กรรมตามทันหรือว่าบังเอิญ

[Nattapol]

http://www.thaifoodnow.com/owl24/KHK/KHK-0008.htm

http://www.thaifoodnow.com/owl24/KHK/KHK-0007.htm

http://www.thaifoodnow.com/owl24/KHK/KHK-0013.htm

[524]

 .. ความเลว.. ยากจะออกมาจากปากของคนที่เจตนากระทำ. แต่คงปกปิดไว้ได้เพียงระยะเวลาหนึ่ง เท่าที่มีอำนาจ.. ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นสัจธรรม..ไม่มียกเว้น.ไว้เป็นคุณกับใคร.. เชื่อว่า คงทันได้เห็น กรรมตามทัน..

[ออด]

กรรม คือ การกระทำ จะเป็นการดีก็ได้ การชั่วก็ได้ เช่น กุศลกรรม อกุศลกรรม

การกระทำดีย่อมได้ความดี การกระทำชั่วยอมได้ความชั่ว

ทั้งความชั่ว และความดี จะส่งผลถึงผู้กระทำหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำนั้น ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ไม่เร็วก็ช้าแน่นอน

ความชั่ว ความดี เกิดขึ้นที่ใจของผู้กระทำ  เรามีสติแล้วทำอะไรลงไป เราย่อมรู้อยู่แก่ใจ ถึงแม้ผู้อื่นไม่รู้ว่าเราได้ทำอะไรลงไป เช่น ถ้าเราไปทำผิดอะไร เราหลอกคนอื่นเขาได้แต่เราไม่สามารถหลอกตัวเราเองได้จริงไหม (คนอื่นไม่รู้ว่าเรากระทำแต่เรารู้เพราะเรากระทำ)

[โทน73 -รักในหลวง-]

ผมเป็นคนสมัยใหม่ไม่ค่อยเชื่อเวรกรรม ....

พี่บวชเรียน จนได้นักธรรมเอก   แล้วพี่เอาเรื่องแบบนี้มาเล่าให้พวกผมฟัง  ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าพี่ ไม่เชื่อเรื่องเวรกรรม  ผมว่าพี่เป็นคนอนุรักษ์นิยม  และเชื่อในเรื่องเวร กรรม (เหมือนผม  )

[p23-504 รักในหลวง]

คนเราทุกคนว่ายวนผลกรรมนำเนื่อง       
        ตกต่ำรุ่งเรืองเกี่ยวเนื่องแต่กรรมของตน
                  ทำดีทุกคนได้บุญกุศล     
                           ทำชั่วชั่วโฉดเฉาชน   
                                    ไม่พ้นผลกรรมซ้ำเติม
อย่าเพลินถือว่าเงินเป็นใหญ่
        จิตใจเหนือสิ่งใดล้ำค่า
                   เพราะความทุกข์ความสุขใด
                           เป็นที่ใจใช่ที่ตา
                                     อย่าพะวงหลงลืมตน

[KAHRPPK]

ผมเป็นคนสมัยใหม่ไม่ค่อยเชื่อเวรกรรม ....

พี่บวชเรียน จนได้นักธรรมเอก แล้วพี่เอาเรื่องแบบนี้มาเล่าให้พวกผมฟัง ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าพี่ ไม่เชื่อเรื่องเวรกรรม ผมว่าพี่เป็นคนอนุรักษ์นิยม และเชื่อในเรื่องเวร กรรม (เหมือนผม )

                                                                                                                                      ผมเคยบวชเหมือนกันแต่ไม่กี่เดือนครับ      ไม่ได้เรียนธรรม   ท่องมนต์อย่างเดียวก็จะเอาตัวไม่รอด     บางงานไปสวดก็ถึงกะนั่งเหงื่อตกเลยครับ   

[KAHRPPK]

         ตอนที่ผมบวชก็มีปัญหากะพระรุ่นเก่า     พระที่บวชหลายปืมาอ่านหนังสือธรรม    ผมนั่งฟังอยู่   มีข้อความว่า   พระพุทธเจ้าประพาสป่าทรงปราบยักษ์    ผมก็ย้อนถามไปเลยครับว่า     ตอนนี้ยักษ์ไปอยู่ที่ไหนครับ    พระท่านตอบไม่ได้    แต่มีญาติผมคนหนึ่งเขาเรียนอยู่ที่ญี่ปุ่น  มาบวช15วัน    เขาว่าเวลา15วัน    เขาจะต้องรีบศึกษาธรรมมะ    เขาอ่านหนังสือธรรมทุกวัน    ตั้งแต่เช้าถึงดึก    เขาตอบแทนพระท่านอื่นๆ     เขาตอบได้มีเหตุผลดีอยากให้คุณโทนเดาซิ    เขาตอบว่าอย่างไรครับ     

