Nero Angel01
Hero Member
คะแนน 275
ออฟไลน์
กระทู้: 3048
|
|
« ตอบ #30 เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2015, 04:05:23 PM » |
|
ไทยเป็นแหล่งผลิตฮาร์ดิสน่าจะราวๆ80%ของโลกหรือเปล่าผมจำตัวเลขไม่ได้
แต่อันนี้ไม่ได้เป็นผลมาจากเศรษฐกิจหรอกครับ เขาอาจจะอ้างได้แต่ไม่น่าใช่ครับถ้าเป็นโรงงานผลิตมอเตอร์ฮาร์ดิสคอมพิวเตอร์ เพราะมันมีนวัตกรรมใหม่เป็นStorage Driveแบบใหม่ครับ มันคือSSD ทำงานคล้ายๆFlash Driveอันเล็กๆนั่นละ ความจำเป็นของชิ้นส่วนHDDเลยหมดไป ตอนนี้สงครามราคาSSDกำลังเริ่มครับ
ต่อไปเราอาจจะเห็น Western Digitalและบริษัทเกี่ยวกับการผลิตHDDลดพนักงานลงเหมือนกันครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
คะแนน -15856
ออฟไลน์
กระทู้: 13569
No justice No peace
|
|
« ตอบ #31 เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2015, 07:50:07 PM » |
|
55555 ยายมี " คำเตือน " สำหรับมนุษย์ เงินเดือน อ่ะ ฮา 5555 อย่าไปทำตัว " ขัดแย้ง " หรือ แสดงการกระทำ ที่เป็นผลลบ ต่อบริษัท อ่ะ ฮา สถานะการณ์ " การจ้างงาน " ตอนนี้ ง่อนแง่น ลูกผีลูกคน อ่ะ ฮา เงินบาท " ร่วง ไปเกือบ 35 บาท / 1 เหรียญ ยูเอส " แล้ว อ่ะ ฮา 55555 ถ้า " ไม่จำเป็น " อย่าไปรับเงินชดเชย 10 เดือนน๊าา อ่ะ ฮา 5555
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัว...ฆรวย
หัวโขนมิวางออก เจ้าหลงครอบไปทุกที่ อ่าองค์ว่าโสภี นฤดีปริ่มเปรมใจ ลืมไปว่าที่ครอบ ต้องวางออกนหทัย สวมครอบตัวตนไว้ ก็แค่ควายใส่ชฎา
|
|
|
yutthakarn
Hero Member
คะแนน 554
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2354
สิ่งที่คนต้องการ คือ โอกาส
|
|
« ตอบ #32 เมื่อ: กรกฎาคม 17, 2015, 11:53:45 PM » |
|
บริษัทนายจ้าง มีทางเลือก หากจะเลิกจ้างโดยยอมจ่ายค่าชดเชย จ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ครบถ้วนตามกฎหมาย ลูกจ้างก็ปฏิเสธหรือเรียกร้องใดๆไม่ได้ จะไม่รับก็ไม่ได้ครับ เพราะนายจ้างมีสิทธิที่จะเลิกจ้าง กรณีนี้ ไม่พูดถึงการกระทำอันไม่เป็นธรรมตามกฎหมายแรงงานสัมพันธ์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 50462
|
|
« ตอบ #33 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2015, 12:21:54 AM » |
|
ซัมซุงย้ายไปเวียดนามนี่ครับ ข่าวว่าจะไปๆ1-2ปีแล้ว คงรอสร้างโรงงานที่เวียดนามเสร็จ พวกประเทศเกิดใหม่หลายประเทศพวกนี้ เช่นอินเดีย,เวียดนาม,พม่า,อินโดนีเซีย(พม่าคงอีกนาน เพราะพัฒนาคนไม่ทันยังเป็นแรงงานราคาถูกซะมาก) อินเดียคนเป็นพันล้าน กำลังซื้อสูงมาก เวียดนามนี่สดใสมาก ดร.นิเวศไปดูงานตามนิคมอุตสาหกรรมที่เวียดนาม ยังบอก มันเหมือนย้อนอดีตเมืองไทยซัก10กว่าปีก่อน คนวัยแรงงงานเยอะมาก(ประชากรมากกว่าไทย) แถมขยันสุดๆ กำลังซื้อสูง เพราะยังไม่มีพร้อม บ้าน,รถ,เครื่องใช้ไฟฟ้า..