เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 18, 2024, 03:24:46 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3 4 5 ... 16
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ออกหมายจับ "พงศ์พัฒน์-โกวิทย์-บุญสืบ"  (อ่าน 30785 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 16 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 02:06:44 PM »

และ นายตำรวจที่ เสียชีวิต เมื่อถูกคำสั่งย้าย  ก็อย่าไปรู้เลย ว่า เป็นอะไร ตาย .
ก็เพราะ จะเป็น ปลาหมอ ตายเพราะปาก จะเป็นภัยทั้งผู้พูด และผู้ฟัง 

รับฟังจากข่าว นั้น ดีแล้วครับ.

นายสมชายไม่ปักใจเชื่อตามที่แชร์กันว่อนเน็ตครับ... ใครที่เอาคีย์เวิร์ดในข่าวไปค้นกูเกิ้ลแผล็บเดียวก็เจอครับ เจอแล้วก็ไม่เชื่อครับ... แฮ่ๆ...
บันทึกการเข้า
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 02:08:41 PM »

แล้วเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ อย่าส่ง PM มาถามนายสมชายนะครับ... นายสมชายไม่เชื่อ ก็เลยไม่อยากส่งเสริมเรื่องที่ไม่เชื่อให้แพร่กระจายออกไปครับ...
บันทึกการเข้า
engagement_รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 121
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1211


"เกิดมาในดินแดน_จักต้องแทนคุณแผ่นดิน"


« ตอบ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 02:31:20 PM »

และ นายตำรวจที่ เสียชีวิต เมื่อถูกคำสั่งย้าย  ก็อย่าไปรู้เลย ว่า เป็นอะไร ตาย .
ก็เพราะ จะเป็น ปลาหมอ ตายเพราะปาก จะเป็นภัยทั้งผู้พูด และผู้ฟัง 

รับฟังจากข่าว นั้น ดีแล้วครับ.

นายสมชายไม่ปักใจเชื่อตามที่แชร์กันว่อนเน็ตครับ... ใครที่เอาคีย์เวิร์ดในข่าวไปค้นกูเกิ้ลแผล็บเดียวก็เจอครับ เจอแล้วก็ไม่เชื่อครับ... แฮ่ๆ...

แล้วเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ อย่าส่ง PM มาถามนายสมชายนะครับ... นายสมชายไม่เชื่อ ก็เลยไม่อยากส่งเสริมเรื่องที่ไม่เชื่อให้แพร่กระจายออกไปครับ...

 ไหว้ + ทั้งสองท่านครับ
บันทึกการเข้า

.....ประชาธิปไตยจะประสบผลสำเร็จได้ จะต้องประกอบไปด้วยปัจจัยเหล่านี้อยู่ในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 51%ขึ้นไป คือ 1.ความรู้หนังสือ 2.ความตื่นตัวทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และที่สำคัญที่สุดคือ 3.ศีลธรรม มิฉะนั้นแล้วประชาธิปไตยจะเป็นเพียงเครื่องมือในการหลอกลวงประชาชนเท่านั้น จาก Prabhat Ranjan Sarka.....
mekathamin-รักในหลวง
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 43
ออฟไลน์

กระทู้: 291



« ตอบ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 04:10:43 PM »

ตามไปอ่านมาหลายที่  รอดูกันครับ 

สิ่งที่เห็นมันไม่ใช่ ทุกคนมีหลายหัวโขน สิ่งที่หลายคนคิดว่าขาว แท้จริงมันอาจเทาจนดำ 

โตเกินวัย  ตกใจ
บันทึกการเข้า

เกิดในที่ดีนั้นดีแน่   เกิดในที่แย่ก็ดีได้  เกิดในที่ดีแล้วแย่มีถมไป   เกิดในที่ใดก็ดีได้ถ้าไฝ่ดี
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 06:39:36 PM »

ที่นายสมชายบอกว่าไม่เชื่อนั่นมีข่าวออกมาเพิ่มเติมแล้วครับ ว่าแอบอ้างฯ ที่แท้กินส่วยน้ำมันเถื่อน รายละเอียดนี่ครับ... http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000134990

ASTVผู้จัดการ - เกาะติด คดีขุดรากถอนโคนมาเฟียสีกากีอ้างเบื้องสูง “อึ้ง”ค้นบ้านพัก “พงศ์พัฒน์ – โกวิท”เจอขุมทรัพย์นับพันล้าน ธนบัตรดอลลาร์ซุกไว้เป็นฟ่อน ทองคำแท่ง-รูปพรรณ กับวัตถุโบราณล้ำค่าเพียบ แฉแค่นายดาบคนขับรถมีสมบัติอย่างต่ำคนละ 50 ล้าน สารภาพสิ้นร่วมรับส่วยน้ำมันเถื่อนภาคใต้เดือนละ 15 ล้าน เตรียมยัดคุก-ยึดทรัพย์ปิดตำนานเจ้าพ่อสอบสวนกลาง
       
        ความคืบหน้าคดีพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก.กับพวกที่ตกเป็นผู้ต้องหาความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลอาญามาตรา 112 และเป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ มาตรา 148 และเรียกรับผลประโยชน์ มาตรา 149 และ มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีรายงานว่าช่วงสายวันที่ 22 พ.ย.นี้มีภาพพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กำลังถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนอยู่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง บุคคลที่ปรากฏในภาพคือพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.เพื่อนร่วมรุ่น 31 ส่วนพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ สวมเสื้อยืดสีขาวนั่งอยู่ข้างๆลักษณะเคร่งเครียดและอิดโรย นอกจากมีนายตำรวจระดับสูงกำลังสอบปากคำแล้วยังมีกำลังทหารกระจายอยู่รอบๆ
       
         รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของการดำเนินคดีนั้นพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และผู้ต้องหาทุกคนให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาทั้งนี้สืบเนื่องจากจำนนต่อพยานหลักฐานที่ถูกค้นพบในบ้านพักส่วนใหญ่เป็นรายการทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล ที่ไม่สามารถอธิบายถึงความเป็นไปได้เช่น 2 นายดาบตำรวจที่เป็นคนขับรถประจำตัวพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ และ พล.ต.ต.โกวิท วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรอง ผบช.ก.มีทรัพย์สินกว่า 50 ล้านบาท
       
        ส่วนอดีต ผบช.ก ค้นคฤหาสน์บ้านพักพบเงินสดเป็นธนบัตรดอลลาร์รวมทั้งสิ้นหลายสิบล้านดอลลาร์กับทองคำแท่ง ทองรูปพรรณอีกจำนวนมาก
       
         เช่นเดียวกับพล.ต.ต.โกวิท ที่พบว่ามีการซุกซ่อนธนบัตรและทองคำในบ้านพักจำนวนมากเช่นกัน นอกจากนั้นยังพบวัตถุโบราณล้ำค่าอีกจำนวนหนึ่งประเมินว่าทรัพย์สินทั้งหมดนั้นมีมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาทเลยทีเดียว
       
        สำหรับคำสารภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาความมั่นคง 3 จังหวัดชายแดนใต้ก็คือในส่วนของผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจน้ำยอมรับว่า รับส่วยจากขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนช่วงปีที่ผ่านมาประมาณเดือนละ 2-3 ล้านบาทแต่หลังเคลียร์กันเรียบร้อยทุกเจ้ามีรายได้ตกเดือนละ 12-15 ล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวแบ่งให้ใครในเครือข่ายอิทธิพลตำรวจสอบสวนกลางในอดีตฝ่ายความมั่นคงมีข้อมูลทั้งหมดแล้ว
       
         มีรายงานด้วยว่าผลการเอาจริงเอาจังกับขบวนการอิทธิพล โดยแอบอ้างเบื้องสูงโดยไม่มีใครกล้าแตะต้องมาเป็นเวลานั้น นับเป็นผลงานของทางการไทยที่ทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งเพราะมีบุคคลสำคัญเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนมาก อีกทั้งยังนับว่านี่คือการเปลี่ยนโฉมสังคมไทยกันอย่างแท้จริง เพราะทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมาแม้คนไทยจะรังเกียจการทุจริตคอรัปชัน อีกทั้งรัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองทุกพรรค ก็ให้สัญญาจะปราบปรามขบวนการทุจริต แต่ในที่สุดเป็นเพียงลมปากกับนโยบายสวยหรูโดยไม่มีการเอาจริงเอาจังแม้แต่ครั้งเดียว ผลของการขุดรากถอนโคนขบวนการแอบอ้างเบื้องสูงในแวดวงสีกากีแก๊งนี้ จึงนับเป็นสัญญาณที่ดีของรัฐบาลทหาร เพราะเชื่อว่ายังมี “เหลือบ”ที่แอบอ้างบุคคลสำคัญหากินในหน่วยงานอื่นกันอยู่
       
        อย่างไรก็ตามในส่วนของอดีต ผบช.ก.กับพวกนั้นขั้นตอนต่อจากนี้เมื่อสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาต่างๆแล้วจะมีความผิดฐานฟอกเงินเป็นการปิดท้ายเพื่อยึดทรัพย์ทั้งหมดตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
       
        สำหรับประวัติพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผบช.ก.เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2499 ที่ตำบลบ้านบ่อ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เป็นบุตรนายประวัติ และนางยุพิน ฉายาพันธ์ จบระดับประถมการศึกษาที่โรงเรียนวัดใหญ่บ้านบ่อ มัธยมศึกษาจากโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 15 (ตท.15) โรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 31 ร่วมรุ่นเดียวกับพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตรงพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 เป็นต้น จบปริญญาโทรัฐศาสตรมหาบัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และยังผ่านการอบรมหลักสูตรทั้งในและต่างประเทศอย่างมากมายอาทิหลักสูตรผู้บริหารชั้นสูงของตำรวจ หลักสูตรสืบสวนหน่วยสืบราชการลับจากมหาวิทยาลัยสิบราชการลับสหรัฐอเมริกา หลักสูตรด้านการบริหารตำรวจจากวิทยาลัยตำรวจแคนนาดา เป็นต้น
       
        เส้นทางราชการนายตำรวจผู้นี้เคยเป็นสารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลท่าพระ สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลยานนาวา รองผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางขุนนท์ ผกก.1 กองปราบปราม ผกก.2 กองปราบปราม ผกก.ปฏิบัติการพิเศษ กองปราบปราม รองผบก.กองปราบปราม รักษาราชการแทนผู้การกองปราบปราม ผู้บังคับการกองปราบปราม ก่อนขยับเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อปีพ.ศ.2553 ซึ่งในขณะนั้นเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางเพราะเส้นทางการเติบโตของนายตำรวจผู้นี้แหกกติกา ระเบียบแบบแผนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาโดยตลอด
       
        เช่นเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ.2550 ตอนที่ถูกดวางตัวเป็น ผบก.ป.แต่ไม่ครบหลักเกณฑ์เนื่องจากเป็นรองผบก.ไม่ถึง 4 ปี และยังไม่ได้เข้าโรงเรียนผู้บังคับการ อีกด้วยแต่มีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)ให้ยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ เส้นทางการเข้าสู่ตำแหน่ง “ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง”ของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ยังคืบต่อไปอย่างไม่หยุดโดยหลังจากนั้นอยู่ในตำแหน่งผบก.ป.เพียงปีเดียวก็ขยับขึ้นเป็นรองผบช.ก. ได้เพียง 6 เดือนก็ผงาดเป็นรักษาการณ์ ผบช.ก.และเป็น “ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง”อย่างเต็มภาคภูมิเมื่อพ.ศ.2553 กระทั่งมาถูกคำสั่งฟ้าผ่าตอนตี 4 ดังกล่าว
       