[Thanapong รักในหลวง]

ในหนังสือ เมฆเหิน น้ำไหล ของ สมเด็จพระเทพฯ มีข้อความตอนหนึ่งว่า "40 หายความ งง งวย  50 หากฎแห่งสวรรค์"

[pimuk]

ผมเห็นเรื่องลักษณะนี้อย่างน้อย 2 เรื่อง ผมสรุปว่าเป็นเรื่องของเวรกรรมครับ แต่บางครั้งการสนองกรรมใช้เวลานานนับสิบยี่สิบปีหรือถึงรุ่นลูก จึงจะปรากฏผลแห่งกรรมนั้น เหตุนี้นี่เองที่ทำให้หลายคนไม่เชื่อว่าเวรกรรมมีจริง แต่บางครั้งกรรมทันตาเห็นครับ ผมเชื่อครับ แม้แต่วิชาฟิสิกส์ก็ว่าไว้ว่า
Action = Reaction   

[KAHRPPK]

        ตอนที่ผมบวชพระอยู่    ผมได้หยิบหนังสือเก่าในกุฏิมาอ่าน    มีเรื่องเกี่ยวกะบาปกรรมและนิพพาน    ผมอ่านแล้วกลัว  อยากจะปฏิบัติธรรมมะให้ถึงนิพพาน    แต่พอคิดอีกทีถ้าเราปฏิบัติไป 30ปีแล้ว    เกิดไม่ใช่เรื่องจริง    ชีวิตนี้ผมคงเสียเวลาฟรี    ผมจึงตัดสินใจสึกครับ    ไปวัดดวงกะอนาคตข้างหน้าดีกว่าครับ

[โทน73 -รักในหลวง-]

..... เขาตอบแทนพระท่านอื่นๆ เขาตอบได้มีเหตุผลดีอยากให้คุณโทนเดาซิ เขาตอบว่าอย่างไรครับ

ไม่กล้าเดาครับ   ถ้าเป็นเรื่องที่พอจะเล่าให้กันฟังได้ ก็เล่าสู่กันฟัง สิครับ  ....ถือว่าเป็นความรู้อีกแขนง

[KAHRPPK]

      เขาไม่ได้ตอบว่าพระรามปราบหมดหรอกครับ 55555555       เขาว่าให้เราดูว่าอ่านจากหนังสืออะไร    ถ้าจากนิทานชาดก  ก็คือแต่งขึ้นเพื่อสอนคน    ถ้าเป็นหนังสืออื่นๆ  เขาว่าในสมัยโบราณมนุษย์ตัวใหญ่บางเผ่าพันธุ์อาจกินคนเหมือนในหนัง     เจ้าคนตัวใหญ่นี่     คนตัวเล็กมองเห็นอาจว่าเป็นยักษ์     แต่เขาว่ายักษ์อีกเรื่องหนึ่งคือ     พระพุทธเจ้าท่านเปรียบกิเลสเหมือนยักษ์มาร    การปราบยักษ์ปราบมารก็คือการปราบกิเลส      คุณโทนเห็นด้วยกะเขาไหมครับ    น่าแปลกคนเพิ่งบวชได้ไม่ถึง10วัน   ตอบแล้วฟังดูดี    แต่พระตั้งแต่บวช2ปีถึง40ปี ตอบไม่ได้สักองค์เลยครับ     แสดงว่าการบวช นานไม่ช่วยให้คนเก่งขึ้น   ผมว่าอยู่ที่ทักษะของคนครับ     คนที่เขาตอบคนนี้สอบได้ทุนไปเรียนญี่ปุ่น    แสดงว่าเขาสมองดีมากครับ

[ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป]

คงไปโทษพระท่านไม่ได้หรอกครับ เพราะว่าแต่ละท่านได้รับการอบรมสั่งสอนมาไม่เท่ากัน สุดแต่บุญกรรมทำไว้

พระนี่ก็คนครับ มีความนึกคิด จริตเดิมเป็นทุนอยู่ทุกคน คนดีคนแสวงหาความรู้ จะอยู่ในคราบไหนก็สั่งสมความรู้
คนไม่สนใจ ไม่ว่าจะนุ่งเหลือง นุ่งขาว ก็ไม่ยอมสนใจใฝ่เรียนอยู่ดี