ฯลฯ ไทยนี่อิ่มตัวแล้วสินค้าพวกนี้ ขายได้น้อยละ บ้านไหนก็มีหมด ไม่แปลกที่บริษัทใหญ่ไปตั้งฐานการผลิต ทั้งขายในประเทศ(ซึ่งมีกำลังซื้อสูง) +ส่งออกมีสิทธิพิเศษทางการค้าที่ได้สิทธิพิเศษอีก ไม่แปลกที่เค้าย้ายฐานครับ จริงๆการย้ายฐานนี่ไปมาหลายปีแล้วนะ ไทยนี่ค่อนข้างจะปวดหัว พวกองค์กรการค้าโลก ยุโรป เมกา มันก็จัดชั้นไทยขึ้นเป็นประเทศรายได้ปานกลางละ พากันตัดสิทธิพิเศษต่างๆที่ไทยเคยมีไป พูดละก็ไม่รู้สิ.....จะไปทางไหนดีพี่น้อง รอระดับบนเค้าคิดละกัน ช่วงนี้เราเองก็กรอบๆ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 50462
|
|
« ตอบ #34 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2015, 12:24:26 AM » |
|
ผมเพิ่งกลับจากการไปสำรวจภาวะการลงทุนและเยี่ยมเยียนบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียตนามที่เมืองโฮจิมินซิตี้ การไปเวียตนามในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สองของผมหลังจากครั้งแรกที่ผมไปกับทางมันนีแชนแนลเมื่อซักหนึ่งถึงสองปีที่ผ่านมา การไปครั้งนี้ เป็นการ ไปกันเอง ของกลุ่ม VI อาวุโส ประมาณเกือบ 20 คน หลายคนมีเงินลงทุนในเวียตนามบ้างแล้ว และเกือบทุกคนกำลังดูว่าอาจจะไปลงทุนในตลาดหุ้นเวียตนามหลังจากที่เห็นว่าโอกาสลงทุนในตลาดหุ้นไทยลดน้อยลงเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ คุณภาพของบริษัทจดทะเบียน และราคาหุ้นอาจจะแพงเกินไป และต่อไปนี้ก็คือข้อสังเกตของผมซึ่งก็อิงจากการได้ไปเห็นบ้านเมืองและพูดคุยกับผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนรวมทั้งได้ศึกษาข้อมูลและประวัติศาสตร์เศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ
ข้อสรุปหลัก ๆ ของผมก็คือ เศรษฐกิจ สังคม และสภาวะแวดล้อมหรือภาพใหญ่ของเวียตนามในขณะนี้คล้าย ๆ กับของประเทศไทยเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว และเวียตนามกำลังจะเติบโตอย่างรวดเร็วแบบเดียวกับประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมา แม้แต่ฉายาของการเป็น เสือแห่งเอเซีย ที่ไทยเคยได้รับเราก็อาจจะได้เห็นว่าเวียตนามก็จะได้รับฉายาในทำนองคล้าย ๆ กัน พูดอีกแบบหนึ่ง ผมคิดว่าเวียตนามก็คือ The Next Thailand หรือจะเป็นประเทศไทยรายต่อไป เพียงแต่ผมคิดว่า เวียตนามในอนาคตอาจจะโตจนเท่าและ ผ่าน ประเทศไทยได้ถ้าเวียตนามยังรักษานโยบายและแนวทางที่ดีต่อการเติบโตในปัจจุบันต่อไปได้เรื่อย ๆ ในขณะที่ไทยไม่แก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่มีอยู่ในขณะนี้
ถ้ามองย้อนกลับไปซัก 40 ปี ซึ่งเป็นปีที่โฮจิมินแตกเวียตนามใต้กลายเป็นสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ระดับการพัฒนาการทางเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ในเอเชียโดยเฉพาะในอาเซียนนั้นน่าจะพอ ๆ กัน แต่หลังจากนั้น สิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ซึ่งใช้นโยบาย เปิดประเทศ และระบบเศรษฐกิจเป็นแบบตลาดเสรีในขณะที่การเมืองนั้นแม้ไมใช่เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลไปเรื่อย