เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 18, 2024, 05:01:07 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สอบถามเรื่องที่ดินครับ  (อ่าน 19183 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 12 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #30 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2017, 08:51:44 PM »

ใครบอกยายบ้านย้ายไม่ได้ ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #31 เมื่อ: มิถุนายน 03, 2017, 09:00:42 PM »



ใครบอกยายบ้านย้ายไม่ได้ ขำก๊าก





5555   บ้านลุงแป๋ง  แน่ๆ ค่ะ ฮา  55555   ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก

เมียนี้ไล่  เมียนี้หย่า   "  ย้ายบ้านหนี "   นะคะ ฮา  5555 ยิ้มีเลศนัย ยิ้มีเลศนัย ยิ้มีเลศนัย


55555  วาสนา  "  คน  หน้าตาดี   "   สบายกระเจี๊ยว    ค่ะ ฮา 5555   เศร้า เศร้า เศร้า ขำก๊าก ขำก๊าก
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #32 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2017, 08:06:34 AM »


กู้ซื้อบ้านอยู่มาหลายปี พอจะขาย โฉนดดันสลับข้างบ้าน
ช้ำหนัก ข้างบ้านเอาไปขายฝากจนถูกยึด



https://www.matichon.co.th/news/574367


หนุ่มใหญ่น้ำตาตก ร่วมกู้ซื้อบ้านในภูเก็ตกับน้องชายอยู่อาศัยหลายปี พอจะขายพบโฉนดที่ถือดันสลับกับข้างบ้าน
ทำให้ขายไม่ได้ ร้องเจ้าของโครงการยอมรับผิดแต่ให้เดินเรื่องเอง สุดท้ายแก้ไขไม่ได้เพราะติดหนี้แบงค์
ช้ำหนักเมื่อข้างบ้านเอาโฉนดบ้านตนที่สลับไปขายฝากจนถูกยึด ต้องออกจากบ้าน แถมต้องผ่อนหนี้ต่อ

วันที่ 4 มิ.ย.60 ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “รุตม์ รัตรานนท์” ได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความลงในเฟสบุ๊กส่วนตัว
โดยระบุว่า “กรุณาอ่านสักนิดนะครับบทเรียนครับน้องชายคนบ้านนอกเก็บตังซื้อบ้านในภูเก็ตเขตฉลองอยู่มาหลายปี
จะขายบ้านปรากฎว่าเลขโฉนดผิดแปลง ของเราไปอยู่บ้านเขา ของเขามาอยู่ของเรา
ไปขอร้องส่วนราชการทุกๆที่ที่คิดว่าช่วยได้กลับช่วยไม่ได้สักที่ ไปกราบวิงวอนเจ้าของโครงการ
กลับได้รับคำปฏิเศษมาตลอดให้น้องชายไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขด้วยตัวเอง เจ้าของโครงการยังมีชีวิตอยู่
แต่น้องชายเหมือนคนจะตายทั้งเป็นมาหลายปีแล้วเพราะบ้านอีกหลังพอรู้ว่าบ้านผิดแปลงเลยเอาบ้านน้องชายไปขายฝาก
จนปล่อยให้หลุด ตอนนี้คนขายฝากมายึดบ้านน้องชายอย่างจิตใจอำมหิตที่สุด เพื่อนๆพี่ผู้ใหญ่ที่รักความยุติธรรรม
ช่วยแชร์ให้ถึงทนายสงกรานต์ด้วยครับ อยากให้เป็นเคสตัวอย่างกับคนอื่น ให้ระวังเวลาซื้อบ้านด้วยครับ
แต่ตอนนี้คนขายฝากเอาป้ายมาติดประกาศขายบ้านที่น้องชายซื้อมาและอาศัยอยู่อย่างใจดำ โดยไม่ถามเจ้าของบ้านเลย
บอกให้ขนของออกจากบ้านอำมหิตจริงๆคนมีเงิน ดึงป้ายเดิมออกเอาป้ายของตัวเองมาติดว่า ขายด่วน ทำกันได้จริงๆคนสมัยนี้
และบ้านที่เอาบ้านน้องชายไปขายฝากอยู่สบายดี ส่วนตอนนี้น้องชายต้องกลับบ้านนอก วอนทนายสงกรานต์ช่วยด้วยครับ
เพื่อนๆบอกให้จ้างทนายน้องชายคนไม่รวยครับคนบ้านนอกคอกนา ”

