ภาษีบ้าน....แฮ่ๆ เสียเท่าไหร่

[เบิ้ม]

4 มี.ค. ปลัดกระทรวงการคลังระบุเตรียมหารือแนวทางการร่างจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกับทุกฝ่าย เพื่อหารือข้อสรุปอัตราภาษีก่อนำเสนอ ครม.พิจารณา คาดกฎหมายน่าใช้ได้ปีนี้

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมหารือแนวทางการร่างจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในที่ประชุมคณะกรรมาธิการปฎิรูปภาษี สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในวันที่ 5 มีนาคม โดยมีนายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน เพื่อหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือข้อสรุปอัตราภาษีก่อนำเสนอ ครม.พิจารณา คาดว่ากฎหมายจะประกาศได้ภายในปีนี้ หลังจากกฎหมายโรงเรือนที่และดิน จัดเก็บร้อยละ 12.5 แต่ใช้ฐานราคาประเมินใน 20 ปีที่ผ่านคำนวณภาษี จึงจัดเก็บเฉพาะโรงเรือน แต่ที่ดินว่างเปล่าได้รับการยกเว้น จึงเป็นช่องทางให้มีการซื้อที่ดินเพื่อหวังเก็งกำไรแต่ไม่ได้ทำประโยชน์ ดังนั้นอัตราภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างใหม่นี้อัตราจะลดลง แต่ฐานการจัดเก็บจะสูงขึ้น


เบื้องต้นกระทรวงการคลัง กำหนดเพดานการจัดเก็บ ดังนี้ ที่ดินการเกษตรกำหนดเพดานจัดเก็บ ร้อยละ 0.25 ที่อยู่อาศัยเพดานจัดเก็บ ร้อยละ 0.5 ที่ดินพาณิชย์กรรม เพดานจัดเก็บ ร้อยละ 2 ส่วนที่ดินรกร้างว่างเปล่ากำหนดอัตราจัดเก็บในขั้นแรกคือร้อยละ 0.5 หากไม่ทำประโยชน์ จะเพิ่มอีก 1 เท่าทุก 3 ปี แต่สูงสุดไม่เกิน ร้อยละ 2 โดยจะออกกฎหมายลูกประกาศอัตราการจริงจัดเก็บทุกประเภท ใหม่อีกครั้ง เช่น บ้านราคา 1-3 ล้านบาท เก็บภาษีครี่งหนึ่งของเพดาน หากราคาไม่ถึง 1 ล้านบาทได้รับการยกเว้นภาษี โดย ใช้ประเมินราคาที่ดินเป็นฐานคำนวณภาษี ขณะนี้กรมธนารักษ์อยู่ระหว่างเร่งประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศ คาดว่าจะเสร็จภายในสิ้นปี 2558
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1425462904


ยังหวังว่าจะมีการพิจารณาลายละเอียดดีๆ  รายย่อยเจ้าหอพักเล็กๆหรือค่าเช่าถูกๆห้องละ1500-2000  บ้านเช่า5-10หลังเล็กๆค่าเช่า2000-3000  ตรงนี้คนที่เช่าคือคนจน นศ. คนหาเช้ากินค่ำ 

ถ้าไปเก็บตามราคาประเมินที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง   เช่น..

3ล้าน=6หมื่นต่อปี=เดือนละ5,000บาท 

5ล้าน=1แสนต่อปี=เดือนละ8พันกว่า 

 ตรงนี้เจ้าของหอพักบ้านเช่ารายย่อยเล็กๆเหล่านี้ จะต้องขึ้นค่าเช่ากับคนเช่า  ถึงห้องละ500+

อยากให้มีขั้นบันได  เพราะบ้านเช่า,หอพักประเภทนี้ คนเช่าคือคนจน รายได้น้อย หรือนักศึกษา  ซึ่งคนทำจริงๆไม่ได้อะไรมาก ค่าเช่าก็แทบไม่กล้าขึ้นกันเลย 100-200ยังคิดหนัก  เพราะกลุ่มคนเช่าระดับล่าง เขาลำบากพอดูอยู่แล้ว ถึงต้องมาอยู่ห้องรูหนู  นี่จะให้ไปขึ้นพวกเขาถึง500+  ขอให้พิจารณากันดีๆครับ จะมีขั้นบันไดได้มั้ย   พวกหอฯบ้านเช่าราคาถูกเหล่านี้   ไม่ใช่ไปเก็บอัตราเดียวกันคนมีร้อยล้าน พันล้าน  เงิน5-6ร้อย คนจนกินได้หลายวันนะครับ 

0.5%ก็ยังปีละ7หมื่นอยู่ 

พี่จ้าวก็เลิกกินกุ้ง lobster เลิกกินห้างสิครับ เอาเงินมาจ่ายภาษีช่วยชาติ 

ผมก็จะไปหาตกปลา ทอดแหละครับ     

[Pong CB1300sf-รักในหลวง]

