เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 20, 2024, 02:46:32 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: มวยปล้ำญีปุ่นสุดโหด ปล้ำกะตุ๊กตายาง.  (อ่าน 2747 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« เมื่อ: มีนาคม 06, 2014, 05:48:38 PM »

https://www.youtube.com/watch?v=rbaz4Sb9rxQ

 ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
bigbuffalo
Hero Member
*****

คะแนน 60
ออฟไลน์

กระทู้: 1389



« ตอบ #1 เมื่อ: มีนาคม 06, 2014, 07:37:06 PM »

สุดยอดความคิดสร้างสรรค์
บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #2 เมื่อ: มีนาคม 06, 2014, 08:50:16 PM »

ตลกดีแต่ติ๊งต๊อง ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: มีนาคม 06, 2014, 09:39:26 PM »

ตุ๊กตายางยังไม่เอาจริงครับ... ช่วง 2 นาทีกว่าๆ ที่ตุ๊กตายางล็อกคอเอาไว้แล้วเหวี่ยงเด้งเชือกฯ หากเอาจริงอีกฝ่ายหนึ่งโดนจับกดไหล่แนบพื้นนับ 3 ไปแล้วครับ...

จริงๆแล้วมนุษย์ต่างดาวอยู่ข้างในตุ๊กตายางฯ เพียงแต่มนุษย์ต่างดาวมันมี 8 ขาเหมือนปลาหมึกยักษ์ เลยต้องเอาตุ๊กตายางหุ้มเอาไว้... เรื่องนี้น้าซับรู้เรื่องดี เพียงแต่เก็บเป็นความลับเอาไว้หลอกลูกทัวร์พาไปญี่ปุ่นครับ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: มีนาคม 06, 2014, 09:48:29 PM »

นายสมชายทราบเรื่องนี้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว.. คือมันมีอีกคลิปนึงหลุดมาปล่อยบนยูทูป คลิปนั้นเมียของนักมวยปล้ำมานั่งขอบสนามอุ้มแมวมาด้วย, ตอนตุ๊กตายางกำลังจะชนะ แมวมันกระโดดขึ้นเวทีมาช่วยเจ้านาย เอาเล็บข่วนตุ๊กตายางฉีกขาด เห็นปลาหมึกยักษ์อยู่ข้างใน...

คลิปนี้ถูกคลาสซิฟายด์ความลับขั้นสุดยอด จากคำสั่งตัวโอบาม่าเองครับ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: มีนาคม 06, 2014, 10:01:44 PM »

ตัวมนุษย์ต่างดาวนี่ ลงมาบนพื้นโลกมนุษย์ได้ตั้งแต่ 200 กว่าปีมาแล้ว ลงมาครั้งแรกที่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา นั้นตรงกับสมัยปลายกรุงศรีอยุธยาของไทย แล้วชาวประมงทอดแหได้ เอาเลือดมนุษย์ต่างดาวไปให้ค้างคาวกิน แล้วให้ค้างคาวกัดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม... สัตว์นั้นมีชีวิตอมตะ!!!(มีไวรัสเปลี่ยนแปลงโครงสร้างไมโตคอนเดรีย) ทำให้มนุษย์ต่างดาวสายพันธุ์นี้เป็นที่ต้องการฯ แล้วมนุษย์ต่างดาวก็ถูกนำไปซ่อนในถ้ำ...

เราจะเห็นว่าช่วงเวลานั้นเกิดแวมไพร์ครั้งแรกที่ประเทศไทย พร้อมๆกับที่ US. แถวหลุยเซียน่า เพราะแวมไพร์ติดไปกับเรือสินค้า, ปัจจุบันนี้แวมไฟร์ยุคแรกของไทยก็ยังไม่ตาย และแฝงตัวควบคุมตระกูลเก่าแก่ของสังคมไทยอยู่... สำหรับในยุโรป กับ US. แวมไพร์ยุคเดียวกันนี่ก็ยังควบคุมระบบเศรษฐกิจของยุโรป+US. อยู่...

แต่ข้อมูลบางสายบอกว่าแวมไพร์ยุโรป+US.(คนยิว) ได้ไวรัสจากในถ้ำแถวทะเลทรายไม่ใช่ได้มาไวรัสจากแถบเอเซียตามที่เคยเชื่อกัน... เลยมีความคิดบางกระแสว่ามนุษย์ต่างดาวพวกนี้ลงมาบนโลกมนุษย์หลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะสมัยอีจิปต์ฯ ที่ทำให้เกิดวัฒนธรรมสร้างปิรามิดเพื่อเก็บมัมมี่!!!...