โดยทั้ง 2 ภาพ ที่โพสต์เป็นภาพหน้าหลังหนึ่ง มีป้ายระบุข้อความว่า “บ้านหลังนี้โฉนดผิดแปลง กำลังดำเนินการเปลี่ยนแปลง”
พร้อมเบอร์โทรศัพท์ และอีก 1 ภาพเป็นภาพหน้าบ้านหลังเดียวกัน มีข้อความว่าขายด่วน และเบอร์โทรศัพท์

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์ ทราบชื่อคือ นาย วรุตม์ รัตนรานนท์ เล่าว่า ภาพบ้านหลังดังกล่าว
เป็นภาพบ้านเดี่ยวเลขที่ 55 ซอยเจ้าฟ้า 45(ซอยอู่รถ) ม.10 ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเดิมทีเป็นของน้องชาย
ชื่อ นาย สมปอง ประหลาดมานิต เป็นคนซื้อประมาณปี 2551 ในราคาประมาณ 3 ล้านกว่า ก่อนที่ตนเองได้เข้ากู้ร่วมเพิ่มในภายหลัง

สำหรับที่ดินปลูกสร้างบ้านดังกล่าว ทราบว่า เจ้าของโครงการซึ่งเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมัน ร่วมกับผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง
ได้ร่วมหุ้นซื้อที่ดินและปลูกสร้างบ้านจำนวน 2 หลัง ลักษณะเหมือนกัน โดยเจ้าของโครงการได้กู้ไว้กับธนาคารกรุงศรีฯ
เมื่อตนและน้องชายมาซื้อไว้ 1 หลัง ก็ต้องกู้ผ่านธนาคารกรุงศรีฯด้วยเช่นกัน ส่วนอีกหลังเป็นหญิงไทยชื่อเล่นว่าแหม่ม
มีสามีชาวต่างชาติมาซื้อไว้ด้วยเงินสด

โดยหลังจากที่ตนและน้องชายซื้อมานานก็อยู่อาศัยกันมาตามปกติ กระทั่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้พูดคุยกับน้องชาย
และตัดสินใจจะขายบ้าน จึงปรึกษากับธนาคารกรุงศรีก่อนประเมินราคาได้ประมาณ 4 ล้านกว่าบาท
ซึ่งขณะนั้นมีผู้สนใจเข้ามาดูบ้านจำนวนมาก  กระทั่งมีผู้ต้องการซื้อรายหนึ่งตัดสินใจซื้อ
แต่ขอกู้ผ่านธนาคารกสิกรไทย จึงให้มีการรังวัดที่ดินก่อนการซื้อขาย ปรากฏว่าเอกสารโฉนดระบุว่าไม่ตรงแปลง
โฉนดของตนเป็นของบ้านของ น.ส.แหม่ม และโฉนดของ น.ส.แหม่มเป็นที่บ้านของตน
จึงเกิดโกลาหลขึ้นเพราะไม่สามารถซื้อขายได้ ตนเองพร้อมด้วยน.ส.แหม่มเจ้าของบ้านอีกหลังที่สลับกัน
 จึงรีบไปคุยกับเจ้าของโครงการ ซึ่งเจ้าของโครงการยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่ขอให้ผู้ซื้อทั้งสองดำเนินการกันเอง
โดยระบุว่าจะรับผิดชอบชดใช้ในส่วนเงินภาษีที่ดิน จากนั้น ตนจึงไปปรึกษาธนาคาร แต่ธนาคารปฏิเสธการดำเนินการให้
โดยระบุว่าตนเองจะต้องจ่ายเงินปิดหนี้ทั้งหมด ซึ่งมีประมาณ 2 ล้านกว่าบาทให้แล้วเสร็จก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้
แต่เนื่องจากตนเองไม่มีเงิน และไม่สามารถขายบ้านได้ ตนจึงต้องเข้าปรึกษากับหลายหน่วยงานทั้ง ที่ดินจังหวัด
ซึ่งระบุว่าสามารถทำได้แต่ต้องเอาโฉนดตัวจริงจากธนาคารมาดำเนินการ แต่ธนาคารไม่ยอม จึงล้มเหลว