รายได้ ไม่พอกับรายจ่ายเลยต้องมี รีดกับประชาชน  

เอาว่า เอา ทรัพย์ยากรของ หลวงที่มีมาจัดสรรให้เกิดประโยชน์ก่อนดีมั้ยครับ

ที่ทำเลทอง เห็นให้เช่ากัน ถูก ยังกะให้ปล่าว / ห้างดังหลายที่ อยู่ในที่หลวง ค่าเช่าถูกมาก

งบประมาณ ที่ใช้ทำ ถนน / สิ่งของต่างต่างของ รัฐ จ่ายให้เป็นราคาจริงบ้าง ไม่ใช่ ชาวบ้านทำ100 หลวงทำ300 งบคงเหลือละ

ผมไม่รู้จะพูดยังไงนะ  คนที่ทำกินมีปัญญาหามาจ่ายอยู่แล้ว ภาษีโรงเรือน 12.5 ยังหามาจ่ายกันได้  

ผมกลัวว่า กม. ตัวนี้จะ บีบให้ ชาวนา ชาวสวนที่มีความรู้น้อย ขายที่ทำกินของตัวเอง ออกไปให้นายทุน
หรือ คนที่ความรู้น้อยไม่รู้ว่าต้องจ่าย ปล่อยที่ไว้ไม่ไปจ่าย จนหนี้ก้อนโต จ่ายไม่ไหว ต้องถูกยึดที่ไปขายเพือจ่ายหนี้ ภาษี เชื่อว่ามีแน่

ขอยก เคสที่น่าจะเกิด / ที่ดินของ จุฬาเป็นไง มูลค่าเท่าไร เอามาหารแล้ว ผู้เช่าต้องรับไปคนละเท่าไร ราคาสินค้าจะเป็นยังไง
ถ้า พื้นที่ทังหมด ถูกเอามาคำนวนภาษี ค่าหน่วยกิจ คงแพงพิลึก หอก่รค้าคงไม่น้อยเช่นกัน

ย่าน ธรุกิจใหญ่ หลัก อาจจะร้างก็เป็นได้ เพราะ ถ้าไม่จำเป็นคงย้ายสำนักงาน ออกไปอยู่ในพื้นที่ที่ ถูกกว่า สำนักงานให้เช่าคงร้างผู้คน
หรือ ถ้า กม . ยอมให้ ภาษีตัวนี้มาหัก บ/ช ได้ อาจอยู่ต่อ  

ดูแล้ว อาจจะคิดมากไป ดังท่าน ว. กล่าวว่า ปรุงแต่งเอาเอง แต่ สถานการณ์มักจะเป็นไปในทางที่เลวร้ายเสมอ  

อ่านดู ลึกลึก เหมือน ภาษีที่เก็บจะน้อยกว่า โรงเรือนนะ บ้านเช่าอาจจะชอบก็ได้  

พี่ เบิมไป โหลดมาอ่านก่อน ผมอ่านแล้วเหมือนพวกที่ห้องเยอะจะจ่ายน้อยลง นะ  

[Pong CB1300sf-รักในหลวง]

http://www.fpo.go.th/land_tax/article.html

ลองอ่านดู ลึกลึก 

[SillyOldMan]

อ่านล่าสุด จะลดเหลือแค่ล้านละ1,000บาทแล้วครับ

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

55555  ยายฮา  กับ ท่านรัฐมนตรี  " ผู้ทรง ภูมิรู้ " อ่ะ ฮา  5555

ท่านชื่อ  " สมหาย ภาษี "  ตำแหน่งทางการเมืองคือ  รมต.คลัง  อ่ะ ฮา

ท่านเปรียบเทียบ  การจัดเก็บ  " ภาษี บ้าน "  เอาไปเทียบเคียง กับภาษี รถยนต์ อ่ะ ฮา

ภาษีรถยนต์  มันเป็นเรื่องของการ  " ใช้สาธารณูปโภค "  อ่ะ ฮา
หลวงมีภาระ ต้อง ทำถนน  ทำฟุตบาท  ติดโคมไฟ และ อื่นๆ อ่ะ ฮา

แต่ภาษีบ้าน " หลวง " หรือรัฐบาล  ไม่ได้ช่วยอะไรเล้ย อ่ะ ฮา
ดินสักก้อน  หินสักเม็ด  ปูนสักถุง  ไม่ได้ช่วยเล้ย อ่ะ ฮา

คนซื้อ  คนขาย โดนภาษี ตอนโอน   " ห้า หก เปอร์เซ็นต์ " อ่ะ ฮา

มาทายกัน  " นโยบายนี้  "  ได้เงินเท่าไหร่ อ่ะ ฮา
ยายประเมินว่า  เป็น  " แสนล้าน  จะแสนต้น  แสนกลาง หรือปลาย " ยายไม่มีข้อมูลอ่ะ ฮา

