ได้มาแล้วครับ เป็น Adidas รุ่น RUN COOL ตอนแรกจะเอารุ่น Climacool แต่ดูไซส์แล้วไม่มีเลยอดครับ..
ราคาติดป้าย 2790 ลด 40% เหลือ 1674 บาท ผลิด 26 ก.พ. 56 ดูแล้วไม่น่าจะขี้เหร่อะไรมากก็เลยซื้อมาลองดูครับ..
ลองใส่และลองวิ่งรอบห้างดูแล้วครับ..สบายเท้าดี..(รปภ.ประจำห้างจะไล่กวดเอา คิดว่าเป็นโจรกระชากกระเป๋า หน้าตาผมให้ไปทางนั้น )..
สีสันน่าโดนหมาไล่ฟัดซะจริงๆ..
+๑ ทุกๆท่าน..และขอบคุณทุกๆความเห็นครับ..
ยินดีด้วยครับ
สู้ สู้ครับ
ขอบคุณมากครับ..เมื่อเช้าลองออกไปวิ่งดูแล้วครับ..ได้แค่ห้านาทีหน้าก็เริ่มมืด..แข้งขาสั่นไปหมด..
ต้องเดินพักก่อนสักหนึ่งนาทีแล้วเริ่มวิ่งต่อ..ทำแบบนี้ได้หกรอบรวมแล้วราวๆครึ่งชั่วโมง..เดี๋ยวตอนเย็นเอาใหม่ครับ..
ท่านใดมีวิธีและเทคนิควิ่งดีๆ แนะนำผมบ้างนะครับ..
อันนี้เทคนิคผมนะครับ เคยใช้ตอนเรียนมัธยมและมหาวิทยาลัย แชร์เพื่อเป็นแนวคิดหนึ่ง
ผมวิ่งเพื่อให้หัวใจตัวเองแข็งแรงครับ คือให้ทนกับการออกกำลังได้นานๆ ระบบหายใจก็แข็งแรงขึ้น กล้ามเนื้อค่อยแข็งแรงเป็นระดับสุดท้าย
สรุปคือวิ่งเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง มิได้หวังแข่งกับใคร เบิกบานระหว่างวิ่งและหลังจากวิ่งเพราะร่างกายหลั่งเอนโดฟิน
ผมเลยวิ่งช้าๆครับ ยกแขนไม่สูงมาก วิ่งเหยาะไม่ให้หัวใจเต้นเร็วเกิน
หัวใจเต้นเร็วเกินเราจะรู้ได้อย่างไรถ้าไม่ใช่เครื่องจับชีพจร....เราก็เหนื่อยจะเป็นลม หน้าจะมืดน่ะสิครับ
หากเหนื่อยเราก็วิ่งช้าลงอีก เดี๋ยวหัวใจมันจะเต้นช้าลง ให้อยู่ในโซนแอโรบิกเอง
ผมไม่เน้นระยะทาง แต่เน้นระยะเวลาในการวิ่ง เช่นวิ่งครึ่งชั่วโมง แล้วเพิ่มเป็น 40 นาที 50 นาที หนึ่งชั่วโมงในภายหลัง การเพิ่มนี้เป็นได้เองเมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้น
เมื่อร่างกายแข็งแรงขึ้น เราอาจรู้สึกได้เองว่าจะเพิ่มความเร็วในการวิ่งสักหน่อยร่างกายเราก็รับได้ จะวิ่งให้นานขึ้นหน่อยร่างกายเราก็รับได้
ใช้ความหน้ามืดจะเป็นลมนี่แหละครับเป็นตัววัด หน้ามืดก็แสดงว่าสปีดการวิ่งมันเร็วเกินกว่าร่างกายปัจจุบันเราครับ....ผ่อนลงมา
ทำไปทุกวันความแข็งแกร่งจะเพิ่มขึ้นเองครับ