https://prachatai.com/journal/2017/05/71674ชื่อสกุลซ้ำ อับดุลเลาะ สาแม คดีระเบิดห้างสมุย ประกาศจับคนหนึ่ง-
จับจริงอีกคน ล่าสุดโยงบอมบ์บิ๊กซี
ชื่อสกุลซ้ำ นอกจากติดแบล็คลิสธาคารแล้ว อาจซวยติดคุกฟรี? เปิดกรณี อับดุลเลาะ สาแม
ผู้ถูกจับ-ขังในคดีระเบิดห้างสมุย มา 2 ปีแล้ว พบประกาศจับคนหนึ่งจับจริงอีกคน
เลขบัตรประชาชนตามหน้าสื่อไม่ตรงกัน แถมล่าสุดถูกโยงคาร์บอมบ์บิ๊กซี
ภาพเหตุระเบิดคาร์บอมบ์หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา
หลังเหตุระเบิดคาร์บอมบ์หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา
นำมาสู่การเชื่อมโยงของเจ้าหน้าที่และออกหมายจับผู้ต้องสงสัยอย่างต่อเนื่อง ตามที่สื่อหลายสำนัก
เช่น ไทยโพสต์ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ และช่อง 7 ที่รายงานตรงกันว่า เจ้าหน้าที่ประมวลพยานหลักฐานระบุกลุ่มผู้ก่อเหตุ
เชื่อว่าเชื่อมโยงกับมือระเบิดที่เคยถูกออกหมายจับคดีค้างเก่าก่อนหน้านี้ 2 คน และหนึ่งในนั้นคือ อับดุลเลาะ สาแม
ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกออกหมายจับคดีเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ร้านอาหารมิดติ้ง ติดกับฐานหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
ตะวันปัตตานีคอนกรีต เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 26 ก.พ.2559
ตามหมายจับ ระบุว่า อับดุลเลาะ สาแม เป็นชาวจังหวัดปัตตานี อายุ 27 ปี อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 167 ม.3
ต.ตะโละกาโปร์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ถือบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ XXXXXXXXXX-95-6 ปัจจุบันกำลังหลบหนีการจับกุม
ภาพหมายจับ อับดุลเลาะ สาแม (ที่มาของภาพ :
http://www.southernreports.com/?p=2243)
จากรายงานข่าวของ ผู้จัดการออนไลน์ เมื่อวันที่ 26 เม.ย.58 ระบุว่า ตามหมายความอาญาที่ศาลเคยอนุมัติออกหมายจับต่อ
อับดุลเลาะ สาแม ในคดีก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล สาขาเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2558 พร้อมพวกอีก 5 คน นำมาสู่การขึ้นป้ายประกาศจับทั่วจังหวัดในภาคใต้ตอนบนและตอนล่าง
และเผยแพร่ต่อผ่านสื่อต่างๆ เช่นที่ ผู้จัดการออนไลน์ และ ข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานเมื่อ 13 ก.ย. 2559
ภาพ ป้ายไวนิลขนาด 3 x 4 เมตร ที่จังหวัดกระบี่ (ที่มาของภาพ ผู้จัดการออนไลน์ และ ข่าวเวิร์คพอยท์
หลังเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ลานจอดรถห้างที่สมุย ดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 27 ก.พ.2559 เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ร้านอาหารมิดติ้ง
ติดกับฐาน ปฎิบัติการ มว.ฉก.นปพ.11 (ชุดเฉพาะกิจ หน่วยปฏิบัติการตำรวจพิเศษจังหวัดปัตตานี)
ตามรายงานข่าวของกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ระบุว่า มีพยานบุคคลยืนยันว่า อับดุลเลาะ สาแม มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย จนมาสู่การออกหมายจับอีกครั้ง
ล่าสุดปีนี้ เกิดเหตุระเบิดคาร์บอมหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าสันนิษฐานจากการประมวลพยานหลักฐานโดยใช้เวลาเพียง 1 วัน ว่าเหตุระเบิดครั้งนี้ อับดุลเลาะ สาแม
มีความเชื่อโยงกับเหตุการณ์ด้วย
ชื่อสกุลซ้ำกัน กว่า 10 ล้าน หลายคนซวยโดนคดี : อับดุลเลาะ สาและ-อับดุลเลาะ อาแว ติด 2 ใน 5 ซ้ำมากสุด
สำนักข่าวไทยได้รายงานไปเมื่อวันที่ 24 พ.ค.2560 พบว่าปัจจุบันผู้ที่มีชื่อสกุล ซ้ำกัน มีจำนวนมากกว่า 10 ล้านคน
โดยได้นำชื่อสกุลที่ใช้ซ้ำกันมากที่สุด 5 อันดับในประเทศไทยมาเปิดเผยให้ทุกคนได้ทราบกัน และ 2 ใน 5 อันดับนั้น
ปรากฎว่ามีชื่อ อับดุลเลาะ สาและ ซึ่งติดอันดับ 2 ในประเทศไทยที่มีผู้ใช้ชื่อสกุลมากถึง 289 คน
และชื่อ อับดุลเลาะ อาแว ติดอันดับ 4 ในประเทศไทยที่มีผู้ใช้ชื่อสกุลนี้มากถึง 215 คน
จากรายงานของสำนักข่าวไทยดังกล่าวได้ยกกรณีปัญหาของชื่อสกุลซ้ำ เช่นกรณีแม่ค้าขายหอยทอดที่สมุทรสงคราม
ถูกศาลแพ่งฟ้องให้ชดใช้หนี้ เป็นเงินกว่า 14 ล้านบาท หลังมีชื่อสกุลซ้ำกับบุคคลหนึ่ง
สำนักทะเบียนราษฎร์อำเภอบางคนทีตรวจสอบพบว่าเป็นการส่งหมายศาลผิดคน เพราะผู้ที่จะต้องถูกฟ้องตัวจริง
มีชื่อสกุลสะกดเหมือนกับเธอ แต่เป็นผู้ชาย และมีเลขบัตรประชาชน 13 หลักที่แตกต่างกัน
บริษัทเอกชนจึงขอถอนฟ้องและขออภัยในความผิดพลาด หรือแม้แต่ ผู้ประกาศข่าววิทยุของ อสมท. เอง
ก็มีปัญหาไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้ตามปกติมาหลายปีแล้ว เพราะมีคนใช้ชื่อสกุลเดียวกันกับเขาอยู่เกือบ 10 คน
หลายคนมีคดีความ ถูกขึ้นบัญชีดำกับธนาคาร
ดังนั้น การทำนิติกรรมสำคัญ เช่น ธนาคารหรือ การออกหมายศาล กรมการปกครองแนะนำว่า
ควรตรวจสอบชื่อนามสกุล และตรวจทานเลข 13 หลัก ว่าเป็นบุคคลที่ต้องการจะส่งสารถึงให้รอบคอบ
เพื่อไม่ให้ผิดพลาดและสร้างความเดือดร้อน
ชื่อสกุลซ้ำ อับดุลเลาะ สาแม
แน่นอนว่าชื่อ อับดุลเลาะ สาแม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้มีอยู่เพียงแค่คนเดียว
ซึ่งสำหรับชื่อสกุลนี้ ซ้ำกัน มากกว่า 1 แน่นอน แม้ไม่ได้ติด 2 ใน 5 อย่าง อับดุลเลาะ สาและ
กับ อับดุลเลาะ อาแว ก็ตาม จากการทดสอบค้นชื้อในเฟซบุ๊กก็มีผู้ใช้ชื่อนี้จำนวนมากเช่นกัน
ตัวอย่างผู้ใช้ชื่อ อับดุลเลาะ สาแม ในเฟซบุ๊ก
ดังนั้นประเด็นชื่อสกุลซ้ำกันนี้ย่อมมีผลกระทบกันแน่นอน หากไม่มีการตรวจทานเลขบัตรประจำตัวประชาชนตามไปด้วย
เพราะเมื่อเป็นคดีความ ก็อาจเกิดการฟ้องร้องผิดคนได้ อย่างเช่น กรณีของบุคคลที่ชื่อ อับดุลเลาะ สาแม ก็อาจเป็นไปได้เช่นกัน
โดยเมื่อจากเหตุการณ์ระเบิด ลานจอดรถ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล สาขาเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
เมื่อวันที่ 10 เม.ย.2558 มีการวิเคราะห์ไปต่างๆ นาๆ บ้างก็ว่าเป็นการก่อเหตุของคนเสื้อแดง
บ้างก็ว่าเป็นการก่อเหตุของอดีตกลุ่มนักการเมืองภาคใต้ผ่านสื่อต่างๆ มาสักระยะหนึ่ง จนนำมาสู่การประกาศจับ 5 ราย
โดยมีการติดแผ่นป้ายคัทเอาท์ขนาดใหญ่ในพื้นที่ทั่วภาคใต้ หนึ่งในนั้นชื่อ อับดุลเลาะ สาแม
แต่การจับกุมปรากฎว่ากลายเป็นอีกคนหนึ่งที่มีชื่อสกุลเหมือนกันนั้นก็คือ อับดุเลาะ สาแม อายุ 25 ปี
อาศัย ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ถือบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ XXXXXXXXXX-85-1
ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 26 เม.ย.2558 และถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเกาะสมุย เมื่อวันที่ 20 พ.ค.2558
ตามหมายจับศาลจังหวัดเกาะสมุยที่ 47/2558 ลงวันที่ 13 พ.ค.58
อย่างไรก็ตามหากทุกคนสังเกตุดูเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนของทั้งสองคนที่มีชื่อคล้ายกันอย่าง อับดุลเลาะ สาแม
จะเห็นได้ชัดว่าเป็นคนละคนกัน ซึ่งจากการประกาศจับของเจ้าหน้าพร้อมรูปภาพที่เจ้าหน้าไปติดบนป้ายขนาดใหญ่และตามสื่อต่าง
เป็น อับดุลเลาะ สาแม (A) ถือบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ XXXXXXXXXX-95-6
ส่วนผู้ที่ถูกจับกุมกลับเป็น อับดุลเลาะ สาแม (B) กลับเป็นผู้ที่ถือบัตรประจำตัวประชาชนเลขที่ XXXXXXXXXX-85-1
ถ้าหากการจับกุม อับดุลเลาะ สาแม ครั้งนี้เป็นการจับฟ้องร้องผิดคน แน่นอนวันนี้เขาถูกคุมขังฟรีไปถึง 2 ปี
เนื่องจากเขาถูกคุมขังตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค.2558 จนถึงปัจจุบัน
สำหรับคดีนี้จำเลยได้รับความช่วยเหลือทางคดีจากทนายความมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิม
และศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ล่าสุดทนายความได้แจ้งมายังผู้สื่อข่าวประชาไทว่า
ศาลกำหนดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 21 มิ.ย.2560 ที่ ศาลมณฑลทหารบกที่ 45 จ.สุราษฎร์ธานี