ข้อมูลตรงนี้  " กรมที่ดิน " มีรายละเอียด  ก่อนหน้าที่จะเป็นข่าว ฮา
กรมที่ดิน  ยายเชื่อว่า กรมที่ดิน ทำการบ้าน ส่ง  แล้ว อ่ะ ฮา

คนดีแบบ  หลิ่ม  คนร้ายแบบ ควายแดง ฮา   

" สำลัก ความสุข " กันถ้วนหน้า อ่ะ ฮา 555555   

5555 เห็นมั้ย เอาคนนามสกุล  " ภาษี " มาเป็นรัฐมนตรี อ่ะ ฮา 5555   

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1425598305



′คลัง′เคาะแล้ว เก็บล้านละพัน ′ภาษีบ้าน′ คิดตามอัตรา0.1%
ถ้าต่ำกว่าล้านบาทได้ยกเว้น

เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า

ภาษีที่ดินและ ที่อยู่อาศัยซึ่งขณะนี้นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง

พิจารณาอัตราที่จะจัดเก็บและได้ปรับลดลงมาครึ่งหนึ่งจากอัตราที่เสนอมาตั้งแต่แรก
และนอกจากอัตราภาษีที่จะประกาศจะลดลง
การจัดเก็บจริงก็จะผ่อนผันลงจากที่ประกาศเพดานสูงสุด

ทั้งนี้ คาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบได้ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

"เมื่อที่ประชุม ครม.เห็นชอบและส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาแล้ว
กฎหมายนี้จะยังไม่มีผลบังคับใช้ทันที แต่จะมีระยะเวลาเว้นการใช้กฎหมายประมาณ 2 ปี
เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศเป็นรายแปลง" รองนายกฯ กล่าว

รองนายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับหลักเกณฑ์ยกเว้นและผ่อนปรนในการจ่ายภาษีที่ดินและภาษีที่อยู่อาศัย

คาดว่าจะมีความชัดเจนเมื่อ ถึงขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา

เช่น บ้านราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทไม่ต้องเสียภาษี
ส่วนที่เข้าข่ายจะต้องเสียภาษีแม้จะมีเพดานสูงสุด
เช่น ที่ดินสำหรับทำเกษตร เสียภาษี 0.25%
หรือบ้านจัดสรรที่ราคาไม่สูงเสียภาษี 0.5%

ซึ่งเป็นเพดานสูงสุดแต่ในขั้นตอนการจัดเก็บจริงจะมีขั้นต่ำอยู่ด้วย

เช่น เริ่มจัดเก็บภาษีที่อัตรา 0.1% แต่ในส่วนที่จะต้องเสียภาษีในอัตราสูงจะเป็นที่ดิน ว่างเปล่า
เพื่อส่งสัญญาณให้เจ้าของที่ดินนำที่ดินที่ครอบครองไปใช้ประโยชน์หรือขายต่อให้คนอื่นไปใช้ประโยชน์ต่อไป
รมว.คลังพยายามปรับลดลง ไม่ให้คนตกใจ
ตอนนี้อัตราสูงสุดลดลงมาครึ่งหนึ่งแล้วแต่เวลาเก็บจริงจะลดลงมาอีก

ด้านนายสมหมายรมว.คลังกล่าวว่า คลังจะเสนอภาษีที่ดินให้ครม.พิจารณาแน่นอน เพราะทั่วโลกมีกว่า 40 ประเทศ ที่เก็บภาษีที่ดิน สำหรับคนที่ไม่เคยเสียภาษีและต้องมาเสียและคิดว่าต้องเสียค่าเช่าบ้านตัวเองอยู่นั้นเป็นการคิดที่ผิด หากประเทศไทยยังไม่ยอมเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างก็ไม่มีทางเป็นประเทศพัฒนาแล้วได้
"ตราบใดที่ผมยังเป็นรมว.คลังอยู่จะต้องเสนอร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหากไม่ต้องการให้เสนอเรื่องนี้ก็ต้องให้ออกจากตำแหน่ง ส่วนใครจะต่อว่าหรือต่อต้านกฎหมายฉบับนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องชี้แจงให้เข้าใจว่าเป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประเทศ"รมว.คลังกล่าว

จากนั้นรมว.คลัง กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการปฏิรูปภาษี ว่า

คณะกรรมการมีข้อถกเถียง ร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่ยังมีปัญหา

เพราะต้องดูรายละเอียดในส่วนของราคาที่ดินที่ราคาปรับแพงขึ้น
ซึ่งต้องหาแนวทางมาเพื่อสรุปในการจัดเก็บอีกครั้ง

แต่เบื้องต้นจัดเก็บอัตรา 0.1% ของราคาประเมิน หรือล้านบาทละ 1,000 บาท
ส่วนบ้านที่ไม่เกิน 1 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี

บ้านที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท เสีย 50% ของ 0.1%

และบ้านที่เกิน 3 ล้านบาท ในส่วน 3 ล้านบาทแรก
เสีย 50% ของ 0.1% ส่วนที่เกิน 3 ล้านบาท เสียเต็ม 0.1%

