หนุ่มรปภ.ผับดังหาดเฉวงถือปืนลูกซองยาวไล่ยิงมาเฟียหนุ่มตุรกีตายในผับ หลังจากที่หนุ่มตุรกีมีสภาพเมามายเดินเข้ามาในผับ แล้วบอกให้เปิดบริการพร้อมกับสั่งเหล้าดื่ม แต่พนักงานในร้านบอกว่าผับปิดให้บริการแล้ว หนุ่มตุรกีเลยโวยวายบังคับให้เปิดขาย พนักงานจึงเรียกรปภ.ผับเข้ามาเคลียร์ จนมีการปะทะคารมกันอย่างดุเดือด หนุ่มตุรกีจึงนำปืนพกสั้นที่พกอยู่ที่เอวออกมาข่มขู่ รปภ.จึงวิ่งไปหยิบปืนลูกซองยาวที่อยู่ภายในผับออกมาไล่ยิง หนุ่มตุรกีวิ่งหนีตาย ก่อนจะถูกยิงล้มลงจนปืนสั้นหลุดมือ รปภ.จึงวิ่งไปหยิบปืนของหนุ่มตุรกียิงซ้ำเข้าที่หัวเสียชีวิตคาที่ จากนั้นรปภ.รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 13 ก.พ. เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งมีเหตุยิงกันพื้นที่ถนนสายเลียบหาดเฉวง ม.2 ต.บ่อผุด ที่เกิดเหตุอยู่ภายในผับชื่อ บาร์โซโล มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชาวต่างชาติ หลังรับแจ้ง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.เทเวศน์ ปลื้มสุทธิ์ ผกก.สภ.บ่อผุด รับทราบ พร้อมกับแจ้ง พ.ต.อ.ชัยยันต์ บัณฑิต ผกก.ผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ต.ท.เด่นดวง ทองศรีสุก รองผกก.ป. ร.ต.อ.อุดมศักดิ์ ทัพภะ ร้อยเวรสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน หน่วยกู้ชีพกู้ภัยเกาะสมุย และแพทย์จากโรงพยาบาลเกาะสมุย รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นผับชื่อ บาร์โซโล เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวนายกบินทร์ ศรีสะอาด อายุ 27 ปี รปภ.ของทางร้านที่ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยของกลางอาวุธปืนลูกซองยาวแบบเรมิงตัน 1 กระบอก ที่ใช้ก่อเหตุ
ภายในร้านพบศพของชาวต่างชาตินอนคว่ำหน้าเสียชีวิต อยู่ข้างบาร์เหล้า ทราบชื่อว่า Mr.Polot Mehmet อายุ 34 ปี ชาวตุรกี สวมเสื้อยืดคอกลม กางเกงยีนส์ขาสามส่วน รองเท้าผ้าใบสีแดง สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะ 1 นัด และตามร่างกายหลายแห่ง ซึ่งจากการตรวจสอบภายในร้านพบปลอกกระสุนปืนลูกซอง 4 ปลอก หัวกระสุนจำนวนหนึ่ง และที่เสาปูนยังพบร่องรอยของกระสุนปืนลูกซองอีกด้วย
จากการตรวจค้นศพของผู้เสียชีวิตพบปืนลูกโม่ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ปืนสั้นแบบแม็กกาซีน ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก มีดพกสั้น 1 เล่ม ธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 1 แสนกว่าบาท และยังพบถุงพลาสติกภายในมียาเสพติดยาอี และโคเคน อีกจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
นายกบินทร์ ผู้ต้องหา เล่าถึงเหตุการณ์ว่า ขณะที่ตนอยู่บนชั้น 2 ของร้าน ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายทางด้านล่าง จึงได้ลงมาดู ก็พบว่า Mr.Polot Mehmet อายุ 34 ปี ชาวตุรกี กำลังทะเลาะกับพนักงานในร้าน ซึ่งตนรู้จักผู้ตายอย่างดี เพราะก่อนหน้านี้เคยเมาเหล้าแล้วมาก่อกวนภายในร้านมาแล้วหลายครั้ง โดยครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ม.ค. ได้เมาและมาก่อกวนภายในร้าน ทางร้านจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาควบคุมตัวแล้วครั้งหนึ่ง
