เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 18, 2024, 09:50:46 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1] 2 3 4 ... 18
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: R 3 A  (อ่าน 41436 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 21 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2016, 08:51:31 PM »



5555  ยายเพิ่งถึงบ้าน  " พรุ่งนี้ " จะ เล่าให้ฟัง อ่ะ ฮา 55555 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #1 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2016, 08:54:18 PM »


<a href="https://www.youtube.com/v/U27cdDkrsWs" target="_blank">https://www.youtube.com/v/U27cdDkrsWs</a>
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
rambo1th
Hero Member
*****

คะแนน 143
ออฟไลน์

กระทู้: 1349


« ตอบ #2 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2016, 08:57:09 PM »

ยายจะซื้อของมาจากจีนแล้วขายต่อเหรอครับ ..........
บันทึกการเข้า
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #3 เมื่อ: กรกฎาคม 20, 2016, 09:05:17 PM »



5555  ลุยตอนนี้  ไม่ไหว แล้วคร๊าบบบ อ่ะ ฮา 5555  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก

ยายเห็น  " ธุรกิจ อาหารไทย  "   เดินได้เลย  รวยด้วย อ่ะ ฮา 55555

ในระหว่างเส้นทาง  R 3 A  ตอนลาว เข้าจีน " รถไฟฟ้า ความเร็วสูง "  คืบหน้าไปมากมาย อ่ะ ฮา 555

จีน  เดินเครื่อง  " เต็มสูบ  "  เพื่อระบายสินค้า  ลงใต้  ออกไปทางทะเล  อ่ะ ฮา 555

เสาคอนกรีต  เส้นฝ่าศูนย์ กลาง ประมาณ " 2 เมตร " โผล่กลางป่า ในหุบเขา เต็มไปหมด อ่ะ ฮา

บางช่วง  " วางพื้น "  เรียบร้อยแล้ว  บางช่วงอยู่ระหว่างการหล่อ ชิ้นส่วน อ่ะ ฮา

5555   พรุ่งนี้  จะเขียนให้อ่าน คร๊าบ 55555  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #4 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2016, 08:16:04 AM »

ปูเสื่อรอเลย Grin
บันทึกการเข้า

TUI 48
Sr. Member
****

คะแนน 332
ออฟไลน์

กระทู้: 927


« ตอบ #5 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2016, 09:51:17 AM »

ปูเสื่อรอเลย Grin

มารออะไรวันนี้ครับ น้าจอย  Cheesy

ยายเค้าบอกว่าจะมาเล่าพรุ่งนี้ อิ อิ อิ  คิก คิก
บันทึกการเข้า
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #6 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2016, 10:50:41 AM »


5555  ยายแนะนำให้  อ่าน " บทความ "  ด้านล่าง ปูพื้น ก่อน อ่ะ ฮา 5555  ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก

อ่านช้าๆ  ทีละบรรทัด  แล้ว  หยุด "  คิด และ พิจารณา  "   อ่ะ ฮา 5555

ทำมัย  ชาติที่มีประชากร  " พันล้าน "  วางอนาคตอย่างไร อ่ะ ฮา 55555 

55555  ประเทศใหญ่ เขาวาง  " ยุทธศาสตร์ ชาติ "  อย่างไร อ่ะ ฮา 555555 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก


http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1442476208

เส้นทาง R3A : ไทย-ลาว-จีน จะร่วมกันอย่างไรเพื่อประโยชน์สูงสุด


เส้นทาง R3A หรือเส้นทาง "คุน มั่ง-กงลู่"จากจังหวัดเชียงรายถึงเมืองคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน
มีระยะทางประมาณ 1,140 กิโลเมตร ถือเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์เส้นทางหนึ่งของจีน
ที่จะใช้ขนส่งสินค้าจากภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนไปออกทะเลที่ประเทศไทย