ๆ สลับไปมาระหว่างกลุ่มอำนาจหลัก ๆ ก็สามารถพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าอย่างน่าประทับใจ เหตุผลหรือปัจจัยที่ทำให้ไทยรวมถึงมาเลเซียเติบโตเร็วมากนั้น ผมคิดว่าเป็นเพราะโลกมีการเปลี่ยนแปลงและมีกระแสโลกานุวัตรสูง ญี่ปุ่นซึ่งได้เปรียบดุลการค้ากับโลกตะวันตกมหาศาลถูกบังคับให้เพิ่มค่าเงินเยนซึ่งทำให้สินค้าราคาถูกที่ใช้แรงงานสูงไม่สามารถแข่งขันได้จึง ย้ายฐานการผลิต จากญี่ปุ่นไปสู่ประเทศที่มีค่าแรงถูกและมีปัจจัยที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน และประเทศที่ว่าก็คือ มาเลเซียกับไทย
ประเทศเวียตนาม กัมพูชา ลาว นั้นเป็นสังคมนิยมที่เข้มข้น ดังนั้น ไม่สามารถที่จะรองรับการลงทุนได้ พม่าเองปกครองโดยเผด็จการทหารที่กองทัพคุมรัฐบาล อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์นั้นอยู่ภายใต้เผด็จการซูฮาร์โตและมาร์คอสยาวนาน ทั้งหมดนั้นญี่ปุ่นหรือโลกตะวันตกไม่อยากเข้ามาลงทุนและทำให้ประเทศไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร พูดง่าย ๆ ประเทศที่ระบบการปกครองเป็นแบบ ปิด นั้น โตยาก ประเทศที่จะเจริญเติบโตได้ดีนั้น ผมคิดว่าต้องมีปัจจัยสำคัญ 3-4 ประการก็คือ หนึ่ง ระบบต้องเอื้ออำนวยนั่นก็คือเป็นระบบเปิดที่ต้อนรับต่างชาติหรือเปิดให้คนสามารถแสดงความสามารถได้เต็มที่ซึ่งระบบที่ดีที่สุดน่าจะเป็นระบบเสรีประชาธิปไตย สอง คนต้องมีคุณภาพหรือมี IQ สูงพอ สาม จำนวนคนและอายุของประชากรในวัยทำงาน และสี่ก็คือ ทรัพยากรภายในประเทศ ดังนั้น ประเทศที่กล่าวถึงทั้งหมดจึงเริ่ม ล้าหลัง มาเลเซียและไทยกลายเป็น เสือแห่งเอเซีย จากการลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากตะวันตกและญี่ปุ่นโดยมีคู่แข่งน้อยเนื่องจากประเทศอื่นไม่พร้อม
เวลาผ่านไปเกือบ 10-20 ปี ประเทศต่าง ๆ ในเอเซียเริ่มตระหนักว่าระบบการปกครองที่ผิดพลาดทำให้ประเทศล้าหลัง ประเทศที่ปกครองแบบเผด็จการ ไม่ว่าจะเป็นสังคมนิยมหรือแบบอื่นเริ่มเปลี่ยนแปลง ระบบเศรษฐกิจกลายเป็นทุนนิยมและเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ นำโดยจีน ต่อมาเวียตนาม ลาวกัมพูชาก็ตาม หลังจากนั้นระบบเผด็จการมาร์คอสและซูฮาร์โตก็ ล่มสลาย และสุดท้ายระบบทหารแบบเมียนมาร์ก็กำลังผ่อนคลายลง นักลงทุนจากตะวันตกและประเทศที่ก้าวหน้าอย่างญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน จึงเริ่มมีตัวเลือกมากขึ้น และด้วยการพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ รวมถึงคุณภาพของคน ค่าแรง และสาธารณูปโภค และตลาดท้องถิ่น พวกเขาก็เริ่มเข้าไปลงทุนในประเทศที่ ล้าหลัง เหล่านั้นเพิ่มขึ้นและเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศดังกล่าวนั้นรู้ว่าตนเองยังด้อยกว่าก็เสนอเงื่อนไขในการลงทุนที่ดีกว่าประเทศที่เจริญมาก่อน ผลก็คือ เศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้นก็เริ่ม เดินหน้า การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะหลัง ๆ นี้เพิ่มขึ้นอย่างน่าประทับใจปีละ 5-7% เป็นอย่างต่ำ ในขณะที่ของไทยช้าลงมากโดยเฉพาะในช่วง 5-10 หลังนี้