"หากบ้านมีมูลค่าเกิน 3 ล้านบาทขึ้นไป จะเสียภาษีล้านละ 1,000 บาท

เช่น บ้านมีมูลค่า 5 ล้านบาท จะเสียภาษีอยู่ที่ 3,500 บาท แบ่งเป็น ช่วง

3 ล้านบาทแรก เสียภาษี 1,500 บาท ส่วนที่เกินจากนั้นอีก 2 ล้านบาท จะต้องเสียในอัตรา 0.1%

หรือเท่ากับ 2,000 บาท

โดยยืนยันว่าจะไม่แพงกว่าภาษีรถยนต์

ซึ่งการดำเนินการภาษีในครั้งนี้

เพื่อต้องการให้คนไทยต้องรู้ว่ามีหน้าที่เสียภาษี"รมว.คลังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีบ้านซึ่งได้รับมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ
โดยอาจเป็นบ้านที่อยู่กลางเมืองซึ่งซื้อไว้หลายสิบปีก่อนแล้วปัจจุบันราคาพุ่งสูงขึ้น
อาจประสบปัญหากับรุ่นลูกหรือรุ่นหลานที่อาศัยอยู่ในปัจจุบัน
นายสมหมายกล่าวว่า อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางช่วยเหลือ

[carrera]

ทำไมต้องเปรียบเทียบกับภาษีรถยนต์   เริ่มจัดเก็บภาษีที่อัตรา 0.1% แต่ในส่วนที่จะต้องเสียภาษีในอัตราสูงจะเป็นที่ดิน ว่างเปล่า
เพื่อส่งสัญญาณให้เจ้าของที่ดินนำที่ดินที่ครอบครองไปใช้ประโยชน์หรือขายต่อให้คนอื่นไปใช้ประโยชน์ต่อไป

ซื้อเกร็งกำไรล่ะคราวนี้ยุ่งเลย จะซื้อคงคิดหลายตลบ

[เบิ้ม]

ผมว่าคงมีเอฟเฟ็กส์พอสมควรครับพี่คาร์  คนจะซื้อที่ ซื้ออสังหา ช่วงนี้คงต้องชั่งใจมากขึ้น ว่าจะยังไงต่อ บวกลบคูณหารมากขึ้น คุ้มไม่คุ้ม 

[hart45]

แทนที่จะชลอโครงการใหญ่ๆ ที่ต้องใช้วงเงินสูง.....

[Pong CB1300sf-รักในหลวง]

ตอนนี้ เศรฐกิจข้างนอกแย่มากครับ

ถ้า รัฐ ไม่ใช้เงิน คงไม่มีอะไรมาขับเคลื่อนแล้ว คนส่วนใหญ่ที่มีเงินตอนนี้ชลอการลงทุน

ผมว่าตอนนี้เข้าสู่สภาวะ ถดถอย คนระดับล่างหนี่้น่าจะเต็มเพดานแล้ว เงินเดือนออกก็จ่ายหนี้ก่อน

[carrera]

ตอนนี้ เศรฐกิจข้างนอกแย่มากครับ

ถ้า รัฐ ไม่ใช้เงิน คงไม่มีอะไรมาขับเคลื่อนแล้ว คนส่วนใหญ่ที่มีเงินตอนนี้ชลอการลงทุน

ผมว่าตอนนี้เข้าสู่สภาวะ ถดถอย คนระดับล่างหนี่้น่าจะเต็มเพดานแล้ว เงินเดือนออกก็จ่ายหนี้ก่อน

ขายที่กันบานเลย มีตังก็ซื้อไม่หมด จะเก็บภาษีที่ดินอีกแล้วใครจะอยากซื้อมาให้เป็นภาระเพิ่ม ไม่อยากเก็งราคากันเหมือนแต่ก่อน

[Hang Forever]

ผมหนาวๆร้อนๆ

[เบิ้ม]

ด่านหินวัดใจ"ครม.-สนช." รีดทั่วหน้า"ภาษีบ้าน-ที่ดิน"

รายงานพิเศษ



ท่าทีขึงขังของขุนคลัง "สมหมาย ภาษี" ในการพยายามผ่าน "ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง" ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งสัญญาณให้เห็นชัดเจนว่า กระทรวงการคลังในยุค "คณะรักษาความสงบแห่งชาติ" (คสช.) ต้องการเอาจริงกับการรีดภาษีเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ โดยไม่สนแรงเสียดทานทั้งจากชนชั้นกลาง

ถึงกับลั่นเอาเก้าอี้ รมว.คลัง เป็นเดิมพันว่าตราบใดที่ยังเป็น รมว.คลังอยู่จะต้องเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หากไม่ต้องการให้เสนอเรื่องนี้ก็ต้องให้ออกจากตำแหน่ง

