มันดีนะ หมอลำไทยโกอินเตอร์

หากเอ่ยถึงหมอลำแห่งศตวรรษที่ 21 คงต้องยกให้กับ The Paradise Bangkok molam international band วงดนตรีสุดฮอตที่สร้างชื่อเสียงและเผยแพร่ความเป็นไทยให้ชาวโลกได้รู้จักกับดนตรีพื้นบ้านประเภทนี้ และพวกเขาพากันกล่าวขานว่าเป็นวงที่มีแนวดนตรีไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

และเพราะ "ไม่เหมือน" นี่ละ ที่ทำให้วงดนตรีชื่อยาวๆ วงนี้เป็นที่ยอมรับไปทั่ว ในช่วงเวลาเพียง 2 ปี

"ต้องขอบคุณ ดีเจมาฟท์ไซ-ณัฐพล เสียงสุคนธ์ คนไทยคนแรกที่นำเพลงลูกทุ่งและเพลงหมอลำไปเปิดที่ต่างประเทศ จนทำให้เราได้มีโอกาสมารวมตัวกัน" ปั๊ม-ปิย์นาท โชติกเสถียร มือกีตาร์แห่งวง อพาร์ตเมนต์คุณป้า ที่ขณะเดียวกันก็เป็นมือเบสของวง The Paradise Bangkok molam international band วงดนตรีที่โด่งดังในต่างแดน แต่ไม่เป็นที่รู้จักนักของคนไทย เล่าถึงจุดเริ่มต้นแห่งความสำเร็จด้วยรอยยิ้ม

ก่อน คำเม่า เปิดถนน หรือ ทวี ทิพย์ประเสริฐ สมาชิกอีกคนจะเล่าว่า ดีเจมาฟท์ไซไม่เพียงแต่นำเพลงหมอลำไปเปิดในต่างแดนเท่านั้น แต่ยังเป็นคนคิดที่จะตั้งวงดนตรีดังกล่าว ซึ่งตอนแรกที่เขา คนเล่นและทำพิณขายใน จ.ร้อยเอ็ด ได้ยินเขายังแอบคิดว่างานนี้จะถูกหลอกไหม แต่เอาน่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ

เช่นเดียวกับ ไสว แก้วสมบัติ วัย 72 ปี เจ้าหน้าที่สถานทูตเนเธอร์แลนด์ ที่รักเสียงแคนจนยินดีเข้าร่วม และ อาร์ม-ภูษณะ ตรีบุรุษ มือกลองฝีมือดี ลูกชายเจ้าของวงดนตรีทางภาคใต้ ที่ก็ตัดสินใจเข้าร่วมหลังได้ฟังแนวเพลงที่วงอยากจะทำ

นอกจากนี้ ยังมีมือเพอร์คัสชั่นส่งตรงมาจากประเทศอังกฤษอย่าง Chirs Menis มาร่วมสร้างสีสันความสนุกอีกด้วย

ปั๊มยังเล่าอีกว่า แรกๆ ที่รวมตัวกัน พวกเขาคิดเพียงว่าจะไปยุโรปให้ได้ภายใน 2 ปี แต่ผ่านไปแค่ 10 เดือนเขาก็ได้ขึ้นเวทีที่เวียดนาม จากนั้นในหลายๆ ประเทศทางยุโรปก็ตามมา เยอรมนี, โปแลนด์, รัสเซีย ฯลฯ

ได้เล่นในเทศกาลดนตรีดังระดับโลกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น Sfinks Festival, Off festival, Clandestino botnik Festival, Wassermusik Festival ฯลฯ

และ "ตั้งแต่โชว์แรกถึงโชว์ปัจจุบันนี้ผลตอบรับมันดีมากเลย"

ดีมากจนไม่อยากจะเชื่อ

"ไม่อยากเชื่อว่าคนยุโรปจะเปิดกว้างยอมฟังสิ่งที่ตัวเองไม่เคยฟัง ใช้ประสาทสัมผัสที่หูเหมือนเป็นการท่องเที่ยว เป็นการลองอาหารจานใหม่ ไปในที่ๆ ไม่เคยไป"

ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อทางวงนำความโดดเด่นของเสียงพิณและเสียงแคนไปผสมผสานเข้าคู่กับเสียงเบสและกลองได้อย่างร่วมสมัยอะไรๆก็ยิ่งดี

ขณะที่"คนไทยชอบร้องเพลงที่พูดถึงความรักการสังสรรค์ตลกมองดนตรีแค่เป็นการสร้างความบันเทิงไม่ได้มองเป็นการเสพอะไรใหม่ๆ"

เขาเล่าอีกว่าก่อนจะเป็นที่รู้จักไปทั่ว พวกเขาถูกถามอยู่บ่อยๆ ว่าเคยมีผลงานอัลบั้มไหนมาบ้าง ครั้นได้คำตอบว่าไม่เคยมี คนที่ได้ยินต่างก็งง

