โทน73 -รักในหลวง-
มือปืนกาวช้าง
Hero Member
คะแนน 586
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 8574
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2014, 12:36:26 AM » |
|
คนที่คิดแบบต้นเรื่อง ไม่ใช้ผู้บริหาร
อ่านสำนวนก็รู้ว่าเรื่องมันจะลงเอยอย่างไร ...อิ อิ
เรื่องข้างบนมันแค่เกรินนำเท่านั้น หว่านล้อม ก่อนจูงเข้าประเด็น สิ่งพิมพ์ ก็ดันไปเอาแค่วาทะกรรมบางส่วน ไม่เอาเนื้อหามา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
....ตามล่า...อีตอแหล
|
|
|
น้าเสก คนเดิม
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 712
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 14502
รับแขก...แจกเหล้า...เฝ้าสำนักงาน
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: ตุลาคม 21, 2014, 02:58:10 PM » |
|
ชอบอันนี้ คือจริงแล้วเขาจะบอกว่าทางสายกลางดีสุด เงินทำได้เยอะ แต่ไม่ใช่ทุกสิ่ง ทุกเวลาเท่านั้น มีหลายเงื่อนไข แ่ล่มครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 1960
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 22591
"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2014, 12:48:37 AM » |
|
ข้อเท็จจริงข้อหนึ่งที่ผมเชื่อจากการประสบการณ์ที่ผ่านมา... คือคนเรามักตัดสินผู้อื่นโดยใช้ตัวเองเป็นเกณฑ์... คนโลภมักเชื่อว่าทุกคนโลภเหมือนตนเอง... คนเห็นแก่ตัวมักเห็นว่าทุกคนจ้องจะเอาเปรียบตนเอง... คนดีมักเชื่อว่าคนอื่นดีเช่นเดียวกับตัวเอง... สังคมทุกวันนี้คงเลวร้ายเหนือจินตนาการหากทุกคนเชื่อและหลงไปกับสังคมบริโภคนิยมครับ... คุณหมอลองพิจารณาด้วย นิยาม 5 ดูบ้างซิครับ ท่าน ป.อ. ปยุตฺโต สรุปได้สั้น ๆ กระชับดีมาก 1.อุตุนิยาม (physical laws) คือ กฎธรรมชาติเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ เช่น อุณหภูมิ ดินฟ้าอากาศ สิ่งแวดล้อม 2.พีชนิยาม (biological laws) คือ กฎธรรมชาติที่เกี่ยวกับพันธุกรรม กระบวนการถ่ายทอดข้อมูลของสิ่งมีชีวิตทั้งพืช สัตว์ เชื้อโรค ผ่านการสืบพันธุ์ 3.จิตนิยาม (psychic law) คือ กฎธรรมชาติเกี่ยวกับการทำงานของจิต เจตสิก 4.กรรมนิยาม (Karmic Laws) คือ กฎแห่งกรรม คือกฎแห่งการกระทำและผลของการกระทำ 5.ธรรมนิยาม (General Laws) อันได้แก่กฎไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ขอบพระคุณมากครับพี่... แต่กระชับและสั้นไปหน่อยครับ... คนตื้นเขินอย่างผมอ่านแล้วยังไม่กระจ่างครับ... พี่สุพินท์มีส่วนขยายหรือบทเทศน์เต็มไหมครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naisomchai
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2014, 08:49:12 AM » |
|
คนเขียนหนังสือขายไม่ใช่คนรู้จริงครับ อ่านหนังสือแล้วต้องเอาไปคิดต่อเอาเอง คนที่รู้จริงไม่มานั่งเขียนหนังสือขายหรือครับ ตัวอย่างที่ชัดเจนก็เช่นตำราเล่นหุ้น...
ก็เขียนหนังสือขายมียอดขายสูงก็ต้องเขียนให้ให้สำนักพิมพ์ใหญ่ระดับ บ.มหาชน ในตลาดหุ้น เขาก็คิดรายได้นักเขียนอยู่ 2 แบบคือเหมาจ่ายไม่เกิน 2 แสนบาท/เล่ม แล้วแต่ความยากง่ายหรือ เล่มหนาบาง, หรือไม่ก็คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ตามราคาขายและยอดขายฯ... สรุปเบ็ดเสร็จก็จะได้เงินต่อการสั่งพิมพ์หนึ่งครั้งไม่เกิน 2 แสนบาท สำหรับยอดพิมพ์ประมาณ 3000 เล่ม, แล้วรายได้ประมาณนี้ตลอดจะไม่มากกว่านี้ หากไม่ใช่ผู้เขียนชนิดรางวัลซีไรท์(ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าอาจโดนกดค่าเขียน)...
