เกินไปมั้ยอ่ะ ไล่ออกจากราชการ

[bobphasit-รักในหลวง]

โดนกับตัวเข้าไปมั่งทำอะไรไม่คิด

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

แหม คนละรายละเอียด คนละเคส เลยยาย

สห.ท่านทำหน้าที่ยามสถานบันเทิง
ท่านต้องควบคุมและต่อสู้กับแขกเอาเอง  โดยสมัครใจนะยาย
ไม่เกี่ยวกับราชการและนอกเวลาราชการ แถมเป็นสถานที่อโคจรเสียด้วย

แต่ดาบท่านนี้ บันดาลโทสะ เพราะทำหน้าที่ไล่ครุบขี้เมา

ที่ทำชาวบ้านเดือนร้อน เสียหาย   แทบจะทำให้คนบริสุทธิ์ล้มตายลง
คนเมามันก็คนบ้าดีๆนี่แหละ พูดจาด้วยดีๆไม่ได้
เกิดท่านมีมีด ได้เสียบพุงนายดาบตายอีก

การหยุดคนเมา ผมเคยทำแล้ว คือน็อค
ฟื้นมาก็จะมีสติเอง และผมก็เตะมาหลายรายแล้ว

เกิดขี้เมานายนี้ขับรถไปตำลูกยายตาย
ยายคงไม่พอใจแน่ถ้าแค่สลบ

ยายนั่นแหละจะยิงหะอ๋ำขี้เมารายนี้...... รึไม่จริง
ไม่โดนเอง บ่ฮู้สึกดอกยาย

55555  ยายฮา  ครูแหง  อ่ะ ฮา 5555555 

ไอ้ที่เขียนข้างบน  มันเป็นเรื่อง  ใน  " อนาคต "  ทั้งหมด อ่ะ ฮา   
เอาเรื่องมะโน  โน่น นี่   " ยังไม่เกิด "  มาปรับเข้ากับ  ข้อเท็จจริง   ม่ะล่าย อ่ะ ฮา 


5555  วันหลังครูแหง  แกล้งเมา  ยายจะเป็น " ตำรวจ " บ้างน๊าาา อ่ะ ฮา 55555   

[เขรางค์-รักในหลวง]

นายไกรสิทธิ์ ชายเมาแล้วขับดังกล่าว ฝ่าไฟแดงออกมา ทำให้เกิดการเฉี่ยวชน รถที่ชนก็ไม่ยอมลงมาช่วย กลับขับหนี ล่าสุดนายคนนี้ก็ยังไม่เคยติดต่อมาขอโทษเลย


หากหนึ่งในคนเจ็บเป็นญาติผู้บังคับบัญชา   อยากรู้จังว่าการพิจารณาโทษนายดาบมีชื่อนั่น   จะเป็นเยี่ยงไร.....

[เบิ้ม]

กู้ศักดิ์ศรีตร.ไทยกลับคืนมาได้อีกหนึ่งกรณี
##‪#‎ไล่ออก‬ 4ตร.ยโสธร ปล่อยลูกน้องถูกเตะบนโรงพักปฏิบัติการกู้ศักดิ์ศรีตำรวจคืนข่าวส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม สภ.อ.เมืองยโสธร ถูกลูกสมุนนักการเเมืองท้องถิ่นเตะก้านคอ บนสภ.อ.เมืองยโสธรนั้น สร้างความเสียหายให้วงการตำรวจไทยอย่างยิ่ง