และตบท้ายชัดเจนว่า ร่างภาษีที่ดิน พร้อมเสิร์ฟขึ้นโต๊ะที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายใน 2 สัปดาห์ หรือในเดือน มี.ค.นี้อย่างแน่นอน หลังจากที่ติดโรคเลื่อนจากเดือนก.พ. เพราะยังไม่ลงตัวในรายละเอียดอัตราจัดเก็บ

เนื่องจากระดมแนวคิดจากคณะกรรมการปฏิรูปภาษีทั้งระบบ กระทั่ง วันที่ 5 มี.ค.ที่ผ่านมา ก็สรุปตัวเลขจัดเก็บภาษีบ้าน-ที่ดิน ในส่วนของที่อยู่อาศัย

จะจัดเก็บอัตรา 0.1% ของราคาประเมิน หรือคิดเท่ากับบ้านราคา 1 ล้านบาทจะเก็บภาษีที่ 1,000 บาทต่อปี แต่ยกเว้นภาษีให้บ้านที่ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ไม่ต้องเสียภาษี บ้านที่ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จะเสียที่ 50% จากอัตรา 0.1% ของราคาประเมิน และบ้านที่ราคาเกิน 3 ล้านบาทขึ้นไป ในส่วน 3 ล้านบาทแรก ยังคงเสียที่ 50% จากอัตรา 0.1% ของราคาประเมินส่วนที่เกิน 3 ล้านบาท จึงเสียเต็ม 0.1%

ยกตัวอย่างเช่น บ้านราคา 5 ล้านบาท ในส่วน 3 ล้านบาทแรกจะเสียภาษีในอัตรา 50% จากอัตรา 0.1% ของราคาประเมิน หรืออยู่ที่ 1,500 บาทต่อปี ส่วนที่เกินอีก 2 ล้านบาทนั้น จะเสียภาษีเต็มในอัตรา 0.1% หรือ ประมาณ 2 พันบาท เท่ากับว่าบ้านราคา 5 ล้านบาทจะต้องเสียภาษี 3,500 บาทต่อปี

ก่อนหน้าที่จะสรุป "สูตร" การจัดเก็บภาษีบ้านออกมาหน้าตาเช่นนี้ กระทรวงการคลัง ระแวดระวังแรงเสียดทานจาก "ผู้เสียภาษี" อยู่พอสมควร เดิมคาดว่าจะยกเว้นภาษีบ้านให้กับบ้านที่ ราคา "2 ล้านบาท" แรกไม่ต้องเสียภาษี แต่เมื่อพิจารณาดูแล้ว ก็กังวลว่า จะไม่สามารถไปรีดภาษีกับพื้นที่อยู่อาศัยในเขตต่างจังหวัดได้เลย เนื่องจากบ้านราคาเกิน 2 ล้านบาทในเขตต่างจังหวัดนั้นมีไม่มาก จึงปรับเพดานลดเว้นลงเหลือแค่ 1 ล้านบาท

ผลที่เกิดขึ้นคือ ผู้เสียภาษีในเขตเมืองจะมีภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น เพราะบ้านราคา 1 ล้านบาท ในเขตเมืองหลวงโดยเฉพาะกรุงเทพฯ หรือปริมณฑลและในเมืองใหญ่ หาได้ยากกว่างมเข็มในมหาสมุทร

จากรายงานข้อมูลตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัยทั้งประเทศที่มีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มีอยู่ 20-25% ราคา 1-3 ล้านบาท มี 40-45% บ้านราคา 3-5 ล้านบาท มี 20-25% ที่เหลืออยู่ในกลุ่มระดับราคามากกว่า 5 ล้านบาท

แทบเรียกได้ว่าอัตราภาษีดังกล่าวสามารถ จัดเก็บกับคนมีบ้านในกรุงเทพฯ และเมืองใหญ่ได้เกือบ 100% รัฐสามารถเก็บภาษีบ้านส่วนใหญ่ในอัตรา 0.1% ไปโดยปริยาย

ภาระภาษีเฉลี่ย 3,000 กว่าบาทต่อปี จึงกลายเป็น "วาระแห่งชาติสำหรับชนชั้นกลาง" ที่แต่เดิมแทบไม่ได้เสียเงินตรงนี้ เนื่องจากตามกฎหมายเก่าได้รับการยกเว้น

ยิ่งในยุคที่เศรษฐกิจติดหล่มแบบนี้ จึงกลายเป็นเรื่องหนักอกหนักใจ

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่ารัฐบาลไม่ควรใช้มาตรการด้านภาษีกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ อาทิ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รัฐบาลต้องให้มุมมองชัดเจนว่าการบังคับใช้จะไม่ใช่ในเร็วๆ นี้

"เพดานภาษีควรปรับลดลง เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชนมากเกินไป ทำให้ต้องจับตาดูว่า กระทรวงการคลัง จะทวนกระแสผู้เสียภาษีหาเช้ากินค่ำ ฝ่าด่านคลอดกฎหมายนี้ออกมาได้ดั่งใจหรือไม่ หรือจะชี้แจงให้สบายใจได้อย่างไร"

