เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 18, 2024, 05:32:30 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: “กองทัพไทย” มีแสนยานุภาพแกร่งอันดับ 24 ของโลก  (อ่าน 2739 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
rambo1th
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1349


« เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2014, 06:09:52 PM »

เอเจนซี/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจล่าสุดชี้สหรัฐอเมริกายังคงครองตำแหน่งประเทศที่มี “แสนยานุภาพทางทหาร” เข้มแข็งที่สุดในโลก แต่เหนือกว่ารัสเซียเพียงเล็กน้อย ส่วน “กองทัพไทย” ถูกระบุ มีความเข้มแข็งเป็น “ลำดับที่ 24 ของโลก” แม้ผลสำรวจจะชี้ กองทัพไทยมีแสนยานุภาพด้อยกว่า “กองทัพเวียดนาม”
       
       ผลสำรวจ “Global Firepower 2014” ดังกล่าวเกิดขึ้นจากการประเมินศักยภาพและแสนยานุภาพทางทหารของ 106 ประเทศทั่วโลก โดยใช้เกณฑ์การประเมินมากกว่า 50 ข้อ รวมถึงเกณฑ์ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี คุณภาพของกำลังพลในกองทัพ งบประมาณ โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นต่อการทำสงคราม รวมถึงปัจจัยทางภูมิศาสตร์และทรัพยากรธรรมชาติ ฯลฯ และนำมาคำนวณเป็นคะแนน ซึ่งทางทีมงานระบุว่าตัวเลขที่ออกมายิ่งน้อยหรือต่ำเตี้ยเพียงใด ก็หมายถึงการมีแสนยานุภาพทางการทหารในระดับสูง
       
       โดยผลสำรวจล่าสุดระบุว่า สหรัฐอเมริกายังคงรั้งตำแหน่งประเทศที่มีแสนยานุภาพทางทหารแข็งแกร่งที่สุดในโลก โดยได้คะแนนต่ำสุดที่ 0.2208 คะแนน ตามมาด้วยรัสเซียที่มี 0.2355 คะแนน, จีน 0.2594 คะแนน, อินเดีย 0.3872 คะแนน, สหราชอาณาจักร 0.3923 คะแนน, ฝรั่งเศส 0.4706 คะแนน, เยอรมนี 0.4899 คะแนน, ตุรกี 0.5171 คะแนน, เกาหลีใต้ 0.5536 คะแนน และญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 10 ที่ 0.5581 คะแนน
       
       ขณะที่ 10 ประเทศที่มีแสนยานุภาพทางทหารอ่อนแอที่สุดของโลก ตามข้อมูลของผลสำรวจ Global Firepower 2014 ประกอบด้วย แทนซาเนีย ซึ่งอยู่รั้งท้ายในอันดับที่ 106 ของโลกด้วยคะแนน 4.3423 ตามมาด้วย มาดากัสการ์, โมซัมบิก, ลิธัวเนีย, ลาว, อุรุกวัย, โซมาเลีย, แซมเบีย, ปานามา และแคเมอรูน
       
       หากพิจารณาเฉพาะประเทศที่เป็นสมาชิกสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) 10 ประเทศ ผลสำรวจดังกล่าวพบว่าอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีกองทัพแข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาคนี้ และถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 19 ของโลก (0.8008 คะแนน) รองลงมาคือ กองทัพเวียดนาม ที่ได้อันดับ 23 ของโลก (0.8962 คะแนน)
       
       ส่วนกองทัพไทยซึ่งได้คะแนนจากการประเมินที่ 0.9287 คะแนน ถูกจัดให้มีแสนยานุภาพทางทหารเข้มแข็งเป็นลำดับที่ 24 ของโลก และมีความแข็งแกร่งเป็นลำดับที่ 3 ของภูมิภาคอาเซียน ตามมาด้วยฟิลิปปินส์ (อันดับ 37 ของโลก, 1.3042 คะแนน) มาเลเซีย (อันดับ 38 ของโลก, 1.3143 คะแนน) และสิงคโปร์ (อันดับ 44 ของโลก, 1.4699 คะแนน)
       
       อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า ผลสำรวจครั้งนี้จัดให้กองทัพไทย (อันดับ 24 ของโลก, 0.9287 คะแนน) มีแสนยานุภาพทางทหารสูงกว่ากองทัพเกาหลีเหนือ (อันดับ 35 ของโลก, 1.2893 คะแนน) ซึ่งทางทีมงานระบุว่า ในความเป็นจริงแล้วกองทัพไทยมีขีดความสามารถในทุกด้านเหนือกว่ากองทัพเกาหลีเหนือ ยกเว้นเพียงการมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครองเท่านั้น ซึ่งการที่กองทัพไทยมีอันดับสูงกว่าเกาหลีเหนือได้นั้น เป็นเพราะทางทีมวิจัยได้ตัดแสนยานุภาพทางนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ และประเทศต่างๆ ที่มีอาวุธมหาประลัยชนิดนี้ในครอบครองออกไป

   http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000048515





       แปลกใจตรงที่ไทยมีศักยภาพเหนือเกาหลีเหนือแสดงว่าจำนวนทหารประจำการกว่าล้านนาย เรือดำน้ำ จำนวนรถถัง จำนวนปืนใหญ่ ไม่ได้นำมาคิดด้วย หรือว่ายังไงครับ แต่ก็ภูมิใจครับ อันนี้ตัวเลขในทางทฤษฎีในทางปฏิบัติ อยากให้ดูตัวเลข 10 อันดับประเทศที่อ่อนแอ อย่างโซมาเลีย เคยถล่มมหาอำนาจทางทหารอันดับ 1 มาแล้ว และ.....ก็เคยเล่นงาน.......มาแล้ว
บันทึกการเข้า
montri รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -120
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1056



« ตอบ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2014, 06:44:07 PM »

กองทัพไทย สุดยอด
บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2014, 07:08:35 PM »

เกินความคาดหมายครับ Grin Grin Grin ไม่ธรรมดา
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2014, 07:20:36 PM »

ถ้าจิตใจรับรองอันดับ 1 ครับ เยี่ยม
บันทึกการเข้า

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 01, 2014, 08:55:09 PM »

แต่ประเทศไทยเองกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาเศรษฐกิจถดถอยนี่ครับ... ตัวเลขล่าสุด GDP ไตรมาศแรกไม่ขยายตัว มองเผินๆเหมือนไม่มีอะไร แต่ประเด็นคือเงินเฟ้อมันแซงหน้า GDP นั่นแหละครับ...

ตัวเลขที่ยอมรับได้นั้น ค่าเงินเฟ้อต้องน้อยกว่าอัตราขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ เพราะค่าใช้จ่ายของระบบเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุดคือเงินเดือน/ค่าแรงงานต้องเพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อเป็นแรงกระตุ้น/จูงใจ ของคนทำงานประจำครับ...
บันทึกการเข้า
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1960
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 22591


"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."


« ตอบ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2014, 01:25:29 AM »

แปลกใจที่อิสราเอลไม่ติด 1 ใน 10 ครับ...
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2014, 01:53:36 AM »

Israel คงถูกจัดอยู่ในชั้นพิเศษแล้วละ
บันทึกการเข้า
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2014, 02:20:59 AM »

แต่ประเทศไทยเองกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาเศรษฐกิจถดถอยนี่ครับ... ตัวเลขล่าสุด GDP ไตรมาศแรกไม่ขยายตัว มองเผินๆเหมือนไม่มีอะไร แต่ประเด็นคือเงินเฟ้อมันแซงหน้า GDP นั่นแหละครับ...

ตัวเลขที่ยอมรับได้นั้น ค่าเงินเฟ้อต้องน้อยกว่าอัตราขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ เพราะค่าใช้จ่ายของระบบเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุดคือเงินเดือน/ค่าแรงงานต้องเพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อเป็นแรงกระตุ้น/จูงใจ ของคนทำงานประจำครับ...

ดูปริมาณความต้องการกำลังพลคัดเลือกทหารเกณล่าสุด แสนกว่านาย ถือว่ามากมั้ยครับพี่สมชาย

ส่วนนึงเข้าใจว่าหมุนเวียนลงใต้ปีละหลายหมื่นนาย  

โจทย์ตรงนี้ใช้ทั้งงบประมาณสูงหลักแสนล้านต่อปี รวมถึงการชดเชยความสูญเสียต่างๆ ซึ่งถ้าเราไม่มีปัญหาตรงนี้ จะเซฟงบประมาณได้มาก เอาไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น กำลังแรงงาน ก็เอาไปทำงานอื่นได้มาก  จริงๆประเทศเราก็ขาดแรงงานฝีมืออยู่แล้ว

