ปลื้มหนักมาก! ชาวเน็ตอิรักสดุดี ปูติน ทิ้งบอมบ์ซีเรีย-ยกฐานะ
พลเมืองกิตติมศักดิ์ แถมอวยให้เป็น ฮัจญีโมฮัมเหม็ด การีม นิฮายา จิตรกรชาวอิรัก กำลังตบแต่งภาพวาดประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ที่สตูดิโอใน
เขตคาราดา กรุงแบกแดด เมื่อวันที่ 7 ต.ค.
เอเอฟพี - กระแสคลั่งไคล้ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียเริ่มมาแรงในอิรักตั้งแต่มอสโกใช้ปฏิบัติการ
โจมตีทางอากาศในซีเรีย โดยชาวอิรักบางคนมอง ปูติน เป็นเสมือน พระมาโปรด ในยามบ้านเมืองทุกข์เข็ญ
บ้างก็ยกให้เป็น พลเมืองกิตติมศักดิ์ และถึงขั้นฝันหวานว่าจะได้เรียกผู้นำรัสเซียว่า ฮัจญี (คำเรียกชายมุสลิม
ที่เคยประกอบพิธีฮัจญ์แล้ว) ในสักวันหนึ่ง
ที่สตูดิโอในกรุงแบกแดด โมฮัมเหม็ด การีม นิฮายา จิตรกรชาวอิรัก นั่งง่วนอยู่กับการสะบัดปลายพู่กันตกแต่งภาพ
วาดประธานาธิบดี ปูติน ซึ่งเขาก็อปปี้มาจากอินเทอร์เน็ต
ผมรอให้รัสเซียยื่นมือเข้ามาช่วยต่อกรกับพวกดาเอชมาตั้งนานแล้ว โมฮาเหม็ด กล่าว โดยใช้ชื่อย่อภาษาอาหรับ
ของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่บุกยึดเมืองสำคัญทางภาคเหนือของอิรักและภาคตะวันออกของซีเรีย และ
ประกาศสถาปนา รัฐคอลีฟะห์ ที่ปกครองด้วยกฎหมายอิสลามอย่างเข้มงวด
การโจมตีของรัสเซียเห็นผลทันที แต่สหรัฐฯ กับพรรคพวกที่ส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดมาเป็นปีๆ แล้ว กลับไม่ได้
อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ศิลปินหนุ่มผู้สวมแว่นตา กล่าว
ปฏิบัติการทางอากาศของสหรัฐฯ ช่วยให้กองทัพอิรักสามารถยึดเมืองต่างๆ ที่สูญเสียให้กับไอเอสในปี 2014 กลับคืน
มาได้มากพอสมควร แต่ในภาพรวมยังถือว่าภารกิจของวอชิงตันไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรจะเป็น
ฝูงบินขับไล่รัสเซียเริ่มทิ้งบอมบ์ในซีเรียตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน และเมื่อวันพุธ (7 ต.ค.) มอสโกก็ได้ยกระดับการโจมตี
ให้หนักหน่วงยิ่งขึ้น โดยมีคำสั่งให้กองเรือรบในทะเลแคสเปียนยิงขีปนาวุธร่อนเข้าไปโจมตีเป้าหมายในซีเรีย
แม้จรวดบางลูกจะลอยข้ามน่านฟ้าอิรัก แต่พลเมืองส่วนใหญ่ซึ่งเป็นมุสลิมนิกายชีอะห์ดูจะยินดีเปิดทางให้อย่างเต็มที่
ด้วยความหวังว่าภารกิจของรัสเซียจะนำมาซึ่งจุดเปลี่ยนของสงครามที่พวกเขารอคอย
สื่อตะวันตกชี้ว่า การโจมตีของรัสเซียถูกเป้าหมายไอเอสเพียงเล็กน้อย แต่ถึงกระนั้น โมฮาเหม็ด ก็ไม่ปล่อยให้ข้อมูล
ทางสถิติเหล่านี้มาบั่นทอนความรู้สึกกระชุ่มกระชวยของเขา
พวกเราไม่ต้องการพันธมิตรสหรัฐฯ เราต้องการรัสเซียเพียงชาติเดียวเท่านั้น และจะเตรียมเชือดแกะไว้ต้อนรับพวก
เขาเลยทีเดียว
หลายปีที่ผ่านมา รัสเซียประกาศจุดยืนปกป้องซีเรียและอิหร่านอย่างเข้มแข็งในเวทีนานาชาติ ด้วยเหตุนี้ชาวอิรักส่วน
หนึ่งจึงมองว่ามอสโกเป็น พันธมิตรโดยธรรมชาติ กับพวกเขามากกว่าสหรัฐฯ ซึ่งเคยรุกรานและปกครองอิรักอยู่นาน
ถึง 8 ปีเต็ม