"นักดนตรีที่อยู่ที่โน่นเขาก็บอกว่าเขาเองยังไม่มีโอกาสได้เล่นเหมือนเราเลย แล้วเราเองไม่มีเพลงอยู่ในสื่อ แล้วมาทัวร์ยุโรปได้ยังไง"

"ปกติมันยากมากที่คนยุโรปจะมานั่งฟังแล้วโหวตเพลงเรา วงเรา ให้มาเล่นที่เทศกาล เพราะเรามีแค่ยูทูบ คลิป แค่นั้นเอง การที่จะดูศิลปินแค่ 2 เพลงแล้วควักเงินให้เราบินข้ามประเทศมาเล่น ผมก็ว่าไม่ธรรมดา"

แน่ละว่าพวกเขาทุกคนล้วนภูมิใจ

"แต่ที่สำคัญกว่าคือเราจะทำยังไงให้มันน่าสนใจไปขึ้นเรื่อยๆ"เขาว่า

ถึงตอนนี้พวกเขามีผลงานอัลบั้ม"21CenturyMolam"ซึ่งGilesPeterson ดีเจรายการวิทยุชื่อดังของประเทศอังกฤษชื่นชมถึงขั้นยกย่องให้เป็น 1 ใน 20 อัลบั้มยอดเยี่ยมแห่งปีของเวที Worldwide Awards 2015

"ภูมิใจนะ" สมาชิกทุกคนของ The Paradise Bangkok molam international band ยอมรับ

ก่อนปั๊มจะขยายความ "แต่ที่สำคัญกว่า คือเราจะทำยังไงให้มันน่าสนใจขึ้นไปเรื่อยๆ"

"เป้าหมายของพวกเราคือตั้งใจจะไปเล่นในเทศกาล SxSw (เซาท์บายเซาต์เวสต์) และ Worldwide Festival (เวิลด์ไวด์ เฟสติวัล) ให้ได้สักครั้ง"

"อยากไปเล่นบนเวทีระดับโลกเพื่อให้คนต่างชาติได้รู้จักพวกเรา และรู้จักประเทศไทย"

ฝันเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ของวงดนตรีหมอลำที่ไม่ธรรมดา

-----

ดีเจมาฟท์ไซ

ผู้เริ่มต้นจนก่อเกิด The Paradise Bangkok molam international band ดีเจมาฟท์ไซ-ณัฐพล เสียงสุคนธ์ วัย 30 ปี เล่าว่าเขาเริ่มหลงเสน่ห์เพลงหมอลำมาตั้งแต่อายุเพียง 10 กว่าขวบ หลังค้นเจอแผ่นเสียงวงดนตรีหมอลำจากย่านคลองถม

"มันมีเสน่ห์ที่บอกเล่าเรื่องราวของความเป็นไทยได้ดี ก็เริ่มซื้อเก็บมาเรื่อยๆ จนเยอะขึ้นๆ เลยเปิดร้านชื่อสุดแรงม้า เอาแผ่นเสียงมาแลกเปลี่ยนให้กับคนที่ชื่นชอบได้ฟังกัน"

ครั้นไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษตอนอายุ 16 ปี ก็พกแผ่นเสียงพวกนั้นไปฟัง รวมถึงเอาไปเปิดให้เพื่อนๆ ฟัง จัดเป็นปาร์ตี้เล็กๆ ซึ่งภายหลังเมื่อมีคนชอบมากขึ้น มีคนอยากฟังมากขึ้นไอเดียตั้งวงดนตรีจึงมา

"ทุกวันนี้เพลงหมอลำไม่ได้หายไปไหนหรอก" เขาว่า

"แต่ซาวด์เพลงในยุค 70 มันหายไป ผมเลยอยากลองทำอะไรที่มันแปลกใหม่ขึ้นมา ผมมองว่าทุกคนก็อนุรักษ์ของเก่า แต่ถ้าอนุรักษ์อย่างเดียว ก็ไม่มีของใหม่เกิดขึ้น ที่ผมทำอยู่จึงยังใช้ไลน์พิณ แคนเหมือนเดิม แต่เสริมกลองเบส แต่ไม่ใช่แบบฟิวชั่นนะเพราะไม่ได้ต้องการแบบนั้น"

"เป้าหมายที่ตั้งใจทำอยู่ตอนนี้คือการพัฒนาดนตรีหมอลำไปสู่ก้าวใหม่ พัฒนาจากสิ่งที่เป็น สิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้น โดยที่ไม่ลืมรากเหง้าของตัวเอง"
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1425986929

	ผู้เขียน	หัวข้อ: มันดีนะ หมอลำไทยโกอินเตอร์ (อ่าน 1090 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้