เหตุดังกล่าวทำให้พล.ต.ท.วราสิทธิ พรเลิศ ผบช.ภ.3 สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงมีพล.ต.ต.อำนวย มหาผล รองผบก.ภ.3 เป็นประธานฯขณะที่คดีนี้ในทางอาญานั้น นายวิโรจน์ ใจพรมเมือง นายไพโรจน์ โคตรสมบัติ และนายสถิรพร นาคสุข นายกฯ อบจ.ยโสธร ตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และขณะที่คณะกรรมการฯทำการสอบสวนข้อเท็จจริง ทำการสอบสวนนั้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 ก็ออกคำสั่งให้ พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์ รัตนเรืองภิญโญ ผกก. พ.ต.ท.ปรีชา สารถี สวป.และพ.ต.ต.พิจิตร พิจารณ์ พงส.(สบ2) สภอ.เมืองยโสธร ที่อยู่ในเหตุการณ์ย้ายให้ไปช่วยราชการที่ กองบัญชาการ ตำรวจภูธร ภาค 3 จนกว่าผลการสอบจะเสร็จสิ้น
แต่ล่าสุดผลการสอบสวนสรุปออกมาแล้ว โดยชี้ชัดว่า พล.ต.ต.สุพรรณ ประเสริฐสม ผบก.ภ.จว.ยโสธร มีความผิดทางวินัยแต่ไม่ร้ายแรงฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจอุตสาหะเพื่อให้เกิดผลดีและความก้าวหน้าแก่ราชการ ไม่เอาใจใส่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของราชการและประมาทเลินเล่อในหน้าที่ เห็นควรลงโทษ ตัดเงินเดือนร้อยละ 5 เป็นเวลา 3 เดือน เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.องอาจ ผิวเรืองนนท์ รองผบก.จว.ยโสธร ที่เป็นผู้รักษาการแทน ผบก จว.ยโสธรวันเกิดเหตุ และทราบเหตุส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี ถูกทำร้ายร่างบน ภ.อ.เมืองยโสธร ในฐานะรักษาการแทนผบก.ภ.จว.ยโสธร ควรรีบดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตนเอง และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแตะละเลย จนตำรวจชั้นประทวนออกมาชุมนุมเรียกร้อง กรรมการสอบสวนสรุปผลสอบว่ามีความผิดวินัยไม่ร้ายแรงฐานไม่ปฏิบัติหน้า ที่ด้วยความไม่ตั้งใจ เห็นคารลงโทษตัดเงินเดือน ร้อยละ 5 เป็นเวลา 3 เดือน

ขณะที่พ.ต.ท.เฉลิมเกรียติ จันทรมหา รองผกก.ป.สภอ.เมืองยโสธร ข้อเท็จจริงพ.ต.ท.ฉลิมเกรียติ ไม่อยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุแต่ทราบว่า ส.ต.อ.อาทิตย์ ถูกเตะบนสภอ.เมืองยโสธร และส.ต.อ.อาทิตย์ เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชา ในฐานะรองผกก.ป รับผิดชอบป้องกันและปราบปราม ควรเข้าแก้ปัญหา มิใช้ปล่อยเวลาให้ล่วงเลย จึงเห็นควรลงโทษกักยาม พ.ต.ท.เฉลิมเกรียติ เป็นเวลา 3 วัน
ส่วนพ.ต.อ.โรจน์วัฒน์ รัตนเรืองภิญโญ ผกก.สภอ.เมืองยโสธร พ.ต.ท.ปรีชา สารถี สวป .สภอ.เมือง ยโสธร พ.ต.ต.พิจิตร พิจารณ์ พงส.(สบ2) สภอ.เมืองยโสธร ที่ย้ายไปช่วยราชการที่ กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายนนั้น ถูกกล่าวหาทำผิดวินัยร้ายแรงฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้นั้น เช่นเดียวกับพ.ต.ท.สำเนียง ลือเจียงคำ รอง ผกก.(สส) สภอ.เมืองยโสธร ที่ถูกกล่าวหาทำผิดวินัยร้ายแรง ฐานไม่เอาใจใส่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ทางราชการและประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง จึงแจ้งให้พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์กับพวกรวม 4 นาย ที่ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยร้ายแรงและถูกตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว คณะกรรมการจึงเห็นควรมอบให้ พ.ต.อ.สมหมาย กองวิสัยสุข รักษาการ ผบก.ภ.จ.ยโสธร เป็นผู้สั่งให้สำรองราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน

หลังได้รับผลการสอบสวนจากคณะกรมการ พ.ต.อ.สมหมาย กองวิสัยสุข รักษาการผบก.ภ.จว.ยโสธร เห็นว่าผลสอบได้ชี้ชัดโทษแต่ละคนแล้วและเป็นความผิดร้ายแรงพ.ต.อ.สมหมาย จึงสั่งให้ พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์ รัตนเรืองภิญโญ ผกก.พ.ต.ท.ปรีชา สารถี สวป,พ.ต.ต.พิจิตร พิจารณ์ พงส.(สบ2) และพ.ต.ท.สำเนียง ลือเจียงคำ รองผกก.(สส.) สภ.อ.เมือยโสธร ออกจากราชการไว้ก่อนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และให้นายตำรวจ 3นายที่ถูกให้ออกจากราชการ ยกเว้นแต่พ.ต.ท.สำเนียง ลือเจียงคำ ให้ถูกดำเนินคดีอาญา
"สบายๆไม่มีอะไรหนักใจ เพราะให้ผมมาทำหน้าที่และถือว่าหน้าที่จบแล้ว ที่เราทำเราก็เสียใจ แต่จะให้ทำอย่างไร บางคนอยู่นานเกินไปไม่ทำอะไร หน้าที่ตำรวจคือการป้องป้องให้คนได้รับความยุติธรรม แต่ขนาดผู้ใต้บังคับบัญชาตัวเองไม่ได้ทำผิด ยังยืนกอดอกดูลูกน้องตัวเองใส่เครื่องแบบก้มกราบคนอื่น ทั้งที่คนที่กราบก็บอกว่า พ่อผมไม่ผิด ผมขอโทษ คนไม่ผิดยังต้องไปขอโทษ เห็นภาพแล้วมันรับไม่ได้ ตอนนี้ทุกอย่างเข้าสู่ปกติตำรวจทุกคนขวัญ กำลังใจดีมากต่อไปนี้ก็จะมีแต่สิ่งดีๆ หน้าที่ผมหมดแล้ว" พ.ต.อ.สมหมาย กล่าว
การตัดสินใจของ พ.ต.อ.สมหมาย กองวิสัยสุข รักษาการผบก.ภ.จว.ยโสธรที่ให้นายตำรวจทั้ง 4 นายที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ ส.ต.อ.อาทิตย์ ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ถือเป็นการตัดสินใจที่สมควรจะจะยกย่องเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ก็เพราะเป็นการเรียกศักดิ์ศรีของยโส ธรตำรวจกลับคืนมา หลังจากศักดิ์ศรีของตำรวจถูกย่ำยี่ไปหมดแล้ว และการลงโทษผู้บังคับบัญชายอดแย่ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม คนเหล่านี้นอกจากไม่ปกป้องลูกน้องที่ทำถูกแล้ว ยังบังคับลูกน้องให้ทำในสิ่งที่ไม่เหมาะ โดยเฉพาะการสั่งให้ลูกน้องกราบขอโทษผู้มีอิทธิพลในคราบของนักการเมืองท้องถิ่นและถูกเตะปลายคางสลบต่อหน้าต่อตา โดยผู้บังคับบัญชาไม่ได้จับคนผิดหรือทำอะไรเลย####
เครดิต..สว.ต้น คนอกหัก

อันนี้ไม่ปกป้องลูกน้อง นายโดนลงดาบ  

[Ro@d - รักในหลวง]

จะเห็นใจก็ว่ากันไป จะช่วยเหลืออย่างไร ก็ว่ากันไป
แต่กฎหมาย จักต้องเป็นกฎหมาย

คนดี คนไม่ดี เมื่อทำผิดกฎหมาย ก็ต้องรับโทษ เท่าเทียมกัน
ไม่ใช่ ไม่ลงโทษ เพราะเป็นคนดี

นี่แค่พื่น ๆ อีกเหมือนกัน อย่ายึดกฎกู ควรต้องยึดกฎหมาย ที่เป็นหลักการเอาไว้
เอา พันท้ายนรสิงห์ เป็นหลักไว้ครับ ท่าน ยึดหลักการ จนตัวตาย . ไม่ใช่เหรอ

[แปจีหล่อ]