ภาพลักษณ์ผู้นำที่เข้มแข็งสมชายชาตรีของ ปูติน ยังถือว่าโดนใจชาวอิรักเข้าอย่างจัง เพราะแม้จะสิ้นยุคเผด็จการ
ซัดดัม ฮุสเซน ไปนานถึง 12 ปี แต่ผู้คนที่นี่ก็ยังยึดติดค่านิยมผู้นำแกร่งอยู่ไม่เสื่อมคลาย
ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในอิรักบางคนยกสถานะ พลเมืองกิตติมศักดิ์ ให้ผู้นำรัสเซียไปแล้ว บ้างก็อ้างหลักฐานทาง
สัทศาสตร์เพื่อผูกโยงนามสกุล ปูติน ว่ามีที่มาจาก อบู ตีน
เรื่องมันเป็นอย่างนี้... พ่อของ ปูติน เป็นพ่อค้าขายของชำจากชุมชนชีอะห์ทางภาคใต้ของอิรัก ใกล้ๆ เมืองนาซิริยาห์
เขาเป็นคนริเริ่มนำลูกมะเดื่อ ( ตีน (tin) ในภาษาอาหรับ) ไปขายในตลาดชุมชน ชาวบ้านเลยเรียกเขาว่า อบู ตีน
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลง เขาก็ย้ายไปอยู่สหภาพโซเวียต และแต่งงานกับหญิงสาวผมบลอนด์ชาวรัสเซีย
พอมีลูกชายก็ตั้งชื่อว่า อับดุลอามีร์ (Abdulamir) ซึ่งต่อมาชาวบ้านออกเสียงเพี้ยนเป็น วลาดิเมียร์
เรื่องราวลักษณะนี้ถูกแชร์ต่อๆ กันในกลุ่มผู้ใช้เฟซบุ๊ก จนบางคนถึงกับเรียกผู้นำรัสเซียว่า ปูติน ผู้เป็นชาวชีอะห์
(Putin the Shiite) และใช้รูปถ่าย ปูติน มาเป็นภาพโปรไฟล์ของตัวเอง
เราน่าจะมอบความเป็นพลเมืองอิรักและซีเรียให้แก่ ปูติน เพราะเขารักใคร่พวกเรามากกว่านักการเมืองของเราเอง
เสียอีก โมฮัมเหม็ด อัล-บาฮัดลี นักศึกษามุสลิมชีอะห์ในเมืองนาจาฟ ให้สัมภาษณ์
ชาติมุสลิมเข้ามาทิ้งบอมบ์ใส่เรา เพราะหาว่าเราเป็นรอฟีเฎาะห์ (ผู้เบี่ยงเบน) สะอัด อับดุลเลาะห์ เจ้าของร้าน
สะดวกซื้อในเมืองนาจาฟกล่าว
แต่ ปูติน ซึ่งเป็นคริสต์ออร์โธดอกซ์กลับมาปกป้องพวกเรา... บางทีเขาอาจเป็นชีอะห์จริงๆ ก็ได้ แต่เราไม่รู้เท่านั้น
เอง เขากล่าวด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง
อาลี อัล-รอมมาฮี คนขับแท็กซี่ชาวอิรัก บอกว่า ปูติน เป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้เขายังไม่อพยพหนีตายตามผู้ลี้ภัยอีก
หลายแสนคนไปยุโรป
ขอบคุณ ปูติน ที่ทำให้ผมมีความเชื่อมั่นที่จะอาศัยอยู่ในอิรักต่อไป
ฮัจญีปูติน ดีกว่า ฮุสเซน โอบามา เขากล่าว
กลุ่มควันที่นักเคลื่อนไหวอ้างว่าเป็น "ระเบิดดาวกระจาย" ที่ถูกทิ้งลงมาจากเครื่องบินขับไล่รัสเซีย ที่เมืองมาเร็ต
อัล-นามาน จังหวัดอิดลิบของซีเรีย เมื่อวันที่ 7 ต.ค.
กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่คลิปวิดีโอชิ้นหนึ่งในวันพุธ (7 ต.ค.) ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นการใช้จรวดโจมตีที่ตั้ง
กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ในหลายพื้นที่ในประเทศซีเรีย โดยยิงจากเรือรบ 4 ลำ ในทะเลแคสเปียน ที่อยู่ห่างออกไปถึง
1,500 กิโลเมตร ข้ามดินแดนประเทศอิหร่านกับอิรัก รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียแถลงว่า จรวดทั้งหมดพุ่งเข้าทำลายทุก
เป้าหมายอย่างแม่นยำ แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯรายหนึ่งจับผิดว่ามันพลาดเป้าหมายและไปตกในแผ่นดินของอิหร่าน
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000113478