ไม่นับรวมกรณีที่มีบ้านดั้งเดิมในพื้นที่เป็นเงินเป็นทอง เช่น ย่านสุขุมวิท ทองหล่อ สีลม ซึ่งกำลังเป็นประเด็นอยู่ตอนนี้ ที่สมัยปู่ย่าตายายหรือรุ่นพ่อซื้อเอาไว้ในราคาไม่เท่าไหร่ แต่ความเจริญตามมาและดันราคาสูงขึ้นหลายเท่า

หากเจ้าของบ้านเป็นนักธุรกิจหรือเศรษฐีอาจไม่สะทกสะท้าน แต่บ้านลักษณะนี้มีอยู่ไม่น้อยที่รุ่นลูกรุ่นหลานไม่ได้ทำธุรกิจแต่เป็นมนุษย์เงินเดือนธรรมดาเท่านั้น แต่ที่ไม่ขายบ้านเพราะอาจผูกพันอยู่กันมาหลายสิบปี หรือความสะดวกในการเดินทาง

รวมไปถึงกลุ่มคนที่ซื้อบ้านกลางเมืองตั้งแต่หนุ่มสาว ทำงานจนเกษียณอายุ ไม่ได้มีงานประจำ มีเงินทองมากมาย

อีกทั้งภาระภาษีที่เกิดขึ้นคงไม่หยุดแค่หลักพันบาทเพราะจะปรับขึ้นทุกปีตามราคาที่ดิน หากผู้อยู่อาศัยที่ไม่มีกำลังในการจ่ายภาษี เท่ากับว่าภาษีที่ดินเป็นการบีบคอให้คนมีรายได้กลางๆ แต่มีบ้านในทำเลทอง ต้องหอบโฉนดไปขายให้พวกนายทุนแทน

ประเด็นนี้ก็อยู่ระหว่างกระทรวงการคลังพิจารณาแนวทางผ่อนปรนแต่ยังไม่มีข้อสรุป

ในส่วนของคอนโดมิเนียม คลังก็เคาะออกมาแล้วว่าจัดเก็บเป็นรายห้อง ซึ่งชัดเจนว่าในเขตกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยว หรือเมืองใหญ่ทั่วประเทศโดนกันถ้วนหน้า เพราะปัจจุบันแทบไม่มีอีกแล้วที่คอนโดฯราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีนั่นเป็นเพียงแค่การจัดเก็บภาษีสำหรับบ้านและที่อยู่อาศัยในชั้นต้นเท่านั้น เพราะแม้รัฐประกาศเก็บ 0.1% แต่จริงๆ แล้ว เพดานภาษีตัวนี้เปิดไว้กว้างถึง 0.5% ของราคาประเมิน

หมายความว่าหากรัฐบาลต่อไปอยากได้เงินมากกว่านี้ ก็สามารถเรียกเก็บได้สูงกว่าอัตราปัจจุบันถึง 5 เท่าตัว

ส่วนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ยังไม่มีการเปิดเผยอัตราการจัดเก็บ แต่มีการพูดถึงเพดานการจัดเก็บ เช่น ที่ดินเพื่อการเกษตรกรรม มีเพดานการจัดเก็บอยู่ที่ 0.25% ของราคาประเมิน แต่อาจจะจัดเก็บจริงอยู่ที่ 0.05% หรือต่ำกว่านั้น

แม้เป้าหมายเดิมที่รัฐบาลบอกมาตลอดตั้งแต่มีแนวคิดภาษีบ้าน-ที่ดิน ว่าต้องการรีดภาษีและบีบให้เกิดการใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด คงอยู่ที่บรรดากลุ่มกลุ่มนายทุน นักการเมือง ในฐานะที่เป็น ราชาที่ดิน หรือแลนด์ลอร์ด ถือครองที่ดินเกิน 70-80% จากทั้งประเทศ

เพราะจากอัตราการจัดเก็บที่ดินเชิงพาณิชย์ ที่กำหนดเพดานจัดเก็บไม่เกิน 1% ของราคาประเมิน และที่ดินรกร้างว่างเปล่าจัดเก็บไม่เกิน 2% ของราคาประเมิน แต่จะเพิ่ม 1 เท่าในทุกๆ 3 ปี แต่ไม่เกิน 2% กรณีไม่ใช้ประโยชน์ ดูเหมือนพวกเศรษฐีทั้งหลายจะย่ำแย่

จึงแทบไม่มีเสียงคัดค้านใดๆ จากคนส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะมองว่าไปรีดเงินจากเศรษฐี มหาเศรษฐี และเชื่อว่าข้อยกเว้นตามกฎหมายเก่าน่าจะยังคงเอาไว้

