ช่วยกันเชียร์น้องอะแมนด้าให้ไปถึงโอลิมปิคนะครับ

‘อะแมนด้า’ ชวนเพื่อนลุยทุ่งนา ตกปลา ทอดแห อีหล่าหย็อง หนองเม็ก ครวญ เป็นคนดังแล้วไม่เป็นตัวของตัวเอง ทำอะไรก็ถูกจับตามอง อยากเล่นกับเพื่อนๆ แต่ก็ต้องคอยถ่ายรูป แจกลายเซ็น มีคนมาขอคุยด้วยจนไม่มีเวลาพักผ่อน จนแม่ละมูล ต้องปลอบใจว่า อดทนเราเป็นคนของประชาชนไปแล้ว ไม่นานก็จะซาไปเอง ตอนนี้เราทำให้เขามีความสุข เราต้องทำต่อไปจนกว่าเขาจะเบื่อเราเอง

หลังกลับถึงบ้านหนองเม็ก อะแมนด้า ถึงกับหงายหลังแผ่สองสลึงลงพื้นกลางห้องโถงนอนอย่างสบาย ก่อนจะขอตัวไปนอน รุ่งเช้า ทีวีช่อง 3 มาเกาะติดถ่ายทำชีวิตความเป็นอยู่ รายการทีวีดัง สามแซบ ของม้า อรนภา ก็บุกถึงครัว ให้อะแมนด้าโชว์ตำบักหุ่ง พร้อมสัมภาษณ์ละเอียดยิบชีวิตในไทยและต่างแดน ก่อนจะกลายมาเป็นราชินี บีเอ็มเอ็กซ์ จากนั้น อะแมนด้า ชวนเพื่อนรักในวัยเด็ก ทั้งเก๋ง พีระพงษ์ , พลอย นงนุช และ จอย สุจิตรา ไปตกปลา ทอดแห ที่สระน้ำข้างทุ่งนาใกล้บ้าน จากนั้นก็ขอขี่รถจักรยานยนต์ที่ได้เป็นรางวัลมาเมื่อคืน พาเพื่อนจากสุโขทัยไปชมรอบหมู่บ้าน พาดูทุ่งนาสมัยไปวิ่งเล่นตอนเด็ก เผย อะแมนด้า ชอบตกปลามาก ชอบตอนปลาติดเบ็ดสนุกดี แต่ก็ปล่อยไม่เอามาทำอาหาร พร้อมแนะเยาวชนไทย “มักอีหยัง ให้เล่นอันนั่น แล้วกะตั้งใจเล่นให้มันเก่ง” ชอบอะไรให้รักและตั้งใจทำในสิ่งที่ชอบแล้วจะสำเร็จเอง

เมื่อช่วงเช้าวันที่9ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศจากบ้านเลขที่ 102 ม.15 บ้านหนองเม็ก ต.หนองเม็ก อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ยังคงคึกคักและมีชาวบ้าน สื่อมวลชน ทีวีมารุมสัมภาษณ์ถ่ายภาพรอบๆ บ้าน และพูดคุยกับนางละมูล พึ่งโพธิ์ อะแมนด้า คาร์ ที่ออกมาต้อนรับในท่าทางอิดโรยเล็กน้อย เนื่องจากตั้งแต่กลับมาเมืองไทยก็ไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ นางละมูล ได้จัดเตรียมสถานที่ต้อนรับที่บริเวณศาลาไม้หลังคากระเบื้องปูด้วยแผ่นไม้ยกสูงจากพื้นพอนั่งหย่อนขาสบายๆ มีอาหารน้ำดื่มไว้คอยบริการ และนำครกมาตำส้มตำ กินกับปลาทอด ไว้เลี้ยงแขก อย่างเป็นกันเอง