เรื่องนี้ต้องสอบถามรายละเอียดจากน้าซับครับ...
บันทึกการเข้า
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #6 เมื่อ: มีนาคม 06, 2014, 10:07:14 PM »

จอช โซรอสป่าวครับอาจารย์สมชาย 80กว่าแล้วยังมีเมียใหม่ หมอนี่เป็นพ่อมดการเงินโลกและเป็นยิว อิอิ

ค้าง+ครับ
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #7 เมื่อ: มีนาคม 06, 2014, 10:34:49 PM »

ไม่บอกไม่รู้นะเนี๊ย อ๋อย
บันทึกการเข้า

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: มีนาคม 07, 2014, 09:53:08 AM »

จอช โซรอสป่าวครับอาจารย์สมชาย 80กว่าแล้วยังมีเมียใหม่ หมอนี่เป็นพ่อมดการเงินโลกและเป็นยิว อิอิ

ค้าง+ครับ

โซรอสไม่ใช่ครับ เพราะแก่แล้ว... ส่วนมนุษย์พันธุ์อมตะไม่แก่ครับ ยกเว้นว่าเพิ่งยอมโดนไวรัสแพร่เชื้อใส่เอาตอนแก่ ก็จะหยุดแก่ครับ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: มีนาคม 07, 2014, 09:54:59 AM »

เรื่องนี้ไร้สาระนะครับ ไม่มีความจริงแม้แต่เสี้ยวเดียว... ฮา...

แต่ถ้าจะให้ดี ลองค้นเรื่องไมโตคอนเดรียนะครับ(Mitochondria - เป็นแหล่งพลังงานระดับเซลของสิ่งมีชีวิต)... ประเด็นของเรื่องก็คือสิ่งมีชิวิตทั้งหลายมี DNA เป็นของตัวเองชุดเดียว และซ่อมแซมอวัยวะที่ขาดหายไปไม่ได้, แต่ไมโตคอนเดรียมันมี DNA ของมันเองไม่เหมือนกับ DNA ของร่างกาย แล้วที่แสบที่สุดคือมันมี DNA แค่ครึ่งเดียว เหมือนกับเป็นชิ้นส่วนครึ่งเดียวที่รอประกอบให้เป็นรูปเต็ม เป็น DNA ชุดใหม่ซ้อนข้างในร่างกายสิ่งมีชีวิต...

คุณลักษณะความสามารถใหม่หากประกบกับ DNA ชิ้นส่วนที่ขาดหายก็คือ ไมโตคอนเดรียนี้จะสามารถสร้างอวัยวะใหม่ได้ทดแทนของเดิมครับ, นั่นคือสิ่งมีชีวิตที่เป็น Host จะไม่มีช่วงชีวิตครับ แปลว่าอมตะ... ดังนั้นความลับอยู่ตรงนี้ครับ อยู่ตรงชิ้นส่วน DNA ที่ขาดหายไป(ซึ่งอาจไปอยู่ในสัตว์บางประเภท หรืออยู่นอกโลกไปเลย)...

เรื่องของไมโตคอนเดรีย... ลิ้งก์นี่... http://en.wikipedia.org/wiki/Mitochondrion
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: มีนาคม 07, 2014, 09:56:04 AM »

นี่ด้วย...

หากลองค้นดู... จะพบว่ามีความเชื่อกันว่าแวมไพร์ที่รูปร่างเป็นมนุษย์สมบูรณ์(ไม่ใช่ผีดิบที่เป็นซอมบี้แขนขาเก้งก้าง) เกิดจากคนโดนค้างคาวกัดก่อนครับ แล้วไวรัสในค้างคาวก็มาติดคน, ซึ่งไวรัสนั่นก็มี DNA เพียงครึ่งเดียวเหมือนกัน แต่ขึ้นอยู่กับว่าเป็นไวรัสสายพันธุ์ไหน เพราะมันกลายพันธุ์ได้ตลอดเวลา...

ปรากฎการณ์คนโดนสัตว์กัดแล้วติดเชื้อไวรัส จนกระทั่งเกิดโรคภัยชนิดใหม่นี่ไม่ได้เพิ่งเกิดเมื่อมีคนโดนลิงเขียวกัดจนเป็น HIV ในยุคหลังนี้ครับ, แต่มีคนโดนกัดฯ แล้วเกิดปรากฎการณ์ทำนองนี้เป็นระยะๆ หลายครั้งแล้วในประวัติศาสตร์... ดังนั้นแวมไพร์เองก็มีหลายพวก หลายสายพันธุ์ แต่ละพวกก็ไม่ได้รู้จักกัน...