ทว่าที่ไหนได้กฎหมายใหม่ออกมาแบบครอบจักรวาล เก็บเรียบแม้แต่ชนชั้นกลางที่ในอดีตไม่ต้องเสียเงินส่วนนี้ เพราะซื้อบ้านหลังเล็กๆ หรือคอนโดฯ เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยเท่านั้น

ในต่างจังหวัดอาจได้รับผลกระทบไม่มาก แต่สำหรับ คนเมืองแล้วโดนจัดหนัก-จัดเต็ม แม้โดยตัวเงินที่รัฐเรียกเก็บอาจดูไม่สูงมากนัก แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเสียแล้วต้องมาเสียย่อมรู้สึกไม่พอใจ ยิ่งกลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่ต้องจ่ายภาษีเงินได้ประจำปีอยู่แล้ว มาโดนบวกเพิ่มเข้าไปอีก ยิ่งแสดงออกชัดเจนมากขึ้น

ที่สำคัญการจ่ายภาษีไม่ได้คงที่ไปตลอด แต่จะเพิ่มขึ้นทุกปีตามราคาบ้านและที่ดินที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งในปัจจุบันความเจริญคืบหน้าไปอย่างรวดเร็วตามแนวรถไฟฟ้า และการตัดถนนเส้นใหม่ๆ

อย่างเขตจังหวัดปริมณฑล เช่น นนทบุรี ปทุมธานี หรือสมุทรปราการ เมื่อไม่กี่ปีก่อนทาวน์เฮาส์ หรือคอนโดฯราคาไม่กี่แสนบาท แต่เมื่อมีโครงการรถไฟฟ้าผ่านราคาทะลุเกินล้านเกือบทั้งหมด และราคาจะพุ่งขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี

หลังการ "เคาะ" ภาษีตัวนี้ออกมา และกว่าจะมีผลบังคับใช้ต้องรออีกอย่างน้อย 2 ปี แต่ก็เริ่มมีปฏิกิริยาจากชนชั้นกลางที่ต้องควักเงินจ่ายเพิ่ม

กลับกันบรรดาแลนด์ลอร์ด ที่น่าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดดูเหมือนไม่ขยับมากนัก ซึ่งอาจจะรอดูท่าทีว่าครม.และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่เป็นด่านต่อไปจะว่าอย่างไร

อีกทั้งหน้าตากฎหมายอาจจะเปลี่ยนเงื่อนไขได้อีกเมื่อมาถึงมือสนช. เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า สมาชิก สนช.จำนวนมาก ได้รับ ผลกระทบไปด้วย

ยังไม่นับพวกแลนด์ลอร์ดที่กุมอำนาจทั้งทางลับและทางแจ้ง ยังมีกำลังภายในมากพอที่จะกดดันกฎหมายฉบับนี้

แต่สำคัญที่สุดคือเสียงก่นด่าจากชนชั้นกลางในกรุงเทพฯ ที่ต้องบอกว่า "เสียงดัง" เสมอในทุกๆ สถานการณ์

รวมไปถึงกว่ากฎหมายจะบังคับใช้ เมืองไทยน่าจะมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งชุดใหม่แล้ว

จากอดีตที่ผ่านมากฎหมายภาษีบ้าน-ที่ดิน ไม่เคยผ่านสภาออกมาได้เลย เนื่องจากนักการเมืองล้วนแต่มีสายสัมพันธ์อันดีกับนายทุน และนักการเมืองเองก็มีที่ดินมากมาย

ยิ่งในกฎหมายฉบับล่าสุดไม่เพียงเล่นงานแลนด์ลอร์ดเท่านั้น แต่ตั้งใจถอนขนห่านจากชาวบ้านทั่วประเทศด้วย

จึงกลายเป็นแรงต้าน"2 เด้ง" ไม่เพียงแต่รัฐบาลเลือกตั้งจะไม่กล้าเท่านั้น ต่อให้เป็นรัฐบาลปัจจุบันก็คิดหนักเช่นกัน!??
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObFkyOHpNREE0TURNMU9BPT0%3D&sectionid=TURNd05RPT0%3D&day=TWpBeE5TMHdNeTB3T0E9PQ%3D%3D

[Yut64]

ออกมาออกข่าวอีกแล้วว่าจะผลักดันเรื่องนี้ให้สำเร็จในสมัยของเขา
รัฐมีหน้าที่ดูแลประชาชนเก็บภาษีประชาชนมาบริหารส่วนรวมให้อยุ่ได้ผู้บริหารคือผู้รับมอบหมายจากประชาชนได้ค่าตอบแทนที่มาจากภาษีประชาชนบางเรื่องประชาชนคัดค้านเป็นวงกว้างก็ไม่ไม่สมควรดื้อดึงหรือชึ้แจงทุกประเด็นให้ชัดเจนแต่นี่มีคำถามว่าแล้วพวกที่อยู่กับที่ดินบ้านมรดกไปวันๆ(เช่นละแวกสีลม)จะทำอย่างไรเขาก็ตอบว่าแล้วค่อยมาพิจารณาทีหลัง เฮ้อ
เห็นมีข่าวว่าถ้าไม่จ่ายภาษีอาจจะมีการยึด คิดได้แค่นี้เองหรือท่าน

ตอนนีอยากจะพูดเหมือนยาย กบเลือกนาย อิอิ ขอนไม้บางทีก็มีประโยชน์ได้ขึ้นไปพักพิงถึงแม้ว่าจะลอยอยู่เฉยๆ

[เบิ้ม]

ช่วงนี้ผมว่า คนจะซื้อบ้าน ซื้อที่ดินมีชะงัก เอาไงดีว่ะ..!  