นางละมูล กล่าวว่า วันแรกที่เดินทางกลับเมืองไทยมีคนบอกว่า จะมีคนมาต้อนรับจำนวนมาก แต่ก็คิดไม่ว่า ลูกอะแมนด้า จะทำให้คนไทยมีความสุขได้มากขนาดนี้ อยู่กรุงเทพฯเดินสายไปพบปะผู้มีพระคุณอุปการะช่วยส่งเสริมสนับสนุนประชาสัมพันธ์ในการแข่งขันกระทั่งอะแมนด้าคว้าเหรียญทอง กลับมาให้คนไทยได้ชื่นชม วันแรกที่ถึงอุดรฯ ตกใจมากที่คนมามากขนาดนั้นดีใจมากจนลืมเหนื่อย พ่ออะแมนด้า ต้องเข้ามาประคองตลอด ซาบซึ้งน้ำใจของคนอุดรฯ และคนไทยทุกคนที่มอบให้อะแมนด้า และพอถึงบ้านหนองเม็ก บ้านเกิด ยิ่งตื่นเต้นใหญ่เลย เพราะคนมากรอต้อนรับกันมากมายจนล้นสวนสาธารณะหนองไผ่

หลังรับมอบรางวัล สนุกกับชาวบ้าน อะแมนด้ากลับมาถึงบ้านประมาณ สองทุ่มเศษๆ ก็เดินเข้าไปที่ห้องโถงแล้วก็หงายหลังผึ่งลงกับพื้นกระเบื้องกลางห้อง ก่อนจะบอกว่า ขอหลับสักงีบก่อนเด้อ อะแมนด้าหลับไปสักพักก็ลุกขึ้นมาพูดคุยกับญาติๆ ต่อพร้อมเอาเงินออกมานับเป็นเงินที่ได้จากชาวบ้านนำมาผูกข้อต่อแขนในพิธีบายศรีสู่ขวัญ ประมาณเกือบสองหมื่นบาท อะแมนด้าเอาเก็บไว้ใช้จ่ายซื้ออาหารเครื่องดื่มมาไว้รับแขกและให้ญาติๆ

นางละมูล กล่าวต่อว่า มีหน่วยงานทั้งของรัฐและเอกชน แจ้งมาว่าจะมีการมอบรางวัลให้มีทั้งเช็กเงินสดตั้งแต่ 1 แสนบาท และเงินสดจะมอบอีก 5 แสนบาท 1 ล้านบาท ก็มี รวมแล้วยอดเงินที่จะได้รับตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 4 ล้านบาท ก็จะเก็บไว้เป็นทุนให้อะแมนด้า ไว้ศึกษาและฝึกซ้อมกีฬาเพื่อเข้าแข่งขันโอลิมปิกต่อไป

ด้านอะแมนด้า กล่าวว่า ตอนนี้อยากอยู่กับหมู่ๆ คือ อยู่กับเพื่อนๆ ที่เคยอยู่กันมาตั้งแต่เด็ก เพื่อพูดคุย เล่นกันตามประสา เพราะไม่ได้เล่นด้วยกันมานาน ระหว่างที่อะแมนด้า อยู่ที่บ้านมีเด็กๆ ในหมู่บ้าน นักเรียนในละแวก ทยอยมาขอถ่ายรูปและพูดคุยด้วย โดยชูอะแมนด้า เป็นไอดอล คนใหม่

โดยอะแมนด้า ชวนเพื่อนๆ บ้านหนองเม็ก มี เก๋ง พีระพงษ์ อ้อยแขม , พลอย นงนุช วรรณเลิศ , จอย สุจิตรา อังคะปาน และเพื่อนๆ อีกหลายคนไปวิ่งเล่นและตกปลาด้วยคันเบ็ดไม้ไผ่แบบชาวบ้านอีสานที่บริเวณบ่อปลาใกล้บ้านริมทุ่งนา อะแมนด้า ตกปลาด้วยเหยื่อรำ และอาหารเม็ด แต่ปลาไม่กินเบ็ด เพื่อนๆ เลยพากันขุดไส้เดือนที่ริมบ่อมาใช้เป็นเหยื่อ เก๋ง เป็นเพื่อนผู้ชายที่ทะมัดทะแมงกว่าใครๆ เป็นคนจับไส้เดือนใส่เบ็ดให้อะแมนด้า