        ส่วนผลงานสำคัญคือจับนายสมชาย คุณปลื้ม หรือ "กำนันเป๊าะ"เมื่อปีก่อน และผลงานในอดีตมีเช่นทลายแก๊งปลอมดอลล่าร์ที่คนร้ายใช้เทคโนโลยีสูงสุดสามารถปลอมธนบัตรได้เหมือนจริงผู้ต้องหาคือนายอาซินลี เจ้าของฉายา “คิงคอง”เจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางจำนวนมากเช่นแท่นพิมพ์ ดอลล่าร์ปลอมจนสหรัฐฯยกให้เป็นคดีประวัติศาสตร์มีผลงานแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศาสตร์หน่วยสืบราชการลับ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. จับนายโรแลนด์ ลอสซิกมอล หัวหน้าเครือข่ายยาเสพติด 3 ทวีปทั้งอเมริกา ยุโรปและเอเชีย ระดับโลกยึดทรัพย์สินได้ราว 800 ล้านบาท ปี 2530 ขณะยังมียศเป็นร.ต.อ.จับกุมนักเคมีชาวไต้หวัน ร่วมกับนายทุนผลิตยาบ้า ยึดหัวเชื้อเพื่อการผลิตจำนวนมาก ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมทั้งนายตำรวจยศพ.ต.อ.ระดับหัวหน้าจังหวัด ระดับสารวัตรใหญ่ ศุลกากรจังหวัดในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและละเว้นการปฏิบัติจับกุมนายอเล็กซานเดอร์จอห์น วินสโตน หรืออเล็กซ์ อายุ 36 ปีชาวอังกฤษฐานส่งอีเมล์ข่มขู่ผู้บริหารเทสโกโลตัส เรียกเงิน 140 ล้านบาทหากไม่ได้จะนำยาพิษผสมอาหารที่ห้างโลตัสฯวางจำหน่าย คดีนี้มีการประสานกับหน่วยสก็อตแลนด์ยาร์ด ประเทศสหราชอาณาจักรจนสามารถปิดคดีได้
       
        สมัยเป็น ผกก.1 ป.จับนายยุทธนา นึกหมาย นายสุชาติ สิทธิทองหลวง ผู้ต้องหาปล้นทองคำหนักกว่า 500 บาทเหตุเกิดร้านทองนวนคร โดยก่อนหน้าตำรวจท้องที่จับแพะเมื่อมีการร้องเรียนจึงรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่และสามารถจับผู้ต้องหาตัวจริงได้ คดีฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นผู้หญิงรายแรกของประเทศไทย กรณีนางณัฐกานต์ อนะมาน วางแผนจดทะเบียนกับพล.อ.ต.กิตติพัฒน์ เมืองโคตร (เมื่อปีพ.ศ.2543) และนายอรุณ ครัวกลาง (เมื่อปี 2544) ทำประกันชีวิตวงเงิน 40 ล้านบาทผู้ต้องหาลอบวางยาพิษสามีเพื่อเอาเงินประกันต่อมาชุดสืบสวนของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ นำหลักการวิเคราะห์พฤติกรรมซึ่งเป็นวิชาการสืบสวนสมัยใหม่จนนางณัฐกานต์ รับสารภาพคดีนี้ศาลตัดสินจำคุกผู้ต้องหา 25 ปี นอกจากนั้นยังมีคดีฉ้อโกงบริษัทประกันภัย จับกุมนายพิเชษฐ์ พรตันติพงศ์ อายุ 38 ปีข้อหาร่วมกันฉ้อโกกงโดยผู้ต้อวงหารายนี้จะตัดนิ้วมือตัวเองเพื่อขอรับเงินประกันชีวิตที่ทำไว้วงเงิน 16 ล้านบาทในกรณีสูญเสียอวัยวะ คดีนายวิกเตอร์ อนาโตลเจวิช บูท ผู้ก่อการร้ายชาวรัสเซีย ในข้อหาร่วมกันจัดหาและรวบรวมทรัพย์สินเพื่อการก่อการร้าย โดยนายวิคเตอร์ เป็นหัวหน้าแก๊งค้าอาวุธสงครามมีเครือข่ายทั่วโลก เป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และสหรัฐอเมริกาต้องการตัวมากที่สุดแต่หลบหนีเข้ามากบดานในประเทศไทยจนถูกจับในที่สุด
       
        อีกคดีที่อื้อฉาวสะท้านวงการสีกากีไทยก็คือเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2552 ขณะทำหน้าที่รองผบช.ก.ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการประกวดราคา ตามคำสั่งกรมบัญชีกลาง ที่ สมพ./ก.252/2550 ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2550 ประกอบด้วยพล.ต.ท.- กับพวกรวม 6 คนโดยกล่าวหาว่า ”ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับผลประโยชน์ กรณีกระทำผิดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ประมวลกฎหมายอาญาในส่วนที่เกี่ยวกับความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยเริ่มจากการสืบสวนข้อมูลและพฤติการณ์ในการกระทำผิดของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อรถ จยย.สายตรวจขนาด 200 ซีซี.จำนวน 19,147 คัน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2550 ปรากฏข้อเท็จจริงว่าการดำเนินการของคณะกรรมการประกวดราคา มีลักษณะไม่เป็นธรรม ไม่เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ เอื้อประโยชยน์ให้กับฝ่ายตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้บริษัทเอกชนผู้ชนะการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างได้รับผลประโยชน์ ทำให้ราชการเสียหายจึงแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
       
        พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผบช.ก.ยังมีชื่อทางด้านนักวิชาการด้วยเคยสวมบทบาทเป็นอาจารย์บรรยายให้กับนักศึกษาระดับปริญญาเอกคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต และเขียนตำรา-เอกสารทางวิชาการตำรวจแบบแผนใหม่อีกหลายเล่มเช่นความรู้เบื้องต้นการเฝ้าสังเกตการณ์ และสะกดรอย พ.ศ.2536 ความรู้เบื้องต้นการสืบสวนอาชญากรรม พ.ศ.2537 วิธีปฏิบัติภาคสนามสำหรับเจ้าหน้าที่เมื่อรับแจ้งเหตุ พ.ศ.2539 และอีกจำนวนมาก
       