จากนั้นได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือที่สำนักงานอัยการ โดยฝ่ายกฏหมายได้พยายามไกล่เกลี่ยโดยประสานไปยังธนาคารว่า
ให้นำเอกสารโฉนดมาดำเนินการ แต่ก็ติดปัญหาที่ธนาคารไม่ยินยอมเพราะผิดหลักเกณฑ์
จากนั้นตนได้ไปร้องต่อที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแต่ก็เงียบหาย สุดท้ายไม่มีทางออก ต้องกลับไปขอร้องเจ้าของโครงการช่วยเหลือ
แต่ก็ไม่ได้ความ จึงแจ้งธนาคารว่า ไม่ขอจ่ายค่างวดต่อ และจะปล่อยให้ธนาคารยึด หากไม่มีการดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง
เพราะที่จ่ายไปนั้นคือต้องจ่ายให้บ้านของผู้อื่น กระทั่งธนาคารโอนให้เป็นของบริษัทบริหารสินทรัพย์และได้มีการเจรจาประนอมหนี้กัน
 ซึ่งขณะนั้นเป็นหนี้อยู่กว่า 2 ล้านบาท
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
Yut64
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 7665
ออฟไลน์

กระทู้: 9988



« ตอบ #33 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2017, 08:20:41 AM »

ใครบอกยายบ้านย้ายไม่ได้ ขำก๊าก


ที่ Philippines หรือเปล่า เขามีธรรมเนียมช่วยกันย้ายบ้านเรียกว่า Bayanihan 
บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #34 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2017, 09:03:38 AM »

ใครบอกยายบ้านย้ายไม่ได้ ขำก๊าก


ที่ Philippines หรือเปล่า เขามีธรรมเนียมช่วยกันย้ายบ้านเรียกว่า Bayanihan 
ในภาพต้นทางไม่ได้บอกครับทางใต้ก็มีแบบนี้ครับพี่ Grin
บันทึกการเข้า

ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #35 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2017, 09:26:46 AM »



ใครบอกยายบ้านย้ายไม่ได้ ขำก๊าก


ที่ Philippines หรือเปล่า เขามีธรรมเนียมช่วยกันย้ายบ้านเรียกว่า Bayanihan 


ในภาพต้นทางไม่ได้บอกครับทางใต้ก็มีแบบนี้ครับพี่ Grin



http://videos-mdr.com/en-thailande-villageois-deplacent-maison-en-portant/


บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
R2D2
ท้าเยาะเย้ยทุกข์ยากขวากหนามลำเค็ญ
Hero Member
*****

คะแนน 366
ออฟไลน์

กระทู้: 6023



« ตอบ #36 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2017, 09:28:49 AM »

บ้านผมเรียก "หามเริน" (เริน = เรือน,บ้าน)ครับ
บันทึกการเข้า
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #37 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2017, 09:39:23 AM »



บ้านผมเรียก "หามเริน" (เริน = เรือน,บ้าน)ครับ





55555   "  หาม  เริน  "   ถอกโต้ง  แล้วค่ะ ฮา 55555   ขำก๊าก ขำก๊าก ขำก๊าก

ถ้าจะเรียก    "  หามรถ  หามเรือ  "    มันก็ไม่ใช่นะคะ ฮา 5555  แบร่ แบร่ แบร่

5555   แจกคนละ  " หนึ่งบาท "   รวมเป็น  เจ็ดสิบล้าน ค่ะ ฮา 5555  หัวเราะร่าน้ำตาริน หัวเราะร่าน้ำตาริน หลงรัก
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
แปจีหล่อ
Hero Member
*****

คะแนน 6324
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 8251



« ตอบ #38 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2017, 12:27:13 PM »


กู้ซื้อบ้านอยู่มาหลายปี พอจะขาย โฉนดดันสลับข้างบ้าน
ช้ำหนัก ข้างบ้านเอาไปขายฝากจนถูกยึด



https://www.matichon.co.th/news/574367


หนุ่มใหญ่น้ำตาตก ร่วมกู้ซื้อบ้านในภูเก็ตกับน้องชายอยู่อาศัยหลายปี พอจะขายพบโฉนดที่ถือดันสลับกับข้างบ้าน
ทำให้ขายไม่ได้ ร้องเจ้าของโครงการยอมรับผิดแต่ให้เดินเรื่องเอง สุดท้ายแก้ไขไม่ได้เพราะติดหนี้แบงค์
ช้ำหนักเมื่อข้างบ้านเอาโฉนดบ้านตนที่สลับไปขายฝากจนถูกยึด ต้องออกจากบ้าน แถมต้องผ่อนหนี้ต่อ

