https://www.facebook.com/BBCThai/posts/1693517197535980:0บีบีซีไทย - BBC Thai
จำเลยคดีเกาะเต่าให้การในศาล บอกเล่าอย่างละเอียดถูกทรมานให้สารภาพว่าสังหารนักท่องเที่ยว
บีบีซีไทย: เมื่อวันที่ 1 และ 2 ก.ย.ที่ผ่านมาที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้มีการพิจารณาคดีสังหารชาวอังกฤษสองคน
คือเดวิด มิลเลอร์ และฮันนา วิทเธอริดจ์ ในวันที่ 1 ก.ย.เป็นการสืบพยานที่เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนของคดีดังกล่าว
และในวันที่ 2 ก.ย.เป็นการสืบพยานจำเลย โดยจำเลยหนึ่งในสองคนได้ให้ปากคำต่อศาลคือ
นายซอ ลิน หรือโซ เรน การให้ปากคำของเขามีการบรรยายถึงช่วงการถูกจับและถูกซ้อมทรมานอย่างละเอียด
คดีนี้ได้รับความสนใจมีผู้เข้าร่วมฟังการสอบปากคำจำนวนมาก และในระหว่างที่ฟังการให้การของนายซอ ลิน
บรรดาผู้สื่อข่าวและผู้สังเกตการณ์ต่างพากันเดินออกจากห้องพิจารณาเป็นระยะ ๆ
เพื่อออกมาจดข้อมูลที่ได้ยินจนกระทั่งถูกผู้พิพากษาปราม
เนื่องจากศาลคดีนี้ไม่อนุญาตให้จดบันทึกข้อความ
แม้การพิจารณาคดีจะเป็นการพิจารณาคดีโดยเปิดเผย
ข้อความจากการให้การของเขา ไปปรากฏในรายงานข่าวของสื่อต่างประเทศหลายราย
บีบีซีไทยได้รับบันทึกสั้น ๆ จากหนึ่งในผู้เข้าสังเกตการณ์การพิจารณาคดี
คือพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ต่อไปนี้คือบันทึกจากข้อสังเกตของเธอ
ซอ ลิน จำเลยชาวพม่าเบิกความกับศาลหนนี้ ผ่านการซักถามของทนายและการแปลของล่าม
เขาเริ่มด้วยการเล่าว่าไปทำงานที่เกาะเต่าอยู่นานร่วมสองปี โดยทำงานในร้านอาหารและย้ายงานอยู่หลายร้าน
เดือนสุดท้ายก่อนถูกจับทำที่ร้านชื่อ Brothers ตามเงื่อนไขของนายจ้าง
เขาจะได้หยุดช่วงกลางเดือนของทุกเดือนตามที่ตกลงกันเอง
ดังนั้นเมื่อวันที่ 14 เดือนนั้นเขาจึงนัดแนะเพื่อนสองคนคือนายวิน ซอ ตัน หรือเว พิวและนายเมาเมา
ให้ไปสังสรรค์และซื้อเบียร์ไปดื่มกัน พวกเขาใช้มอเตอร์ไซค์ไปซื้อบุหรี่และเบียร์
และพากันไปนั่งที่ชายหาด เอากีตาร์ไปเล่นและร้องเพลง พวกเขาผลัดกันสูบบุหรี่ในระหว่างเล่นกีตาร์
ซึ่งก็ทำให้ปรากฏในเวลาต่อมาว่าบุหรี่ที่เจ้าหน้าที่เก็บได้นั้นมีดีเอ็นเอของคนมากกว่าหนึ่งคนบนบุหรี่
นอกจากเบียร์แล้ว เมาเมายังไปหาไวน์มาดื่มต่ออีก ช่วงหนึ่งเมาเมาต้องการไปพบกับแฟน
และได้ขอเปลี่ยนจากเสื้อพนักงานเป็นเสื้อแขนยาวของเว พิวเพราะหนาว ก่อนที่จะขับรถมอเตอร์ไซค์ไป
ต่อมาซอลินและวินพิวไปซื้อเบียร์มาดื่มอีก แล้วก็มีฝนตกลงมาจึงคิดจะเดินกลับ
รู้สึกมึนหัวเขาจึงไปลงน้ำเพราะหวังว่าจะได้รู้สึกดีขึ้น เขาไปลงทะเลเช่นเดียวกับเวพิวที่ถอดเสื้อผ้าและรองเท้า
รวมทั้งนำกีตาร์เอาไปแอบไว้เช่นกัน แต่เมื่อพวกเขาขึ้นจากน้ำก็พบว่าของหายไปหมด
พวกเขาก็บ่นเรื่องของหายแต่ก็ปล่อยให้เรื่องผ่านไป ทั้งหมดกลับไปนอนที่บ้านเมาเมา
และไม่ได้ทำงานในวันที่ 15 ก.ย. วันต่อต่อมาก็ทำงานทุกวันเป็นปกติ
จนกระทั่งมาถูกจับเอาในเวลา 01.00 น.ของวันที่ 2 ต.ค.ที่บ้านพักของซอลิน
