55555 จมไปแล้วน๊าา " ก้นอ่าว " เลยอ่ะ ฮา 5555555
หัวปักคา " เลน " ตะกอน ที่ทับถมกันในอ่าวไทย อ่ะ ฮา 555555
555555 หมดแรง " แบะ โม๊ะ " อ่ะ ฮา 5555555
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1431872259Old Soldier Never Dies ศึกข้ามรุ่น จปร. "พี่จิ๋ว-น้องตู่"
เหมือนกรณีโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ที่จู่ๆ ความหวังของ ทร. ดับวูบลงทันที
ที่คณะรัฐมนตรี เมื่อ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ยังไม่อนุมัติโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ
จำนวน 2 ลำ งบประมาณ 3.6 หมื่นล้านของ ทร. แต่มีมติให้ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการนี้
และแจกแจงเรื่องแผนการใช้จ่ายงบประมาณก่อน โดยมิได้กำหนดเวลาว่าจะต้องสรุปผลเมื่อใด
แต่จนกว่าจะเห็นว่า ทร. มีความพร้อม
ทั้งๆ ที่ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวาณิชย์ ผบ.ทร. ได้เร่งเสนอโครงการนี้เข้าคณะรัฐมนตรี
ตามคำแนะนำของ บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม
เพราะเห็นว่านี่เป็นโอกาสเดียวของ ทร. แล้ว ที่จะได้ในยุครัฐบาลทหาร เพราะหากเป็นรัฐบาลอื่นคงยาก
แต่ทว่า บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะทันทีที่มีข่าว ทร. จะปัดฝุ่นโครงการซื้อเรือดำน้ำ
ที่ศึกษาความเป็นไปได้ แล้วดูงานมาแล้วหลายครั้ง ขึ้นมาอีกครั้ง กระแสต่อต้าน โจมตี
เรื่องความจำเป็นและความคุ้มค่า ถูกขุดขึ้นมาพูดอีกครั้ง แม้ว่า ทร. จะชี้แจงเหตุผลมาหลายยุคหลายสมัย
ยิ่งเมื่อ ทร. เสนอผูกพันงบประมาณเกือบสิบปี แถมทั้งงบประมาณสูง ที่ต้องทำให้ ทร.
ใช้งบประมาณปีละไม่ต่ำกว่า 2,300-6,500 ล้านบาท ซึ่งจะกระทบงบประมาณส่วนอื่นของ ทร.
จึงทำให้ บิ๊กโย่ง พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบ
การใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และที่ปรึกษานายกฯ ท้วงติงมา
จึงทำให้ ครม. ให้ผันงบประมาณ 200 ล้านที่ ทร. เสนอผูกพันงบประมาณปีแรก
ในการซื้อเรือดำน้ำ มาใช้ในการศึกษาความเป็นไปได้ก่อน ทั้งๆ ที่ ทร.
เคยทำการศึกษามาหลายครั้งในรอบเกือบ 20 ปี ที่พยายามผลักดันโครงการเรือดำน้ำมา
เมื่อ ครม. ของ พล.อ.ประยุทธ์ มีมติออกมาเช่นนี้ ก็เลยถูกมองว่า เป็นการแช่แข็ง
โครงการเรือดำน้ำของ ทร. ไปเรื่อยๆ เพราะ ทร. นั้นมีข้อมูลพร้อมหมดแล้ว
อีกทั้งมีการตั้งคณะกรรมการศึกษา และไปดูเรือดำน้ำแต่ละประเทศมา 2 ชุดแล้ว
จากชุดของบิ๊กต๊อก พล.ร.อ.ธนะศักดิ์ อุบล รอง เสธ.ทหาร เมื่อครั้งยังเป็นเสนาธิการทหารเรือ
จนมาถึงการตั้ง บิ๊กยุ้ย พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง ผช.ผบ.ทร. เป็นประธานโครงการ
โดยทั้ง พล.ร.อ.ไกรสร และ พล.ร.อ.ณรงค์พล ได้เดินทางไปดูเรือดำน้ำมาหลายประเทศแล้ว