วันที่ 4 มิ.ย.60 ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “รุตม์ รัตรานนท์” ได้โพสต์ภาพ พร้อมข้อความลงในเฟสบุ๊กส่วนตัว
โดยระบุว่า “กรุณาอ่านสักนิดนะครับบทเรียนครับน้องชายคนบ้านนอกเก็บตังซื้อบ้านในภูเก็ตเขตฉลองอยู่มาหลายปี
จะขายบ้านปรากฎว่าเลขโฉนดผิดแปลง ของเราไปอยู่บ้านเขา ของเขามาอยู่ของเรา
ไปขอร้องส่วนราชการทุกๆที่ที่คิดว่าช่วยได้กลับช่วยไม่ได้สักที่ ไปกราบวิงวอนเจ้าของโครงการ
กลับได้รับคำปฏิเศษมาตลอดให้น้องชายไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขด้วยตัวเอง เจ้าของโครงการยังมีชีวิตอยู่
แต่น้องชายเหมือนคนจะตายทั้งเป็นมาหลายปีแล้วเพราะบ้านอีกหลังพอรู้ว่าบ้านผิดแปลงเลยเอาบ้านน้องชายไปขายฝาก
จนปล่อยให้หลุด ตอนนี้คนขายฝากมายึดบ้านน้องชายอย่างจิตใจอำมหิตที่สุด เพื่อนๆพี่ผู้ใหญ่ที่รักความยุติธรรรม
ช่วยแชร์ให้ถึงทนายสงกรานต์ด้วยครับ อยากให้เป็นเคสตัวอย่างกับคนอื่น ให้ระวังเวลาซื้อบ้านด้วยครับ
แต่ตอนนี้คนขายฝากเอาป้ายมาติดประกาศขายบ้านที่น้องชายซื้อมาและอาศัยอยู่อย่างใจดำ โดยไม่ถามเจ้าของบ้านเลย
บอกให้ขนของออกจากบ้านอำมหิตจริงๆคนมีเงิน ดึงป้ายเดิมออกเอาป้ายของตัวเองมาติดว่า ขายด่วน ทำกันได้จริงๆคนสมัยนี้
และบ้านที่เอาบ้านน้องชายไปขายฝากอยู่สบายดี ส่วนตอนนี้น้องชายต้องกลับบ้านนอก วอนทนายสงกรานต์ช่วยด้วยครับ
เพื่อนๆบอกให้จ้างทนายน้องชายคนไม่รวยครับคนบ้านนอกคอกนา ”

โดยทั้ง 2 ภาพ ที่โพสต์เป็นภาพหน้าหลังหนึ่ง มีป้ายระบุข้อความว่า “บ้านหลังนี้โฉนดผิดแปลง กำลังดำเนินการเปลี่ยนแปลง”
พร้อมเบอร์โทรศัพท์ และอีก 1 ภาพเป็นภาพหน้าบ้านหลังเดียวกัน มีข้อความว่าขายด่วน และเบอร์โทรศัพท์

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์ ทราบชื่อคือ นาย วรุตม์ รัตนรานนท์ เล่าว่า ภาพบ้านหลังดังกล่าว
เป็นภาพบ้านเดี่ยวเลขที่ 55 ซอยเจ้าฟ้า 45(ซอยอู่รถ) ม.10 ต.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเดิมทีเป็นของน้องชาย
ชื่อ นาย สมปอง ประหลาดมานิต เป็นคนซื้อประมาณปี 2551 ในราคาประมาณ 3 ล้านกว่า ก่อนที่ตนเองได้เข้ากู้ร่วมเพิ่มในภายหลัง