กู้ศักดิ์ศรีตร.ไทยกลับคืนมาได้อีกหนึ่งกรณี
##‪#‎ไล่ออก‬ 4ตร.ยโสธร ปล่อยลูกน้องถูกเตะบนโรงพักปฏิบัติการกู้ศักดิ์ศรีตำรวจคืนข่าวส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม สภ.อ.เมืองยโสธร ถูกลูกสมุนนักการเเมืองท้องถิ่นเตะก้านคอ บนสภ.อ.เมืองยโสธรนั้น สร้างความเสียหายให้วงการตำรวจไทยอย่างยิ่ง

เหตุดังกล่าวทำให้พล.ต.ท.วราสิทธิ พรเลิศ ผบช.ภ.3 สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงมีพล.ต.ต.อำนวย มหาผล รองผบก.ภ.3 เป็นประธานฯขณะที่คดีนี้ในทางอาญานั้น นายวิโรจน์ ใจพรมเมือง นายไพโรจน์ โคตรสมบัติ และนายสถิรพร นาคสุข นายกฯ อบจ.ยโสธร ตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ และขณะที่คณะกรรมการฯทำการสอบสวนข้อเท็จจริง ทำการสอบสวนนั้น ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 ก็ออกคำสั่งให้ พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์ รัตนเรืองภิญโญ ผกก. พ.ต.ท.ปรีชา สารถี สวป.และพ.ต.ต.พิจิตร พิจารณ์ พงส.(สบ2) สภอ.เมืองยโสธร ที่อยู่ในเหตุการณ์ย้ายให้ไปช่วยราชการที่ กองบัญชาการ ตำรวจภูธร ภาค 3 จนกว่าผลการสอบจะเสร็จสิ้น
แต่ล่าสุดผลการสอบสวนสรุปออกมาแล้ว โดยชี้ชัดว่า พล.ต.ต.สุพรรณ ประเสริฐสม ผบก.ภ.จว.ยโสธร มีความผิดทางวินัยแต่ไม่ร้ายแรงฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจอุตสาหะเพื่อให้เกิดผลดีและความก้าวหน้าแก่ราชการ ไม่เอาใจใส่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของราชการและประมาทเลินเล่อในหน้าที่ เห็นควรลงโทษ ตัดเงินเดือนร้อยละ 5 เป็นเวลา 3 เดือน เช่นเดียวกับ พ.ต.อ.องอาจ ผิวเรืองนนท์ รองผบก.จว.ยโสธร ที่เป็นผู้รักษาการแทน ผบก จว.ยโสธรวันเกิดเหตุ และทราบเหตุส.ต.อ.อาทิตย์ แดงดี ถูกทำร้ายร่างบน ภ.อ.เมืองยโสธร ในฐานะรักษาการแทนผบก.ภ.จว.ยโสธร ควรรีบดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วยตนเอง และรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแตะละเลย จนตำรวจชั้นประทวนออกมาชุมนุมเรียกร้อง กรรมการสอบสวนสรุปผลสอบว่ามีความผิดวินัยไม่ร้ายแรงฐานไม่ปฏิบัติหน้า ที่ด้วยความไม่ตั้งใจ เห็นคารลงโทษตัดเงินเดือน ร้อยละ 5 เป็นเวลา 3 เดือน