โดยที่ยังมีเส้นทางอื่น อาทิ เส้นทาง R3B เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์ของจีนออกไปสู่ทะเลที่ประเทศเมียนมา
ในขณะที่จีนใช้ เมืองหนานหนิง ผ่านเวียดนามเข้าสู่อาเซียน รวมถึงใช้ ท่าเรือจ้าวผิ่ว KYAUKPYU) ในเมียนมาฝั่งอันดามัน
เพื่อไปออกทะเลจาก เมืองรุ่ยลี่ (RUILI) ต่อไปที่ เมืองลาโช (LASHIO) ผ่าน เมืองมัณฑะเลย์
รวมระยะทางประมาณ 800-1,000 กิโลเมตร

จะเห็นได้ว่าจีนวางยุทธศาสตร์เพื่อเตรียมความพร้อมในการออกสู่ทะเลทั้งทางใต้และตะวันตก
เพราะปัจจุบันจีนออกทะเลได้เฉพาะด้านแปซิฟิกเท่านั้น

ย้อนกลับมาเส้นทาง R3A ซึ่งจีนให้ความสำคัญในการเป็นเส้นทางเชื่อมจีน ลาว ไทย
เพื่อต่อไปมาเลเซียและสิงคโปร์ เมื่อประมาณ 4 ปีที่แล้วจีนได้จัดงาน International Logistics ขนาดใหญ่ในเมืองคุนหมิง
ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว มณฑลยูนนาน ก็ได้ประกาศนโยบายให้ความสำคัญกับเส้นทาง R3A
ในการขนส่งสินค้าประเภทของสด อาหารทะเล ระหว่างจีน ลาว ไทย ผู้เขียนเองได้รับเชิญจากรัฐบาลยูนนาน
ไปบรรยายเรื่อง "บทบาทและความสำคัญของเส้นทาง R3A"

การที่จีนให้ความสำคัญกับเส้นทาง R3A เพราะจีนใช้เส้นทางนี้ในระบบ Backhauling หรือการขนส่งสินค้าจากจีนมาไทย
แล้วขนส่งสินค้าจากไทยไปจีน โดยใช้รถคันเดียวกัน ทำให้ต้นทุนในการขนส่งสินค้าต่ำ

ปัจจุบันการขนส่งสินค้าระหว่างไทย-จีนนั้น จีนจะใช้ "เมืองบ่อเต็น" ซึ่งเช่าจากลาว 99 ปีเป็นศูนย์กลางขนถ่ายสินค้า
เมืองบ่อเต็นนี้เป็นเมืองชายแดนลาวติดกับ "เมืองบ่อหาน" (หรือโมฮั่น) ซึ่งเป็นเมืองชายแดนของจีน

ในการขนส่งสินค้าทั่วไป จีนจะใช้รถบรรทุกขนสินค้าจากเมืองเชียงรุ้ง (จิ่งหง) คุนหมิง และเมืองใกล้เคียงคุนหมิงไปที่บ่อเต็น
ในขณะเดียวกัน สินค้าจากประเทศไทยก็ไปเปลี่ยนถ่ายที่บ่อเต็นเช่นเดียวกัน

การที่รถไทยและรถจีนเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่บ่อเต็นเป็นเพราะไทยกับจีนยังไม่ได้ลงนามในเรื่องยานพาหนะข้ามพรมแดน
แต่ไทยและจีนลงนามในเรื่องยานพาหนะข้ามพรมแดนกับสปป.ลาว เมืองบ่อเต็นจึงเป็นจุดนัดขนถ่ายสินค้าระหว่างไทย-จีนไป

ทุกวันนี้การขนถ่ายหรือเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่บ่อเต็นยังคงใช้แรงงานเป็นหลักและอาจกล่าวได้ว่า
จีนมีอิทธิพลอย่างมากด้านการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ในเส้นทางR3A

ล่าสุดมีข้อมูลว่าจีนได้จัดสร้าง ศูนย์ขนส่งกระจายสินค้าและศูนย์ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ (Distribution Center : DC) ที่เมืองบ่อหาน
ห่างจากชายแดนบ่อเต็นประมาณ 10 กิโลเมตร โดยมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 172,000 ตารางเมตร
คาดว่าศูนย์กระจายสินค้าและศูนย์ร้านค้าปลีกแห่งนี้ นอกจากจะเป็นศูนย์จัดเก็บกระจายสินค้าแล้ว
ยังทำเป็นศูนย์การค้าที่มีสภาพการค้าและธุรกิจแบบเมืองเศรษฐกิจชายแดนด้วย

จีนคิดอย่างไรในการสร้างศูนย์แห่งนี้?มีประโยชน์และผลกระทบต่อไทยอย่างไร?
เราต้องเตรียมตัวรับมือหรือจับมือกับจีนอย่างไร ?