        นั่นคือด้านสว่างที่สังคมทราบกันดีอยู่แล้ว
       
         แต่อีกมุมหนึ่งก็มีกระแสข่าวเข้ามาเป็นระยะๆเป็นต้นว่า มีตำรวจกลุ่มหนึ่งแอบอ้างบุคคลสำคัญสร้างอิทธิพลให้กับตนกับพวกพ้อง จนหน่วยงานดังกล่าวประหนึ่งเป็นรัฐอิสระไม่มีใครกำกับดูแลได้ นอกจากนั้นยังไปพัวพันกับผลประโยชน์ต่างๆมากมายอาทิบ่อนพนันย่านถนนพระรามา 9 ในอดีตหรือแม้แต่ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งต่อมากลายเป็นภัยคุกคามต่อประเทศเมื่อหน่วยข่าวกรองมีหลักฐานเชื่อว่าขบวนการดังกล่าวให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายเพื่อสร้างความวุ่นวายเปิดช่องให้สะดวกต่อการทำผิดกฏหมาย
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 06:44:58 PM »

http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9570000135009

ค้นบ้าน"พงศ์พัฒน์" ยึดเงินสด-พระเครื่อง-โฉนดที่ดิน มูลค่าร่วมหมื่นล้าน
      
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ค้นบ้านพงศ์พัฒน์ ยึดเงินสด-พระเครื่อง-โฉนดที่ดิน มูลค่าร่วมหมื่นล้าน
พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ุ (แฟ้มภาพ)

      
เผยค้นบ้าน "พงศ์พัฒน์" 4-6 หลัง พบเงินสดซุกซ่อนนับพันล้านบาท พระพุทธรูปบูชาหายาก กว่า 100 องค์ พระเครื่องชื่อดัง หลายพันองค์ โฉนดที่ดินจำนวนมาก เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไป รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ร่วม 1 หมื่นล้าน
       
       วันที่ 23 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) รายงานข่าวแจ้งว่าการเข้าจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบช.ก.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. และ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รองผบช.ก.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พร้อมพวกครั้งนี้ได้มีการควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน โดยแยกควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจนครบาล 8 แห่ง และมีการควบคุมตัวเหมือนผู้ต้องหาทั่วไปในห้องควบคุมผู้ต้องหา สำหรับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.เตาปูน ขณะที่ พล.ต.ต.โกวิทย์ ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.พหลโยธิน ซึ่งในวันที่ 24 พ.ย. เวลา 08.00 น.จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก
       
       เมื่อคืนที่ผ่านมา ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน สอบปากคำที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งโดยแยกกันสอบปากคำ ก่อนที่จะแยกย้ายกันนำตัวไปควบคุมตามสถานีตำรวจต่างๆ
       
       สำหรับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ หลังสอบปากคำเสร็จ ได้ถูกตำรวจอรินทราชนำตัวมาที่ สน.เตาปูน เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 23 พ.ย. โดยสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีกากี มีท่าทางอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
       
       แหล่งข่าวระดับสูง กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน พบพยานหลักฐานมากมาย โดยเฉพาะในบ้านพักของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ที่มีอยู่ 4-6 หลัง พบเงินสดซุกซ่อนอยู่นับพันล้านบาท ทรัพย์สินอื่น อาทิ พระพุทธรูปบูชาหายาก กว่า 100 องค์ พระเครื่องชื่อดังจำนวนหลายพันองค์ โฉนดที่ดินจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไปของโฉนดที่ดินเหล่านี้ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ร่วม 1 หมื่นล้าน
       
       ทั้งนี้การเข้าจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ พร้อมพวกครั้งนี้ได้มีการควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด 8 คน โดยแยกควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจนครบาล 8 แห่ง และมีการควบคุมตัวเหมือนผู้ต้องหาทั่วไปในห้องควบคุมผู้ต้องหา สำหรับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ถูกควบคุมตัวไว้ที่สน.เตาปูน ขณะที่พล.ต.ต.โกวิทย์ ถูกควบคุมตัวไว้ที่สน.พหลโยธิน ซึ่งในวันที่ 24 พ.ย. เวลา 08.00 น.จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน สอบปากคำที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งโดยแยกกันสอบปากคำ ก่อนที่จะแยกย้ายกันนำตัวไปควบคุมตามสถานีตำรวจต่างๆ
       
       สำหรับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ หลังสอบปากคำเสร็จ ได้ถูกตำรวจอรินทราชนำตัวมาที่สน.เตาปูน เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 23 พ.ย. โดยสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาวสีกากี มีท่าทางอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
       
       แหล่งข่าวระดับสูง กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 8 คน พบพยานหลักฐานมากมาย โดยเฉพาะในบ้านพักของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ที่มีอยู่ 4-6 หลังพบเงินสดซุกซ่อนอยู่นับพันล้านบาท ทรัพย์สินอื่น อาทิ พระพุทธรูปบูชาหายาก กว่า 100 องค์ พระเครื่องชื่อดังจำนวนหลายพันองค์ โฉนดที่ดินจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไปของโฉนดที่ดินเหล่านี้ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ร่วม 1 หมื่นล้าน
บันทึกการเข้า

naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 06:51:51 PM »

ขุดกันออกมาจนถึงตัวใหญ่ระดับนี้ไม่ใช่ธรรมดาหรอกครับ... หัวโขนหลายหัวที่ว่ากันนั่นไม่รู้จริงก็อย่าออกมาวิจารณ์ดีกว่าครับ ไม่มีเรื่องก็ขุดกันจนให้มีเรื่องลือกันไป เรื่องบางเรื่องมีเหตุมาอ้างอิงมีเรื่องจริงเล็กน้อยก็ลือกันเสียเป็นเรื่องใหญ่โต...