แล้วคิดว่าคนเขียนหนังสือ/แปลหนังสือในประเทศไทย จะมีคนที่"รู้จริง"สักกี่คนเล่าครับ... ในเมื่อรายได้ระดับ 2 แสนบาท/เดือนนี่คือเบสิคแบบต่ำๆ ของครอบครัวคนเมืองใหญ่ที่ผ่อนบ้านเดี่ยวย่านชานเมือง+ผ่อนรถเก๋งบ้านๆ 2 คัน(ผัวคันเมียคัน - โตโยต้า/ฮอนด้า) ของมนุษย์เงินเดือนปรกติธรรมดาครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naisomchai
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2014, 08:54:17 AM » |
|
ลืมขยายความต่อเรื่องรายได้นักเขียนครับ... คนที่เขียนหนังสือแล้วรวย ต้องเขียนหนังสือหลายเล่ม ที่สามารถสั่งพิมพ์ได้หลายครั้ง ปรับปรุงเนื้อหาแล้วพิมพ์ใหม่ได้กินนาน ซึ่งหนังสือระดับนั้นมีจำนวนน้อยมากในตลาดสิ่งพิมพ์ประเทศไทยครับ...
ที่สำคัญคือหนังสือหนึ่งเล่มนี่นั่งเขียนนั่งแปลประมาณ 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ!!!, ดังนั้นนักเขียนที่รวย จะต้องดังมากๆ สามารถเรียกแขก/เรียกลูกค้าให้สำนักพิมพ์ได้... สรุปว่าอ่านหนังสือแล้วต้องคิดต่อ/สรุปเอาเองด้วยครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 12903
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2014, 09:21:47 AM » |
|
ข้อเท็จจริงข้อหนึ่งที่ผมเชื่อจากการประสบการณ์ที่ผ่านมา... คือคนเรามักตัดสินผู้อื่นโดยใช้ตัวเองเป็นเกณฑ์... คนโลภมักเชื่อว่าทุกคนโลภเหมือนตนเอง... คนเห็นแก่ตัวมักเห็นว่าทุกคนจ้องจะเอาเปรียบตนเอง... คนดีมักเชื่อว่าคนอื่นดีเช่นเดียวกับตัวเอง... สังคมทุกวันนี้คงเลวร้ายเหนือจินตนาการหากทุกคนเชื่อและหลงไปกับสังคมบริโภคนิยมครับ... คุณหมอลองพิจารณาด้วย นิยาม 5 ดูบ้างซิครับ ท่าน ป.อ. ปยุตฺโต สรุปได้สั้น ๆ กระชับดีมาก 1.อุตุนิยาม (physical laws) คือ กฎธรรมชาติเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ เช่น อุณหภูมิ ดินฟ้าอากาศ สิ่งแวดล้อม 2.พีชนิยาม (biological laws) คือ กฎธรรมชาติที่เกี่ยวกับพันธุกรรม กระบวนการถ่ายทอดข้อมูลของสิ่งมีชีวิตทั้งพืช สัตว์ เชื้อโรค ผ่านการสืบพันธุ์ 3.จิตนิยาม (psychic law) คือ กฎธรรมชาติเกี่ยวกับการทำงานของจิต เจตสิก 4.กรรมนิยาม (Karmic Laws) คือ กฎแห่งกรรม คือกฎแห่งการกระทำและผลของการกระทำ 5.ธรรมนิยาม (General Laws) อันได้แก่กฎไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ขอบพระคุณมากครับพี่... แต่กระชับและสั้นไปหน่อยครับ... คนตื้นเขินอย่างผมอ่านแล้วยังไม่กระจ่างครับ... พี่สุพินท์มีส่วนขยายหรือบทเทศน์เต็มไหมครับ... ขยายแล้ว คงใหญ่กว่าสนามบินอีกครับ ก็คือกฎของธรรมชาตินั่นเอง (นิยาม แปลว่ากฎ) แต่คนไทยส่วนใหญ่ จะสนใจแต่กฎแห่งกรรมเรื่องเดียว แล้วก็ไม่ค่อยเชื่อถือกัน เพราะเห็นว่าคนทำชั่วไม่ค่อยได้ชั่ว หรือได้แต่ช้ามาก ซึ่งกฎอีก 4 ข้อจะอธิบายให้เอง ว่าทำชั่วไปได้อย่างไร และควรจะได้รับผลกระทบอย่างไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 50462
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2014, 01:42:44 PM » |
|
คนเขียนหนังสือขายไม่ใช่คนรู้จริงครับ อ่านหนังสือแล้วต้องเอาไปคิดต่อเอาเอง คนที่รู้จริงไม่มานั่งเขียนหนังสือขายหรือครับ ตัวอย่างที่ชัดเจนก็เช่นตำราเล่นหุ้น...
