เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 18, 2024, 08:32:22 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ดักยิง ‘ศักดิ์ ปากรอ’ อดีตผู้ต้องหาคดีดัง ปล้นฆ่าโหดแขวนคอ ยกครัว 5 ศพ ดับอนาถ!!  (อ่าน 3842 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 9 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 652
ออฟไลน์

กระทู้: 3595



« ตอบ #15 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 01:29:50 PM »

ถ้าใครจะด่ากระบวนการยุติธรรมไทยว่าไม่ยุติธรรม ก็ด่ากรมราชทัณฑ์เถอะครับ
บันทึกการเข้า

There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 01:35:10 PM »

ผู้ที่ทำเรื่องชงเรื่องขอลดโทษก็ทางเรือนจำนี่แหละ
บันทึกการเข้า
Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 01:50:14 PM »

เมื่อฆ่าคนอื่น ก็ย่อมต้องได้รับสิทธิ์อันนั้นตอบแทน  สมควรแล้วครับ
ติดคุกด้วย และจบด้วยตายโหง ถ้ามองในมุมนี้ จะแสบสันต์ ยิ่งกว่า ติดอยู่ในคุกซะอีก

มือยิง ใช้โม่หมุน นี่เหมือนวิถี ของนักเลงปืนปักษ์ใต้ ในอดีต ที่ใช่โม่หมุน เป็นหลัก
เป็นการยิงแล้ว เก็บปลอกไม่ให้จับรอยได้ง่าย เป็นวิถีของนักเลงปืนปักษ์ใต้ เขาละ 

ส่วนคนดี ยิงเพื่อป้องกันตัว ปืนคายปลอกไว้ จะต้องไปเกรง การจับรอยทำไมอีก.
บันทึกการเข้า

dhanuthamรักในหลวง
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 14
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 29


« ตอบ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 02:28:04 PM »

เมื่อฆ่าคนอื่น ก็ย่อมต้องได้รับสิทธิ์อันนั้นตอบแทน  สมควรแล้วครับ
ติดคุกด้วย และจบด้วยตายโหง ถ้ามองในมุมนี้ จะแสบสันต์ ยิ่งกว่า ติดอยู่ในคุกซะอีก

มือยิง ใช้โม่หมุน นี่เหมือนวิถี ของนักเลงปืนปักษ์ใต้ ในอดีต ที่ใช่โม่หมุน เป็นหลัก
เป็นการยิงแล้ว เก็บปลอกไม่ให้จับรอยได้ง่าย เป็นวิถีของนักเลงปืนปักษ์ใต้ เขาละ 

ส่วนคนดี ยิงเพื่อป้องกันตัว ปืนคายปลอกไว้ จะต้องไปเกรง การจับรอยทำไมอีก.
ผู้ที่ทำเรื่องชงเรื่องขอลดโทษก็ทางเรือนจำนี่แหละ
ถ้าใครจะด่ากระบวนการยุติธรรมไทยว่าไม่ยุติธรรม ก็ด่ากรมราชทัณฑ์เถอะครับ
ไหว้ เยี่ยม
บันทึกการเข้า

ความรู้คู่คุณธรรม
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 02:34:31 PM »

อยากถามมานานแล้วครับ ศาลสูงสุดท่านเห็นสมควรแล้วว่าไอ้ศักดิ์ปากรอควรจะถูกเก็บตัวออกจากสังคมไทย ไปจนตลอดชีวิตชั่วๆของมัน แล้วไอ้บัดซบในกรมราชทัณฑ์ตัวไหนที่บังอาจปล่อยตัวมันออกมาก่อนกำหนดครับ กรมราชทัณฑ์มีสิทธิอะไร

มันเป็นสิทธิ์ของนักโทษทุกคนครับ  เป็นกฎที่กำหนดไว้  จะให้ละเว้นการปฏิบัติหรือครับ ?