กลุ่มที่โดนกัดในเหมืองเหล็กของ บ.เบธเลเฮมฯ นี่ก็เป็นคนละกลุ่ม(คนละสายพันธุ์)กับที่โดนอดีต ปธน.ลินคอนด์ฯ แห่ง U.S.A. ตามล่าฯ เสียจนเขาเอามาสร้างเป็นหนังครับ... แต่กลุ่มที่อยู่ในเมืองไทยนั่นติดมากับเรือสำเภาค้าขายกับต่างประเทศช่วงกรุงอยุธยา สมัยพระนารายณ์ครับ, แล้วสายพันธุ์นี้มีวิวัฒนาการสมบูรณ์ จนไม่กลัวแสงแดด ไม่ต้องดื่มเลือดจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแล้วเสียด้วยครับ...

เรื่องโม้ครับ... แฮ่ๆ...
บันทึกการเข้า
TUI 48
Sr. Member
****

คะแนน 332
ออฟไลน์

กระทู้: 927


« ตอบ #11 เมื่อ: มีนาคม 07, 2014, 10:00:34 AM »

ตัวมนุษย์ต่างดาวนี่ ลงมาบนพื้นโลกมนุษย์ได้ตั้งแต่ 200 กว่าปีมาแล้ว ลงมาครั้งแรกที่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา นั้นตรงกับสมัยปลายกรุงศรีอยุธยาของไทย แล้วชาวประมงทอดแหได้ เอาเลือดมนุษย์ต่างดาวไปให้ค้างคาวกิน แล้วให้ค้างคาวกัดสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม... สัตว์นั้นมีชีวิตอมตะ!!!(มีไวรัสเปลี่ยนแปลงโครงสร้างไมโตคอนเดรีย) ทำให้มนุษย์ต่างดาวสายพันธุ์นี้เป็นที่ต้องการฯ แล้วมนุษย์ต่างดาวก็ถูกนำไปซ่อนในถ้ำ...

เราจะเห็นว่าช่วงเวลานั้นเกิดแวมไพร์ครั้งแรกที่ประเทศไทย พร้อมๆกับที่ US. แถวหลุยเซียน่า เพราะแวมไพร์ติดไปกับเรือสินค้า, ปัจจุบันนี้แวมไฟร์ยุคแรกของไทยก็ยังไม่ตาย และแฝงตัวควบคุมตระกูลเก่าแก่ของสังคมไทยอยู่... สำหรับในยุโรป กับ US. แวมไพร์ยุคเดียวกันนี่ก็ยังควบคุมระบบเศรษฐกิจของยุโรป+US. อยู่...

แต่ข้อมูลบางสายบอกว่าแวมไพร์ยุโรป+US.(คนยิว) ได้ไวรัสจากในถ้ำแถวทะเลทรายไม่ใช่ได้มาไวรัสจากแถบเอเซียตามที่เคยเชื่อกัน... เลยมีความคิดบางกระแสว่ามนุษย์ต่างดาวพวกนี้ลงมาบนโลกมนุษย์หลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะสมัยอีจิปต์ฯ ที่ทำให้เกิดวัฒนธรรมสร้างปิรามิดเพื่อเก็บมัมมี่!!!...

เรื่องนี้ต้องสอบถามรายละเอียดจากน้าซับครับ...

เดี๋ยวรอ "มนุษย์ต่างดาว" มาต่อยอดความรู้ครับ อ.สมชาย.. คิก คิก คิก คิก
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: มีนาคม 07, 2014, 10:03:29 AM »

เมื่อปี 2011 นายสมชายเพิ่งทราบข้อมูลเรื่องมนุษย์อมตะ ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าไวรัสมันมีหลายพันธุ์มาจากหลายแหล่ง เพราะมันลงมาที่โลกมนุษย์หลายครั้ง ต่างสถานที่กัน แล้วมันก็กลายพันธุ์ไปแยกสายวิวัฒนาการออกไป... แล้วนายสมชายก็เพิ่งทราบว่าภายใต้คราบมนุษย์สนุกสนานเฮฮาเป็นที่รักของเพื่อนฝูงของน้าซับฯ ที่แท้คือนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะครับ...

เขายังไม่เปิดเผยนี่ครับ...