สิ่งเหล่านี้ ผมไม่มองว่าเป็นความฉลาดหรือความโง่ แต่มองว่า เป็นผลจากการสั่งสอนอบรมครับ
พระเองเพิ่งบวชใหม่เป็นพระนวกะ ก็ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่าคนทั่วไปๆ แต่พระเหล่านี้ท่านจะได้รับการอบรมบ่มนิสัย
จากพระอาจารย์ต่างๆ ถ่ายทอดความรู้ วัตร และ แนวการปฏิบัติให้ คนที่เคร่งที่สำรวมเอาใจใส่ ก็น่าเลื่อมใส
คนที่ไม่สำรวม ไม่เอาใจใส่ ก็กลายเป็นว่า อาศัยผ้าเหลืองเลี้ยงชีพ

การบวช นั้นแปลว่าการตัด ตัดแล้วซึ่งทางโลก กลายเป็นผู้ไม่มีเรือน เปลี่ยนวิถีชีวิต เพื่อให้ง่ายต่อการปฏิบัติ
เมื่อไม่มีครอบครัว ย่อมไม่มีห่วง บิณฑบาตรเลี้ยงชีพ ก็เพื่อไม่ต้องกังวลว่าจะทำมาหากินอะไร
ครองผ้าสามผืนเพื่อให้ไม่ต้องกังวลเรื่องแต่งตัว โกนหัวก็เพื่อไม่ต้องจัดแต่งทรงผมดูแล
เมื่อตัดปัญหารุมเร้าเหล่านี้ได้ ก็มีเวลามากพอที่จะศึกษาและปฏิบัติ เพื่อการหลุดพ้น

แต่กลายเป็นว่าพักหลัง เราบวชเพื่อให้คนนู้นคนนี้สบายใจ บวชเพื่อหนีทหาร บวชเพื่อแก้บนซะอย่างนั้น

การที่พุทธศาสนาและหลักธรรมขององค์พระจอมไตร ไม่เป็นที่แพร่หลายนั้น ก็เพราะขาดผู้รู้ที่สามารถถ่ายทอดให้เข้าใจได้
ไม่ใช่ว่า ข้อธรรมะนั้นไม่ดี ธรรมะนั้นเป็นของดี แต่ขาดคนส่งสาส์นที่ดี เลยทำให้คนไทยเข้าใจคลาดเคลื่อนไป
กลายเป็นว่าธรรมะนั้นเป็นเรื่องของคนแสวงหานิพพาน หรือเป็นเรื่องของสงฆ์เท่านั้น
ทั้งที่ 84000 พระธรรมขันธ์ ไม่ได้ว่าไว้ในเรื่องอื่นใดเลย นอกจากการครองชีวิตให้เป็นสุข ไม่ว่าจะสถานภาพของสงฆ์ หรือปุถุชน

มีคนเคยพูดไว้ว่า พุทธศาสนา จริงแล้วไม่ใช่ศาสนา เพราะไม่สอนให้คนเชื่อ แต่สอนให้คนวิเคราะห์หาเหตุผลแล้วจึงเชื่อ
ข้อธรรมะก็ไม่ได้เป็นไปเพื่อความงมงาย หากแต่เป็นชีวิตที่สอนชีวิต เป็นแนวทางดำเนินชีวิตเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
เป็นไปเพื่อสุขภายในตัวเรา และสุขภายนอกที่คนทุกคน เดินทางสายสว่าง ไม่เบียดเบียนหรือทำร้ายซึ่งกันและกัน

ขอธรรมะสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านครับ

[Tiger wut]

คงไปโทษพระท่านไม่ได้หรอกครับ เพราะว่าแต่ละท่านได้รับการอบรมสั่งสอนมาไม่เท่ากัน สุดแต่บุญกรรมทำไว้

พระนี่ก็คนครับ มีความนึกคิด จริตเดิมเป็นทุนอยู่ทุกคน คนดีคนแสวงหาความรู้ จะอยู่ในคราบไหนก็สั่งสมความรู้
คนไม่สนใจ ไม่ว่าจะนุ่งเหลือง นุ่งขาว ก็ไม่ยอมสนใจใฝ่เรียนอยู่ดี

สิ่งเหล่านี้ ผมไม่มองว่าเป็นความฉลาดหรือความโง่ แต่มองว่า เป็นผลจากการสั่งสอนอบรมครับ
พระเองเพิ่งบวชใหม่เป็นพระนวกะ ก็ไม่ได้รู้อะไรมากไปกว่าคนทั่วไปๆ แต่พระเหล่านี้ท่านจะได้รับการอบรมบ่มนิสัย
จากพระอาจารย์ต่างๆ ถ่ายทอดความรู้ วัตร และ แนวการปฏิบัติให้ คนที่เคร่งที่สำรวมเอาใจใส่ ก็น่าเลื่อมใส
คนที่ไม่สำรวม ไม่เอาใจใส่ ก็กลายเป็นว่า อาศัยผ้าเหลืองเลี้ยงชีพ