สำหรับที่ดินปลูกสร้างบ้านดังกล่าว ทราบว่า เจ้าของโครงการซึ่งเป็นเจ้าของปั๊มน้ำมัน ร่วมกับผู้จัดการธนาคารแห่งหนึ่ง
ได้ร่วมหุ้นซื้อที่ดินและปลูกสร้างบ้านจำนวน 2 หลัง ลักษณะเหมือนกัน โดยเจ้าของโครงการได้กู้ไว้กับธนาคารกรุงศรีฯ
เมื่อตนและน้องชายมาซื้อไว้ 1 หลัง ก็ต้องกู้ผ่านธนาคารกรุงศรีฯด้วยเช่นกัน ส่วนอีกหลังเป็นหญิงไทยชื่อเล่นว่าแหม่ม
มีสามีชาวต่างชาติมาซื้อไว้ด้วยเงินสด

โดยหลังจากที่ตนและน้องชายซื้อมานานก็อยู่อาศัยกันมาตามปกติ กระทั่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้พูดคุยกับน้องชาย
และตัดสินใจจะขายบ้าน จึงปรึกษากับธนาคารกรุงศรีก่อนประเมินราคาได้ประมาณ 4 ล้านกว่าบาท
ซึ่งขณะนั้นมีผู้สนใจเข้ามาดูบ้านจำนวนมาก  กระทั่งมีผู้ต้องการซื้อรายหนึ่งตัดสินใจซื้อ
แต่ขอกู้ผ่านธนาคารกสิกรไทย จึงให้มีการรังวัดที่ดินก่อนการซื้อขาย ปรากฏว่าเอกสารโฉนดระบุว่าไม่ตรงแปลง
โฉนดของตนเป็นของบ้านของ น.ส.แหม่ม และโฉนดของ น.ส.แหม่มเป็นที่บ้านของตน
จึงเกิดโกลาหลขึ้นเพราะไม่สามารถซื้อขายได้ ตนเองพร้อมด้วยน.ส.แหม่มเจ้าของบ้านอีกหลังที่สลับกัน
 จึงรีบไปคุยกับเจ้าของโครงการ ซึ่งเจ้าของโครงการยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น แต่ขอให้ผู้ซื้อทั้งสองดำเนินการกันเอง
โดยระบุว่าจะรับผิดชอบชดใช้ในส่วนเงินภาษีที่ดิน จากนั้น ตนจึงไปปรึกษาธนาคาร แต่ธนาคารปฏิเสธการดำเนินการให้
โดยระบุว่าตนเองจะต้องจ่ายเงินปิดหนี้ทั้งหมด ซึ่งมีประมาณ 2 ล้านกว่าบาทให้แล้วเสร็จก่อนจึงจะสามารถดำเนินการได้
แต่เนื่องจากตนเองไม่มีเงิน และไม่สามารถขายบ้านได้ ตนจึงต้องเข้าปรึกษากับหลายหน่วยงานทั้ง ที่ดินจังหวัด
ซึ่งระบุว่าสามารถทำได้แต่ต้องเอาโฉนดตัวจริงจากธนาคารมาดำเนินการ แต่ธนาคารไม่ยอม จึงล้มเหลว

จากนั้นได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือที่สำนักงานอัยการ โดยฝ่ายกฏหมายได้พยายามไกล่เกลี่ยโดยประสานไปยังธนาคารว่า
ให้นำเอกสารโฉนดมาดำเนินการ แต่ก็ติดปัญหาที่ธนาคารไม่ยินยอมเพราะผิดหลักเกณฑ์
จากนั้นตนได้ไปร้องต่อที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดแต่ก็เงียบหาย สุดท้ายไม่มีทางออก ต้องกลับไปขอร้องเจ้าของโครงการช่วยเหลือ
แต่ก็ไม่ได้ความ จึงแจ้งธนาคารว่า ไม่ขอจ่ายค่างวดต่อ และจะปล่อยให้ธนาคารยึด หากไม่มีการดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้อง
เพราะที่จ่ายไปนั้นคือต้องจ่ายให้บ้านของผู้อื่น กระทั่งธนาคารโอนให้เป็นของบริษัทบริหารสินทรัพย์และได้มีการเจรจาประนอมหนี้กัน
 ซึ่งขณะนั้นเป็นหนี้อยู่กว่า 2 ล้านบาท
ไหนๆก็เอกสารสับกันแล้วก็หอบผ้าย้ายเข้าไปอยู่อีกหลังนึงเลยสิ ไม่เห็นยุ่งยากอะไร
บันทึกการเข้า