ขณะที่พ.ต.ท.เฉลิมเกรียติ จันทรมหา รองผกก.ป.สภอ.เมืองยโสธร ข้อเท็จจริงพ.ต.ท.ฉลิมเกรียติ ไม่อยู่ในเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุแต่ทราบว่า ส.ต.อ.อาทิตย์ ถูกเตะบนสภอ.เมืองยโสธร และส.ต.อ.อาทิตย์ เป็นตำรวจใต้บังคับบัญชา ในฐานะรองผกก.ป รับผิดชอบป้องกันและปราบปราม ควรเข้าแก้ปัญหา มิใช้ปล่อยเวลาให้ล่วงเลย จึงเห็นควรลงโทษกักยาม พ.ต.ท.เฉลิมเกรียติ เป็นเวลา 3 วัน
ส่วนพ.ต.อ.โรจน์วัฒน์ รัตนเรืองภิญโญ ผกก.สภอ.เมืองยโสธร พ.ต.ท.ปรีชา สารถี สวป .สภอ.เมือง ยโสธร พ.ต.ต.พิจิตร พิจารณ์ พงส.(สบ2) สภอ.เมืองยโสธร ที่ย้ายไปช่วยราชการที่ กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 3 ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายนนั้น ถูกกล่าวหาทำผิดวินัยร้ายแรงฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับประโยชน์ที่มิควรได้นั้น เช่นเดียวกับพ.ต.ท.สำเนียง ลือเจียงคำ รอง ผกก.(สส) สภอ.เมืองยโสธร ที่ถูกกล่าวหาทำผิดวินัยร้ายแรง ฐานไม่เอาใจใส่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ทางราชการและประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการอันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง จึงแจ้งให้พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์กับพวกรวม 4 นาย ที่ถูกกล่าวหากระทำผิดวินัยร้ายแรงและถูกตั้งกรรมการสอบสวนแล้ว คณะกรรมการจึงเห็นควรมอบให้ พ.ต.อ.สมหมาย กองวิสัยสุข รักษาการ ผบก.ภ.จ.ยโสธร เป็นผู้สั่งให้สำรองราชการหรือให้ออกจากราชการไว้ก่อน

หลังได้รับผลการสอบสวนจากคณะกรมการ พ.ต.อ.สมหมาย กองวิสัยสุข รักษาการผบก.ภ.จว.ยโสธร เห็นว่าผลสอบได้ชี้ชัดโทษแต่ละคนแล้วและเป็นความผิดร้ายแรงพ.ต.อ.สมหมาย จึงสั่งให้ พ.ต.อ.โรจน์วัฒน์ รัตนเรืองภิญโญ ผกก.พ.ต.ท.ปรีชา สารถี สวป,พ.ต.ต.พิจิตร พิจารณ์ พงส.(สบ2) และพ.ต.ท.สำเนียง ลือเจียงคำ รองผกก.(สส.) สภ.อ.เมือยโสธร ออกจากราชการไว้ก่อนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และให้นายตำรวจ 3นายที่ถูกให้ออกจากราชการ ยกเว้นแต่พ.ต.ท.สำเนียง ลือเจียงคำ ให้ถูกดำเนินคดีอาญา
"สบายๆไม่มีอะไรหนักใจ เพราะให้ผมมาทำหน้าที่และถือว่าหน้าที่จบแล้ว ที่เราทำเราก็เสียใจ แต่จะให้ทำอย่างไร บางคนอยู่นานเกินไปไม่ทำอะไร หน้าที่ตำรวจคือการป้องป้องให้คนได้รับความยุติธรรม แต่ขนาดผู้ใต้บังคับบัญชาตัวเองไม่ได้ทำผิด ยังยืนกอดอกดูลูกน้องตัวเองใส่เครื่องแบบก้มกราบคนอื่น ทั้งที่คนที่กราบก็บอกว่า พ่อผมไม่ผิด ผมขอโทษ คนไม่ผิดยังต้องไปขอโทษ เห็นภาพแล้วมันรับไม่ได้ ตอนนี้ทุกอย่างเข้าสู่ปกติตำรวจทุกคนขวัญ กำลังใจดีมากต่อไปนี้ก็จะมีแต่สิ่งดีๆ หน้าที่ผมหมดแล้ว" พ.ต.อ.สมหมาย กล่าว
การตัดสินใจของ พ.ต.อ.สมหมาย กองวิสัยสุข รักษาการผบก.ภ.จว.ยโสธรที่ให้นายตำรวจทั้ง 4 นายที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของ ส.ต.อ.อาทิตย์ ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ถือเป็นการตัดสินใจที่สมควรจะจะยกย่องเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ก็เพราะเป็นการเรียกศักดิ์ศรีของยโส ธรตำรวจกลับคืนมา หลังจากศักดิ์ศรีของตำรวจถูกย่ำยี่ไปหมดแล้ว และการลงโทษผู้บังคับบัญชายอดแย่ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม คนเหล่านี้นอกจากไม่ปกป้องลูกน้องที่ทำถูกแล้ว ยังบังคับลูกน้องให้ทำในสิ่งที่ไม่เหมาะ โดยเฉพาะการสั่งให้ลูกน้องกราบขอโทษผู้มีอิทธิพลในคราบของนักการเมืองท้องถิ่นและถูกเตะปลายคางสลบต่อหน้าต่อตา โดยผู้บังคับบัญชาไม่ได้จับคนผิดหรือทำอะไรเลย####
เครดิต..สว.ต้น คนอกหัก