เรื่องแอบอ้างเบื้องสูงอย่างนี้วิธีที่ดีที่สุดคือจับกุมดำเนินคดีแล้วตีแผ่กันในศาลนั่นแหละครับ เอาให้ใสกระจ่างกันไปเลย... หากปล่อยให้อึมครึมกันไปก็อ้างกันต่อไปไม่รู้จบ แล้วผู้คนก็จะกังขาลือกันไปจนเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง...
บันทึกการเข้า
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 06:51:56 PM »



55555  " ทรัพย์  " อื้อ  เลยอ่ะ ฮา 555555 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 23, 2014, 07:37:37 PM โดย babara. » บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #23 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 06:56:47 PM »



555555  เคยได้ยินมั้ย  " บ่อน ไฮโลว์ "  คนเขย่า โชว์นม อ่ะ ฮา 55555 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 23, 2014, 07:37:48 PM โดย babara. » บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 07:05:23 PM »

ข่าวจากพัน ไปถึงหมื่นล้าน Grin Grin Grin เยอะไปไหมครับ บอกรับเดือนละ 15 ล้านเอง
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #25 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 07:19:22 PM »



ข่าวจากพัน ไปถึงหมื่นล้าน Grin Grin Grin เยอะไปไหมครับ บอกรับเดือนละ 15 ล้านเอง






5555  กองบัญชาการ สอบสวนกลาง มี " หน่วยงาน ขึ้นตรง " อะไรบ้าง อ่ะ ฮา 5555555  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก

    

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 23, 2014, 07:38:13 PM โดย babara. » บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1870
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10363



« ตอบ #26 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 07:44:09 PM »


ยาวหน่อยครับ ลองอ่านดู//
ตะลึง! ค้นคฤหาสน์"พงศ์พัฒน์"เจอซุกเงินดอลลาร์หลายล้าน แม้คนขับรถยังรวยขั้นเศรษฐี
ค้นบ้าน"พงศ์พัฒน์"ยึดเงินสด-พระเครื่อง-โฉนดที่ดินมูลค่าร่วมหมื่นล้าน ผบ.ตร.สั่งออกจากราชการไว้ก่อน
เผยค้นบ้าน"พงศ์พัฒน์"4-6 หลัง พบเงินสดซุกซ่อนนับพันล้านบาท พระพุทธรูปบูชาหายากกว่า100องค์ พระเครื่องชื่อดังหลายพันองค์โฉนดที่ดินจำนวนมาก เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไป รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ร่วม1หมื่นล้าน ด้าน ผบ.ตร.ลงนามสั่งออกจากราชการไว้่ก่อนทั้งก๊วน
วันที่ 23 พฤศจิกายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)รายงานข่าวแจ้งว่าการเข้าจับกุม พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบช.ก.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. และ พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รองผบช.ก.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พร้อมพวก ครั้งนี้ได้มีการควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด8คน โดยแยกควบคุมตัวไว้ที่สถานีตำรวจนครบาล8แห่ง และมีการควบคุมตัวเหมือนผู้ต้องหาทั่วไปในห้องควบคุมผู้ต้องหา สำหรับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.เตาปูน ขณะที่ พล.ต.ต.โกวิทย์ ถูกควบคุมตัวไว้ที่ สน.พหลโยธิน ซึ่งในวันที่24พ.ย. เวลา08.00 น.จะนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก
เมื่อคืนที่ผ่านมาได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง8คนสอบปากคำที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งโดยแยกกันสอบปากคำ ก่อนที่จะแยกย้ายกันนำตัวไปควบคุมตามสถานีตำรวจต่างๆ
สำหรับ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์หลังสอบปากคำเสร็จได้ถูกตำรวจอรินทราชนำตัวมาที่ สน.เตาปูน เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่23 พ.ย.โดยสวมเสื้อยืดสีขาวกางเกงขายาวสีกากี มีท่าทางอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด
แหล่งข่าวระดับสูง กล่าวว่าจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง8คนพบพยานหลักฐานมากมาย โดยเฉพาะในบ้านพักของ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ที่มีอยู่4-6หลัง พบเงินสดซุกซ่อนอยู่นับพันล้านบาท ทรัพย์สินอื่นอาทิพระพุทธรูปบูชาหายากกว่า100องค์ พระเครื่องชื่อดังจำนวนหลายพันองค์โฉนดที่ดินจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบที่มาที่ไปของโฉนดที่ดินเหล่านี้ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดได้ร่วม1หมื่นล้าน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า วันนี้(23 พ.ย.)พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตรได้มีคำสั่ง ตร.ที่ 632/2557 ลงวันที่ 23 พ.ย.2557 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจออกจากราชการไว้ก่อน โดยคำสั่งดังกล่าวระบุว่า อาศัยอำนาจตามมาตรา 95 พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 ประกอบกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสั่งพักราชการและให้ออกจากราชการไว้ก่อน พ.ศ.2547 ข้อ 8 จึงมีคำสั่งให้ พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ผบช.ก.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พล.ต.ต.โกวิทย์ วงศ์รุ่งโรจน์ รอง ผบช.ก.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พล.ต.ต.บุญสืบ ไพรเถื่อน ผบก.รน.ปฏิบัติราชการ ศปก.ตร. พ.ต.อ.วุฒิชาติ เลื่อนสุคันธ์ ผกก.4 บก.ปคบ. ด.ต.สุรศักดิ์ จันทร์เงา ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป. ด.ต.ฉัตรินทร์ เหล่าทอง ผบ.หมู่ กก.ปพ.บก.ป. ออกจากราชการไว้ก่อน ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
อนึ่งผู้ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามคำสั่งนี้มีสิทธิ์อุทธรณ์ต่อ ก.ตร.ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา 105 ภายใน 30 วัน นับแต่วันทราบคำสั่งและประสงค์จะฟ้องโต้แย้งคำสั่งหรือวินิจฉัยอุทธรณ์นี้ให้ทำคำฟ้องเป็นหนังสือยื่นต่อศาลปกครองหรือส่งไปทางไปรษณีย์ลงทะเบียนภายใน 90 วัน นับแต่วันที่รับแจ้งหรือรับทราบคำวินิจฉัยอุทธรณ์ นับแต่วันที่ผู้ฟ้องคดีได้มีหนังสือขอรับผลการวินิจฉัยอุทธรณ์
มีรายงานว่าในวันที่ 24 พ.ย.2557 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. จะมีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับนายตำรวจทั้ง6นายด้วย