ถ้าจะแก้ก็ต้องให้ผู้มีอำนาจแก้กฎฯ ครับ  จะโทษกรมราชทัณฑ์คงไม่ได้  เมื่อกระบวนการยุติธรรมของไทย

กำหนดให้มีเหตุที่ใช้บรรเทาโทษได้  ผู้ต้องหาก็ได้รับการบรรเทาโทษตั้งแต่อยู่ในชั้นศาลแล้วครับ   ไหว้
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 05:18:40 PM »

 มุมมองของผมเรื่องการลดโทษมันมีสองมุมครับ ๑.ชักจูงใจให้นักโทษประพฤติตัวดีในเรือนจำ ๒.ทำให้คนไม่กลัวการลงโทษเพราะคิดว่าติดไปทำตัวดีหน่อยเดี๋ยวก็ได้ออกมาแล้วครับ
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
นายกระจง
Cement For Life.....
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2938
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 31460


ช่างมันเถอะ


« ตอบ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 23, 2015, 10:10:48 PM »

อ้าวแล้วใครไปขับเครนให้ที่ทำงานผมละ เรียกกันประจำเลย
ออกมาตอนใหนแล้ว อ๋อย



ออกมาก่อนหมอที่ชำแหละแฟนสาวครับ
บันทึกการเข้า

เกิดเป็นคนต้องอดทน ไม่อดทนก็อดตาย
 
kok ksn
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 436


« ตอบ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 12:11:48 PM »

ยังโชคดี     ที่คนเขายังให้อยู่ได้นาน ๆ
การแก้แค้นที่สาสมที่สุด   คือ การเสริฟอาหารขณะที่มันเย็นแล้ว .........คุ้นมั้ยครับคำนี้
บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 12:16:25 PM »

ยังโชคดี     ที่คนเขายังให้อยู่ได้นาน ๆ
การแก้แค้นที่สาสมที่สุด   คือ การเสริฟอาหารขณะที่มันเย็นแล้ว .........คุ้นมั้ยครับคำนี้
สุภาษิตจีน บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ(หลายปีก็ไม่สาย) คิก คิก
บันทึกการเข้า

submachine -รักในหลวง-
คนกินเหล้า อย่าให้เหล้ากินคน
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6127
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 55373


Let us go..!


« ตอบ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 12:21:12 PM »

ยังโชคดี     ที่คนเขายังให้อยู่ได้นาน ๆ
การแก้แค้นที่สาสมที่สุด   คือ การเสริฟอาหารขณะที่มันเย็นแล้ว .........คุ้นมั้ยครับคำนี้

"การแก้แค้นเป็นอาหาร ที่ต้องเสริฟตอนมันเย็น"
The Godfather
บันทึกการเข้า

อย่าเห็นเป็น ความดี เล็กน้อย แล้วไม่กระทำ
อย่าเห็นเป็น ความชั่ว เล็กน้อย แล้วจึงกระทำ

Thanut Wansuk

Ro@d - รักในหลวง
รักเธอ.. ประเทศไทย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 4088
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 20186


1 คัน 1 ชีวิตที่อิสระ มี G23 กาแฟอีก 1 เป็นเพื่อน


« ตอบ #25 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 01:14:56 PM »

ยังโชคดี     ที่คนเขายังให้อยู่ได้นาน ๆ
การแก้แค้นที่สาสมที่สุด   คือ การเสริฟอาหารขณะที่มันเย็นแล้ว .........คุ้นมั้ยครับคำนี้

อ้าว  แบบนี้ ก็เหลือประเด็นเดียว

เหลือแต่ หาพยานหลักฐาน มาพิสูจน์ เทานั้นเอง . ยิ้มีเลศนัย
บันทึกการเข้า

rambo1th
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1349


« ตอบ #26 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 01:25:39 PM »

เมื่อฆ่าคนอื่น ก็ย่อมต้องได้รับสิทธิ์อันนั้นตอบแทน  สมควรแล้วครับ
ติดคุกด้วย และจบด้วยตายโหง ถ้ามองในมุมนี้ จะแสบสันต์ ยิ่งกว่า ติดอยู่ในคุกซะอีก