ก็เขียนหนังสือขายมียอดขายสูงก็ต้องเขียนให้ให้สำนักพิมพ์ใหญ่ระดับ บ.มหาชน ในตลาดหุ้น เขาก็คิดรายได้นักเขียนอยู่ 2 แบบคือเหมาจ่ายไม่เกิน 2 แสนบาท/เล่ม แล้วแต่ความยากง่ายหรือ เล่มหนาบาง, หรือไม่ก็คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ตามราคาขายและยอดขายฯ... สรุปเบ็ดเสร็จก็จะได้เงินต่อการสั่งพิมพ์หนึ่งครั้งไม่เกิน 2 แสนบาท สำหรับยอดพิมพ์ประมาณ 3000 เล่ม, แล้วรายได้ประมาณนี้ตลอดจะไม่มากกว่านี้ หากไม่ใช่ผู้เขียนชนิดรางวัลซีไรท์(ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าอาจโดนกดค่าเขียน)...
แล้วคิดว่าคนเขียนหนังสือ/แปลหนังสือในประเทศไทย จะมีคนที่"รู้จริง"สักกี่คนเล่าครับ... ในเมื่อรายได้ระดับ 2 แสนบาท/เดือนนี่คือเบสิคแบบต่ำๆ ของครอบครัวคนเมืองใหญ่ที่ผ่อนบ้านเดี่ยวย่านชานเมือง+ผ่อนรถเก๋งบ้านๆ 2 คัน(ผัวคันเมียคัน - โตโยต้า/ฮอนด้า) ของมนุษย์เงินเดือนปรกติธรรมดาครับ...
ลืมขยายความต่อเรื่องรายได้นักเขียนครับ... คนที่เขียนหนังสือแล้วรวย ต้องเขียนหนังสือหลายเล่ม ที่สามารถสั่งพิมพ์ได้หลายครั้ง ปรับปรุงเนื้อหาแล้วพิมพ์ใหม่ได้กินนาน ซึ่งหนังสือระดับนั้นมีจำนวนน้อยมากในตลาดสิ่งพิมพ์ประเทศไทยครับ...
ที่สำคัญคือหนังสือหนึ่งเล่มนี่นั่งเขียนนั่งแปลประมาณ 3 เดือนเป็นอย่างต่ำ!!!, ดังนั้นนักเขียนที่รวย จะต้องดังมากๆ สามารถเรียกแขก/เรียกลูกค้าให้สำนักพิมพ์ได้... สรุปว่าอ่านหนังสือแล้วต้องคิดต่อ/สรุปเอาเองด้วยครับ...