ตะลึง!ค้นคฤหาสน์"พงศ์พัฒน์"เจอซุกเงินดอลลาร์หลายล้าน แม้คนขับรถยังรวยขั้นเศรษฐี
คดีขุดรากถอนโคนมาเฟียสีกากีอ้างเบื้องสูง “อึ้ง”ค้นบ้านพัก “พงศ์พัฒน์ – โกวิท”เจอขุมทรัพย์นับพันล้าน ธนบัตรดอลลาร์ซุกไว้เป็นฟ่อน ทองคำแท่ง-รูปพรรณ กับวัตถุโบราณล้ำค่าเพียบ แฉแค่นายดาบคนขับรถมีสมบัติอย่างต่ำคนละ 50 ล้าน สารภาพสิ้นร่วมรับส่วยน้ำมันเถื่อนภาคใต้เดือนละ 15 ล้าน เตรียมยัดคุก-ยึดทรัพย์ปิดตำนานเจ้าพ่อสอบสวนกลาง

ความคืบหน้าคดีพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ อดีตผบช.ก.กับพวกที่ตกเป็นผู้ต้องหาความผิดฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลอาญามาตรา 112 และเป็นเจ้าพนักงานจูงใจให้ผู้อื่นมอบผลประโยชน์ มาตรา 148 และเรียกรับผลประโยชน์ มาตรา 149 และ มาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีรายงานว่าช่วงสายวันที่ 22 พ.ย.นี้มีภาพพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ กำลังถูกเจ้าหน้าที่สอบสวนอยู่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง บุคคลที่ปรากฏในภาพคือพล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.เพื่อนร่วมรุ่น31 ส่วนพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ สวมเสื้อยืดสีขาวนั่งอยู่ข้างๆลักษณะเคร่งเครียดและอิดโรย นอกจากมีนายตำรวจระดับสูงกำลังสอบปากคำแล้วยังมีกำลังทหารกระจายอยู่รอบๆ

รายงานข่าวแจ้งว่าในส่วนของการดำเนินคดีนั้น พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ และผู้ต้องหาทุกคนให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาทั้งนี้สืบเนื่องจากจำนนต่อพยานหลักฐานที่ถูกค้นพบในบ้านพักส่วนใหญ่เป็นรายการทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล ที่ไม่สามารถอธิบายถึงความเป็นไปได้เช่น 2 นายดาบตำรวจที่เป็นคนขับรถประจำตัวพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ และ พล.ต.ต.โกวิท วงศ์รุ่งโรจน์ อดีตรอง ผบช.ก.มีทรัพย์สินกว่า 50 ล้านบาท

ส่วนอดีต ผบช.ก ค้นคฤหาสน์บ้านพักพบเงินสดเป็นธนบัตรดอลลาร์รวมทั้งสิ้นหลายสิบล้านดอลลาร์กับทองคำแท่ง ทองรูปพรรณอีกจำนวนมาก เช่นเดียวกัพล.ต.ต.โกวิท ที่พบว่ามีการซุกซ่อนธนบัตรและทองคำในบ้านพักจำนวนมากเช่นกัน นอกจากนั้นยังพบวัตถุโบราณล้ำค่าอีกจำนวนหนึ่งประเมินว่าทรัพย์สินทั้งหมดนั้นมีมูลค่ากว่า1พันล้านบาทเลยทีเดียว

สำหรับคำสารภาพที่เป็นประโยชน์ต่อการแก้ปัญหาความมั่นคง3จังหวัดชายแดนใต้ก็คือในส่วนของผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจน้ำยอมรับว่ารับส่วยจากขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนช่วงปีที่ผ่านมาประมาณเดือนละ 2-3 ล้านบาทแต่หลังเคลียร์กันเรียบร้อยทุกเจ้ามีรายได้ตกเดือนละ12-15ล้านบาท ซึ่งเงินดังกล่าวแบ่งให้ใครในเครือข่ายอิทธิพลตำรวจสอบสวนกลางในอดีตฝ่ายความมั่นคงมีข้อมูลทั้งหมดแล้ว


มีรายงานด้วยว่าผลการเอาจริงเอาจังกับขบวนการอิทธิพล โดยแอบอ้างเบื้องสูงโดยไม่มีใครกล้าแตะต้องมาเป็นเวลานั้น นับเป็นผลงานของทางการไทยที่ทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่งเพราะมีบุคคลสำคัญเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวนมาก อีกทั้งยังนับว่านี่คือการเปลี่ยนโฉมสังคมไทยกันอย่างแท้จริง เพราะทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมาแม้คนไทยจะรังเกียจการทุจริตคอรัปชัน อีกทั้งรัฐบาลที่มาจากพรรคการเมืองทุกพรรค ก็ให้สัญญาจะปราบปรามขบวนการทุจริต แต่ในที่สุดเป็นเพียงลมปากกับนโยบายสวยหรูโดยไม่มีการเอาจริงเอาจังแม้แต่ครั้งเดียว ผลของการขุดรากถอนโคนขบวนการแอบอ้างเบื้องสูงในแวดวงสีกากีแก๊งนี้ จึงนับเป็นสัญญาณที่ดีของรัฐบาลทหาร เพราะเชื่อว่ายังมี “เหลือบ”ที่แอบอ้างบุคคลสำคัญหากินในหน่วยงานอื่นกันอยู่
อย่างไรก็ตามในส่วนของอดีต ผบช.ก.กับพวกนั้นขั้นตอนต่อจากนี้เมื่อสอบสวนดำเนินคดีในข้อหาต่างๆแล้วจะมีความผิดฐานฟอกเงินเป็นการปิดท้ายเพื่อยึดทรัพย์ทั้งหมดตกเป็นของแผ่นดินต่อไป

สำหรับประวัติพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผบช.ก.เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2499 ที่ตำบลบ้านบ่อ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เป็นบุตรนายประวัติ และนางยุพิน ฉายาพันธ์ จบระดับประถมการศึกษาที่โรงเรียนวัดใหญ่บ้านบ่อ มัธยมศึกษาจากโรงเรียนสมุทรสาครวิทยาลัย โรงเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 15 (ตท.15) โรงเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 31 ร่วมรุ่นเดียวกับพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตรงพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร.และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน ผบช.ภ.1 เป็นต้น จบปริญญาโทรัฐศาสตรมหาบัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และยังผ่านการอบรมหลักสูตรทั้งในและต่างประเทศอย่างมากมายอาทิหลักสูตรผู้บริหารชั้นสูงของตำรวจ หลักสูตรสืบสวนหน่วยสืบราชการลับจากมหาวิทยาลัยสิบราชการลับสหรัฐอเมริกา หลักสูตรด้านการบริหารตำรวจจากวิทยาลัยตำรวจแคนนาดา เป็นต้น

เส้นทางราชการนายตำรวจผู้นี้เคยเป็นสารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลท่าพระ สารวัตรใหญ่สถานีตำรวจนครบาลยานนาวา รองผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลบางขุนนท์ ผกก.1 กองปราบปราม ผกก.2 กองปราบปราม ผกก.ปฏิบัติการพิเศษ กองปราบปราม รองผบก.กองปราบปราม รักษาราชการแทนผู้การกองปราบปราม ผู้บังคับการกองปราบปราม ก่อนขยับเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อปีพ.ศ.2553 ซึ่งในขณะนั้นเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางเพราะเส้นทางการเติบโตของนายตำรวจผู้นี้แหกกติกา ระเบียบแบบแผนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาโดยตลอด

เช่นเมื่อเดือน เมษายน พ.ศ.2550 ตอนที่ถูกดวางตัวเป็น ผบก.ป.แต่ไม่ครบหลักเกณฑ์เนื่องจากเป็นรองผบก.ไม่ถึง 4 ปี และยังไม่ได้เข้าโรงเรียนผู้บังคับการ อีกด้วยแต่มีการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.)ให้ยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ เส้นทางการเข้าสู่ตำแหน่ง “ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง”ของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ ยังคืบต่อไปอย่างไม่หยุดโดยหลังจากนั้นอยู่ในตำแหน่งผบก.ป.เพียงปีเดียวก็ขยับขึ้นเป็นรองผบช.ก. ได้เพียง 6 เดือนก็ผงาดเป็นรักษาการณ์ ผบช.ก.และเป็น “ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง”อย่างเต็มภาคภูมิเมื่อพ.ศ.2553 กระทั่งมาถูกคำสั่งฟ้าผ่าตอนตี 4 ดังกล่าว

ส่วนผลงานสำคัญคือจับนายสมชาย คุณปลื้ม หรือ "กำนันเป๊าะ"เมื่อปีก่อน และผลงานในอดีตมีเช่นทลายแก๊งปลอมดอลล่าร์ที่คนร้ายใช้เทคโนโลยีสูงสุดสามารถปลอมธนบัตรได้เหมือนจริงผู้ต้องหาคือนายอาซินลี เจ้าของฉายา “คิงคอง”เจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางจำนวนมากเช่นแท่นพิมพ์ ดอลล่าร์ปลอมจนสหรัฐฯยกให้เป็นคดีประวัติศาสตร์มีผลงานแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ศาสตร์หน่วยสืบราชการลับ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. จับนายโรแลนด์ ลอสซิกมอล หัวหน้าเครือข่ายยาเสพติด 3 ทวีปทั้งอเมริกา ยุโรปและเอเชีย ระดับโลกยึดทรัพย์สินได้ราว 800 ล้านบาท ปี 2530 ขณะยังมียศเป็นร.ต.อ.จับกุมนักเคมีชาวไต้หวัน ร่วมกับนายทุนผลิตยาบ้า ยึดหัวเชื้อเพื่อการผลิตจำนวนมาก ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมทั้งนายตำรวจยศพ.ต.อ.ระดับหัวหน้าจังหวัด ระดับสารวัตรใหญ่ ศุลกากรจังหวัดในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและละเว้นการปฏิบัติจับกุมนายอเล็กซานเดอร์จอห์น วินสโตน หรืออเล็กซ์ อายุ 36 ปีชาวอังกฤษฐานส่งอีเมล์ข่มขู่ผู้บริหารเทสโกโลตัส เรียกเงิน 140 ล้านบาทหากไม่ได้จะนำยาพิษผสมอาหารที่ห้างโลตัสฯวางจำหน่าย คดีนี้มีการประสานกับหน่วยสก็อตแลนด์ยาร์ด ประเทศสหราชอาณาจักรจนสามารถปิดคดีได้