มือยิง ใช้โม่หมุน นี่เหมือนวิถี ของนักเลงปืนปักษ์ใต้ ในอดีต ที่ใช่โม่หมุน เป็นหลัก
เป็นการยิงแล้ว เก็บปลอกไม่ให้จับรอยได้ง่าย เป็นวิถีของนักเลงปืนปักษ์ใต้ เขาละ  

ส่วนคนดี ยิงเพื่อป้องกันตัว ปืนคายปลอกไว้ จะต้องไปเกรง การจับรอยทำไมอีก.
ผู้ที่ทำเรื่องชงเรื่องขอลดโทษก็ทางเรือนจำนี่แหละ
ถ้าใครจะด่ากระบวนการยุติธรรมไทยว่าไม่ยุติธรรม ก็ด่ากรมราชทัณฑ์เถอะครับ
ไหว้ เยี่ยม

      ต้องไปอ่าน พรบ.ราชทัณฑ์ 2479 มาตรา 32 ครับ ราชทัณฑ์เขาปฏิบัติตามกฎหมายครับ มาตรานี้ถ้าจะมองในแง่การควบคุมผู้ต้องขัง นั้น ก็เป็นประโยชน์เพราะผู้ต้องขังจะไม่พยายามทำตัวให้มีปัญหาเพราะจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ การควบคุมผู้ต้องขังของผู้คุมก็จะง่ายตามไปด้วย งานผู้คุมเป็นงานที่เหนื่อย หนัก และอันตรายมาก ตลอดจนต้องอยู่ในสถานที่ที่ไม่น่าอภิรมย์เป็นอย่างยิ่ง ผมเคยเดินทางไปราชการในเรือนจำต่างๆ มาทั่วประเทศ สภาพแต่ละที่ไม่แตกต่างกันผู้ต้องขังเยอะมาก แต่จำนวนผู้คุมน้อยเหลือเกิน แถมหลายๆท่านอายุมากๆกันอีก ที่ช่วยประคองกันอยู่ได้ทุกวันนี้คือผู้ต้องขังที่เป็นผู้ช่วยเหลือฯ เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระ  ............

   แต่การลดโทษก็ต้องไปดูตาม ป.วิ อาญา อีกมีเรื่องการขออภัยโทษ , เปลี่ยนโทษหนักเป็นเบา และลดโทษอีก   ไอ้เรื่องรับสารภาพแล้วลดครึ่งราคานี่ก็เหมือนกัน มันก็มีเขียนไว้เป็นกฎหมายอีก ไม่งั้นจำเลยรู้ตัวว่ารับไม่รับโทษเท่ากัน สู้คดีมันทุกราย ไม่ให้ความร่วมมือนำหาพยานหลักฐานเลย สืบพยานกันน้ำบาน แต่ในคดีที่จำนนต่อหลักฐาน รับไม่รับผลเท่ากันก็ดุลพินิจผู้พิพากษาล้วนๆ อีกเช่นกัน ว่าจะลดให้ไหม ........... เคยเห็นบางคดีไหมครับ ทำแต่คดีเล็กคดีน้อย แต่ทำต่างกรรมต่างวาระกัน รวมทุกกระทงลงโทษ ติดจริงๆ เท่ากับปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ตายเลย แถมดีไม่ดีไอ้ปล้นฆ่าออกมาก่อนอีก

   ตอนนี้ปฏิรูปกันไม่เห็นมีใครพูดเรื่อง ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมบ้านเราบ้างเลย ว่าสภาพการณ์บ้านเมืองกับกฎหมายปัจจุบันเหมาะสมสอดคล้องกันแค่ไหน อย่างไร
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 01:27:48 PM โดย rambo1th » บันทึกการเข้า
kok ksn
Full Member
***

คะแนน 54
ออฟไลน์

กระทู้: 436


« ตอบ #27 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 03:15:28 PM »

