เมื่อวาน(30/9/57)ผมได้ไปฟังคำพิพากษาของศาลชั้นอุทรณ์
คำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นครับ คือยกฟ้องทุกข้อกล่าวหา
1. มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาติ
2.พาไปในเมืองโดยไม่มีเหตุจำเป็น
3.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และเกินกว่าเหตุ
โดยสองสาเหตุแรก จบไปตั้งแต่ศาลชั้นต้น แต่โจทก์(อัยการศาลชั้นอุทรณ์)ติดใจในข้อสาม จึงอุทรณ์ผมต่อ
โดยอ้างเหตุในแนวว่า ผมสมัครใจในการครั้งนี้ และใช้อาวุธปืนเกินกว่าเหตุ(ปลอกกระสุนปืน 6 ปลอกตกในที่เกิดเหตุ)
โดยศาลชั้นอุทรณ์พิพากษาโดยสรุปสั้นๆนะครับ
หลังจากพวกของผู้ตาย(19 คนตามพยานฝ่ายโจทก์ได้อ้างไว้) ซึ่งมีอาวุธมีดครบมือทุกคน วิ่งออกไปจากที่เกิดเหตุ (เหลือ 1 คนคือผู้ตาย) ขณะที่จำเลยเดินออกมาเพื่อไปตรวจดูรถกระบะ ผู้ตายถืออาวุธมีดยาวรวมทั้งด้าม 2 ฟุต วิ่งเข้ามาฟันจำเลยทางด้านหลังจำเลยหันไปยกอาวุธปืนขึ้นรับ แล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย(ยกปืนรับตามสัญชาติญาณครับ ประชิดตัวมากครับตอนนั้น)
ตามพฤติการณ์ที่จำเลยถืออาวุธปืนออกมาเพื่อไปตรวจดูรถกระบะอันเป็นทรัพย์สินของจำเลยว่าเสียหายหรือไม่เช่นนี้ ไม่อาจถือได้ว่าเป็นการสมัครใจเข้าวิวาทดังที่โจทก์อุทรณ์(อัยการ) เมื่อผู้ตายใช้อาวุธมีดฟันจำเลย ทั้งๆที่จำเลยไม่ใช่บุคคลที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับผู้ตาย
การกระทำของผู้ตายจึงเป็นการประทุษร้ายจำเลยอันเป็นการละเมิดต่อกฎหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง หากจำเลยไม่ใช้อาวุธปืนยิงสกัดผู้ตายแล้ว จำเลยก็อาจต้องเสียชีวิตจากการถูกผู้ตายใช้อาวุธมีดฟันและแทงได้เช่นกัน
ดังนั้นการที่จำเลย ใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายขณะตกอยู่ในภาวะคับขันเป็นภยันตรายไม่อาจหลีกเลี่ยงเป็นอื่นได้เช่นนี้ แม้จำเลยจะยิงปืนออกไปหลายนัดในระยะใกล้ๆ แต่กระสุนปืนคงถูกผู้ตายเพียงบางนัดเท่านั้น แสดงว่าจำเลยไม่มีโอกาสเล็งเป้าหมาย หากแต่ยิงผู้ตายด้วยความตกใจกลัวอย่างลุกลนเพื่อหวังหยุดยั้งผู้ตายและเอาชีวิตของตนให้รอดพ้นจากพยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายซึ่งตนไม่ได้เป็นผู้ก่อขึ้นในครั้งนี้เท่านั้น
หาได้มั่นหมายที่จะคิดทำเอาแก่ผู้ตายเพียงอย่างเดียวเท่านั้นไม่ การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุจึงเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย หาได้ไม่เป็นการป้องกันหรือป้องกันเกินสมควรแก่เหตุดังที่โจทก์อุทรณ์ไม่ ที่ศาลชั้นต้นพิพากษามานั้น ต้องด้วยด้วยความเห็ของศาลอุทรณ์ภาค..... อุทรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน
เรื่องของเรื่องเค้าตีกันมาก่อนแล้วครับ แต่มาตีกันที่หน้าห้องแถวที่ผมไม่รู้อิโหนอิเหน่อะไร พอเห็นว่าสู้ไม่ได้ ก็กลับไปเอาพวกมาอีก รวมแล้ว 19 คน มีอาวุธมีดดาบกันทุกคน(มีดทำกันเอง)
แล้วคิดทึกทักเอาว่าคู่อริของมันพักอยู่ห้องแถวที่ผมอยู่ ด้วยกำลังที่มากกว่าก็ไล่ถีบประตูห้องแรก มาเรื่องๆจนถึงข้างห้องผม (ตอนนั้นข้างห้องหอบเอาลูกสองเมียหนึ่งหนีมาอยู่ห้องผม เข้าทางหลังบ้านแต่ซอยตัน)
ปากก็ตะโกนว่ามันอยู่ไหน เอามันให้ตาย อีแบบนี้เป็นใครก็ต้องสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัวหละครับ พอถึงห้องผม มันยังไม่ทันถีบหรอกครับ ผมก็เปิดประตูพูดออกไปว่า ที่นี่ไม่เกี่ยว อย่ายุ่ง
แทนที่จะไม่เข้ามา กลับกรูเข้ามาหา ผมก็ขึ้นลำปืนให้เห็น ทีนี้เป็นผึ้งแตกรังเลยครับ วิ่งหนีแยกย้ายกันไปหมด(เหลือผู้ตาย) พอเห็นว่าไปกันหมด เพื่อนผมที่มาหลบอยู่ในห้องผม บอกว่าไม่รู้มันฟันรถพี่ยับเยินรึยัง
ผมจึงออกไปดู ก็เลยเป็นเรื่องเลย
ผมอยากจะถามท่านสมาชิกว่า
1. มีโอกาสที่จะถูกฟ้องไปถึงศาลชั้นฎีกาหรือไม่ครับ(ตอนนี้โจทก์เป็นอัยการครับ )
2.ระยะเวลาที่โจทก์สามารถยื่นฟ้องในชั้นฎีกากี่วันครับ(รวมทั้งคำขอขยายระยะเวลายื่นฟ้องด้วยนะครับ ผมโดนมาแล้ว)
3.ถ้าไม่ได้ถูกฟ้องต่อ ต้องไปคัดขอคำสิ้นสุดคดี เมื่อพ้นไปกี่วันครับ ผมจะได้ให้พ่อโอนปืนทั้งสองกระบอกให้เป็นชื่อผมสักที รอมาแปดปีแล้วครับ พ่อจะให้ แต่ผมติดคดี
ผมหวังว่า กระทู็ของผมคงเป็นประโยชน์แก่สมาชิกที่เข้ามาอ่านทุกๆท่านนะครับ