5555 อันนี้คือ " มุมมอง " ของท่านอดีต เปา ระดับสูง อ่ะ ฮา 5555
ยาย " ชื่นชม " ท่าน ในความ ตรงไป ตรงมา อ่ะ ฮา 5555
55555 ไม่รู้ใครกล่าวไว้ " ความยุติธรรม " ไม่สามารถ ลงไปถึงข้อเท็จจริง อ่ะ ฮา 55555
https://www.facebook.com/chuchart.srisaeng/posts/768995356560026?fref=nf&pnref=storyChuchart Srisaeng
24 December at 14:08 ·
.....กรณีนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คนคือ นายเดวิด วิลเลียม มิลเลอร์ อายุ 24 ปี
และ นางสาวฮันนาห์ วิคตอเรีย วิทเอธอริดจ์ อายุ 24 ปี ถูกฆ่าถึงแก่ความตาย เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2557 นั้น
.....ต่อมาพนักงานอัยการได้เป็นโจทก์ฟ้องนายซอ ลิน หรือโซเรน ไม่มีนามสกุล เป็นจำเลยที่ 1
และนายเวพิวหรือวิน ไม่มีนามสกุล เป็นจำเลยที่ 2 ตามคดีอาญาหมายเลขดำที่ 2040/2557
ว่าจำเลยทั้งสองได้ร่วมกันฆ่านายเดวิด วิลเลี่ยมมิสเลอร์ ผู้ตายที่ 1
และร่วมกันข่มขืนกระทำชำเรานางสาวฮันน่าห์ วิคตอเรีย วิทเทอร์ริคจ์
หรือฮันน่าห์ วิคตอเรีย วิทเอธอริดจ์ ผู้ตายที่ 2
อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง แล้วร่วมกันฆ่าผู้ตายที่ 2 เพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน
และจำเลยที่ 2 ลักโทรศัพท์เคลื่อนที่และแว่นตากันแดดของผู้ตายที่ 1ไปโดยทุจริต
เหตุเกิดที่ ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83,91,276,288,289,334,33
พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 4,5,7,11,12,18,58,62,81 ฯลฯ
.....จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
.....วันนี้ที่ 24 ธันวาคม 2558 ศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้อ่านคำพิพากษาคดีนี้แล้ว ศาลได้วินิจฉัยโดยสรุปว่า
ผลการตรวจดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสอง พบว่าดีเอ็นเอที่ตรวจพบจากคราบอสุจิ
บริเวณช่องคลอดผู้ตายที่ 2 ตรงกับดีเอ็นเอของจำเลยที่ 2
ส่วนดีเอ็นเอที่ตรวจพบจากครอบอสุจิบริเวณช่องทวารหนักผู้ตายที่ 2 ตรงกับดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสอง
ซึ่งรายงานผลการทดสอบเปรียบเทียบอีเอ็นเอของคนร้ายกับดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสอง
ตามเอกสาร จ.17 มีค่าตำแหน่งดีเอ็นเอตรงกันทั้ง 16 ตำแหน่ง
จึงสามารถพิสูจน์เอกลักษณ์ของบุคคลได้อย่างแน่ชัดตามมาตรฐานสากล
.....พยานโจทก์ผู้ทำการตรวจเก็บและนำเนื้อเยื่อของจำเลยทั้งสองส่งตรวจพิสูจน์เบิกความยืนยันว่า
ได้จัดส่งไปตรวจพิสูจน์ทันทีทันใด ดังนั้นย่อมไม่มีโอกาสที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและแพทย์ผู้ตรวจผ่าศพ
และนักวิทยาศาสตร์ผู้ตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของคนร้ายจะสามารถนำอสุจิหรือสารประกอบน้ำอสุจิ
ซึ่งอยู่ในร่างกายส่วนลึกของจำเลยทั้งสองไปใส่ไว้ในช่องคลอและช่องทวารหนักของผู้ตายที่ 2 ได้
ทั้งยังมีพยานบุคคลยืนวันว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้นำโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางของผู้ตายที่ 1
มามอบให้ในช่วงเวลาหลังเกิดเหตุไม่นาน อันเป็นหลักฐานยืนยันได้ส่วนหนึ่งว่าจำเลยที่ 2
ต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุคดีนี้ พยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบทั้งในส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอของจำเลยทั้งสอง
ที่ตรงกับดีเอ็นเอของคนร้าย วัตถุพยานของกลางในที่เกิดเหตุ รวมทั้งพยานแวดล้อมกรณีก่อนและหลังเกิดเหตุ
ล้วนมีน้ำหนักพิสูจน์เชื่อมโยงให้เห็นและรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัยเชื่อได้ว่า
จำเลยทั้งสองได้กระความผิดตามโจทก์จริง
.....พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามโจทก์ฟ้อง
ให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มตรา 289 ซึ่งเป็นบทหนักที่สุด
ให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสอง
.....ขอเพิ่มเติมว่า คดีนี้ศาลฟังว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดโดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
ซึ่งยากที่กลั่นแกล้งกันได้ ดังที่ศาลได้วินิจฉัยไว้ในคำพิพากษา
ไม่ได้อาศัยคำรับสารภาพของจำเลยในชั้นสอบสวนที่จำเลยอ้างว่า
ต้องรับสารภาพเพราะถูกทำร้าย มารับฟังลงโทษจำเลย