ที่จริงเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง ติดต่อคล้ายกับเอดส์ คือติดต่อผ่านเลือด... แต่ที่แตกต่างจากเอดส์คือมันไปทำลายระบบการขนส่งพลังงานในกระแสเลือด คือแทนที่จะไมโตคอนเดรียจะสร้างพลังงานด้วยวิธีเดิม กลับโดนไวรัสเปลี่ยนโครงสร้าง ทำให้สร้างพลังงานจากเลือดโดยตรง ด้วยการดื่มลงกระเพาะอาหารครับ...

ร่างกายที่โดนไวรัสเปลี่ยนโครงสร้างอวัยวะภายในจะไม่สมดุลย์ ระบบย่อยอาหารกับระบบขับถ่ายจะทำงานไม่สมบูรณ์ จากนั้นร่างกายจะปิดการใช้พลังงานส่วนที่ไม่จำเป็นเพื่อเลี้ยงระบบให้คงอยู่ได้นานที่สุด... ทำให้การเคลื่อนไหวผิดปรกติครับ และเซลกล้ามเนื้อที่มีเมตตาบอลิซึ่มต่ำจะรับพลังงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้กล้ามเนื้อมัดเล็กๆเคลื่อนไหวไม่ได้ เช่นมือไม้แข็ง หันคอไม่ได้ ข้อพับแข็ง เดินกระโดกกระเดก หูตึง จนในที่สุดคนนั้นจะตาย แต่ก่อนตายจะไล่กัดคนอื่นต่อไปเพื่อหาเลือดดื่มพร้อมกับแพร่เชื้อไวรัส แล้วตัวเองก็ตายครับ...

คือไวรัสที่ว่านี่มันพยายามเปลี่ยนแปลงร่างกายมนุษย์และสัตว์เลือดอุ่นเลี้ยงลูกด้วยนมให้เป็นที่อยู่ที่เหมาะสมกับเผ่าพันธุ์ของมันครับ เพียงแต่ร่างกายมนุษย์ถูกคัดเลือกโดยธรรมชาติมานานจนสมดุลย์แล้ว ผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงจึงไม่คงทนถาวร ต้องหาร่างกายใหม่เป็น Host ไปเรื่อยๆ... หากเราไม่มีวิธีจัดการกับมัน ไวรัสนี่อาจเปลี่ยนมนุษย์ให้เป็นอมตะเหมือนแวมไพร์ฝรั่งที่ไม่แก่ตายก็ได้นะครับ...

เรื่องนี้เป็นเรื่องน่ากลัว เพราะไวรัสมีวงจรชีวิตที่สั้น สามารถปรับเปลี่ยนองค์ความรู้แล้วฝังเอาไว้ใน DNA ของมันได้อย่างรวดเร็วในทุกช่วงวงรอบชีวิตของพวกมัน ดังนั้นเราจึงเห็นพวกนี้กลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็ม(และดื้อยามากขึ้น)... นายสมชายไม่คิดว่าเขาจะเอาเรื่องนี้มาเปิดเผยในเวลาที่ประชาชนยังไม่พร้อมครับ...

แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ที่ความลับแตกออกมาแล้ว... นายสมชายอยากบอกว่าคุณซับแมชชีน คือนักวิทยาศาสตร์ที่วิจัยเรื่องนี้ในทางลับมานานมากครับ โดยอาศัยความที่เป็นน้องชายเจ้าของบริษัททัวร์ เลยแอบแพร่วัคซีน/รับตัวอย่างวัคซีน, ฉีดวัคซีนใส่สาวๆ เป็นที่ขึ้นชื่อลือกระฉ่อนครับ...

โหยยยยย........
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: มีนาคม 07, 2014, 10:05:00 AM »

เดี๋ยวรอ "มนุษย์ต่างดาว" มาต่อยอดความรู้ครับ อ.สมชาย.. คิก คิก คิก คิก

แฮ่ๆ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: มีนาคม 07, 2014, 10:11:45 AM »

รูปนี้คือมนุษย์ต่างดาวเหมือนปลาหมึกยักษ์ ที่อยู่ในตุ๊กตายางครับ, เห็นจากคลิปโดนแมวข่วน... ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าทำไมมนุษย์ต่างดาวถึงแพ้ทางแมวเสียทุกครั้ง, แม้แต่ไอยคุปต์โบราณก็ยกให้แมวเป็นเทพเจ้าไปโน่น!!! ซึ่งคาดกันว่าเกิดจากพวกอมตะฯ แพ้ทางแมวครับ...

บันทึกการเข้า
หน้า: [1] 2
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.055 วินาที กับ 22 คำสั่ง