การท่องเที่ยวเริ่มเห็นผลชัด นักท่องเที่ยวลดลงถนัดตาครับ การท่องเที่ยวทำเงินเข้าประเทศได้สูง ต่อหัวคนที่เข้ามาเที่ยว ถ้าบ้านเมืองเราปกติ ต่อหัว ต่อคน ต่อวัน ที่พัก อาหาร การเดินทาง ค้าขายของฝาก ...ฯลฯ  ต่อหัวนทท.ผมว่าไม่ต่ำ5พัน-1หมื่นบาท ต่อคน ต่อวันครับ

ปัญหาคืออย่างที่รับรู้กัน การเมืองคงลากยาวไปอีกนาน จะแย่ลง รึดีขึ้นก็ไม่รู้...........แต่แนวโน้มไม่เห็นว่าจะดีขึ้น

การลงทุนรออนุมัติBOI 7แสนกว่าล้าน ค้างเติ่งอยู่ ไม่มีรัฐบาลที่มีอำนาจลงนาม  นักธุรกิจ นักวิชาการ คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะไม่รอ จะย้ายฐานไปประเทศอื่น ซึ่งการลงทุนสูงๆ เวลาเค้าตัดสินใจย้าย คือไปแล้วไปเลย เค้าไม่รอ ไม่เสี่ยง มีอีกหลายประเทศที่พร้อมรอรับ

เงินเฟ้อล่าสุดแตะๆเกือบ3% สวนกับดอกเบี้ยนโยบาย2ต้นๆ แบงค์เข้มสุดๆในการปล่อยสินเชื่อ ล่าสุดการเช็คเครดิตบูโรสูงกว่าปีก่อน3เท่า แสดงว่าสถาบันการเงินตรวจละเอียดยิบ กว่าจะปล่อยสินเชื่อครับ ไหว้

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 02, 2014, 02:26:40 AM โดย เบิ้ม » บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2014, 08:51:38 AM »

แต่ประเทศไทยเองกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาเศรษฐกิจถดถอยนี่ครับ... ตัวเลขล่าสุด GDP ไตรมาศแรกไม่ขยายตัว มองเผินๆเหมือนไม่มีอะไร แต่ประเด็นคือเงินเฟ้อมันแซงหน้า GDP นั่นแหละครับ...

ตัวเลขที่ยอมรับได้นั้น ค่าเงินเฟ้อต้องน้อยกว่าอัตราขยายตัวของระบบเศรษฐกิจ เพราะค่าใช้จ่ายของระบบเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ตัวอย่างที่ใกล้ตัวที่สุดคือเงินเดือน/ค่าแรงงานต้องเพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อเป็นแรงกระตุ้น/จูงใจ ของคนทำงานประจำครับ...

ดูปริมาณความต้องการกำลังพลคัดเลือกทหารเกณล่าสุด แสนกว่านาย ถือว่ามากมั้ยครับพี่สมชาย

ส่วนนึงเข้าใจว่าหมุนเวียนลงใต้ปีละหลายหมื่นนาย  

โจทย์ตรงนี้ใช้ทั้งงบประมาณสูงหลักแสนล้านต่อปี รวมถึงการชดเชยความสูญเสียต่างๆ ซึ่งถ้าเราไม่มีปัญหาตรงนี้ จะเซฟงบประมาณได้มาก เอาไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น กำลังแรงงาน ก็เอาไปทำงานอื่นได้มาก  จริงๆประเทศเราก็ขาดแรงงานฝีมืออยู่แล้ว

การท่องเที่ยวเริ่มเห็นผลชัด นักท่องเที่ยวลดลงถนัดตาครับ การท่องเที่ยวทำเงินเข้าประเทศได้สูง ต่อหัวคนที่เข้ามาเที่ยว ถ้าบ้านเมืองเราปกติ ต่อหัว ต่อคน ต่อวัน ที่พัก อาหาร การเดินทาง ค้าขายของฝาก ...ฯลฯ  ต่อหัวนทท.ผมว่าไม่ต่ำ5พัน-1หมื่นบาท ต่อคน ต่อวันครับ

ปัญหาคืออย่างที่รับรู้กัน การเมืองคงลากยาวไปอีกนาน จะแย่ลง รึดีขึ้นก็ไม่รู้...........แต่แนวโน้มไม่เห็นว่าจะดีขึ้น

การลงทุนรออนุมัติBOI 7แสนกว่าล้าน ค้างเติ่งอยู่ ไม่มีรัฐบาลที่มีอำนาจลงนาม  นักธุรกิจ นักวิชาการ คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะไม่รอ จะย้ายฐานไปประเทศอื่น ซึ่งการลงทุนสูงๆ เวลาเค้าตัดสินใจย้าย คือไปแล้วไปเลย เค้าไม่รอ ไม่เสี่ยง มีอีกหลายประเทศที่พร้อมรอรับ