สีกากีเป็นสีของดิน ข้าราชการควรต้องติดดิน ออกพื้นที่รับฟังปัญหาของชาวบ้าน ข้าราชการคือ ข้าที่ทำกิจการต่างๆให้กับพระราชา เครื่องแบบข้าราชการสีกากีคือสีแห่งข้ารับใช้แผ่นดิน
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #39 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2017, 01:27:27 PM »


 
ไหนๆก็เอกสารสับกันแล้วก็หอบผ้าย้ายเข้าไปอยู่อีกหลังนึงเลยสิ ไม่เห็นยุ่งยากอะไร
ส่วนใหญ่จะผูกพันกับบ้านที่คิดว่าเราเป็นเจ้าของ เคสนี้น่าจะคุยไม่ยาก ร้องศาลให้ท่านไกล่เกลี่ยให้แล้วยอมเสียค่าธรรมเนียมทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าธนาคารยังไม่ยอมอีก ก็คงรอให้ฟ้องขับไล่ ตอนนี้ถ้าขึ้นศาลกันอีก ศาลคงมีวิธีที่ให้ธนาคารยอมสลับโฉนดกันครับ Grin
บันทึกการเข้า

TUI 48
Sr. Member
****

คะแนน 332
ออฟไลน์

กระทู้: 927


« ตอบ #40 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2017, 02:13:54 PM »

ไหนๆก็ไหนๆ ปล่อยให้ธนาคารยึดไปเลย  ก็ทีเค้ายังเอาที่ของเราไปจำนอง แล้วปล่อยหลุดได้

จะได้ไม่ต้องมีที่ซุกหัวนอนทั้งคู่ 555  โยนปัญหาให้ธนาคารแก้ด้วย เมื่อถึงเวลาขายทอดตลาด
บันทึกการเข้า
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #41 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2017, 03:34:21 PM »


http://www.dol.go.th/lo/smt/problem/march-49/problem38.htm


เรื่องที่  ๓๘     รับโอนโฉนดที่ดินผิดแปลง     สารบบ  สล  ๒๒๑๓

เจ้าของเรื่อง   ส่วนมาตรฐานการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม

ประเด็นปัญหา   นาง  ข.  และน้องสาวได้ไปซื้อที่ดินพร้อมบ้านไว้คนละแปลงอยู่ติดกัน 
เมื่อนาง ก. นำที่ดินที่ซื้อไว้ไปจำนอง  จึงทราบว่ารับโอนโฉนดที่ดินผิดแปลงสลับกับน้องสาว 
จึงหารือว่าจะมีวิธีการใดที่จะทำให้นาง  ก. และน้องสาวได้รับโฉนดที่ดินตรงกับที่ดินที่ครอบครอง

ข้อกฎหมาย    มาตรา  ๖๑  แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน

ความเห็นกรมที่ดิน  วิธีการที่นาง  ก. และน้องสาวจะได้โฉนดที่ดินตรงกับที่ดินที่ครอบครองขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงว่า 
การโอนที่ดินพร้อมบ้านให้กับนาง  ก.  และน้องสาว  นั้นเป็นไปโดยผิดพลาดคลาดเคลื่อนหรือไม่  ดังนี้