อันนี้ไม่ปกป้องลูกน้อง นายโดนลงดาบ 

สมควรแล้วครับขนาดผมเป็นประชาชนธรรมดายังรับไม่ได้ที่คนเป็นนายทำแบบนี้ครับ

[เพชร]

นายไกรสิทธิ์ ชายเมาแล้วขับดังกล่าว ฝ่าไฟแดงออกมา ทำให้เกิดการเฉี่ยวชน รถที่ชนก็ไม่ยอมลงมาช่วย กลับขับหนี ล่าสุดนายคนนี้ก็ยังไม่เคยติดต่อมาขอโทษเลย


หากหนึ่งในคนเจ็บเป็นญาติผู้บังคับบัญชา   อยากรู้จังว่าการพิจารณาโทษนายดาบมีชื่อนั่น   จะเป็นเยี่ยงไร.....

กรณีผู้ต้องหาเมาแล้วขับจนเกิดความเสียหายต่างๆ นาๆ นั้น  ผู้กระทำผิดต้องได้รับคำพิพากษาจากศาลอยู่แล้ว

แต่กรณีที่นายดาบทำร้ายผู้ต้องหานั้น  นายดาบเขาทำไปเพราะป้องกันตัวหรือเปล่า  ทำไปเพราะผู้ต้องหาคิดหลบหนีหรือเปล่า 
นายดาบทำร้ายผู้ต้องหาทั้งๆ ที่อยู่ในความควบคุม  ถ้ามีเหตุผลที่รับฟังได้  ก็มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้เหมือนกัน

กรุณาแยกทั้งสองกรณีออกจากกันครับ  การจับกุมผู้ต้องหา  กับการทำร้ายผู้ต้องหา
จะเอาความดีจากการจับกุมมาลบความผิดของตนเองนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

555 พี่ 524  วันนี้  " กินยา "

จะเห็นใจก็ว่ากันไป จะช่วยเหลืออย่างไร ก็ว่ากันไป
แต่กฎหมาย จักต้องเป็นกฎหมาย

คนดี คนไม่ดี เมื่อทำผิดกฎหมาย ก็ต้องรับโทษ เท่าเทียมกัน
ไม่ใช่ ไม่ลงโทษ เพราะเป็นคนดี

นี่แค่พื่น ๆ อีกเหมือนกัน อย่ายึดกฎกู ควรต้องยึดกฎหมาย ที่เป็นหลักการเอาไว้
เอา พันท้ายนรสิงห์ เป็นหลักไว้ครับ ท่าน ยึดหลักการ จนตัวตาย . ไม่ใช่เหรอ

5555  วันนี้  พี่ 524  " กินยา "  ผิดขวด อ่ะ ฮา 555

[แปจีหล่อ]

นายไกรสิทธิ์ ชายเมาแล้วขับดังกล่าว ฝ่าไฟแดงออกมา ทำให้เกิดการเฉี่ยวชน รถที่ชนก็ไม่ยอมลงมาช่วย กลับขับหนี ล่าสุดนายคนนี้ก็ยังไม่เคยติดต่อมาขอโทษเลย


หากหนึ่งในคนเจ็บเป็นญาติผู้บังคับบัญชา   อยากรู้จังว่าการพิจารณาโทษนายดาบมีชื่อนั่น   จะเป็นเยี่ยงไร.....

