พ่อแม่รังแกฉัน ฉบับของจริง
พ่อและแม่ตั้งกฎกติกา แกต้องทำได้ตามนี้ ถ้าทำไม่ได้ก็ด่าๆๆๆๆ ตำหนิรุนแรง เป็นการกดดันโดยไม่ใช้เหตุผลและความรักเป็นที่ตั้ง สุดท้ายลูกโป่งน้อยๆก็แตกไปตามแรงกดดัน มักเกิดกับพ่อแม่เป็นคนเจ้าอารมณ์ครับ คนเจ้าอารมณ์จะใจเย็นอธิบายเรื่องราวหว่านล้อมลูกไม่ได้ เพราะคนเจ้าอารมณ์เองก็มักใจไม่เย็นพอให้บังคับตนเอง ให้มีสมาธิอ่านหนังสือ/ศึกษาหาความรู้อะไรไม่ได้ลึกๆ เลยไม่มีความรู้+ไม่มีตรรกะเพียงพอให้เรียบเรียง หรืออธิบายหรือสอนอะไรให้ใครเข้าใจได้ง่ายๆ... คนกลุ่มนี้เราสามารถพบเห็นในชีวิตประจำวันได้ทั่วไป คือคนที่บอกอะไรผู้อื่นไม่ได้ อธิบายเรื่องราวอะไรไม่ได้ ทั้งที่คุยกันด้วยภาษาไทยนี่แหละ(หากซักไซร์ไล่เลียงเขาก็จะโมโหหงุดหงิด!!!)...
เวลาคนกลุ่มนี้สอนลูก ก็ไม่สามารถเรียกศรัทธาให้ลูกเลื่อมใสนั่งฟังเรื่องราว ก็เลยเอารางวัลเข้ามาล่อ และกดดันให้ทำให้ได้ หากลูกทำไม่ได้ก็ทำโทษ... เล่นอย่างนี้มากเข้าก็เป็นอย่างกระทู้นี้แหละครับ...
คำไทยที่ว่า"สำเนียงส่อภาษา กริยาส่อสกุล", ที่จริงย่อมาจาก"สำเนียงส่อการศึกษา กริยาส่อสกุลรุนชาติ"... เพราะ"การใช้ภาษา"แสดงให้เห็นว่ามีการศึกษามาก ซึ่งอาจใน/หรือนอกระบบการศึกษาก็ได้(เช่นจบ ป.4 แต่อ่านหนังสือแยะ), ส่วนกริยามรรยาท หมายถึงเติบโตมาในครอบครัวเช่นไร เพราะเรื่องละเอียดเล็กๆน้อยๆ หลายเรื่องต้องสอนกันตั้งแต่เด็กครับ...
สังคมไทยมีแนวโน้มจะเป็นอย่างนี้มากขึ้นเรื่อยๆ แล้วในที่สุดคนโง่/เจ้าอารมณ์ที่มีอยู่เต็มเมืองก็จะโดนคนฉลาดกว่า(และขี้โกง)ชักจูงหลอกล่อเพื่อผลประโยชน์ของคนขี้โกงครับ... นี่ไม่ใช่เรื่องการเมืองนะครับ แต่เป็นภาพรวมที่ใหญ่กว่านั้น เพราะคนโกงหลอกคนโง่มันก็สามารถแทรกอยู่ได้ทั่วไปทุกขั้วการเมืองไม่ว่าจะสีเสื้อเช่นไรก็ตาม...