                    ๑.  หากข้อเท็จจริงปรากฏว่า นาง  ก.  และน้องสาวต้องการซื้อที่ดินพร้อมบ้านและได้เข้าครอบครอง
ที่ดินพร้อมบ้านที่ซื้อนั้นแล้ว  แต่ผู้ขายนำโฉนดที่ดินมาโอนให้นาง ก. กับน้องสาวสลับแปลงกัน  เช่น     
น้องสาวต้องการซื้อที่ดินโฉนดเลขที่  x  ซึ่งมีบ้านเลขที่  ๑  ปลูกอยู่  ส่วน  นาง ก.  ต้องการซื้อที่ดินโฉนดเลขที่   x x 
ซึ่งมีบ้านเลขที่  ๒  ปลูกอยู่     และต่างฝ่ายต่างก็ได้เข้าครอบครองที่ดินที่ดินพร้อมบ้านที่ซื้อดังกล่าวแล้ว   
แต่ในการจดทะเบียนซื้อขายปรากฏว่า  ผู้ขายนำโฉนดที่ดินมาโอนสับแปลงกัน  กล่าวคือ 
นำโฉนดเลขที่  x x  ไปโอนพร้อมบ้านเลขที่  ๑  ให้กับน้องสาว  และนำโฉนดเลขที่  x ไปโอนพร้อมบ้านเลขที่ ๒ 
ให้กับนาง ก.  เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการจดทะเบียนไปโดยสำคัญผิดในข้อเท็จจริง  เป็นการผิดพลาดคลาดเคลื่อน
อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะแก้ไขรายการจดทะเบียนขายในโฉนดที่ดินให้ถูกต้องตรงกับข้อเท็จจริงได้   
ตามมาตรา  ๖๑  แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน  ซึ่งอำนาจหน้าที่ในการสั่งแก้ไขดังกล่าวเป็นของอธิบดีกรมที่ดิน   
หรือรองอธิบดีซึ่งอธิบดีมอบหมาย    โดยดำเนินการตามวิธีการและขั้นตอนตามที่มาตรา  ๖๑  แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน 
และกฎกระทรวงซึ่งออกตามกฎหมายดังกล่าวกำหนดไว้   ดังนั้น   หากข้อเท็จจริงที่หารือเป็นดังตัวอย่างข้างต้น 
 นาง ก. และ    น้องสาวสามารถนำโฉนดที่ดิน   ไปยื่นขอให้พนักงานเจ้าที่ดำเนินการแก้ไขรายการจดทะเบียนในโฉนดที่ดิน   
ให้ถูกต้องตามความเป็นจริงได้     หากพนักงานเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่า    เป็นการจดทะเบียนไปโดยคลาดเคลื่อน 
ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดไว้ต่อไป  ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ 
หากผลการสอบสวนเป็นที่ยุติว่า  การจดทะเบียนขายที่ดินทั้งสองแปลงให้แก่ นาง ก. และน้องสาวเป็นไปโดยคลาดเคลื่อน 
และอธิบดีกรมที่ดินหรือรองอธิบดีซึ่งอธิบดีมอบหมายมีคำสั่งให้แก้ไขรายการจดทะเบียนแล้ว     
ในการแก้ไขผู้ขอก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

                    ๒.  แต่หากข้อเท็จจริงในเรื่องที่    นาง ก.   สอบถามมาไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะแก้ไขรายการจดทะเบียนได้   
หาก นาง ก. และน้องสาวต้องการมีชื่อในโฉนดที่ดินให้ตรงกับที่ดินที่ครอบครอง  ทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องโอนที่ดินให้แก่กัน 
ในการจดทะเบียนโอนไม่ว่าจะเป็นการขายหรือให้เปล่าจะเสียค่าใช้จ่ายดังนี้

                             -  เสียค่าธรรมเนียมร้อยละ  ๒  จากราคาประเมินทุนทรัพย์  ตามมาตรา  ๑๐๔  แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน 
และกฎกระทรวง  ฉบับที่  ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑)  ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน  พ.ศ. ๒๔๙๗  ข้อ  ๒ (๗)(ก)
                             -  เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย  จากราคาประเมินทุนทรัพย์  ตามวิธีการที่กำหนดในประมวลรัษฎากร 
มาตรา  ๔๘(๔)  มาตรา  ๔๙  ทวิ  และมาตรา  ๕๐ (๕)  ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่       จะคำนวณให้ในขณะจดทะเบียน
                             -  เสียอากรแสตมป์ใบรับ  สำหรับจำนวนเงินตั้งแต่  ๒๐๐  บาทขึ้นไปทุก  ๒๐๐  บาท  หรือเศษของ  ๒๐๐  บาท 
เสียค่าอากรแสตมป์  ๑  บาท (หรือร้อยละ  ๕๐  สตางค์)  คำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์หรือจำนวนทุนทรัพย์ที่ผู้ขอแสดง 
แล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า  ตามมาตรา  ๑๒๓  ตรี  แห่งประมวลรัษฎากร
                             -  เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ  (หากอยู่ในหลักเกณฑ์ที่ต้องเสีย)  ร้อยละ  ๓.๓  (รวมภาษีท้องถิ่น) 
จากราคาประเมินทุนทรัพย์ หรือจำนวนทุนทรัพย์ที่ผู้ขอแสดง แล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า    ตามมาตรา  ๙๑/๒ (๖)  และมาตรา  ๙๑/๖ (๓) 
เมื่อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะแล้วย่อมได้รับยกเว้นอากรแสตมป์ใบรับ  แต่หากเป็นการขายที่ดินและบ้านที่ผู้ขายมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
ตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎร  เป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปีนับแต่วันที่ได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์
หรือได้ครอบครองที่ดินและบ้านมาแล้วเป็นเวลา  ๕  ปี  ย่อมไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
 
                                      สรุปโดย  กลุ่มพิจารณาปัญหาข้อหารือและร้องเรียน
                               ส่วนมาตรฐานการจดทะเบียนฯ  สำนักมาตรฐานการทะเบียนที่ดิน
                                                            มีนาคม  ๒๕๔๙
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
ค..ควาย...ใส่ชฎา
Hero Member
*****

คะแนน -15856
ออฟไลน์

กระทู้: 13569


No justice No peace


« ตอบ #42 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2017, 03:41:37 PM »

https://deka.in.th/view-6144.html

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2537

คำพิพากษาย่อสั้น

คำฟ้องสำนวนแรกโจทก์อ้างการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทด้วยการครอบครองปรปักษ์
ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา1382 อันเป็นการกล่าวอ้างการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยนิติเหตุ
ส่วนคำฟ้องสำนวนหลังโจทก์อ้างการได้มาโดยการที่โจทก์ซื้อที่ดินพิพาทมาจากจำเลยที่ 1 จึงเป็นการกล่าวอ้าง
การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทโดยทางนิติกรรม ถึงแม้คำขอของโจทก์ทั้งสองสำนวนจะเป็นอย่างเดียวกันคือ
ขอให้เปลี่ยนชื่อในโฉนดที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ก็ตาม เมื่อคำฟ้องในสำนวนคดีหลังข้ออ้างที่จะต้องวินิจฉัย
ไม่ใช่อย่างเดียวกันกับข้ออ้างในคำฟ้องสำนวนแรก จึงถือไม่ได้ว่าเป็นกรณีที่เป็นการยื่นฟ้องในเรื่องเดียวกัน
อันจะถือว่าเป็นการฟ้องซ้อนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173(1) จำเลยที่ 1
ขายที่ดินโฉนดเลขที่ 5178 แก่โจทก์ และขายที่ดินโฉนดเลขที่ 2799 แก่จำเลยที่ 2 แต่ได้มีการโอนที่ดินในโฉนดผิดแปลงกัน
การที่โจทก์กับจำเลยที่ 2 รับโอนโฉนดที่ดินสลับกันมาเป็นเพราะความเข้าใจผิด แต่โจทก์และจำเลยที่ 2
ได้ครอบครองที่ดินถูกต้องตลอดมา ศาลพิพากษาให้โจทก์และจำเลยทั้งสองจดทะเบียนโอนที่ดินโฉนดที่ถูกต้องได้


กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173
บันทึกการเข้า

หัว...ฆรวย

หัวโขนมิวางออก              เจ้าหลงครอบไปทุกที่
อ่าองค์ว่าโสภี                  นฤดีปริ่มเปรมใจ
ลืมไปว่าที่ครอบ                ต้องวางออกนหทัย
สวมครอบตัวตนไว้             ก็แค่ควายใส่ชฎา
montri รักในหลวง
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน -120
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 1056



« ตอบ #43 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2017, 07:20:43 PM »

ได้ความรู้  ยังมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อีกเนาะ. น่าเห็นใจคนที่เป็นเจ้าของ ยุ่งยากน่าดู
บันทึกการเข้า
จอยฮันเตอร์
พระรามเก้า 15-28 E23 LLL
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 10195
ออฟไลน์

กระทู้: 47057


M85.ss


« ตอบ #44 เมื่อ: มิถุนายน 05, 2017, 08:55:08 PM »

สรุปก็คือเสียค่าธรรมเนียม บู่
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.122 วินาที กับ 22 คำสั่ง