+ ครับพี่อ.สมชาย อย่างที่รวยก็เช่นยัยกาละแมร์ครับพี่สมชาย ขายมานับสิบปี หลายเล่ม รวยเป็นร้อยล้าน ดร.นิเวศน์ก็คงรวยกะหนังสือหุ้นเยอะเหมือนกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 1960
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 22591
"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2014, 03:59:52 PM » |
|
ขอบคุณครับพี่สุพินท์...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
naisomchai
บุคคลทั่วไป
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: ตุลาคม 22, 2014, 05:29:29 PM » |
|
ดร.นิเวศน์ก็คงรวยกะหนังสือหุ้นเยอะเหมือนกัน ดร.นิเวศน์ฯ รวยเป็นพันล้านก็จริง แต่เล่นหุ้นใช้เวลานานมาครับ แล้วได้เงินช้ามากเพราะวงรอบของแกยาวนานเหลือเกิน คือต้องรอให้บริษัทเติบโตไปพร้อมกับราคาหุ้นสูงขึ้น... แต่คนที่เล่นหุ้นเก่งกว่า อ.นิเวศน์มีแยะมากในประเทศไทยครับ(คนละแนว)... ที่ว่าเก่งกว่า ก็เพราะว่าอยากได้เงินเมื่อไหร่ก็เล่นเอาเงินได้ทุกเมื่อเหมือนกด ATM คือไม่จำเป็นต้องมีเงินเก็บเป็นพันล้านบาทให้เป็นอันตรายแก่ชีวิต เพราะมีเงินมากไปมันทำร้ายตัวเองครับ... คนเล่นเทคนิคัลที่เล่นเป็น เมื่อจับทางได้แล้วต้องลดพอร์ตของตนเองครับ เพราะชีวิตมันจะไม่สงบสุขครับ... แฮ่ๆ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
คมขวาน รักในหลวง
"จากดินแดนที่ราบสูงแห่งใบขวาน ข้ามแม่น้ำ ข้ามทะเล(ถ้านั่งเครื่อง) ข้ามภูเขา สู่ดินแดนแห่งด้ามขวาน "
Hero Member
คะแนน 1830
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 19896
ดนตรี คืออาภรณ์ของปราชญ์
เว็บไซต์
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2014, 06:45:00 AM » |
|
ปลายทางของทุกอย่าง ก็คือเพื่อความสุข เพียงแต่ความสุข หลาย ๆ อย่าง ผ่านเงิน เงินเป็นตัวกลาง และบางครั้ง เพราะเรามุ่งทุกวิถีทางเพื่อหาตัวกลาง จนสุดท้ายต้องห่างจากปลายทาง ยิ่งหาก็ยิ่งห่างจากปลายทาง สุดท้าย ก็เลยยิ่งต้องใช้ตัวกลางที่พยายามมีพยายามหา มาเป็นตัวช่วย ที่จะเข้าถึงปลายทาง แทนที่จะลดตัวกลาง แล้วพยายามหาวิธีเข้าถึงปลายทางโดยตรงชึ่งใช้ระยะทางและเวลาที่สั้นกว่า อ่านแล้ว งง ไหมครับ ผมเองก็ งง...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รัชต์
Full Member
คะแนน 77
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 176
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2014, 11:14:37 AM » |
|
ปลายทางของทุกอย่าง ก็คือเพื่อความสุข เพียงแต่ความสุข หลาย ๆ อย่าง ผ่านเงิน เงินเป็นตัวกลาง และบางครั้ง เพราะเรามุ่งทุกวิถีทางเพื่อหาตัวกลาง จนสุดท้ายต้องห่างจากปลายทาง ยิ่งหาก็ยิ่งห่างจากปลายทาง สุดท้าย ก็เลยยิ่งต้องใช้ตัวกลางที่พยายามมีพยายามหา มาเป็นตัวช่วย ที่จะเข้าถึงปลายทาง แทนที่จะลดตัวกลาง แล้วพยายามหาวิธีเข้าถึงปลายทางโดยตรงชึ่งใช้ระยะทางและเวลาที่สั้นกว่า อ่านแล้ว งง ไหมครับ ผมเองก็ งง... ดร.นิเวศน์ก็คงรวยกะหนังสือหุ้นเยอะเหมือนกัน ดร.นิเวศน์ฯ รวยเป็นพันล้านก็จริง แต่เล่นหุ้นใช้เวลานานมาครับ แล้วได้เงินช้ามากเพราะวงรอบของแกยาวนานเหลือเกิน คือต้องรอให้บริษัทเติบโตไปพร้อมกับราคาหุ้นสูงขึ้น... แต่คนที่เล่นหุ้นเก่งกว่า อ.