คำถามข้างต้นเป็นโจทย์ที่ผู้ประกอบการไทยและเจ้าหน้าที่รัฐต้องสนใจ ดังที่กล่าวแล้วว่า
จีนมีอิทธิพลสูงมากด้านโลจิสติกส์ในพื้นที่ที่ติดต่อกับลาวและไทย ทั้งที่ท่าเรืออำเภอเชียงแสนและเชียงของ
เพราะจีนเปิดบริษัทขนส่งและบริษัทโลจิสติกส์ในประเทศไทย รวมทั้งลงทุนในโครงการโลจิสติกส์ระดับใหญ่ในเชียงราย

หากพิจารณาเส้นทาง R3A ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นจาก อ.เชียงของฝั่งไทย ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว
ไปฝั่งบ้านห้วยทรายของ สปป.ลาว จากห้วยทรายไปบ่อเต็นระยะทาง 250 กิโลเมตร
จากบ่อเต็นข้ามไปบ่อหาน จากบ่อหานไปเชียงรุ้ง (จิ่งหง) ประมาณ 200 กิโลเมตร
จากเชียงรุ้งไปคุนหมิง 560 กิโลเมตร รวมระยะทางจากเชียงรายไปคุนหมิงประมาณ 1,140 กิโลเมตร

ขณะที่ทุกวันนี้จีนขนส่งสินค้าประเภทพืชผักผลไม้จากคุนหมิงไปที่บ่อเต็นระยะทางประมาณ 780 กิโลเมตร
ใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน แต่จะมีปัญหาในการขนถ่ายสินค้าสู่รถขนส่งไทย เพราะโอกาสที่สินค้าจะเน่าเสียมีสูงมาก
การจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าที่บ่อหานจึงน่าจะเป็นการจัดการสินค้าจากเชียงรุ้ง คุนหมิง
เพื่อจัดเก็บและรีแพ็กสินค้าไทยเตรียมเข้าสู่จีนเช่นกัน

ผลที่จะตามมาก็คือ โอกาสที่สินค้าจีนจะเข้าสู่ประเทศไทยจะมีมากขึ้นและเร็วขึ้น
ขณะเดียวกัน สินค้าไทยก็จะมีโอกาสเข้าสู่จีนมากขึ้นและเร็วขึ้นด้วยเช่นกัน
แต่จีนจะเป็นผู้ทรงอิทธิพลอย่างมากในการควบคุมเส้นทางการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ในเส้นทาง R3A
และสามารถกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆได้

เราควรทำอย่างไร ?

ประเด็นแรก ผู้ประกอบการไทยต้องหาผู้ประกอบการลาวและจีนในการทำธุรกิจร่วมกันด้านการขนส่งและโลจิสติกส์
เช่น จับจองพื้นที่ใน DC บ่อหาน เพื่อเตรียมความพร้อมด้านสินค้าไทยเข้าสู่จีน
รวมทั้งเตรียมความพร้อมในการตั้งศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้าที่บ่อหาน รัฐต้องให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการ
เช่น ช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ ผู้ประกอบการต้องรวมตัวกันเพื่อรองรับการแข่งขันและสร้างอิทธิพลจากกลุ่มทุนของจีน

คาดว่าอาจมีความเป็นไปได้ว่าจีนอาจจะมีมาตรการผ่อนปรนให้รถบรรทุกไทย
ข้ามจากบ่อเต็นไปบ่อหานเพื่อเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่DCในบ่อหาน

อย่างไรก็ตาม การคาดการณ์ดังกล่าวอาจจะยังไม่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้
แต่การที่จีนสร้าง DC ในบ่อหานทั้งที่มีโลจิสติกส์ แพ็ก ในบ่อเต็น
ก็แสดงว่าจีนคงจะมีการเตรียมการบางอย่างรองรับเส้นทางการค้าบนเส้นทาง R3A
ประกอบกับจีนพยายามพัฒนาให้ศูนย์แห่งนี้มีสภาพเศรษฐกิจและความเป็นอยู่แบบชุมชนเมือง
ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เกิดขึ้น จึงอาจมองว่าจีนจะผลักดันให้บ่อหานเป็น แหล่งชุมชนใหม่ของจีน
ใกล้ชายแดนลาวและไทย เป็นการกระจายความเจริญจากคุนหมิงและเชียงรุ้งไปสู่เมืองชายแดน
ขณะเดียวกัน ก็เป็นแหล่งรองรับการท่องเที่ยวบนเส้นทาง R3A เหมือนกับที่จีนได้พัฒนาให้เชียงรุ้ง
และเมืองหล้าเป็นเมืองท่องเที่ยวในเส้นทาง R3A มาแล้ว

ดังนั้น การศึกษาศูนย์กระจายสินค้าและศูนย์ค้าปลีกที่บ่อหาน จึงเป็นเรื่อง Trade Logistics เรื่องหนึ่ง
ที่ผู้ประกอบการไทยต้องให้ความสนใจและน่าจะมีการพูดถึง
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #7 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2016, 11:24:59 AM »

    
http://www.photoontour.com/outbound/sipsongpanna_2556/Sipsongpanna_Part_01.htm


Sipsongpanna Part 1
สิบสองปันนาตอนที่ 1
(เดินทางเดือนกรกฏาคม ปี56)


เมื่อเดือน กค.ปี56 มีโอกาสไปเที่ยวสิบสองปันนาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งครั้งแรกได้ไปเมื่อปี 51 หรือ 5 ปีมาแล้ว
ตอนนั้นถนนสาย R3a สู่เมืองสิบสองปันนาพึ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ

การเดินทางครั้งนี้จึงมีโอกาสเปรียบเทียบการเดินทางทั้งสองครั้งว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
ที่เห็นชัดเจนน่าจะได้แก่ ชุมชนในชนบทของลาวดูทันสมัยขึ้น บ้านหลายหลังที่เป็นบ้านมุงจากเปลี่ยนมาเป็นบ้านไม้หลังคากระเบื้อง
ส่วนที่เมืองสิบสองปันนาก็เจริญขึ้นอย่างผิดหูผิดตา

การท่องเที่ยวในทริปสิบสองปันนาเริ่มต้นที่อำเภอเชียงของจังหวัดเชียงรายซึ่งเป็นจังหวัดชายแดน
ที่อยู่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำโขง ส่วนฝั่งตรงข้ามจะเป็นบ้านห้วยทรายแขวงบ่อแก้วของสปป.ลาว

ทุกวันนี้ชาวไทยและลาวที่อาศัยริมฝั่งโขงไปมาหาสู่กันโดยทางเรือ นักท่องเที่ยวไทยที่จะไปเที่ยวสิบสองปันนา
ก็ต้องนั่งเรือหางยาวข้ามฟากตรงจุดผ่านแดน ซึ่งเป็นที่ตั้งของตม.หรือ "สำนักงานงานตรวจคนเข้าเมือง"

ตอนที่ถนน R3a สร้างเสร็จใหม่ๆ คนไทยไปเที่ยวสิบสองปันนากันอย่างคึกคักโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว
เหตุที่ไปเที่ยวกันมากก็เนื่องจากค่าทัวร์ราคาถูก และการไปเที่ยวสิบสองปันนาก็ต้องนั่งเรือข้ามแม่น้ำโขงเพื่อไปตั้งหลักที่ฝั่งลาว
ใครมาเห็นภาพการเดินทางก็ดูเป็นเรื่องแปลก เหมือนได้สัมผัสกับความเป็นชนบท ไม่ต่างกับการเดินทางแบบย้อนยุค

แต่ปัจจุบัน(พค.57)การข้ามโขงด้วยเรือหางยาวได้เปลี่ยนมาใช้ "สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 4"
ที่สมเด็จพระเทพฯเสด็จมาทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 14 ธค.56 ทำให้การเดินทางไปเที่ยวสิบสองปันนาสะดวกและรวดเร็วกว่าแต่ก่อน

สำหรับการเดินทางล่าสุดเมื่อเดือนกค.56 นี้ถือว่าเป็นฉากสุดท้ายของการนั่งเรือข้ามฟากไปเที่ยวสิบสองปันนา
จากนี้ไปภาพเหล่านี้ก็จะกลายเป็นอดีตให้ผู้คนรุ่นต่อๆไปได้กล่าวถึง

การเดินทางครั้งนี้แตกต่างไปจากเมื่อ 5 ปีก่อน เช่นเมื่อก่อนหากเดินทางในลาวก็ต้องใช้รถบัสลาว
พอถึงด่านชายแดนประเทศจีนก็จะเปลี่ยนเป็นรถจีนที่มีสภาพดีกว่า แต่ปัจจุบันรถบัสจากจีน
เข้ามารับนักท่องเที่ยว(ไทย)ถึงริมฝั่งโขงที่บ้านห้วยทราย

เข้าใจว่ารัฐบาลลาวมีการเรียกค่าสัมปทานการเดินรถ ซึ่งเป็นผลดีสำหรับนักท่องเที่ยวก็คือ
ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนถ่ายรถบ่อยๆ(ทั้งไปและกลับ) ขณะเดียวกันรถบัสจากจีนก็มีสภาพดีกว่าและปลอดภัยกว่า
ซึ่งส่วนใหญ่บัสลาวเป็นรถมือสองที่นำเข้ามาจากประเทศเกาหลี เพียงแค่นำมาซ่อมแซมและตกแต่งอีกนิดหน่อย
ก็นำมาวิ่ง หากโชคดีก็เดินทางได้ตลอดรอดฝั่ง โชคร้ายก็เสียกลางทางหรืออาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

โดยเฉพาะยางรถที่หมดสภาพ เกือบทุกคันเป็นยางหัวโล้นทั้งนั้น เบรคแรงๆ หรือเข้าโค้งขึ้นเขาก็อาจเป็นอันตรายได้
อุบัติเหตุก็เคยเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวไทยจนถึงกับเสียชีวิตมาแล้ว ทั้งๆที่วิ่งทางราบในเขตชุมชน แต่ข่าวนี้ไม่ปรากฏในสื่อของไทย

การนำรถจีนเข้ามาวิ่งแทนรถลาว น่าจะปลอดภัยกว่า เนื่องจากสภาพรถที่ใหม่กว่า
คนขับก็มีความชำนาญ บางคนมีทักษะที่น่าชมเชยเช่นในทริปนี้

จากบ้านห้วยทรายสปป.ลาวมาถึงชายแดน(ลาว)ที่บ่อเต็น ใช้ระยะทาง 250 กม จากนั้นข้ามชายแดนจีนที่เมืองบ่อหาน
แล้วเดินทางต่ออีก 217 กม.ก็มาถึงเมืองสิบสองปันนา รวมระยะทางในทริปนี้ประมาณ 467 กม.(ลาว 250 กม.จีน 217 กม.)

ถนนสายเศรษฐกิจอาเซี่ยน R3a มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษตามแผนที่จาก Google Map ว่า Asian Highway
เป็นโครงการทางรถยนต์ที่เชื่อมประเทศจีนกับกลุ่มประเทศในอาเซี่ยน โครงการนี้เริ่มเมื่อปี 2545
หากเป็นไปตามแผนก็จะเสร็จสิ้นในปี 2550

ถนน R3a ในเขตประเทศลาว ถือว่าเป็นว่าเป็นส่วนสำคัญ เนื่องจากเป็นการเชื่อมการเดินทางจากไทยสู่จีน
และจากจีนสู่ไทย โดยอาศัยประเทศลาวเป็นทางผ่าน โครงการนี้เริ่มต้นที่เมืองคุนหมิง
และไปสิ้นสุดที่จังหวัดเชียงราย รวมระยะทางประมาณ 1200 กม.

R3a เป็นถนนสายเศรษฐกิจที่สื่อในบ้านเรากล่าวถึงค่อนข้างบ่อยเนื่องจากเป็นถนนเพื่อการท่องเที่ยว
โดยมีสถานท่องเที่ยวที่น่าสนใจได้แก่เมืองสิบสองปันนา และเมืองคุนหมิง ขณะเดียวกันก็เป็นถนนเพื่อการค้า
การลงทุนระหว่าง จีน-ลาว-ไทย รวมทั้งอีกหลายประเทศในกลุ่มอาเซี่ยน

เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดทั้งโครงการของเส้นทางเศรษฐกิจอาเซี่ยน
จึงขอนำเอาแผนงานทั้งหมดมาให้ดูเพื่อเป็นความรู้ดังนี้ครับ

ถนนเศรษฐกิจของธนาคารพัฒนาอาเชียน (Asian Development Bank- ADB) มีถนนสายหลักๆดังนี้
 
1 เส้นทาง R1 โครงการถนนสายกรุงเทพฯ - พนมเปญ - โฮจิมินห์ซิตี้ – วังเตา
2 เส้นทาง R2 โครงข่ายถนนเชื่อมโยงแนวตะวันออก - ตะวันตก (East - West Corridor) ไทย - ลาว – เวียดนาม
3 เส้นทาง R3 โครงการถนนสายเชียงราย – คุนหมิงผ่านลาวและพม่า ประกอบด้วย
    3.1 เส้นทาง R3A ไทย - ลาว – จีน
    3.2 เส้นทาง R3B ไทย - พม่า – จีน
4 เส้นทาง R10 โครงการถนนเลียบชายผั่งทะเล ไทย - กัมพูชา - เวียดนาม



(หมายเหตุ : ระยะทางจากบ่อเต็นถึงคุนหมิงคำนวณจาก Google map
ถนนช่วงนี้มีอุโมงค์ถึง 30 แห่ง ยาวที่สุดคืออุโมงค์ที่ 13 ยาว 3.373 กม.)



สิบสองปันนา บ้านพี่เมืองน้องของไทย จีน ลาว พม่า เวียดนาม

หลายคนที่ไปเที่ยวสิบสองปันนารู้สึกแปลกใจที่ผู้คนท้องถิ่นดั่งเดิมหรือชาวไทลื้อ
แต่งกายคล้ายคนทางภาคเหนือหรือคนล้านนาไทย เช่น นุ่งผ้าซิ่น กางจ้อง มีดอกไม้เสียบผม
ส่วนบ้านเรือนก็ปลูกด้วยไม้หลังใหญ่คล้ายบ้านทางภาคเหนือแบบโบราณตามภาพถ่ายเก่าๆ

หากจะย้อนอดีตไปเมื่อหลายร้อยปีก่อนเมืองเชียงรุ่ง(สิบสองปันนา) เมืองล้านนาของไทย(เชียงแสนเดิม)
และเมืองเชียงตุงในพม่า รวมทั้งเชียงทอง(ลาวล้านช้าง)หรือที่เรียกว่า 4 เชียง ก็คือกลุ่มชาติพันธ์เชื้อสายเดียวกันที่มีชื่อว่าชาวไต(TAI)

คำว่าไต หรือ TAI ก็มาจากคำว่า อัลไต (Altai) หรือเทือกเขาอัลไตที่คนไทยเคยเรียนสมัยเป็นเด็กๆ ในเรื่องที่มาของชนชาติไทย

และหากยังจำกันได้กับคำว่า "อาณาจักรน่านเจ้า" ในวิชาประวัติศาสตร์ที่ชาวไตอาศัยนั้น
ปัจจุบันก็คือเมืองต้าหลี่ หรือ ต้าลี่ ในมณฑลยูนนาน

ชนชาติไตในปัจจุบันกระจายอยู่ตามมณฑลต่างๆของจีน โดยเฉพาะมณฑลยูนนานและมณฑลกวางสี
ที่มีกลุ่มชาติพันธ์ที่หลากหลายและมีเป็นจำนวนมาก รัฐบาลจีนจึงกำหนดให้เป็นเขตปกครองตนเอง
เพื่อให้ชนพื้นเมืองดั่งเดิมได้บริหารจัดการกันเอง หรือมีบทบาทในการรักษาวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิต
ส่วนเรื่องหลักๆแล้วรัฐบาลจีนยังต้องเข้าไปดูแล

ผ่านมาหลายร้อยปี ชนชาติไตก็แยกย้ายไปตั้งหลักแหล่งในที่ต่างๆทางแถบจีน อินเดีย พม่า ไทย ลาว เวียดนาม
จึงมีชื่อเรียกแตกต่างกัน เช่น ไท-กะได ไท ไทย ไทลื้อ ไทดำ ไทโซ่ง ไทอาหม(แคว้นอัสสัมของอินเดียตอนเหนือ)
ไทน้อย ไทใหญ่ ไทขาว ไทขืน ไทยวน ไทพวน ไทลาว ผู้ไท ไทญ้อ ไทยอง ไทหย่า ไทแดง ไทฮ่างตง ไทกะเลิง ไทแสก ฯลฯ

ทั้งหมดนี้เรียกว่า "ชนเผ่าไท"

จะเห็นว่าจากคำว่า ไต หรือ TAI ได้แตกลูกแตกหลานเยอะแยะไปหมด นี่เอามาแค่บางส่วนเท่านั้นนะครับ สนใจ...นี่เลยวิกืพีเดีย

ทั้ง 4 เชียงหรือ 4 เมืองหลักๆตามลุ่มน้ำโขงในอดีต ได้แก่ เชียงรุ่ง(สิบสองปันนา) เชียงแสน(ล้านนา) เชียงตุง(พม่า)
เชียงทอง(ล้านช้าง-ลาว)
มีภาษาพูด ศาสนา และวัฒนธรรมต่างๆที่คล้ายๆคลึงกัน ผู้คนยังไปมาหาสู่ บางคนเป็นญาติพี่น้องกัน
เช่นคนเชียงแสน (เชียงราย)มีญาติอยู่ที่สิบสองปันนา หรือกลุ่มไทลื้อที่หลวงพระบางก็มีพี่น้องอยู่ที่สิบสองปันนาเป็นต้น

สมัยก่อนไม่มีการแบ่งเขตแดนชัดเจนเหมือนปัจจุบัน ผู้คนจึงไปมาหาสู่กัน มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม
ทางศาสนาก็มีพระสงฆ์เดินทางไปจาริกธุดงค์ข้ามเขตกัน เช่นพระสงฆ์จากล้านนาเดินป่าธุดงค์ไปจนถึงเมืองเชียงตุงของพม่า  

การเปิดเส้นทาง R3a ทำให้คนไทยหันมาสนใจประวัติศาสตร์มากขึ้น จากเมื่อก่อนที่เคยได้ยินแต่คำว่า สิบสองพันนา
หรือสิบสองปันนา ในหนังสือประวัติศาสตร์ แต่เมื่อมีโอกาสไปเที่ยวและได้เห็นเมืองสิบสองปันนาที่แท้จริง
จึงรู้ว่านอกจากคนไทยเชื้อชาติไทยแล้ว เรายังมีพี่น้องร่วมบรรพบุรุษดั่งเดิมอยู่ที่เมืองสิบสองปันนา
และเมืองอื่นๆในภูมิภาคอินโดจีนอีกมากมาย

ภาษาพูดของชาวไทลื้อที่สิบสองปันนายังสื่อสารกับคนไทยได้บ้าง และจะคุยรู้เรื่องกันมากขึ้นหากเป็นคนเหนือหรือคนล้านนา
อาหารเมืองเหนือ(ของไทย)เช่นลาบ ลู่ แบบดิบๆ น้ำพริกหนุ่ม รวมทั้งอาหารพื้นเมืองชนิดอื่นๆ
ก็คืออาหารของชาวไทลื้อที่ทานกันในปัจจุบัน

การเปลี่ยนแปลงบนเส้นทาง R3a จากอดีตเมื่อ 5 ปีก่อน

ระหว่างการเดินทางในลาวได้เห็นการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างชัดเจนก็คือว่าบ้านมุงจากแบบดั่งเดิมเริ่มหายไปจากริมถนน
ขณะเดียวกันก็มีบ้านใหม่ที่มุงด้วยกระเบื้องเข้ามาแทนที หลายหลังกำลังสร้างใหม่
และไม้ที่นำมาสร้างบ้านก็ไปตัดโค่นมาจากในป่า ทำให้การเดินทางครั้งนี้เห็นเขาหัวโล้นเป็นระยะๆ

สำหรับตอนต่อไปเป็นตอนที่เข้าสู่ประเทศจีนแล้วละครับ มาเที่ยวคราวนี้เหมือนมารำลึกความหลังเมื่อ 5 ปีก่อน
หลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปเร็วมากโดยเฉพาะเมืองสิบสองปันนา ที่กำลังก่อสร้างโครงการขนาดยักษ์อยู่หลายแห่ง

คิดแล้วก็น่าแปลกใจ ไปเที่ยวจีนไม่ว่าจะเป็นเมืองไหนๆ เห็นแต่โครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่เต็มไปหมด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 21, 2016, 11:53:41 AM โดย babara. » บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #8 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2016, 11:27:05 AM »

ตรงชายแดนจีนลาวจุดพักรถมีคนไปลงทุนสร้าง Casino กันแล้ว
ผมไม่เรียกว่าบ่อน บ่อนภาษาลาวแปลว่าที่ชุมนุม ที่รวม เช่น บ่อนจอดลด ที่จอดรถ
บันทึกการเข้า
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #9 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2016, 11:27:33 AM »

photo sharing websites
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #10 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2016, 11:29:24 AM »

image hosting free
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #11 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2016, 11:54:34 AM »

ตรงชายแดนจีนลาวจุดพักรถมีคนไปลงทุนสร้าง Casino กันแล้ว
ผมไม่เรียกว่าบ่อน บ่อนภาษาลาวแปลว่าที่ชุมนุม ที่รวม เช่น บ่อนจอดลด ที่จอดรถ



55555  พี่ยู้ด  ช่วยเอา  " ภาพ " มาแสดง เยอะๆ คร๊าบ 5555 ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #12 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2016, 01:29:43 PM »

ล่าสุดไม่แน่ใจว่าเปิดแล้วเจ๊งหรือเปล่า เดี๋ยวนี้ใครไป 12 พันนาไปเครื่องบินกัน คงมีแต่สิงห์รถหลายล้อ กับพวกมาทำงานเมืองไทย
บันทึกการเข้า
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #13 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2016, 01:36:41 PM »

ยาย คนที่บรรยายท่องเที่ยวสิบสองปันนาน่ะยังคิดว่าคนไตมาจากเทือกเขาอัลไตอยู่อีกนะสอบตกตรงนี้แหละ ไตลื้อ ไตเขิน ไตเน้อ ก็อยู่กันแถวๆนี้แหละ
บันทึกการเข้า
carrera
กินลูกเดียวเที่ยวสองลูก
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2329
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 84478


« ตอบ #14 เมื่อ: กรกฎาคม 21, 2016, 01:45:49 PM »

ทางดีครับ Grin Grin Grin ส่งยาบ้าไปน่าจะสะดวกครับยาย
บันทึกการเข้า

เนื้อร้ายตัดทิ้ง
www.ipscthailand.com
หน้า: [1] 2 3 4 ... 18
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.098 วินาที กับ 22 คำสั่ง