ยังโชคดี     ที่คนเขายังให้อยู่ได้นาน ๆ
การแก้แค้นที่สาสมที่สุด   คือ การเสริฟอาหารขณะที่มันเย็นแล้ว .........คุ้นมั้ยครับคำนี้

"การแก้แค้นเป็นอาหาร ที่ต้องเสริฟตอนมันเย็น"
The Godfather


ขอบคุณน้าซับ  ครับ ที่แนะนำให้ถูกต้อง
บันทึกการเข้า
...อภิสิทธิ์ ...
จะรักและซื่อสัตย์ต่อลูกโม่ S&W ตลอดไปชั่วฟ้าดินสลาย
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 652
ออฟไลน์

กระทู้: 3595



« ตอบ #28 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 06:35:02 PM »

อยากถามมานานแล้วครับ ศาลสูงสุดท่านเห็นสมควรแล้วว่าไอ้ศักดิ์ปากรอควรจะถูกเก็บตัวออกจากสังคมไทย ไปจนตลอดชีวิตชั่วๆของมัน แล้วไอ้บัดซบในกรมราชทัณฑ์ตัวไหนที่บังอาจปล่อยตัวมันออกมาก่อนกำหนดครับ กรมราชทัณฑ์มีสิทธิอะไร

มันเป็นสิทธิ์ของนักโทษทุกคนครับ  เป็นกฎที่กำหนดไว้ 

ก็ถ้าเช่นนั้นกฏหมายไทยก็น่าขบขันมากแล้วครับ การจะมาเป็นผู้พิพากษานั้นยากแสนยาก สารพัดสอบแข่งขัน และกว่าคดีจะมาถึงศาลก็หลายขั้นตอน และกระบวนการกว่าจะได้คำพิพากษาตัดสินคดีหนึ่งๆก็แสนลำบาก ใช้บุคคลากรที่ทรงค่าไม่ว่าจะเป็นพน้กงานสอบสวน ท่านอัยการ ท่านผู้พิพากษา เมื่อคำพิพากษาจากบุคคลากรที่น่าเชื่อถือที่สุดในสังคมเห็นว่าควรจำคุกตลอดชีวิต ก็ไม่ควรที่จะมีกระบวนการใดมาบิดเบือนคำตัดสินนั้นๆครับ
บันทึกการเข้า

There are experienced shooters who are just die-hard fans of revolvers. They do practice regularly and have had plenty of training, and for whatever reason they just prefer revolvers over semi-autos. And for the record, no, not all of them are dudes with gray hair.
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 6424
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 50462



« ตอบ #29 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 06:42:47 PM »

เปิดแฟ้มคดีเก่า วันจันทร์สัปดาห์นี้ เลยต้องขอย้อนรอยเรื่องราวความโหดเหี้ยมคดีฆาตกรรม หรือฆ่ายกครัว 5 ศพ ตระกูล "บุญทวี"

          เหตุเกิดเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. 2540 เป็นช่วงยามหน้าร้อนปลายเดือนเมษายน เหตุเกิดใน อ.สิงหนคร จ.สงขลา ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญระดับประเทศในยุคนั้น ที่ทำให้ตำรวจถึงกับ ’หัวปั่น“ ในการคลี่คลายคดี ต้องใช้ตำรวจมือดีจากกองปราบปรามลงไปสืบสวนสอบสวน

          คดีสลดใจครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2540 ตำรวจ สภ.อ.สิงหนคร ได้รับแจ้งว่า มีเหตุสังหารหมู่ ครอบครัวนายประภาส บุญทวี อายุ 43 ปี หัวหน้าสถานีอนามัยบ้านระวะ ต.ระวะ จ.สงขลา เสียชีวิตพร้อมกัน 5 ศพอยู่ในบ้านเลขที่ 162 หมู่ 8 อ.สิงหนคร