คนจะขาย จะมีคนซื้อมั้ย? ส่วนพวกจะผ่อน จะซื้อบ้าน คอนโด เริ่มต้นชีวีต พวกนั้นภาวะจำยอม ใครๆก็อยากมีบ้านมีที่ซุกหัวนอน

จริงมันก็สมควรหรอก เพราะทุนใหญ่กว้านซื้อแหลกราน อย่างที่เค้าบอก คนไม่ถึง10%ครอบครองที่ดินทั้งประเทศ  ไม่รวมนอมินีต่างชาติอีกมหาศาลให้หัวเมืองใหญ่  มีทางเดียวจะเอาภาษีได้ก็ต้องเก็บหมด!

แต่เรื่องขั้นบันได สำคัญ..  อาจจะดูยุ่งยากนิดหน่อย  

ไอ้ตัวบ้าน2-3ล้านที่มีกว่า40-45%นั้นก็ส่วนนึง  ตรงที่สำคัญคือที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเพื่อการพานิชย์ อย่างพวกบ้านเช่า หอพักจ่ายอยู่แล้วคือภาษีบำรุงท้องที่12.5%  ถ้าอิงราคาประเมินใหม่ ตรงนี้จะสูงมาก  


ผมจะเล่าในฐานะทั้งผู้เช่าและผู้ให้เช่านะ  ตรงนี้มันเหมือนความเอื้ออาทรกัน ห้องเช่าถูกๆ 4x5เมตรจำนวนมากที่คนจนซุกหัวนอน พ่อแม่ลูก คนแก่อยู่กันน่ะแหละ กินนอน ห้องน้ำ ห้องครัว..ฯอยู่ในพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็กๆนั้นทั้งหมด   ไม่เชื่อไปเดินดูสิ ทั้งกลิ่นทำอาหาร ซักผ้า ล้างจาน ตากผ้า ที่นอน เค้าอยู่กันแบบนั้นแหละในห้อง3x4,4x5เมตร

 10กว่าปีก่อนค่าเช่า1,500-1800  ทุกวันนี้เชื่อมั้ย ยังเก็บกันไม่ถึง2พันเลย  ตั้งแต่ข้าวแกงจาน20 จนข้างแกง40-50  เจ้าของส่วนใหญ่ยังเก็บกันแค่นั้น  มันเป็นน้ำจิต น้ำใจของคนไทย ทั้งที่ราคาที่ดิน สิ่งปลูกสร้างไปไหนแล้ว เพิ่มขึ้นหลายเท่าแล้ว  ส่วนมากยังเก็บค่าเช่ากันแค่นั้น... ใครเคยเข้ามาเรียนในเมืองใหญ่เช่าหุ้นกะเพื่อนคนละ7-8ร้อย บางคนเริ่มทำงานก็อยู่กันราคานี้ พอได้เริ่มทำงาน เข้ามาเรียนในเมือง มันคือชีวิตคนปกติของบ้านเราครับ

เพราะมันคือความเอื้อเฟื้อครับ ซึ่งมีอยู่มากในสังคมไทย  ถ้าจุจู่บอกเก็บภาษี1-2% เอาราคาประเมินเป็นตัวตั้ง   ห้องเช่าต่ำกว่า2พันจะหายไปเลย  กลายเป็น2500-3000   ร้านค้าเช่าทำการค้าจากเดิม10,000 จะกระโดดไป15,000ทันที มันมีลายละเอียดแบบนี้เยอะ ว่างๆเอาพวกผ่านกฎหมายไปเดินดูบ้าง  คนจนเค้าอยู่กันยังไง  ไม่เหมือนในละครทีวีนะครับ ที่มีแต่สวย รวย หล่อ ขับรถหรู บ้านยังกะคฤหาส

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

ผมหนาวๆร้อนๆ

555555   ยายฮา  "  ชาย สามโบสถ์ "  อ่ะ ฮา 555   

ฮาที่สอง  " คน สามเมีย "  มักมากในกาม อ่ะ ฮา 55555 

HIV  รักษาไม่หาย  ต้อง  " กินยา  ตลอดชีวิต อ่ะ ฮา 55555 

5555  ร้อนๆ หนาว ๆ เนี่ยะ  รีบไป  " รับยา ช่องสาม " น๊าาา อ่ะ ฮา 5555