ระดับการพัฒนาของเวียตนามเวลานี้อยู่ที่ประมาณเท่ากับเมื่อเกือบ 20 ปีก่อนหรือประมาณช่วงที่เศรษฐกิจไทยเกิดวิกฤตในปี 2540 ตัวเลขการมีเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ทีวี พัดลม ตู้เย็น เครื่องซักผ้าต่อครอบครัวของเขาเวลานี้พอ ๆ กับตัวเลขที่คนไทยมีเมื่อ 20 ปีก่อน รถยนต์และแอร์อาจจะเท่ากับ 25-30 ปีแต่ผมคิดว่าจะเพิ่มขึ้นเร็วมาก ส่วนมอเตอร์ไซต์นั้น เวลานี้เขาน่าจะมีมากกว่าของเราในเวลานี้ด้วยซ้ำเนื่องจากมันเป็นพาหนะหลักในการเดินทางของทุกคนในเวียตนาม ในส่วนของการผลิตซึ่งเน้นที่การส่งออกนั้น เวียตนามก็ใช้กลยุทธเดียวกับของไทยเมื่อ 20 ปีก่อนนั่นก็คือ ส่งเสริมให้ต่างชาติมาลงทุนและผลิตเพื่อการส่งออกเป็นหลัก ตัวเลขการส่งออกนั้นเติบโตเร็วมากปีละหลายสิบเปอร์เซ็นต์จนเวลานี้คิดแล้วการส่งออกน่าจะไม่ต่ำกว่า 80% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าของไทย ว่าที่จริงปริมาณการส่งออกไปอเมริกาของเวียตนามนั้นสูงกว่าของไทยไปแล้ว แม้แต่ในยามที่การส่งออกกำลังชะลอตัวทั่วโลกในช่วงนี้ การส่งออกของเวียตนามก็ยังโตเป็นเลขสองหลัก กระแสนี้น่าจะยังดำเนินต่อไปเพราะการลงทุนโดยตรงของเวียตนามยังมาแรงมาก บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลกเช่นซัมซุงเลือกเวียตนามมากกว่าไทยแล้ว
เมื่อดูไป เวียตนามนั้นเหมือนไทยมาก เราอยู่ในเขตภูมิอากาศเขตร้อนใกล้เคียงกัน ขนาดของประเทศก็พอ ๆ กัน ความสมบูรณ์ของที่ดินก็น่าจะใกล้กันและอุดมไปด้วยน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูก คนเวียตนามเองก็เป็นคนที่ ยืดหยุ่น ไม่ สุดโต่ง วัฒนธรรมและเชื้อชาติก็น่าจะเป็น 2 ใน 3 จีน ในขณะที่คนไทยก็อาจจะเป็น ครึ่งจีน ด้านศาสนาเองก็คงคล้าย ๆ คนไทยที่บางทีผมก็งง ๆ แต่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการปรับตัวทางเศรษฐกิจ ว่าที่จริง ถ้ามาเดินในห้างร่วมกันเราก็คงไม่สามารถแยกได้ว่าคนไหนเป็นไทยหรือเวียตนามทั้งด้านหน้าตา ความสูงและรูปร่างรวมถึงอากับกริยาต่าง ๆ
มีจุดหนึ่งที่ผมคิดว่าเวียตนามจะได้เปรียบไทยในระยะยาวก็คือ คนเวียตนามมี IQ สูงกว่าไทยในการศึกษาเรื่อง IQ ระดับสากลทุกครั้ง นอกจากนั้น เวียตนามมีประชากรถึง 90 ล้านคนและยังเพิ่มขึ้นค่อนข้างเร็วในขณะที่ไทยมี 67 ล้านคนและเพิ่มขึ้นน้อยและอาจจะลดลงในอนาคต ส่วนจุดอ่อนก็คือ ระบบสาธารณูปโภคในปัจจุบันยังไม่ดีนัก การเดินทางด้วยรถยนต์ในเมืองและต่างจังหวัดช้ามากประมาณไม่เกิน 30-40 ก.ม. ต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้น่าจะได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