          ภาพที่สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้พบเห็น เจ้าหน้าที่บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่ คือ ร่างผู้เสียชีวิตในตระกูลบุญทวี จุดแรกพบ 4 ศพถูกมัดมือมัดเท้าแขวนคอกับราวบันได ชั้น 2 ประกอบด้วย นายประภาส พร้อมบุตรชายอีก 3 คน อายุไล่เรียงกันตั้ง 13 ปี, อายุ 11 ขวบ และอายุ 9 ขวบ ส่วนที่ห้องนอนชั้นบน พบร่าง นางเจียมจิต ภรรยานายประภาส เจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.ควนเนียง จ.สงขลา ถูกมัดมือมัดเท้ามีบาดแผลถูกทุบด้วยของแข็งที่ศีรษะและใบหน้า ทั้งหมดเสียชีวิตประมาณ 12 ชั่วโมง

           การตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดพบว่า มีร่องรอยรื้อค้นทรัพย์สิน แต่ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ !เบื้องต้นตำรวจเชื่อว่าสาเหตุฆาตกรรมยกครัวครั้งนี้น่าจะมาจากความแค้นส่วนตัว และประสงค์ต่อทรัพย์ เนื่องจากคนร้ายก่อเหตุกับเด็ก ๆ ที่ไร้เดียงสาได้ลงคออย่างโหดเหี้ยมผิดปกติ นอกจากนี้เชื่อว่าคนร้ายที่ลงมือสังหารต้องเชี่ยวชาญในการใช้เชือกเป็นพิเศษ! เพราะทั้ง 4 ศพนั้นเชือกถูกมัดพันธนาการด้วยปมเงื่อนแบบเดียวกัน คนที่มัดได้เช่นนี้ย่อมไม่ธรรมดา

          หลังเกิดเหตุตำรวจใช้เวลาสืบสวนสอบสวนอยู่หลายวัน พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบ.ตร.ในขณะนั้น สั่งการให้ พล.ต.ต.วรรณรัตน์ คชรักษ์ รอง ผบช.ก. เป็นผู้รับผิดชอบคดีพร้อมส่งตำรวจมือปราบชื่อดังของกองปราบฯ อย่าง พ.ต.อ. ประมวลศักดิ์ ศรีสมบุญ รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ และ พ.ต.ท.ทวี สอดส่อง (ยศตำแหน่งในขณะนั้น) เข้าร่วมกับตำรวจ บช.ภ.9 คลี่คลายคดีอย่างเร่งด่วน โดยชุดสืบสวนพุ่งปมความขัดแย้งไปทั้งเรื่องมรดก หนี้สิน การพนัน ความแค้นส่วนตัว และฆ่าชิงทรัพย์

          กระทั่งคดีเริ่มมีเบาะแสจากพลเมืองดีให้ข้อมูลเกี่ยวกับวัยรุ่นต้องสงสัย 2 คน เข้าไปในบ้านพักผู้ตายค่ำวันที่ 25 เม.ย. แล้วจับตัวลูก ๆ ผู้ตายมัดไว้ แต่พยานไม่กล้าบอกใครเพราะกลัวอันตราย!! ที่สำคัญอีกเบาะแสหนึ่งที่ได้คือ “พระเครื่อง” ของนายประภาส และสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึงที่สูญหายไปนั้น มีวัยรุ่นนำไปขายที่ตลาดเช่าพระ อ.เมืองยะลา เมื่อตามแกะรอยไปจึงทราบว่าวัยรุ่นคนดังกล่าวเป็นหลานชายของผู้ใหญ่บ้านใน อ.ธารโต จ.ยะลา กระทั่ง “รองฯยาว” พ.ต.ท.วีระศักดิ์ ตามติดไปจึงทราบชื่อว่าวัยรุ่นที่เป็นหลานผู้ใหญ่ คือ  นายเรืองศักดิ์ ทองกุล อายุ 22 ปี หรือฉายา “ศักดิ์ ปากรอ” บ้านอยู่ ต.ปากรอ อ.สิงหนคร หลังได้เงินจากขายพระก็ไปหาน้าสาวที่ จ.สงขลา และเพิ่งจะหนีไปหาน้าอีกคนที่ จ.กาญจนบุรี งานนี้พ.ต.อ.ประมวลศักดิ์ ต้องประสานงานกับ พ.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รอง ผบก.ป. (ตำแหน่งขณะนั้น) ซึ่งเชี่ยวชาญในพื้นที่ บช.ภ.7 ช่วยนำกำลังอีกชุดลงไปพื้นที่ทันที



