เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสิงค์โปร เผย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นพื้นที่เอื้อต่อการปฏิบัติการก่อการร้าย
irna เจ้าหน้าที่อาวุโสสิงคโปร์ได้เผยเมื่อวันอังคารที่ 19 มกราคม 59 หลังจากผู้ก่อการร้ายไอซิส ได้โจมตีกรุง จาการ์ตา อินโดนีเซีย และการจับกุมผู้ก่อการร้ายในประเทศมาเลเซียหลายสิบคน ยอมรับว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นพื้นที่ที่เอื้ออำนวยและพร้อมในการปฏิบัติการก่อการร้าย
คี ชอง ควน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของสิงคโปร์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นปลัดกระทรวงยุติธรรมและมหาดไทยรับผิดชอบในงานด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ความล้มเหลวที่ผ่านมาของการเป็นผู้นำในภูมิภาคเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับ การระเบิดของก่อการร้ายบนพื้นฐานของศาสนา
เขากล่าวว่า ความล้มเหลวเหลานี้เป็นผลมาจาก การแสวงหาผลประโยชน์แห่งการเหยียดหยาม ด้านเชื้อชาติและศาสนาซึ่งถูกกำหนดโดยผู้นำทางศาสนาบางคนและ Secular อีกทั้งการไม่มุ่งเน้นการพัฒนา การศึกษาจากรัฐบาล และการขาดความมุ่งมั่นในการแก้ปัญหาการเมืองหลายชาติเผ่าในประเทศ
เจ้าหน้าที่อาวุโสของสิงคโปร์เชื่อว่า สถานการณ์เช่นนี้ในปีที่ผ่านมาหลังจากการปรากฏตัวของกลุ่มตักฟีรีไอซิสในตะวันออกกลางได้ทวีความรุนแรงขึ้น และการโจมตีที่ร้ายแรงที่ผ่านมาในใจกลางกรุงจากาตาร์อินโดนีเซียนั้น มีความสัมพันธ์โดยตรงกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส
เขากล่าวเสริมว่า การบรรยายของนักพูดที่สนับสนุนความอคติและความรุนแรง การเข้าถึงหลักคำสอนแห่งความรุนแรงอย่างง่ายดายจากโลกอินเทอร์เน็ตและการยกย่องการก่อการร้าย ความรุนแรงและการตัดศีรษะ คือปัจจัยแห่งการเติบโตและการพัฒนาของการก่อการร้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เขากล่าวเสริมว่า กลุ่มหัวรุนแรงดังกล่าวต้องการที่จะล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งและสร้างรัฐอิสลามขึ้นมา
เขากล่าวย้ำว่า ค่าใช้จ่ายในการนี้จะมีแต่เลือดความทุกข์ยากและความสูญเสียเท่านั้น แต่ทว่าอุดมการณ์และความคิดเช่นนี้จะไม่มีวันประสบความสำเร็จ
ตามรายงานสำนักข่าวเอเชีย เผยว่า
เจ้าหน้าที่ของสิงค์โปรแสดงความกังวลต่อเหตุการณ์ล่าสุดในมาเลเซียและการที่เจ้าหน้าที่สามารถการสกัดกั้นการวางแผนก่อเหตุโจมตีของผู้ก่อการร้าย และกล่าวเสริมว่า ในบรรดาผู้ที่ถูกจับกุมมีบุคลากรกองกำลังความมั่นคงร่วมอยู่ด้วย เช่น คอมมานโด ตำรวจ ข้าราชการและลูกจ้าง ซึ่งบุคคลเหล่านี้รู้จักสถานที่มีความละเอียดอ่อน อาวุธ และสามารถเข้าถึงข้อมูลซึ่งจะเป็นภัยคุกคามความปลอดภัยมากยิ่งขึ้นเขาได้ชี้ถึง ผลการสำรวจของสำนักโพล Pew Research Center ที่บ่งชี้ว่า
ร้อยละ 10 ของชาวมาเลเซียให้การสนับสนุนความรุนแรง ความคลั่งไคล้ และกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีตามสถิติของศูนย์การศึกษา Merdeka เผยว่า ร้อยละ 53 ของมาเลเซียให้การสนับสนุนกฎหมายการตัดแขนขาสำหรับการโจรกรรมและการป่าหินลงโทษผู้ที่ล่วงประเวณี
เขาเชื่อว่า การปล่อยตัวนักโทษก่อการร้ายจำนวนมากจะก่อให้เกิดภัยอันตรายของก่อการร้ายในภูมิภาคมากยิ่งขึ้น ซึ่งเรือนจำที่ได้คุมขังผู้ก่อการร้ายจำนวนมากนั้น กลายเป็นสถานปมเพาะและดึงดูดบรรดากองกำลังของกลุ่มก่อการร้าย
เขากล่าวว่า นักโทษหลายร้อยคนในอินโดนีเซียจะได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ ตามเงื่อนไขของเรือนจำ หรือจะได้รับการปล่อยตัวในช่วงปลายปีนี้ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค
เขากล่าวเสริมว่า
การร้องเรียนและเงื่อนไขทางเศรษฐกิจและสังคมของชนกลุ่มน้อยในประเทศไทย ฟิลิปปินส์ และพม่า จะยิ่งเพิ่มภัยคุกคามของการก่อการร้ายมากขึ้นบางสถิติแสดงให้เห็นว่า มีพลเมืองของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นับพันคนได้เข้าร่วมกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในอิรักและซีเรีย และกลับมายังประเทศของตนก็จะเพิ่มความเสี่ยงและภัยคุกคามต่อภูมิภาค
http://www.irna.ir/fa/News/81927394/http://www.abnewstoday.com/6647https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1668445086754164&id=1395770040688338&substory_index=0