ข้อสรุปสุดท้ายของผมก็คือ ระดับการพัฒนาของเวียตนามจะไล่กวดไทยอย่างรวดเร็วมาก เพราะปัจจัยในการแข่งขันของเวียตนามกำลังดีขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ไทยกลับด้อยลง เฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของกำลังคนที่แก่ตัวลงอย่างรวดเร็วและระบบการปกครองและภาพใหญ่อื่น ๆ ที่ดูเหมือนจะ ถอยหลัง ในช่วงเร็ว ๆ นี้ ความรู้สึกจากทริปเวียตนามครั้งนี้ในด้านของร่างกายก็คือร้อนมาก เพราะมันเป็นกลางฤดูร้อน แต่ในใจในฐานะที่เป็นคนไทยและจะต้องแข่งกับเวียตนามนั้น ผมรู้สึก หนาว อย่างบอกไม่ถูก https://www.settrade.com/blog/nivate/2015/05/11/1565
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 18, 2015, 12:27:00 AM โดย เบิ้ม »
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
Hang Forever
Hero Member
คะแนน 349
ออฟไลน์
กระทู้: 2215
|
|
« ตอบ #35 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2015, 10:18:47 AM » |
|
ในแง่คิดส่วนตัวของผมนะ ผมว่า ระบบเศรษฐกิจพอเพียง นี่จะเป็นตัวทำให้ไทยแข็งแกร่งในเนื้อใน ถ้า ทำได้จริง ปฏิบัติได้ตามแก่น ที่ในหลวงสอนไว้ เราจะไม่หนาว ในการต้องไปแข่งกับใคร ผมกำลังนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตของผม เอาตัวของผมให้รอดก่อน ใน... สภาวะบ้านเมืองไทย และเศรษฐกิจของโลก แบบ ในปัจจุบันนี้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
TakeFive
Sr. Member
คะแนน 171
ออฟไลน์
กระทู้: 794
|
|
« ตอบ #36 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2015, 02:53:25 PM » |
|
เศรฐษกิจไม่ดีๆ แต่ทำไมตัวเลขการว่างงานยังต่ำอยู่เลย ตลาดนัดคนยังเดินกันแน่น ห้างก็แทบไม่มีที่ว่าง ร้านอาหาร ราคาขึ้นเอาๆคนก็นยังแย่งกันกิน คนเงินเหลือเสียจนไม่อยากฟากแบงค์ แห่กันซื้อกองทุ้นบ้าง หุ้นบ้าง รถยนต์ออกใหม่กี่รุ่นๆก็แย่งกันจอง
อ่านกระทู้พันทิพ ผมก็เจอคนบ่นแบบนี้กันทุกปี ปีละเป็นสิบรอบๆ เล่าเรื่องโรงงานต่างๆ ยอดตกบ้าง ปิดกิจการ กังวัลว่าหายนะกำลังจะมา บางทีมันอาจจะเป็นแค่เฉพาะธุรกิจเป็นกลุ่มๆหรือเปล่า
อันนี้มุมมองส่วนตัวครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yutthakarn
Hero Member
คะแนน 554
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2354
สิ่งที่คนต้องการ คือ โอกาส
|
|
« ตอบ #37 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2015, 06:58:50 PM » |
|
ในภาวะวิกฤติด้านหนึ่ง ก็จะมีคนอีกส่วนหนึ่งที่มีโอกาสได้ประโยชน์ เช่น ในภาวะน้ำท่วม รถราใช้ไม่ได้ คนทำเรือพลาสติกและอุปกรณ์กันน้ำก็ทำส่งขายกันไม่ทัน,ในภาวะประสบภัยจากโรคระบาด ผู้ผลิตยาวัคซีน และแม้แต่หน้ากากปิดจมูก ก็รวยไป อย่างเวลานี้ มีภาวะขาดแคลนน้ำ คนขายถังและอุปกรณ์กักเก็บน้ำก็ผลิตกันไม่ทัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 1960
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 22591
"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."