          วันที่ 21 พ.ค.2540 ตำรวจสามารถรวบตัว “ศักดิ์ ปากรอ” ได้ ขณะกำลังซื้อหนังสือพิมพ์อ่านข่าวของตัวเองในตลาด อ.เมืองกาญจนบุรี
ภายหลังถูกจับกุมได้เปิดปากรับสารภาพแบบไม่สะทกสะท้านว่า เป็นคนลงมือฆ่าทั้ง 5 ศพด้วยตนเอง โดยมีนายจ้อง (อายุ 18 ปี) เพื่อนวัยรุ่นใน จ.สงขลา ช่วยดูต้นทาง

          ส่วนสาเหตุเพื่อต้องการเงิน 1 ล้านบาท เพราะไปรู้ข่าวมาว่านายประภาส ขายที่ดินได้มา (ซึ่งข้อเท็จจริงยังไม่ได้ขายแต่อย่างไร)
เมื่อมาถึงบ้านเกิดเหตุใช้อาวุธปืนจี้จับเด็ก ๆ ทั้ง 3 คน รวมทั้งนายประภาส มัดไว้ก่อน ส่วนนางเจียมจิต กลับมาทีหลังก็จับมัดไว้บนที่เตียงนอน แล้วจึงข่มขู่ให้บอกที่ซ่อนเงิน เมื่อถูกปฏิเสธจึงทำร้ายนางเจียมจิต แล้วทยอยแขวนคอเด็ก ๆ ทั้ง 3 คนต่อหน้าผู้เป็นพ่อ



          คดีนี้ปิดฉากลงโดยศาลชั้นต้น และศาลอุทรณ์ ตัดสิน ประหารชีวิต นายเรืองศักดิ์ และจำคุกตลอดชีวิตนายจ้อง ต่อมาศาลฎีกาพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต และในขณะที่ถูกจองจำได้รับการลดโทษมาโดยตลอดย้ายมาคุมขังที่เรือนจำกลางสงขลา สิ่งหนึ่งที่สังคมอยากรู้ถึงชนวนเหตุที่ได้สร้างความอำมหิตนั้นเกิดขึ้นมาจากไหน? เพราะเจ้าตัวได้เคยพูดเอาไว้ด้วยแววตาอันเยือกเย็นว่า

"ไม่เห็นเป็นไร... คนจะตายมันก็ต้องตาย!"

          ทั้งนี้หลังเกิดคดีมีการตามไปดูประวัติปูมหลังพบว่า สมัยเป็นเด็กผู้ต้องหาอาจจะเก็บกดฝังใจเรื่องที่บ้านถูกโจรปล้น 2 ครั้ง ตัวเองก็เคยถูกคนร้ายจับมัดมือมัดเท้า พอโตมาเป็นหนุ่มทะเลาะกับเพื่อนบ้านเรื่องวัวเข้ามากินผักก็ยังแอบไปมัดคอฆ่าวัวตัวดังกล่าว นอกจากนี้เคยเข้าร่วมปล้นฆ่าลูกเรือประมงจับเหยื่อมัดโยนลงทะเลจึงมีความเชี่ยวชาญใช้เชือกเป็นพิเศษ เมื่อมาก่อคดีนี้จึงลงมือฆ่าได้ง่ายดายและเลือดเย็นจริง ๆ.

ปล. ตอนนี้เห็นว่าพ้นโทษออกมาแล้วด้วย
บันทึกการเข้า

"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
หน้า: 1 [2] 3
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.081 วินาที กับ 22 คำสั่ง