ซอลินเล่าว่า ในคืนวันนั้น มีคนที่เข้าใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ไม่ใส่เครื่องแบบ
เข้าไปในห้องเช่าที่มีพวกเขาใช้ร่วมกันทั้งหมด 7 คนและจับกุมพวกเขา
พวกเขาถูกใส่กุญแจมือ และถูกพาไปยังตึกแห่งหนึ่งซึ่งต่อมารู้ว่าคือโอเชียนวิลล์
สถานที่พักใกล้ที่เกิดเหตุฆาตกรรม เมื่อเข้าไปในห้องมีการเปลี่ยนเป็นใส่กุญแจมือไขว้หลัง
แล้วให้ถอดเสื้อไปติดไว้ที่แขนด้านหลัง ถูกสั่งให้ถอดกางเกงรวมทั้งกางเกงชั้นใน
แล้วก็มีการนำถุงพลาสติกครอบหัว มัดปากถุงด้านหลัง เขาถูกถามว่า ได้ฆ่าฝรั่งหรือไม่
แต่ซอลิน บอกว่าขณะนั้นตนหายใจไม่ออกก็ได้กัดถุงพลาสติกขาดไปหนึ่งใบ
แต่ก็มีใบที่สองมาสวมทับอีก แล้วก็มีคำถามตามมาอีกว่า ได้ฆ่าหรือไม่ เขาตอบไปว่าไม่ได้ฆ่า
ก็มีผู้นำถุงพลาสติกใบที่สามมาครอบไว้ ทำเช่นนี้ติดต่อกันหลายครั้ง จนเกือบขาดอากาศหายใจและล้มลง
ซอลินเล่าอีกว่า ต่อมามีคนเอาผ้ามาผูกปิดตา แล้วก็ให้ใส่เสื้อผ้า เขาถูกขู่ว่าถ้าไม่รับสารภาพก็จะถูกฆ่าตาย
ด้วยการถ่วงด้วยหินแล้วโยนทิ้งทะเล เขาได้รับการบอกเล่าว่าเพื่อนๆ ที่ถูกจับมาพร้อมกันนั้น
ถูกเจ้าหน้าที่ส่งกลับประเทศพม่าไปแล้วและจะไม่มีใครรู้ว่าเขาถูกฆ่าตาย หากเขายอมรับสารภาพก็จะติดคุก 4-5 ปี
มีคนพูดกับเขาว่าจะติดคุกหรืออยากจะถูกฆ่าตาย
ต่อมาเขาถูกถีบที่หน้าอก ถูกตบ ชกที่หน้าหลายครั้ง จนปากแตกและเลือดไหล ในระหว่างที่ถูกทรมาน
และบังคับให้สารภาพ เขาได้ยินเสียงของคนไทยพูดคุยกับล่าม บางครั้งก็ไม่ใช่เป็นการแปล
แต่เป็นล่ามพูดเอง บางครั้งก็จะเป็นการแปลภาษาจากภาษาไทย
ในที่สุดซอลินบอกว่า เขาทนความเจ็บปวดไม่ไหวและยอมบอกไปว่าจะรับว่าได้ฆ่าฝรั่ง
ซอลินถูกจับช่วงเช้าตรู่คือ 01.00 น.ของวันที่ 2 ต.ค. เจ้าหน้าที่อ้างว่าเป็นการจับกุม
โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ถือว่าเป็นบุคคลที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย
โดยทนายจำเลยได้ระบุว่าซอลินมีหลักฐานการเข้าเมืองโดยถูกกฎหมายพร้อมหนังสือเดินทาง
ระหว่างการควบคุมตัวพบว่าไม่มีการทำบันทึกสอบสวนในฐานความผิดพ.ร.บ.คนเข้าเมืองดังกล่าว
แต่ได้จัดทำเป็นบันทึกสอบสวนพยาน
โดยมีการบันทึกในทำนองว่า ซอลินได้สารภาพว่ากระทำความผิดข้อหาฆ่าและข่มขืนนักท่องเที่ยว
ทางฝ่ายทนายจำเลยได้ซักถามนายซอลินในชั้นศาลพบว่า ในระหว่างที่มีการเข้าจับกุม
ผู้ถูกจับไม่ได้รับแจ้งสิทธิ ไม่มีการระบุข้อหา และในระหว่างการสอบสวนก็ไม่มีทนายไปนั่งฟังการสอบสวน
รวมทั้งขณะที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั่งพิมพ์เอกสารซึ่งให้นายซอลินลงชื่อนั้นก็ไม่มีการสอบถามใดๆ
เพียงแต่ให้นายซอลินนั่งลง แล้วล่ามและตำรวจก็พูดคุยกัน พิมพ์เอกสารจนเสร็จ
แล้วให้นายซอลินลงลายมือชื่อโดยไม่ได้อ่านและไม่ได้แปลให้ฟังแต่อย่างใด
บีบีซีไทย หมายเหตุ: เมื่อเดือนตุลาคม 2557 สื่อทั้งในและต่างประเทศหลายราย
รายงานว่าจำเลยในคดีนี้ได้กลับคำรับสารภาพ
โดยระบุว่าถูกทำร้ายร่างกายให้ยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษทั้งสองคน #KohTao