555555 ทีนี้ มา " เผือก " เรื่อง ปากท้อง รากหญ้า ดีกว่า อ่ะ ฮา 555
เพื่อนๆ ในเวป ทีบอก กู วิดวะ กู พ่อค้า กู ข้าราชการ กู กู กู และกู
ไม่เดือดร้อน ไม่ " วอกแวก " เหมือน พวก รากหญ้า ควายแดง ฮา
อ่านแล้ว " สะอื้น " แต่มันเป็นความจริง อ่ะ ฮา
ชีวิต ของพวกมึง อยู่ใน " กำมือ " คนอื่นแล้ว อ่ะ ฮา 555555
55555 เพราะฉะนั้น ยังอยาก เป็น " ทาส หน้าเดิม " กันอีกหรือเปล่า อ่ะ ฮา 5555
เช้านี้คุณธนินทร์ ประกาศซื้อ Tesco ในไทยด้วย3แสนล้าน
เท่ากับ คุมการเกษตรทั้ง ข้าว หมู ไก่ กุ้ง อาหารสัตว์ ปุ๋ย พืชพลังงาน
คุมเทคโนโลยี่สื่อสาร ทั้งโทร.บ้าน โทร. มือถือ Internet
และมีสื่อในมือ คือ Truevision มันน่ากลัวตรง Tesco
ไม่ได้มีแค่ Hypermart แต่ Tesco ครองตลาดสดเกือบทุกอำเภอ
นั่นเท่ากับว่า CP จะคุมระบบค้าปลีกค้าส่งทั้ง Modern Trade
และ Traditional Trade ครบวงจร มี 7-11 Makro และ Lotus
คอลัมน์ Market-Think โดย สรกล อดุลยานนท์
ถ้าข่าว "เซเว่นอีเลฟเว่น" และกลุ่มทรู ซื้อหุ้น LH BANK จากกลุ่มแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เป็นจริง
เราคงได้เห็น "เกมใหม่" ในแวดวงการเงินและเป็นการเคลื่อนตัวทางยุทธศาสตร์
ที่น่าสนใจยิ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา "ซีพี" มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจหลายครั้งครั้งแรก คือ
1.การเข้าซื้อหุ้นของ "ผิงอัน" บริษัทประกันรายใหญ่ของจีนว่ากันว่า
เสน่ห์ของ "ผิงอัน" คือ เงินสดจากเบี้ยประกันที่นอนนิ่งอยู่ในบริษัท
2. การซื้อ "แม็คโคร" ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น"
ทำให้ "ซีพี" กลายเป็นยักษ์ใหญ่ของวงการค้าส่งและค้าปลีก
3. การดึง "ไชน่าโมบาย" ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมของจีน มาถือหุ้นใน "ทรู"
ครั้งนี้นอกจากทำให้ "ทรู" มีพันธมิตรเป็นยักษ์ใหญ่จากต่างชาติเหมือน "เอไอเอส"
ที่มี" สิงคโปร์เทเลคอม" และ "ดีแท็ค" ที่เป็นของ "เทเลนอร์" ไม่โดดเดี่ยวเหมือนในอดีต
แล้วเกมไชน่าโมบายยังเป็นการปรับโครงสร้างทางการเงินของ "ทรู" ครั้งใหญ่อีกด้วยเพราะลดหนี้ได้มโหฬาร
ดังนั้น หาก "ทรู" และ "เซเว่นอีเลฟเว่น" ซื้อ LH BANK จริง
จะเป็นการเคลื่อนตัวทางยุทธศาสตร์ของ "ซีพี" ครั้งที่ 4 ในรอบ 2 ปี
และเป็นการเปิดเกมใหม่ของธุรกิจการเงินที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง
อย่าลืมว่าโลกแห่งการเงินก็เหมือนกับโลกธุรกิจทั่วไปที่เปลี่ยนไปแล้ว
ไม่จำเป็นที่ "คน" ต้องเคลื่อนตัวไปหา "สินค้า" แล้วจึงจะเกิดการซื้อขาย หรือ "ธุรกรรม"
ขึ้นทุกอย่างผ่านระบบ "ออนไลน์" และ "โซเชียลมีเดีย"
โดยที่ "คน" ไม่ต้องเจอกันและไม่ต้องเคลื่อนตัวไปเจอ "สินค้า" "
ความสะดวก" กลายเป็น "จุดขาย" ใหม่ คิดเล่น ๆ ว่า
ถ้า "ธนินท์ เจียรวนนท์" คิดในเกมเก่า คือ เปิดสาขาแบงก์แข่ง
กับแบงก์กรุงเทพ กสิกรไทย กรุงไทย ไทยพาณิชย์ ฯลฯ LH BANK คงแพ้
แต่ "ธนินท์" คิดสร้าง "เกมใหม่" ทางการเงิน เซเว่นอีเลฟเว่น มีสาขาอยู่ 8,000 สาขา
เป็นทำเลที่ดีที่สุดสำหรับตู้เอทีเอ็ม มี "เคาน์เตอร์เซอร์วิส"
ที่สามารถรับจ่าย รับโอน รับจองตั๋ว ที่มีประสิทธิภาพยิ่ง
พลิกเกมทีเดียวก็มีสาขาใหม่เพิ่มขึ้น 8,000 สาขาทันที
ส่วนกลุ่มทรู มีกลุ่มลูกค้าทั้งโทรศัพท์มือถือ อินเทอร์เน็ต ทรูวิชั่นส์
แค่เห็น "วัตถุดิบ" แบบนี้ "พ่อครัว" ทางการเงินก็น้ำลายไหลแล้วครับ
เพราะมีแบงก์ไหนที่ "สะดวก" ในการทำธุรกรรมการเงินได้สะดวกเท่านี้บ้าง
และถ้าข่าวว่า LH BANK จะกลายเป็นเจ้าของเคาน์เตอร์เซอร์วิสรายใหม่ แทน "เซเว่นอีเลฟเว่น"
จริง ๆยิ่งทำให้ LH BANK ออกอาวุธได้ถนัดมือมากขึ้น
นอกจากนั้น LH BANK ยังมีกระแสเงินสดจากเซเว่นอีเลฟเว่น และแม็คโคร จำนวนมหาศาล
เมื่อปีที่แล้ว รายได้ของ "เซเว่นอีเลฟเว่น" 284,760 ล้านบาท แม็คโคร 129,780 ล้านบาท
รวมกันเป็นตัวเลขกลม ๆ ประมาณ 410,000 ล้านบาท หรือเดือนละ 34,000 ล้านบาท
ถ้าได้เครดิตสินค้า 2 เดือน ก็แสดงว่ามีเงินนิ่ง ๆ อยู่ 68,000 ล้านบาท LH BANK จึงเปรียบเสมือน "โรงงาน" ที่มี "เงินสด" เป็นวัตถุดิบ
จะใช้ "เงินต่อเงิน" อย่างไร นี่ยังไม่รวมเงินสดจากกลุ่มทรูและกลุ่มซีพี