http://www.banmuang.co.th/news/crime/82905เจ้าสัวบุญชัยอ่วม ! ดีเอสไอจ่อสอบสร้างบ้านพักหรูรุกป่า
ดีเอสไอ จ่อเรียก เจ้าสัวบุญชัย แจงรุกป่าควนโต๊ะหลาและป่าแหลมซำ
ข้องใจซื้อที่ดินสร้างบ้านพักหรูบนยอดเขาพังงาได้ไง
ทั้งที่ตั้งอยู่บนยอดเขาป่าทึบเขตพื้นที่สงวน เตรียมชงเป็นคดีพิเศษ
พร้อมขยายผลสอบแปลงข้างเคียงคาครุกป่านับพันไร่ ขู่สอบฟอกเงินด้วย
พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึงความคืบหน้า
การตรวจสอบบ้านพักขนาดใหญ่ 2 หลัง ตั้งอยู่บนสันเขาที่เป็นเทือกเขาสูงในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ
ป่าควนโต๊ะหลาและป่าแหลมซำ ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงาว่า ในสัปดาห์นี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ
จะเสนอให้รับคดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษ และตั้งเรื่องสอบสวนเพื่อทำการสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทันที
เพราะจุดที่ตรวจสอบการสร้างบ้านพักขนาดใหญ่บริเวณยอดเขาดังกล่าวเป็นป่ารกทึบ
รวมทั้งต้องสอบขยายผลไปยังแปลงข้างเคียงด้วยซึ่งน่าจะเป็น 1,000 ไร่
อย่างไรก็ตาม พยานหลักฐานที่ทำให้มั่นใจและเตรียมเสนอให้เป็นคดีพิเศษนั้น เนื่องจากเอกสาร
มันมีเงื่อนไขทางกฎหมายที่ไม่สามารถออกเอกสารได้คือพื้นที่ที่เป็นภูเขา ซึ่งมีข้อห้ามอยู่แล้วตามกฎหมายที่ดิน
ซึ่งระบุชัดเจนว่าห้ามออกเอกสารสิทธิในที่เขาหรือภูเขา และในเขตที่สงวนหวงห้ามของรัฐ
อีกทั้งในช่วงเวลานั้นมีหลักฐานเท็จหลายอย่าง เช่น เรื่องของการทำประโยชน์ ซึ่งมีการอ้างว่า
ทำสวนผลไม้มาแล้วกว่า 30 ปี ทั้งที่มันเป็นป่าล้วนๆ ซึ่งเป็นเท็จหมดทุกอย่าง และช่องทางตามกฎหมาย
ก็ไม่มีทางที่จะออกเอกสารสิทธิได้เลย ทั้งนี้ เราทราบผู้เกี่ยวข้องหมดทุกอย่างแล้ว
รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวด้วยว่า บริษัทที่จากการตรวจสอบพบว่าเป็นผู้ถือครอง รวมถึงผู้ที่ซื้อที่ดิน
ซึ่งเราต้องเรียกมาชี้แจงว่าซื้อมาอย่างไร หลักฐานการซื้อขายเป็นอย่างไร เพราะเราอาจทำเรื่องของคดีฟอกเงินด้วย
รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างนายบุญชัย เบญจรงคกุล หรือเจ้าสัวบุญชัย พนักงานสอบสวนก็จะต้องเรียกมาชี้แจง
เพราะเขาเป็นผู้ที่เคยซื้อที่ดินตรงนี้ โดยปัจจุบันพบว่านายบุญชัยได้ให้อดีตภรรยาเป็นผู้ถือครองที่ดินตรงนี้
"จากการสอบสวนคนที่เฝ้าบ้านหลังนั้น แต่ว่าเขาไม่ได้ใช้ชื่อตัวเขา ใช้ชื่อของบริษัทหนึ่ง
ซึ่งทีแรกเราก็ไม่กล้าพูดว่าเป็นของเขา กระทั่งเราเข้าไปตรวจค้น คนที่ดูแลบ้านก็บอกว่า
เดิมเป็นของเจ้าสัวบุญชัย ต่อมาก็ได้มอบให้กับอดีตภรรยาไปแล้ว แต่เผอิญว่ามีการใช้ชื่อบริษัทหนึ่ง
เข้ามาถือครองแทน ดังนั้น เราจึงต้องเรียกผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาชี้แจง" พ.ต.ท.ประวุธ กล่าวพร้อมระบุว่า
สำหรับการรื้อถอนบ้านหลังดังกล่าวออกจากพื้นที่นั้น กรณีนี้จะเริ่มเมื่อมีการเพิกถอนโฉนดแล้ว
ซึ่งพอสอบสวนเสร็จก็คงใช้เวลาไม่นาน เพราะมันไม่ต้องไปสอบสวนพยานบุคคลมาก
เพราะมันจะเป็นความผิดเฉพาะตัวของผู้กระทำผิดเอง