แต่ในครั้งนี้ผู้ตายมีสภาพเมามายเดินเข้ามาในผับแล้วบอกให้เปิดบริการพร้อมกับสั่งเหล้าดื่ม แต่พนักงานในร้าน บอกกลับไปว่าผับปิดให้บริการแล้ว แต่ผู้ตายกลับโวยวายบังคับให้เปิดขาย ตนจึงเข้ามาเคลียร์และมีการปะทะคารมกันอย่างดุเดือด ผู้ตายจึงนำปืนพกสั้นที่พกอยู่ที่เอวออกมาข่มขู่ทำท่าจะยิง ตนเองจึงวิ่งไปหยิบปืนลูกซองยาวที่อยู่ภายในผับออกมาไล่ยิง จนผู้ตายล้มลง ปืนสั้นหลุดมือ ตนจึงวิ่งไปหยิบปืนของผู้ตายยิงซ้ำเข้าที่หัวจนเสียชีวิต จากนั้นจึงยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบประวัติผู้ตายทราบว่าได้มาอยู่ที่เกาะสมุยกว่า10 ปีแล้ว มีหุ้นส่วนในธุรกิจร้านเพชร และธุรกิจต่างๆ อีกหลายอย่างบนเกาะสมุย และมักทำตัวเป็นมาเฟียกับกลุ่มชาวต่างชาติด้วยกัน มีประวัติพัวพันธุรกิจผิดกฎหมาย เป็นที่รู้จักของผู้ประกอบการ นักธุรกิจที่เป็นชาวต่างชาติด้วยกัน และทราบว่าในวันที่ 14 ก.พ.นี้ ผู้ตายจะเดินทางไปที่ประเทศดูไบ เพื่อติดต่อธุรกิจบางอย่าง แต่มาถูกยิงตายเสียก่อน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.พิษณุ ม่วงแพรศรี รองผบช.ภ.8 พร้อมพล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จ.สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานภาค 8 เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุบาร์โซโล ย่านชายหาดเฉวง ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย
ทั้งนี้ พล.ต.ต.พิษณุ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าผู้ตายได้เข้ามาก่อกวนภายในร้าน และพบว่าผู้ตายจัดว่าเป็นคนที่สถานบันเทิงต่างๆในพื้นที่รู้จักเป็นอย่างดี จัดว่ากว้างขวางในกลุ่มชาวต่างชาติด้วยกัน ในสถานที่เกิดเหตุได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิด และจากการตรวจสอบอาวุธปืนของผู้ตายทั้ง 2 กระบอก พบว่า อาวุธปืนขนาด .38 ยี่ห้อเทารัส เป็นปืนที่มีใบอนุญาต อยู่ที่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช และอาวุธปืนพกสั้น .9มม. ยี่ห้อกล็อก มีใบอนุญาตที่ จ.นนทบุรี พร้อมตรวจสอบที่มาของอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอก ว่ามาอยู่ในความครอบครองของผู้ตายได้อย่างไร
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายกบินทร์ศรีสะอาด ผู้ต้องหาว่า ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และนำตัวไปสอบสวนก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในภายหลัง พร้อมกับส่ง สภ.บ่อผุด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU16Z3lNakEwTUE9PQ==&subcatid=ผมอ่านข่าวนี้ด้วยความรู้สึกหลายๆอย่าง อย่างแรกในแง่การดำเนินชีวิตของชาวต่างชาติในเมืองไทย และถึงขั้นพกพาอาวุธปืนทีนึง 2 กระบอก พกเงินสดทีนึงเป็นแสน รปภ.ก็ไม่หนีด้วยรอมอบตัว แบบนี้เหมาะสมกับการเปรียบมวย เสือพบสิงห์