จากนั้นอะแมนด้า ก็โยนเหยื่อลงไปไม่นานปลากินเบ็ด อะแมนด้า ดีใจที่ปลากินเบ็ด แต่ตัวแรกหลุดตกลงไปในน้ำ มองเห็นเป็นปลาหมอไทยตัวขนาดสามนิ้วมือ ปลาหมอไทย หรือคนอีสานเรียกว่า ปลาเข็ง นิยมเอามาทำป่น หรือตำน้ำพริกป่นปลาเข็ง กินกับข้าวเหนียวแซบมาก อะแมนด้า ยังคงใช้เหยื่อไส้เดือนตัวเดิม หย่อนเบ็ดลงไป ไม่นานอะแมนด้าก็ได้ปลานิลตัวเล็กๆ ขึ้นมา และยิ้มบอกเพื่อนๆว่า ได้แล้ว ก่อนที่เพื่อนๆจะช่วยจับปลาปลดเบ็ดออกจากปาก อะแมนด้า บอกเพื่อนๆ ว่าอย่าบีบแฮงหลาย มันเจ็บ (คือจับปลาเบาๆ แล้วรีบปล่อยลงน้ำ)

จากนั้นอะแมนด้า ก็ชวนเพื่อนๆ ทอดแห โดยมีเก๋ง พีระพงษ์ เป็นคนเอาแหขนาด 6 ศอกมาให้อะแมนด้าทอดแห โดยอะแมนด้า แบอกว่า บ่อได้หว่านแหโดนแล้ว หลายปี ตั้งแต่อ้ายสอนให้ตอนอยู่ฟลอริดา และก็มาทอดแหกับเพื่อนที่หนองเม็ก โดยทอดแบบไม่ได้เอาแหใส่ข้อศอกและหัวไหล่เหมือนผู้ชายคนอีสาน แต่อะแมนด้าบอกว่า ชอบทอดแหแบบนี้ง่ายดี แต่อะแมนด้ายังบอกว่า บ่หว่านไปไกลเด้อ บ่ออยากลอยน้ำ คือจะทอดแหใกล้ๆ ฝั่งได้ปลา ไม่ได้ปลาก็ไม่เป็นไร เพราะไม่อยากลงไปงมแห น้ำมันลึกมาก เมื่ออะแมนด้าลากแหขึ้นบนริมบ่อน้ำอย่างทะมัดทะแมง และตะโกนบอกว่า ได้ปลาโตนึง (ได้ปลาหนึ่งตัว) แล้วก็รีบจับปลาโยนกลับลงไปในบ่อ จากนั้นอะแมนด้า ก็พาเดินชมสวนรอบๆบ้าน ที่ญาติๆพากันปลูกต้นบวบ เรียกว่าบวบยาว อะแมนด้าบอกว่าที่สหรัฐฯ ไม่มี นอกจากนั้นก็มีต้นมะละกอ ต้นพริก กะเพรา ผักพื้นบ้านหลายอย่าง ซึ่งอยู่บริเวณสวนหลังบ้าน

http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1412853433

น้องเป็นตัวอย่างที่ดี แทบไม่มีเค้าฝรั่งเลย แถมพูดจาเพราะ มีจ๊ะ มีค่ะทุกประโยค ซึ่งหาได้ยากในเด็กทุกวันนี้ เยี่ยม

ใครจะเชื่อว่าเด็กที่ชอบขี่จักรยาน จะมาได้ขนาดนี้ ต้องชื่นชมคุณพ่อคุณแม่น้องอะแมนด้าครับ เยี่ยม

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ช่วยกันเชียร์น้องอะแมนด้าให้ไปถึงโอลิมปิคนะครับ (อ่าน 773 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้