เงินเฟ้อล่าสุดแตะๆเกือบ3% สวนกับดอกเบี้ยนโยบาย2ต้นๆ แบงค์เข้มสุดๆในการปล่อยสินเชื่อ ล่าสุดการเช็คเครดิตบูโรสูงกว่าปีก่อน3เท่า แสดงว่าสถาบันการเงินตรวจละเอียดยิบ กว่าจะปล่อยสินเชื่อครับ ไหว้

ข้างบนนั่นมีส่วนที่ถูกต้องและโดนบิดเบือนนะครับ... เอาเรื่องถูกต้องเสียก่อนก็คือเรื่องภาคใต้ฯ นี่นายสมชายยังยืนยันเหมือนเดิมว่าเกิดจากแหล่งทรัพยากรธรรมชาติในอ่าวไทยเป็นตัวล่อให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงเพื่อหาผลประโยชน์, เรื่องงบประมาณหลวงที่ทุ่มลงไปตรงนี้มหาศาลมาก ก็เพื่อ"รักษาสถานะเดิม"เอาไว้ให้ได้เท่านั้น...

ถัดมาเรื่องท่องเที่ยว ตรงนี้มีทั้งเรื่องจริงและบิดเบือนครับ เอาเรื่องจริงก่อน คือทัวร์ต่างประเทศเข้าไทยนั้นชลอตัวลง เพราะประกาศ พรบ.สถานการณ์ฉุกเฉิน(หรื่อ พรบ.อื่นที่แปลว่าสถานการณ์ไม่ปรกติ)... แต่คนไทยชลอตัวท่องเที่ยวในประเทศนั้นเกิดจาก 2 เรื่องครับ คือ 1) กำลังซื้อโดนรถยนต์คันแรกซับเงินเอาไปผ่อนรถยนต์ และ 2) การท่องเที่ยวในประเทศไทยแพงมาก ตัวอย่างเช่นที่พักในภูเก็ตราคาคืนละหลายพันบาท ในขณะที่ท่องเที่ยวต่างประเทศไปได้ไกลถึงยุโรปตะวันตก หากซื้อทัวร์จะตกค่าใช้จ่ายปริ่มแสนบาทต่อระยะเวลาเกือบ 10 วัน ซึ่งเฉลี่ยแล้วตกวันละ 1 หมื่นกว่าบาท(แพงกว่าตัวแดงนิดหน่อย) แต่ได้ไปตั้งไกลครับ...

เรื่องทัวร์ยุโรป มีลิ้งก์เพียบเลย... https://www.google.com/search?q=%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%95+%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%99&sourceid=ie7&rls=com.microsoft:en-US:IE-SearchBox&ie=&oe=#q=%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%9B+2557&rls=com.microsoft:en-US:IE-SearchBox

มีต่อ... เรื่อง BOI ครับ...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 02, 2014, 10:20:49 AM โดย นายสมชาย(ฮา) - รักในหลวง » บันทึกการเข้า
น้าเสก คนเดิม
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 712
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 14502


รับแขก...แจกเหล้า...เฝ้าสำนักงาน


« ตอบ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2014, 09:06:21 AM »

เยี่ยมครับ....นี่ถ้ามีเรือดำน้ำอีกบวกกับรถถังชั้นยอด...ขึ้นยอดไปเป็นหลักร้อยก็คงจะเยี่ยมยอดกว่านี้... เยี่ยม
บันทึกการเข้า

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2014, 09:13:31 AM »

เรื่อง BOI ที่ออกข่าวกันว่าไม่มีรัฐบาลลงนามอนุมัติโครงการส่งเสริมการลงทุนจำนวน 7 แสนล้านบาท... ตรงนี้เป็นเรื่องบิดเบือนครับ ใครอ่านแล้วไม่ได้สงสัยแล้วไม่ได้ค้นข้อมูลต่อ ก็นึกว่าเป็นเรื่องผลกระทบจากการเมืองฯ...

