยีสูงสุดในยุคเมื่อเจ็ดปีก่อน
เอาเก็บไว้ในออฟฟิต ตอนเช้ามาทำาน ก่อนทำงานก็ปั่นรอบมหาลัยสักรอบ ช่างอากาศหนาวตอนปีใหม่ปั่นแทบไม่ออก
อาจารย์มาชวนก็ออกไปปั่นด้วย ปั่นไม่ทันเสือหมอบก็ไปเปลี่ยนสเตอหน้าใหญ่ อาจารย์ก็ไปซื้อคาร์บอนไฟเบอร์
ราคาเกือบสามแสนมา โยกทีปลิววืดๆ หมดปัญหาไล่ตาม เห็นทีจะต้องสั่งมาบ้างซะแล้ว
กำลังจะสั่งก็มีอันเป็นไป ทุกเที่ยงจะปั่นจักรยานไปโรงอาหารที่ห่างไปประมาณไม่ถึง 2 กิโลเมตร เป็นทางซีเมนต์สำหรับเดินลัด
มีขรุขระมีทราย มีหลุม ซึ่งไม่เหมาะกับยางทางเรียบเป็นอย่างมาก พอเข้าหน้าร้อนใบไม้ร่วงลงมามาก
เมื่อล้อทับตอนเลี้ยวก็จะมีอาการปัดไปปัดมาเป็นสนุกพอสมควร สไลด์ล้อเล่นมาหลายวันแล้วแต่ดวงยังดี มาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เรื่องเลย
ขาไปก็ล้อปัดไปปัดมาเหมือนเดิม ขากลับมีถุงข้าวถุงน้ำแข็งห้อยแฮนด์ ถึงโค้งตัวเอส หักซ้ายก็ลื่นใบไม้แห้งเหมือนเดิม แต่คราวนี้
โมเมนตั้มของถุงกับข้าวและน้ำแข็งพาล้อหน้าหลุดจากถนนลอยออกไปจากซีเมนต์ เมื่อล้อสัมผัสพื้นสนามหญ้าตัวจักรยานก็พับลงทันที
ผมเหยียดเท้าซ้ายไปข้างหน้ายันพื้นไว้ แต่ด้วยโมเมนตั้มร่างกายที่อ้วนฉุยังพุ่งต่อไป และสุดแรงขาที่อ่อนซ้อมการออกกำลังจะไม่มีแรงพอที่จะจะค้ำ
น้ำหนักตัว 83 กก.คูณกับความเร็วประมาณ 20 กม.ได้ ร่างผมจึงลอยข้างขาซ้ายตัวเองและร่วงหลุ่นโดยหันสีข้างซ้ายลงกระแทกขอบสัน
ขอบถนนทางเดินอย่างแรง ในพริบตาเดียวผมก็รู้สึกโหนกแก้มซ้ายฟาดลงมือซีเมนต์ดังแรงพอสมควร แต่ก็ผ่อนแรงลงมากเพราะคาดว่า
มือซ้ายคงค้ำช่วยไว้ก่อนทำให้ความแรงหน้ากระแทกพื้นจึงเบาลงมาก ดูได้จากข้อมือและกระดูกมือซ้ายนิ้วนางหัก
ความรู้สึกหลังจากกระแทกพื้นคือ จุก หายใจไม่ออก ผมกลั้นใจเบ่งลมปราณเพื่อสู้กับความจุกและลุกขึ้นทั้งที่ยังหายใจไม่ออก
มือซ้ายไม่สามารถใช้การได้ปกติ จึงใช้มือขวาจับคอจักรยานตั้งขึ้นเพื่อจะปั่นไปต่อ โดยยังไม่รู้ว่าเบาะนั่งเบี้ยวเสียรูปไปแล้ว
"อาจารย์ ๆ ไปหาหมอครับ" เสียงคนขับรถวิ่งมาพร้อมตะโกน "อาจารย์เลือดออกครับ" ผมใช้มือซ้ายป้ายไปที่บริเวณใบหน้า
พอเลื่อนมือลงก็เห็นเลือดติดเต็มมือ จึงทิ้งจักรยานไว้ตรงที่ล้ม และเดินไปขึ้นรถตู้ไปศูนย์แพทย์มหาลัย เข้าห้องฉุกเฉินล้างแผล
แทนอาหารเที่ยง ตอนจะนอนลำบากมากเพราะเจ็บชายโครงซ้าย ผมมารู้หลังจากล้างแผลพยาบาลบอกว่า เบ้าตาล่างซ้ายผมเป็นแผล
บาดลึกมาก ผมเดาว่าน่าจะเป็นเพราะแว่นกันแดด ซึ่งพอกลับมาที่ออฟฟิตก็นำแว่นออกมาดูมีเศษเนื้อติดที่กรอบแว่นจริงๆ
มันไม่ใช่แว่นสำหรับขี่จักรยาน
เป็นเพราะผมประมาทครับ ปกตินั่งเขียนโปรแกรมยังใส่หมวกกันน๊อก
แต่ช่วงนั้นใส่หมวกปีกสนามกันแดด ยังไม่เข็ดหรอกครับท่าน เดี๋ยวกระดูกต่อกันดีก็จะเอาอีก
กระดูกตรงนี้หักที่เดิมเป็นครั้งที่สองแล้วครับ