|
|
« ตอบ #38 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2015, 11:46:33 PM » |
|
+1 ครูแหง ท่าน take five และพี่ยุทธการ ครับ... แต่ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจแย่ลงจริงๆครับ มีภาวะเงินฝืดมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว... คนรู้จักถูกเชิญออก ถูกบีบให้ออกจากงานก็หลายคน... ยอดการผลิตรถยนตร์ห้าเดือนแรกของปีนี้ก็ต่ำกว่าปีก่อนนะครับ... ตัวเลขที่เห็นว่าดีขึ้นคือรายได้จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น... แต่ผมไม่ค่อยกังวลเท่าไร เพราะไม่มีหนี้สินอะไรให้ผ่อนแล้ว... ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่จ่ายเกินตัว หมั่นเก็บออม พอจะผ่านเรื่องเหล่านี้ไปได้ครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
rute - รักในหลวง
Forgive , But not Forget .
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 1960
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 22591
"ผลิดอกงามแตกกิ่งใบ..."
|
|
« ตอบ #39 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2015, 11:48:09 PM » |
|
อีกนิด...ปืนผมก็หยุดซื้อ... ยิงก็สามสี่เดือนไปยิงที... รายจ่ายกับของเล่นน้อยลงมากๆครับ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
yutthakarn
Hero Member
คะแนน 554
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 2354
สิ่งที่คนต้องการ คือ โอกาส
|
|
« ตอบ #40 เมื่อ: กรกฎาคม 18, 2015, 11:55:26 PM » |
|
อีกนิด...ปืนผมก็หยุดซื้อ... ยิงก็สามสี่เดือนไปยิงที... รายจ่ายกับของเล่นน้อยลงมากๆครับ... เช่นกัน ครับ หยุดซื้อปืนแล้ว และนี่ก็ไม่ได้ไปสนามหลายเดือนแล้วเช่นกันครับ ได้เข้ามาพูดคุยในเวปปืนช่วยได้มาก ไม่ได้ซื้อ แต่ได้คุยเรื่องปืนก็ยังดี พออยู่ได้ครับ + 1 คืนให้คุณหมอรุธครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เบิ้ม
"ชีวิตคนนั้นแสนสั้น ความดีนั้นจักคงทน"
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 6424
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 50462
|
|
« ตอบ #41 เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2015, 12:09:45 AM » |
|
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=936331623091963&set=pcb.936332713091854&type=1&theaterhttp://www.thairath.co.th/clip/22476เคยพูดเกรินๆ เรื่องการดึงราคาอาหารพร้อมทานลงมา จัดที่หน่วยราชการ วันนี้มีคนทำแล้ว หลายหน่วยทหาร ราคาวัตถุดิบไม่สูงครับ ข้าวสารถุง5กิโล ข้าวเกรดธรรมดาถุงร้อยกว่าบาท ไก่โล60 ไข่ไก่ฟองต่ำกว่า3บาท น้ำมันพืชลิตรละ35-45 ทำอาหารราคาถูกขายได้แน่นอน ถ้าผมว่างงานนะ จะขายข้าวจาน20เลย ยังกำไรเลย สงสารคนที่ต้องกินอาหารจานเดียว ข้าวแกงกินทุกมื้อ จาน40-70บาท ผลจากการขึ้นเอาๆหลายปีมานี้ จนมันดูเกินไปนะ ทั้งที่วัตถุดิบราคาถูก แต่ร้านอาหารขึ้นทุกครั้ง แก๊ซขึ้นโล2-3บาท ปรับข้าวจาน5บาท ช่วงน้ำมันพืชขึ้น4-5ปีก่อนแป๊บเดียวก็ขึ้น ปรับค่าแรงก็ขึ้น คือขึ้นทุกที ที่มีโอกาส จนราคาอาหารกำไรสูงมาก200-300%ไปแล้ว เสี่ยโก๊ะตี๋เคยขายข้าวมันไก่ในห้างจานเล็กๆ จาน91บาทเลยปีก่อน มั่นมากหนูไม่แคร์ ไม่กินก็อย่ากิน ได้ข่าวปิดไปหลายสาขาในห้างละ ขายแพงเกินไป
|
|
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 19, 2015, 12:15:34 AM โดย เบิ้ม »
|
บันทึกการเข้า
|
"ศรัทธาของท่าน ความเชื่อของท่าน ก็เป็นของท่าน ความเชื่อของเรา ศรัทธาของเรา ก็เป็นของเรา"
|
|
|
seiya-รักในหลวง
"ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด"
ชาว อวป.