สมัยเป็น ผกก.1 ป.จับนายยุทธนา นึกหมาย นายสุชาติ สิทธิทองหลวง ผู้ต้องหาปล้นทองคำหนักกว่า 500 บาทเหตุเกิดร้านทองนวนคร โดยก่อนหน้าตำรวจท้องที่จับแพะเมื่อมีการร้องเรียนจึงรื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่และสามารถจับผู้ต้องหาตัวจริงได้ คดีฆาตกรต่อเนื่องที่เป็นผู้หญิงรายแรกของประเทศไทย กรณีนางณัฐกานต์ อนะมาน วางแผนจดทะเบียนกับพล.อ.ต.กิตติพัฒน์ เมืองโคตร (เมื่อปีพ.ศ.2543) และนายอรุณ ครัวกลาง (เมื่อปี 2544) ทำประกันชีวิตวงเงิน 40 ล้านบาทผู้ต้องหาลอบวางยาพิษสามีเพื่อเอาเงินประกันต่อมาชุดสืบสวนของพล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ นำหลักการวิเคราะห์พฤติกรรมซึ่งเป็นวิชาการสืบสวนสมัยใหม่จนนางณัฐกานต์ รับสารภาพคดีนี้ศาลตัดสินจำคุกผู้ต้องหา 25 ปี นอกจากนั้นยังมีคดีฉ้อโกงบริษัทประกันภัย จับกุมนายพิเชษฐ์ พรตันติพงศ์ อายุ 38 ปีข้อหาร่วมกันฉ้อโกกงโดยผู้ต้อวงหารายนี้จะตัดนิ้วมือตัวเองเพื่อขอรับเงินประกันชีวิตที่ทำไว้วงเงิน 16 ล้านบาทในกรณีสูญเสียอวัยวะ คดีนายวิกเตอร์ อนาโตลเจวิช บูท ผู้ก่อการร้ายชาวรัสเซีย ในข้อหาร่วมกันจัดหาและรวบรวมทรัพย์สินเพื่อการก่อการร้าย โดยนายวิคเตอร์ เป็นหัวหน้าแก๊งค้าอาวุธสงครามมีเครือข่ายทั่วโลก เป็นผู้ต้องหารายสำคัญที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และสหรัฐอเมริกาต้องการตัวมากที่สุดแต่หลบหนีเข้ามากบดานในประเทศไทยจนถูกจับในที่สุด

อีกคดีที่อื้อฉาวสะท้านวงการสีกากีไทยก็คือเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2552 ขณะทำหน้าที่รองผบช.ก.ได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการประกวดราคา ตามคำสั่งกรมบัญชีกลาง ที่ สมพ./ก.252/2550 ลงวันที่ 2 สิงหาคม 2550 ประกอบด้วยพล.ต.ท.- กับพวกรวม 6 คนโดยกล่าวหาว่า ”ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นได้รับผลประโยชน์ กรณีกระทำผิดต่อระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 พรบ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ประมวลกฎหมายอาญาในส่วนที่เกี่ยวกับความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ และพรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ โดยเริ่มจากการสืบสวนข้อมูลและพฤติการณ์ในการกระทำผิดของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อรถ จยย.สายตรวจขนาด 200 ซีซี.จำนวน 19,147 คัน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประจำปี 2550 ปรากฏข้อเท็จจริงว่าการดำเนินการของคณะกรรมการประกวดราคา มีลักษณะไม่เป็นธรรม ไม่เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบ เอื้อประโยชยน์ให้กับฝ่ายตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อให้บริษัทเอกชนผู้ชนะการประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างได้รับผลประโยชน์ ทำให้ราชการเสียหายจึงแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธ์ อดีตผบช.ก.ยังมีชื่อทางด้านนักวิชาการด้วยเคยสวมบทบาทเป็นอาจารย์บรรยายให้กับนักศึกษาระดับปริญญาเอกคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต และเขียนตำรา-เอกสารทางวิชาการตำรวจแบบแผนใหม่อีกหลายเล่มเช่นความรู้เบื้องต้นการเฝ้าสังเกตการณ์ และสะกดรอย พ.ศ.2536 ความรู้เบื้องต้นการสืบสวนอาชญากรรม พ.ศ.2537 วิธีปฏิบัติภาคสนามสำหรับเจ้าหน้าที่เมื่อรับแจ้งเหตุ พ.ศ.2539 และอีกจำนวนมาก

นั่นคือด้านสว่างที่สังคมทราบกันดีอยู่แล้ว แต่อีกมุมหนึ่งก็มีกระแสข่าวเข้ามาเป็นระยะๆเป็นต้นว่า มีตำรวจกลุ่มหนึ่งแอบอ้างบุคคลสำคัญสร้างอิทธิพลให้กับตนกับพวกพ้อง จนหน่วยงานดังกล่าวประหนึ่งเป็นรัฐอิสระไม่มีใครกำกับดูแลได้ นอกจากนั้นยังไปพัวพันกับผลประโยชน์ต่างๆมากมายอาทิบ่อนพนันย่านถนนพระรามา 9 ในอดีตหรือแม้แต่ขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งต่อมากลายเป็นภัยคุกคามต่อประเทศเมื่อหน่วยข่าวกรองมีหลักฐานเชื่อว่าขบวนการดังกล่าวให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายเพื่อสร้างความวุ่นวายเปิดช่องให้สะดวกต่อการทำผิดกฏหมาย. 23 พฤศจิกายน 2557 Lips Sealed ตกใจ

บันทึกการเข้า

..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing..
"สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #27 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 07:45:07 PM »

5555  อากาศ เริ่ม  "  เย็น " อ่ะ ฮา 5555 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 27, 2014, 09:02:54 AM โดย babara. » บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
พญาจงอาง +รักในหลวง+
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 1870
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 10363



« ตอบ #28 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 07:47:59 PM »

ไม่เป็นไรครับยาย บทความนี้มีใน Social Media แทบทุกสำนัก คงไม่น่าทำให้เว็บเราเสื่อมเสีย ไหว้
บันทึกการเข้า

..The only thing neccessary for the triump of evil is for the good man to do nothing..
"สิ่งเดียวที่ทำให้คนชั่วได้รับชัยชนะ คือการที่คนดีๆนิ่งดูดาย "
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #29 เมื่อ: พฤศจิกายน 23, 2014, 08:04:02 PM »

ไม่เป็นไรครับยาย บทความนี้มีใน Social Media แทบทุกสำนัก คงไม่น่าทำให้เว็บเราเสื่อมเสีย ไหว้

ไม่ใช่ประเด็นที่คุณจงอางฯ หมายถึงหรอกครับ... แต่เมื่อสักครู่นี้มีคนอ้างอิงจังหวัดหนึ่งที่เป็นพื้นเพเดิมของบุคคลที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข่าวนี้ ทั้งนี้อาจจะเพื่อเชื่อมโยงให้มันเกิดเรื่องโดยที่ไม่ใช่เรื่องที่สมควรกระทำครับ...
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 5 ... 16
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.162 วินาที กับ 22 คำสั่ง