เอาสรุปเรื่องก่อนครับ เดี๋ยวมีรายละเอียดขยายความ... สรุปว่าผู้มีอำนาจอนุมัติโครงการส่งเสริมการลงทุนไม่ใช่รัฐบาล แต่ผู้มีอำนาจอนุมัติจะแบ่งตามขนาดการลงทุนโดยคิดจากจำนวนเงินลงทุนไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน แยกเป็น 3 ระดับคือ 1) น้อยกว่า 200 ล้านบาท คือ"สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน" 2) ระหว่าง 200 - 750 ล้านบาทคือ"คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการ" และ 3) เกินกว่า 750 ล้านบาท จะเป็น"คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน" ซึ่งทั้งหมดไม่ใช่"รัฐบาล"ครับ แต่มีคนใน ครม. ร่วมอยู่ด้วยโดยตำแหน่ง ซึ่งก็มีผู้แทนจากข้าราชการประจำที่มาจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องฯ มานั่งร่วมพิจารณาด้วย...

ลิ้งก์นี่ เป็นแผนผังขั้นตอนการอนุมัติโครงการที่ขอรับการส่งเสริมการลงทุน... http://www.boi.go.th/index.php?page=procedures...

ผู้มีอำนาจพิจารณาโครงการขนาดลงทุนต่ำกว่า 200 ล้านบาทคือ"สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน"... แปลว่าเป็นเรื่องที่สำนักงาน BOI สามารถพิจารณาเองได้เลย โดยเสนออนุมัติตามขั้นตอน ทำนองเดียวกับคนเล่นปืนขออนุญาตใบ ป.3 นั่นแหละครับ, กล่าวคือเลขาธิการ BOI ลงนามอนุมัติโครงการ และให้สิทธิประโยชน์ได้ทันที...

ผู้มีอำนาจพิจารณาโครงการที่มีขนาดการลงทุนระกว่าง 200 - 750 ล้านบาทคือ"คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการส่งเสริมการลงทุน" จะมีองค์ประกอบเป็นข้าราชการประจำเป็นส่วนใหญ่ โดยมีเลขาธิการ BOI นั่งเป็นประธานการอนุมัติฯ ซึ่งไม่เกี่ยวกับ"นายกรักษาการฯ"ครับ... ลิ้งก์นี่คือองค์ประกอบคณะอนุกรรมการฯ อยู่ที่ข้อ 3.1 ครับ http://www.boi.go.th/upload/content/k2_2554_35282.pdf...

ส่วนผู้มีอำนาจพิจารณาโครงการที่มีขนาดการลงทุนมากกว่า 750 ล้านบาทก็ไม่เกี่ยวกับ"นายกรักษาการฯ" เพราะสามารถอนุมัติโครงการโดย"คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน" ที่นายกรักษาการฯ ลงนามแต่งตั้งไปเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 57 ที่ผ่านมานี่เอง... เมื่อวันที่ 23 เม.ย.57 ที่ผ่านมาก็ยังเป็นนายกรักษาการนั่นแหละครับ...

รายละเอียดเรื่องแต่งตั้งผู้มีอำนาจอนุมัติโครงการเกิน 750 ล้านบาทที่นี่... http://www.boi.go.th/upload/content/ข่าวตั้งบอร์ดบีโอไอชุดใหม่_96336.pdf ...

สรุปว่าเรือง BOI เป็นมุขหลอกกัน โดยปล่อยข่าวบิดเบือนครับ...
บันทึกการเข้า
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2014, 09:53:13 AM »

ผมเฉยๆกับอันดับที่๒๔นี้ครับ ต่อให้เป็นอันดับหนึ่งก็ไม่มีประโยชน์อะไรครับขนาดพม่าบุกรุกเข้ามาอยู่สร้างความเดือดร้อนชาวบ้านอยู่ทุกวันยังไม่เห็นออกมาทำอะไร เกาะใต้สะพานมิตรภาพเป็นของคนไทยแท้ๆยังปล่อยให้พม่าเข้ามาครอบครองยังไม่กล้าแม้แต่จะอ้าปากไล่ปล่อยให้มันอยู่สร้างความเดือดร้อนกับชาวบ้านอยู่ได้ บนเกาะนั่นเป็นที่พักยาเสพติดเพื่อรอเข้าไทย เป็นที่อยู่ของพวกโจรชาวพม่ากองทัพรู้ดีแต่ไม่กล้าเพราะกลัวกระทบการค้าระหว่างประเทศ กลัวพม่าปิดสะพาน  บางทีผมก็มีความรู้สึกว่าเสื่อมศรัทธากับกองทัพเหมือนกันครับ นี่วันนี้เดี๋ยวก็ต้องไปส่งคนไปไถ่ของที่โดนพวกโจรที่อยู่บนเกาะใต้สะพานมิตรภาพขโมยไปอีกแล้วเมื่อก่อนเรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่มีพวกนี้มายึดครองชาวบ้านเดือดร้อนกันมากมาย เดี๋ยวผมว่าซักวันถ้ามันถึงขีดจำกัดที่จะทนได้จะปลุกระดมชาวบ้านให้เข้าไปร้องเรียนข้อเดือดร้อนนี้กับแม่ทัพภาคครับต้อนนี้รอแค่ให้ถึงจุดเดือดอย่างเดียว
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2014, 09:55:25 AM »

ถัดมาเรื่องท่องเที่ยว ตรงนี้มีทั้งเรื่องจริงและบิดเบือนครับ เอาเรื่องจริงก่อน คือทัวร์ต่างประเทศเข้าไทยนั้นชลอตัวลง เพราะประกาศ พรบ.สถานการณ์ฉุกเฉิน(เรื่อ พรบ.อื่นที่แปลว่าสถานการณ์ไม่ปรกติ)... แต่คนไทยชลอตัวท่องเที่ยวในประเทศนั้นเกิดจาก 2 เรื่องครับ คือ 1) กำลังซื้อโดนรถยนต์คันแรกซับเงินเอาไปผ่อนรถยนต์ และ 2) การท่องเที่ยวในประเทศไทยแพงมาก ตัวอย่างเช่นที่พักในภูเก็ตราคาคืนละหลายพันบาท ในขณะที่ท่องเที่ยวต่างประเทศไปได้ไกลถึงยุโรปตะวันตก หากซื้อทัวร์จะตกค่าใช้จ่ายปริ่มแสนบาทต่อระยะเวลาเกือบ 10 วัน ซึ่งเฉลี่ยแล้วตกวันละ 1 หมื่นกว่าบาท(แพงกว่าตัวแดงนิดหน่อย

ยืนยันตามนี้ครับ ช่วงเปิดไฮซีซั่นต.ค.-ธ.ค.การท่องเที่ยวซบเซาเพราะมีการประกาศใช้ประกาศ พรบ.สถานการณ์ฉุกเฉินโดยไม่จำเป็น

และมีไอ้เหี้ยหัวล้านๆตัวนึง ส่งจดหมายเตือนไปถึงรัฐบาลต่างประเทศว่าภูเก็ต , สุราษฎร์ฯ , ตรัง ฯลฯ เป็นพื้นที่สนับสนุนฝ่ายกบฎต่อต้านรัฐบาล

ข่าวนี้ผมอ่านเป็นเอกสารแปลภาษาอังกฤษมาจากโรงแรม5ดาวที่เป็นสถานกงสุลรัสเซียประจำเกาะภูเก็ต...ขออภัยที่ไม่มีสิทธิ์ทำสำเนามาให้





ส่วนช่วง5สัปดาห์ก่อนที่ปิดไฮซีซั่นไว เพราะลูกค้ารัสเซียหายไปเกือบ2แสนคนจากเหตุรอปะทะระหว่างรัสเซีย-ฝ่ายสนับสนุนยูเครนไงครับ

ทั้ง2ชาติยกเลิกทัวร์ที่จองไว้ พร้อมอยู่ลงทะบียนเป็นทหารกองหนุนกันหมด ที่มามีแต่รุ่นป้าแก่
บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2014, 09:57:31 AM »


เยี่ยมครับ....นี่ถ้ามีเรือดำน้ำอีกบวกกับรถถังชั้นยอด...
ขึ้นยอดไปเป็นหลักร้อยก็คงจะเยี่ยมยอดกว่านี้... เยี่ยม



5555  น้าเสก  สุดเลิฟ  ของยาย อ่ะ ฮา  55555

อยากได้มาทำรัย    ตอนเด็ก  "ขาดความอบอุ่น" ไม่ได้เล่น ใช่มั๊ย  อ่ะ ฮา

55555  ไปเดินงานวัด  ที่เขาจัดพิธี  "ฝังลูกนิมิตร "  มีขายเยอะแยะ อ่ะ ฮา  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ยิ้มีเลศนัย
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
SillyOldMan
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1984
ออฟไลน์

กระทู้: 7567


ผ่านทะเล เห็นบึงน้ำไร้ความหมาย


« ตอบ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2014, 10:00:54 AM »

ค่าใช้จ่ายที่เป็นปัจจุบันของนักท่องเที่ยวในย่านที่ผมอยู่ ตกวันละเกือบ20,000บาทครับ
บันทึกการเข้า

What man is a man , who does not make the world better?
หน้า: [1] 2 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.061 วินาที กับ 22 คำสั่ง