Hero Member
คะแนน 206
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 1134
to make a friend, be a friend...
|
|
« ตอบ #42 เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2015, 12:57:16 AM » |
|
พวกองค์กรแรงงานต่างๆ พากันเรียกร้องขอขึ้นค่าแรงขึ้นต่ำเป็น 360 บาท .. ถ้าขึ้นตามนั้น.. กิจการคงจบเห่เป็นแถว เผาจริงพร้อมป่นกระดูกไปด้วยเลย .. คนที่รวยคงเป็นชาติเพื่อนบ้านที่แรงงานมาทำงานในบ้านเรา ส่งเงินกลับไปเพียบ..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
คะแนน -15856
ออฟไลน์
กระทู้: 13569
No justice No peace
|
|
« ตอบ #43 เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2015, 09:24:26 AM » |
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
หัว...ฆรวย
หัวโขนมิวางออก เจ้าหลงครอบไปทุกที่ อ่าองค์ว่าโสภี นฤดีปริ่มเปรมใจ ลืมไปว่าที่ครอบ ต้องวางออกนหทัย สวมครอบตัวตนไว้ ก็แค่ควายใส่ชฎา
|
|
|
สุพินท์ - รักในหลวง
Guns & Games Staff
Hero Member
คะแนน 3539
ออฟไลน์
เพศ:
กระทู้: 12903
|
|
« ตอบ #44 เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2015, 10:36:10 AM » |
|
+1 ครูแหง ท่าน take five และพี่ยุทธการ ครับ... แต่ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจแย่ลงจริงๆครับ มีภาวะเงินฝืดมาตั้งแต่ต้นปีแล้ว... คนรู้จักถูกเชิญออก ถูกบีบให้ออกจากงานก็หลายคน... ยอดการผลิตรถยนตร์ห้าเดือนแรกของปีนี้ก็ต่ำกว่าปีก่อนนะครับ... ตัวเลขที่เห็นว่าดีขึ้นคือรายได้จากการท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้น... แต่ผมไม่ค่อยกังวลเท่าไร เพราะไม่มีหนี้สินอะไรให้ผ่อนแล้ว... ไม่สุรุ่ยสุร่าย ไม่จ่ายเกินตัว หมั่นเก็บออม พอจะผ่านเรื่องเหล่านี้ไปได้ครับ... เศรษฐกิจมันมีวัฏจักรของมันครับ มี 4 ระยะ คือ ระยะตกต่ำ, ระยะฟื้นตัว, ระยะรุ่งเรือง และระยะถดถอย เมื่อตกต่ำถึงขีดสุด ก็จะมีการระบายสินค้าค้างสต๊อค เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ ๆ ขึ้นมาทำให้เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว พอถึงระยะที่การคาดคะเนผลกำไรไปในทางบวกอย่างแน่ชัด การลงทุน การจ้างงานจะขยายตัวขึ้น จูงใจให้คนใช้เงินออมมาลงทุนมากขึ้น พอเศรษฐกิจเติบโตสูงขึ้น คนมีรายได้มากขึ้น สินค้าจะปรับราคาสูงขึ้นทำให้เกิดเงินเฟ้อตามมา ทำให้เข้าสู่ระยะถดถอย รอบนี้ที่เราเจอหนักหน่อย เพราะมีนโยบายประชานิยมไปกระตุ้นให้คนใช้จ่ายเงินเกินตัว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|