กรณีผู้ต้องหาเมาแล้วขับจนเกิดความเสียหายต่างๆ นาๆ นั้น  ผู้กระทำผิดต้องได้รับคำพิพากษาจากศาลอยู่แล้ว

แต่กรณีที่นายดาบทำร้ายผู้ต้องหานั้น  นายดาบเขาทำไปเพราะป้องกันตัวหรือเปล่า  ทำไปเพราะผู้ต้องหาคิดหลบหนีหรือเปล่า 
นายดาบทำร้ายผู้ต้องหาทั้งๆ ที่อยู่ในความควบคุม  ถ้ามีเหตุผลที่รับฟังได้  ก็มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้เหมือนกัน

กรุณาแยกทั้งสองกรณีออกจากกันครับ  การจับกุมผู้ต้องหา  กับการทำร้ายผู้ต้องหา
จะเอาความดีจากการจับกุมมาลบความผิดของตนเองนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้

ใส่กุญแจมือไว้แล้วผู้ต้องหาก็นั่งอยู่ครับไม่ได้สู้หรือพยายามหนีครับ

[oil]

นั่งดูมวยครับ ตั๋วถูกนั่งไกลหน่อย แต่ได้เห็นเซียนมวยข้างเวทีตะลุมบอนกัน  มันส์หยดยิ่งกว่าคู่ชกบนเวทีซะอีก

[NOOM 19 รักในหลวง]

สงสารและเห็นใจพวกนี้มากกว่า..ตำรวจไทยมันพึ่งไม่ได้แล้วเหรอเนี้ย

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9570000132435

[เพชร]

ใส่กุญแจมือไว้แล้วผู้ต้องหาก็นั่งอยู่ครับไม่ได้สู้หรือพยายามหนีครับ

นั่นซิครับ  ทำร้ายผู้ต้องหาที่อยู่ในความควบคุม  ผมว่าแค่ให้ออกน่ะมันยังน้อยไป
น่าจะมีโทษทางอาญาด้วยซ้ำ

[naisomchai]

ใส่กุญแจมือไว้แล้วผู้ต้องหาก็นั่งอยู่ครับไม่ได้สู้หรือพยายามหนีครับ

นั่นซิครับ  ทำร้ายผู้ต้องหาที่อยู่ในความควบคุม  ผมว่าแค่ให้ออกน่ะมันยังน้อยไป
น่าจะมีโทษทางอาญาด้วยซ้ำ

มีครับ... หนักเสียด้วย กรณีเหมือนกับสอบสวนแล้วตุ๊บตั๊บ/ช็อตไข่นั่นแหละครับ...

เรื่องบันดาลโทสะนี่ยิ่งอ้างไม่ได้ใหญ่เลย เพราะตัวเองไม่ได้โดนข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยสาเหตุอันไม่เป็นธรรม... หากญาติผู้ที่ถูกรถชนเฉี่ยวเป็นคนวิ่งเข้ามาทำร้ายเอง อย่างนี้ยังพออ้างได้มั่งครับ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในกระบวนการยุติธรรม มีหน้าที่ต้องอำนวยความยุติธรรมตามหน้าที่(คือเป็นตำรวจ) ไม่ใช่ศาลครับ...

[srimalai_รักในหลวง]

ใส่กุญแจมือไว้แล้วผู้ต้องหาก็นั่งอยู่ครับไม่ได้สู้หรือพยายามหนีครับ

นั่นซิครับ  ทำร้ายผู้ต้องหาที่อยู่ในความควบคุม  ผมว่าแค่ให้ออกน่ะมันยังน้อยไป
น่าจะมีโทษทางอาญาด้วยซ้ำ


มีตามมาแน่นอนครับ

[sa-ea-ba-รักในหลวง]

หากแตะ ต่อย ตบ ขณะทำการช่วงจับกุมแล้วมีการขัดขื่นผมจะไม่ว่าเลย....แต่นี้ถูกจับใส่กุญแจมืไพ่หลังเรียบร้อยแล้วจะมาอ้างว่าอยู่ระหว่างการเข้าจับกุมผมว่าใช้ไม่ได้...ไล่ออกอย่างเดียวมันน้อยไปต้องเอาติดคุกด้วย หากใครไม่เห็นด้วยจะมาอ้างว่าหากมันขับรถไปชนคนตายหรือญาติคุณจะทำอย่างไร ขอร้องมันคนละประเด็นกันแล้ว เหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว