5555555 พี่หม่า " ขยับ " จิ๊ดเดียว สาวก เต้นโครมคราม เชียว อ่ะ ฮา 55555
ยายคาดไม่ถึง นึกไม่ออกว่า " พัฒนาการ " มันมาเร็ว และ เปลี่ยนเร็ว อ่ะ ฮา 55555
55555 ไอ้พวก " ไดโนเสาร์ หลงยุค " เมด อินไทยแลนด์ ยายเดาว่าสูญพันธุ์ อ่ะ ฮา 5555
https://www.facebook.com/banyong.pongpanichBanyong Pongpanich shared Sasin Sant's post.
อ่านข่าวนี้แล้ว....
....นึกถึง AT&T ...บริษัทที่เคยใหญ่ที่สุดในโลก ที่บอกว่า ยังไงๆคนส่วนใหญ่ก็คงยังใช้โทรศัพท์มีสาย
ตลาดMobile phone เล็กนิดเดียวอย่าไปสนมันเลย
....นึกถึง Kodak ...ที่เป็นผู้คิดค้นกล้องDigitalได้เป็นคนแรก แต่บอกว่า มันเร็วเกินไป
ยังไงคนก็คงยังชอบกล้องฟิล์มชอบอัดรูปบนกระดาษ
....นึกถึงNokia ...ที่บอกว่าsmartphoneนั้นยุ่งยากไป แพงไป ใหญ่ไป คนไม่ชอบใช้หรอก
....นึกถึงSony ...ที่บอกว่า ตลาด TVจอแบนยังจะไม่โตหรอก
เพราะห่วงตลาดทีวีจอหลอดที่Trinitronของตัวครองตลาด60%
วันก่อนผมนั่งฟังผู้แทนToyota พยายามโน้มน้าวรมต.อุตสาหกรรมว่า Toyotaพร้อมสนับสนุนทุกอย่าง
ถ้าประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะเป็นฐานสำคัญสำหรับวิจัย และผลิตรถยนตร์Hybrid
โดยเฉพาะ Hydrogen Biofuel ที่Toyotaทุ่มทำR&D ....ฟังแล้วน่ากังวลเล็กน้อย ...
แต่โชคดีที่ท่านรมต.ท่านเป็นดร. แถมจบเกียรตินิยมอันดับ1เหรียญทอง ท่านน่าจะพิจารณาตัดสินใจได้ดี
Sasin Sant
1 hr · Bangkok ·
อ่านข่าวนี้แต่เช้าแล้วก็พอจะเห็นว่าโตโยต้ายังไม่พร้อมที่จะเข้าสู่การแข่งขัน
กับรถยนต์ไฟฟ้าร้อยเปอร์เซนต์แบบเทสล่า
เท่าที่จับน้ำเสียงจากเนื้อข่าว ก็ออกมาทำนองกลัวๆ เสียด้วยซ้ำ ถึงขนาดบอกว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีด้านลบ
เพราะไปผลักภาระการปล่อยไอเสียให้กับโรงงานไฟฟ้าแทน และยังไม่มีสถานีชาร์จไฟให้ใช้บริการ
ถ้าไม่กลัว คงไม่ออกมาตีกรอบกั้นกันซะขนาดนี้
จริงอยู่ สิ่งที่ทางโตโยต้าพูดออกมาเป็นข้อมูลความเป็นจริงในปัจจุบัน แต่วิธีการให้ข้อมูลแบบนี้
ก็แสดงออกมาให้เห็นเหมือนกันว่าตัวเองยังไม่พร้อมที่จะออกจาก comfort zone และเดินหน้าลุยสำหรับอนาคตแบบใหม่
โตโยต้าเป็นบริษัทแรกๆ ที่สนใจพลังงานทางเลือก โดยเริ่มผลิตรถไฮบริดอย่างพรีอุสมาตั้งแต่ 1997
ผ่านมาเกือบ 20 ปี พรีอุสก็ยังคงเป็นไฮบริดอยู่ เป็นรถที่ดูดี มีประโยชน์ แต่ไม่ค่อยมีใครอยากขับ
ในขณะที่เทสล่าก่อตั้งในปี 2003 เริ่มจำหน่ายรถไฟฟ้าแบบซีดาน รุ่นมาตราฐาน Model S ในปี 2012
และกลายเป็นรถขวัญใจถึงขั้นต้องรอคิวเข้าซื้อ
ถ้าเปรียบเทียบดูอย่างนี้แล้ว ก็อดไม่ได้ที่ต้องสงสัยว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้พัฒนาการด้านเทคโนโลยี
ของเทสล่าถึงไล่ทันและวิ่งแซงขึ้นนำโตโยต้าไปได้?
เหตุผลของโตโยต้าคงมีหลายข้อ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสายการผลิตในโรงงาน
ซึ่งก็โยงไปถึงต้นทุนทางการเงินที่ลงไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีไฮบริด
ที่ไม่สามารถมาคัทออฟยอมทิ้งโปรเจคนี้ไปได้ง่าย
รวมไปถึงวิสัยทัศน์และความใจกล้าด้วย
เทสล่ากล้าที่จะตั้งเป้าหมายที่จะผลิกอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด
โดยไม่ได้สนว่าเทคโนโลยีในตอนนั้นเป็นยังไงและตั้งหน้าตาพัฒนาของตัวเองขึ้นมาใช้
เทสล่าไม่เคยออกมาประกาศว่า infrastructure ไม่พร้อม เลยยังไม่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าตอนนี้
ต้องรออนาคตมาถึงก่อน เทสล่าเห็นเพียงแค่ว่าถ้ามีถนนอยู่ รถยนต์ก็วิ่งได้แล้ว
เทสล่าไม่มาบ่นว่าโรงงานไฟฟ้าสร้างมลภาวะหรือสถานีชาร์จไม่พอ แต่เลือกลงทุนพัฒนา
เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์และเอามาใช้จ่ายไฟให้กับสถานีชาร์จของตัวเอง
เทสล่าเลือกที่จะสร้างอนาคตด้วยตนเอง ไม่รอและไม่ง้อใครๆ
ต่อจากนี้คงต้องรอดูต่อไปเหมือนกันว่าโตโยต้าจะรับมือการเปลี่ยนแปลงในวงการนี้ยังไง
ไม่แน่ใจว่าเทคโนโลยีไฮโดรเจนอย่างรถรุ่น Mirai จะเป็นอนาคตของโตโยต้าเพื่อมาแข่งกับ Model 3
รถรุ่นล่าสุดของเทสล่าที่จะวางขายปีหน้านี้ได้รึเปล่า
ถ้าสู้ไม่ได้อีกไม่เกิน 10 ปี โตโยต้าอาจจะตกอยู่ในสถานะเหมือนกับแบรนด์ดังเพื่อนร่วมชาติอย่างโซนี่,
ที่ตอนนี้ถูกแบรนด์เกาหลีแซงหน้ากันไปแล้ว.
image share