หาวิธีรู้ระยะทางครับ เช่นเอารถยนต์วิ่งจับระยะทาง หรือวัดในกูเกิ้ลแมปฯ แล้วแข่งกับตัวเองว่าวิ่งวันพรุ่งนี้จะต้องได้มากกว่าวันนี้ ฯลฯ... แล้วอีกอย่างหนึ่งคือกีฬาจ๊อกกิ้งเป็นกีฬาที่แข่งกับตัวเอง และห้ามหักโหมนะครับ(ไม่ใช่วิ่ง 100 เมตร) ดังนั้นวิ่งเหยาะๆช้าๆไปเรื่อยๆ ให้ได้ระยะทาง เน้นความอึดทนเสียก่อนครับ เมื่อสักพักกำลังอยู่ตัวแล้วเราก็จะรู้ลิมิตของตนเอง จากนั้นค่อย"แข่งกับตัวเอง"ด้วยการทลายลิมิตครับ...
เมื่อตอนเย็นไปวิ่งที่สวนของเทศบาลครับ..นอกจากสวน..ทางวิ่ง..ทางจักรยานและสนามกี่ฬากลางแจ้งประเภทต่างๆแล้ว..ปรากฎว่ามีห้องแอร์ฟิตเนสเล็กๆด้วยครับ..
อุปกรณ์ฟิตเนสจากที่ดูด้วยสายตาคร่าวๆน่าจะราวๆ 8-10 อย่าง ไม่รวมดรัมเบลครับ..ค่าสมาชิก 100 บาท/คน/ปี เฉพาะบุคคลที่มีชื่อในเขตเทศบาลครับ..
ส่วนสระว่ายน้ำนั้นเห็นว่าถูกยุบไปแล้ว..แต่ให้ใช้บัตรสมาชิกไปเล่นที่ ม.ธรรมศาสตร์แทนครับ...
อุปกรณ์ออกกำลังกายแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มคือ 1) ฟิตเนส มักเน้นความแข็งแรงทนทานและลดไขมัน และ 2) พวกเพาะกาย จะเน้นลดไขมันและสร้างขนาดกล้ามเนื้อครับ... ใน 2 กลุ่มนี้พวกฟิตเนสไปเล่นที่ห้องรวมกับคนอื่นจะดี เพราะได้สร้างบรรยากาสแข่งขัน, แต่พวกเพาะกายนี่หากตัดสินใจจะเล่นจริงจัง ควรซื้ออุกปรณ์มาเล่นที่บ้าน เพราะเวลาเล่นหนักเราจะล้ามาก ไม่อยากเดินทางกลับบ้านครับ แล้วนอกจากนี้เราก็ไม่อยากโดนบรรยากาศแข่งขันลากจูงเป้าหมายให้เขวฯ แล้วจะเผลอโหมเพิ่มน้ำหนัก เลยเสี่ยงบาดเจ็บครับ...
พวกออกกำลังกายแอโรบิค สามารถซ้ำทุกวันได้ครับ ให้กำลังอยู่ตัว... แต่พวกแอนนาโรบิค เช่นพวกยกเหวท ต้องปล่อยให้กล้ามเนื้อพักตัวเพื่อซ่อมเส้นใยฯ ที่ฉีกขาดครับ...