นิเวศน์มีแยะมากในประเทศไทยครับ(คนละแนว)... ที่ว่าเก่งกว่า ก็เพราะว่าอยากได้เงินเมื่อไหร่ก็เล่นเอาเงินได้ทุกเมื่อเหมือนกด ATM คือไม่จำเป็นต้องมีเงินเก็บเป็นพันล้านบาทให้เป็นอันตรายแก่ชีวิต เพราะมีเงินมากไปมันทำร้ายตัวเองครับ... คนเล่นเทคนิคัลที่เล่นเป็น เมื่อจับทางได้แล้วต้องลดพอร์ตของตนเองครับ เพราะชีวิตมันจะไม่สงบสุขครับ... แฮ่ๆ... อ้างถึง 2 ท่านนี้ครับ ความสุขกับเงินมันเป็นคนละเรื่องกันครับ แต่ก็อยู่ในแนวทางเดียวกัน พอมาได้ถึงระดับนึง มันก็จะแยกจากกัน เราต้องเลือกแล้วละครับว่าจะเอาอะไร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 652
ออฟไลน์
กระทู้: 3595
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2014, 11:20:43 AM » |
|
คุณเบิ้มเคยไปประชุมแอมเวย์ไหมครับ พวก speech ปลุกเร้าให้ฮึกเหิมเดินไปข้างหน้า เวลาถดถอยก็มีถ้อยมีคำให้กำลังใจ พวกบทพูดโดนๆพวกนี้มีให้ฟังเพียบครับ รุ่นพี่ผมเจอปัญหาหนักๆในที่ทำงาน ยังฟังจนเคลิ้มสุดท้ายลาออกไปขายแอมเวย์เลยครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 50462
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2014, 11:24:42 AM » |
|
คุณเบิ้มเคยไปประชุมแอมเวย์ไหมครับ พวก speech ปลุกเร้าให้ฮึกเหิมเดินไปข้างหน้า เวลาถดถอยก็มีถ้อยมีคำให้กำลังใจ พวกบทพูดโดนๆพวกนี้มีให้ฟังเพียบครับ รุ่นพี่ผมเจอปัญหาหนักๆในที่ทำงาน ยังฟังจนเคลิ้มสุดท้ายลาออกไปขายแอมเวย์เลยครับ
ผมไม่เคยไปฟังอะไรพวกนี้เลยครับ มีแต่พวกตื้อ แต่กินผมย๊ากกส์ครับพี่อภิสิทธิ์ +
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 652
ออฟไลน์
กระทู้: 3595
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2014, 11:45:39 AM » |
|
จริงๆเงินเยอะๆใครก็อยากได้ครับแต่ต้องหาแนวทางตัวเองให้เจอก่อนครับ เจอแล้วค่อยมีใจมีแรงขยันทำงานครับ ตอนผมอายุ29ปี ผมไปเที่ยว กทม.ไปพักบ้านญาติพวกเขาขายทอง ผมเลยไปช่วยเขาทำงานทองใส่กรอบพระ ตัดต่อก้านแหวน เชื่อมสร้อย และแล้วก็ค้นพบว่าตัวเองมีความสามารถที่มือครับ ผมเรียนเลขไม่เก่ง เบื่อท่องตำรา ไม่ชอบเข้าเสนอขายสินค้า ไม่ชอบย้ายที่อยู่(ตอนนั้นเพื่อนเป็นปลัดอำเภอย้ายบ้านกันบ่อย) แต่ผมมีมือปราณีตอยู่คู่หนึ่งช่วยร้านทองเขาอยู่สิบกว่าวันก็ตีแหวนมอญได้แล้ว--ผมเลยกลับมาปรึกษาพ่อขอเปลี่ยนธุรกิจที่บ้าน จากขายผ้ามาเป็นขายทอง รายได้ก็ดีกว่าเดิม และก็มีความสุขที่ได้ทำงานที่ชอบครับ ไม่รวยมากมายแต่ก็ได้ใช้ชีวิตเรียบๆง่ายๆ ผมขายทองมาจนทุกวันนี้ครับ ปล. ตอนนี้ตาไม่ดีแล้วครับ ทำเจเวลลี่ไม่ได้แล้วแต่ยังเชื่อมสร้อยได้อยู่
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
|
|
|
Southlander
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 5711
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 48212
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: ตุลาคม 23, 2014, 11:51:18 AM » |
|
ผมก็ขายทองครับ...แต่ไม่รวยเสียที คือมีเท่าไหร่ก็ขายกินหมดครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
๏ทุกวันนี้ศึกไกลยังไม่ห่วง แต่หวั่นทรวงศึกใกล้ไล่ข่มเหง ถ้าคนไทยหันมาฆ่ากันเอง จะร้องเพลงชาติไทยให้ใครฟัง โดย:นภาลัย สุวรรณธาดา พศ.๒๕๑๐
|
|
|
|