ทั้งจีน สวีเดน เยอรมนี โดยมีแผนที่จะไปฝรั่งเศส เกาหลีใต้ และรัสเซีย
แต่ยังไม่ทันไร ก็โดน ครม.บิ๊กตู่ เบรกเสียจนสิ้นหวัง เพราะการศึกษาความเป็นไปได้ Feasibility Study นั้น
ทร. ทำมาหลายครั้ง แล้วก็ตามมาด้วยการ run deep ดำลึกลงๆ จนไม่รู้ว่าจะโผล่ขึ้นมาได้อีกเมื่อใด
สำหรับบิ๊กตู่นั้น แคร์กระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อย ไม่ใช่แค่จากสื่อ จากคอลัมน์ต่างๆ
ที่ไม่เห็นความจำเป็นของการซื้อเรือดำน้ำ โดยเฉพาะหากซื้อเรือดำน้ำจีน ในราคาเท่าเรือดำน้ำยุโรป
แต่คนเสื้อสี ก็ค้าน เช่น คนเสื้อแดง ค้านเพราะว่าไม่ชอบทหาร ไม่รับฟังเหตุผลใดๆ
ส่วนฝ่ายหนุน คสช. ก็ห่วงว่าจะทำให้ ครม. ของ พล.อ.ประยุทธ์ เสียหาย หากไฟเขียวให้ซื้อ
ท่ามกลางข่าวลือที่เป็นความหวาดระแวงว่า หาก ทร. มีเรือดำน้ำ ในอนาคตจะเป็นยุทโธปกรณ์ที่คุมได้ยาก
หากจะดำน้ำไปพา "ใคร" เข้ามา หรือจะพา "ใคร" หนีออกไป เพราะยากที่จะควบคุมได้
อีกทั้งกองทัพเรือเองก็ถูกคุมกำเนิดทางการเมืองมาตั้งแต่กบฏแมนฮัตตัน
ไม่ให้มีการเพิ่มจำนวนหน่วยกำลังรบ กองพลนาวิกโยธิน ที่เป็นเสมือนทหารราบ ที่ ทร. ก็มีแค่กองพลเดียว
ไม่ได้มีการตั้งใหม่ นอกจากมีการตั้งกรมทหารพรานนาวิกโยธิน เพื่อไปทำงานภาคใต้และชายแดน จันทบุรี-ตราด เท่านั้น
ในการรัฐประหาร 2 ครั้งล่าสุด ตั้งแต่ คมช. 19 กันยายน 2549 และ คสช. 22 พฤษภาคม 2557 นั้น
ทบ. ล้วนแต่ส่งกำลังทหารมาประกบกำลังของทหารเรือ โดยเฉพาะ นย. มาตลอด
เพราะเกรงว่าจะมีแตงโม เพราะมีบิ๊กทหารเรือหลายคนในเวลานั้น ส
นิทสนมและเป็นเครือญาติกับรัฐบาลเก่า และตระกูลชินวัตร
จึงทำให้ความหวังของกองทัพเรือที่จะมีเรือดำน้ำ ริบหรี่ลง ถึงขั้นที่ พล.ร.อ.ไกรสร ผบ.ทร. เปรยอย่างท้อแท้ว่า
"แล้วแต่ดวงชะตาของกองทัพเรือแล้ว"
แต่ที่จับตามองกันมากที่สุดคือ หากไม่ได้ซื้อเรือดำน้ำแล้ว
จะมีผลต่อการเลือก ผบ.ทร.คนใหม่ ในการโยกย้ายกันยายนนี้หรือไม่
เพราะในช่วงที่ความหวังที่จะได้ซื้อเรือดำน้ำ ตามที่ พล.อ.ประวิตร มาขายฝันไว้นั้น ก็จับตากันว่า
โอกาสที่ บิ๊กยุ้ย พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง ผช.ผบ.ทร. จะได้เป็น ผบ.ทร.คนใหม่
เพราะไม่เช่นนั้น พล.ร.อ.ไกรสร คงไม่ขอตัวจาก รอง เสธ.ทหาร บก.กองทัพไทย
กลับมาเป็น ผช.ผบ.ทร. อีกทั้งยังแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกและจัดซื้อเรือดำน้ำด้วย
ทั้งๆ ที่ตามหลักการและประเพณีของ ทร. แล้ว มักจะต้องมอบหมายให้เสนาธิการทหารเรือ
เป็นประธานโครงการ แต่อาจเป็นเพราะ พล.ร.อ.ณรงค์พล นั้นเป็นคนที่ทำโครงการเรือดำน้ำของ ทร. มาตลอด
โดยเฉพาะการจัดซื้อเรือดำน้ำเยอรมนีมือสอง จำนวน 6 ลำ ในยุคที่ บิ๊กติ๊ด พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ เป็น ผบ.ทร.
ด้วยความที่เขาจบจากโรงเรียนนายเรือเยอรมัน จนได้มีการจัดตั้งกองเรือดำน้ำและศูนย์ฝึกเรือดำน้ำ ขึ้นที่สัตหีบ ชลบุรี
แต่เมื่อโครงการเรือดำน้ำ เหมือนจะดำไม่โผล่อีกครั้ง
นั่นจะหมายถึงโอกาสที่ พล.ร.อ.ณรงค์พล จะไม่ได้เป็น ผบ.ทร. ด้วยหรือไม่
แต่คนในกองทัพเรือ เชื่อกันว่า การจะได้ซื้อเรือดำน้ำหรือไม่ อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับการเลือก ผบ.ทร.คนใหม่มากนัก
เพราะโอกาสที่ พล.ร.อ.ไกรสร จะเสนอชื่อ พล.ร.อ.ณรงค์พล เป็น ผบ.ทร.คนใหม่ แทนตนเอง
ในโยกย้ายกันยายนนี้ก่อนแล้ว เมื่อ พล.ร.อ.ณรงค์พล เกษียณราชการกันยายน 2559
แล้ว บิ๊กณะ พล.ร.อ.ณะ อารนิจ เสธ.ทร. ก็จะได้เป็นต่ออีก 1 ปี เพราะเขาเกษียณกันยายน 2560
หรือเรียกง่ายๆ ว่า พล.ร.อ.ณรงค์พล กับ พล.ร.อ.ณะ เป็น ผบ.ทร. กันคนละ 1 ปี โ
ดยให้ บิ๊กยุ้ย ซึ่งเป็นรุ่นพี่ ตท.14 เป็นก่อน จากนั้น พล.ร.อ.ณะ รุ่นน้อง ตท.15 ก็เป็นต่อ
แม้จะไม่มีใครกล้าฟันธงว่า สัญญิงสัญญาในเรื่องแบบนี้ มันจะมีใครรักษาหรือไม่
เพราะเมื่อ พล.ร.อ.ณรงค์พล ขึ้นมาเป็น ผบ.ทร. แล้ว ก็ไม่มีอะไรผูกมัดว่า
จะต้องเสนอชื่อ พล.ร.อ.ณะ เป็น ผบ.ทร. ต่อจากตนเองก็ได้
แต่ก็ใช่ว่า พล.ร.อ.ณรงค์พล จะนอนมา เพราะยังไม่มีใครรู้ว่า การจบโรงเรียนนายเรือเยอรมัน
จะกลายเป็นอุปสรรคต่อการขึ้นเป็น ผบ.ทร. หรือไม่ แม้ว่าเขาจะมีเส้นทางรับราชการทหารที่สวยงาม
เช่น เป็น ผบ.รล.สู้ไพรินทร์ ผบ.รล.ชลบุรี เป็นผู้ช่วยทูตทหารเรือไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ เจ้ากรมสรรพาวุธ ทร. รอง เสธ.ทร. และถูกส่งข้ามไปเป็น รอง เสธ.ทหาร บก.กองทัพไทย
ก่อนกลับมาเป็น ผช.ผบ.ทร. อย่างฮือฮา เมื่อโยกย้ายเมษายนที่ผ่านมา
เพราะมีชื่อของนายทหารดาวรุ่งหลายคนที่อาจกลายเป็นม้ามืด
เช่น บิ๊กเผือก พล.ร.อ.อนุทัย รัตตรังสี ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทร. และ พล.ร.อ.ประสาน สุขเกษตร
โดยเฉพาะ พล.ร.ท.พงษ์เทพ หนูเทพ ผบ.รร.นายเรือ ที่เป็นดาวรุ่งมาแรง แถมมีลักษณะบุคลิกดี
ตอนนี้จึงไม่มีอะไรแน่นอนสำหรับแม่ทัพเรือคนใหม่ เพราะไม่แน่ว่า พล.ร.อ.ณะ ก็อาจจะเป็นม้าตีนปลาย
เร่งแซงขึ้นมา นั่งเป็น ผบ.ทร. 2 ปีเลยก็เป็นได้ เพราะเขาก็ไม่ได้มีความผิดอะไร
อีกทั้งมีโอกาสพิสูจน์ฝีมือ เมื่อรัฐบาลตั้งศูนย์แก้ไขปัญหาประมงผิดกฎหมาย ไร้การควบคุม
หรือ ศปมผ. ที่ให้ ทร. และ ศรชล. ดูแล โดยมี ผบ.ทร. เป็นประธาน และ เสธ.ทร. เป็นแม่งาน
ในการแก้ไขทั้งเรื่องประมงและการค้ามนุษย์ด้วย
อีกทั้งยังมีพลังของเตรียมทหารรุ่น 15 ทั้งใน ทร. เอง และเหล่าทัพ สนับสนุนด้วย
เพราะ ตท.15 มีทั้ง บิ๊กต๊อก พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รอง ผบ.สส. และ รมว.ยุติธรรม
บิ๊กติ๊ก พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผช.ผบ.ทบ. น้องชายนายกฯ ที่จ่อจะเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่อีกด้วย
เรียกได้ว่า ในเวลานี้ไม่มีใครยอมใคร แม้กองทัพเรือจะได้ชื่อว่าเป็นเหล่าตะหานน้ำ ที่ใจเย็น สุภาพบุรุษ
ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องการต่อสู้แย่งชิงอำนาจมากนักก็ตาม แต่ก็ต้องบอกว่า อย่ากะพริบตา