การบวช นั้นแปลว่าการตัด ตัดแล้วซึ่งทางโลก กลายเป็นผู้ไม่มีเรือน เปลี่ยนวิถีชีวิต เพื่อให้ง่ายต่อการปฏิบัติ
เมื่อไม่มีครอบครัว ย่อมไม่มีห่วง บิณฑบาตรเลี้ยงชีพ ก็เพื่อไม่ต้องกังวลว่าจะทำมาหากินอะไร
ครองผ้าสามผืนเพื่อให้ไม่ต้องกังวลเรื่องแต่งตัว โกนหัวก็เพื่อไม่ต้องจัดแต่งทรงผมดูแล
เมื่อตัดปัญหารุมเร้าเหล่านี้ได้ ก็มีเวลามากพอที่จะศึกษาและปฏิบัติ เพื่อการหลุดพ้น

แต่กลายเป็นว่าพักหลัง เราบวชเพื่อให้คนนู้นคนนี้สบายใจ บวชเพื่อหนีทหาร บวชเพื่อแก้บนซะอย่างนั้น

การที่พุทธศาสนาและหลักธรรมขององค์พระจอมไตร ไม่เป็นที่แพร่หลายนั้น ก็เพราะขาดผู้รู้ที่สามารถถ่ายทอดให้เข้าใจได้
ไม่ใช่ว่า ข้อธรรมะนั้นไม่ดี ธรรมะนั้นเป็นของดี แต่ขาดคนส่งสาส์นที่ดี เลยทำให้คนไทยเข้าใจคลาดเคลื่อนไป
กลายเป็นว่าธรรมะนั้นเป็นเรื่องของคนแสวงหานิพพาน หรือเป็นเรื่องของสงฆ์เท่านั้น
ทั้งที่ 84000 พระธรรมขันธ์ ไม่ได้ว่าไว้ในเรื่องอื่นใดเลย นอกจากการครองชีวิตให้เป็นสุข ไม่ว่าจะสถานภาพของสงฆ์ หรือปุถุชน

มีคนเคยพูดไว้ว่า พุทธศาสนา จริงแล้วไม่ใช่ศาสนา เพราะไม่สอนให้คนเชื่อ แต่สอนให้คนวิเคราะห์หาเหตุผลแล้วจึงเชื่อ
ข้อธรรมะก็ไม่ได้เป็นไปเพื่อความงมงาย หากแต่เป็นชีวิตที่สอนชีวิต เป็นแนวทางดำเนินชีวิตเพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
เป็นไปเพื่อสุขภายในตัวเรา และสุขภายนอกที่คนทุกคน เดินทางสายสว่าง ไม่เบียดเบียนหรือทำร้ายซึ่งกันและกัน

ขอธรรมะสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านครับ

สาธุ............

[โทน73 -รักในหลวง-]

บางครั้งที่ท่านไม่ตอบ ก็เพราะไม่แน่ใจว่าคนถามต้องการคำตอบหรือไม่ ื ถามตอบกันไปจะกลายเป็นวิวาทะกันเปล่าๆ  เป็นอาบัติ ยึดขันติ นิ่งเสีย เรื่องก็จบ

สมัยผมบวช ถ้ามีคนมาถามแบบนี้ พระในวัดที่ผมจำอยู่  มี2-3 ท่านเท่านั้นที่ตอบได้ครับ  เพราะส่วนใหญ่ท่านอาจารย์เน้น การฝึกสันโดด อยู่ในป่า พึงตนเอง อยู่คนเดียว กุฎิบางหลัง กรงหมายังดูดีกว่าเสียอีก วัดใหญ่ดูแลลำบาก ไฟฟ้าไม่มี เห็นกระจกเงาครั้งแรกก็ตอนไปบริจาคเลือดที่โรงพยาบาล อดอย่างเดียว ข้อวัตรปฏิบัติเยอะ  ท่านพร่ำสอนว่ามีเวลาก็ฝึกภาวนา ใครไม่ชอบทำหรือทำไม่ได้ก็ฝึกให้อยู่นิ่งๆสงบคนเดียว อย่าไปกวนคนอื่น  เรื่องหนังสือนักธรรม ตำนานชาดกต่างๆ แทบไม่มีคนรู้เลย เหตุที่ท่านไม่สอนเพราะท่านรู้ว่าพวกผม บวชกันไม่นาน หนังสือพวกนี้หาอ่านข้างนอกได้ง่าย แต่โอกาสปฏิบัติธรรมจริงๆมีน้อย ควรใช้เวลาที่มีอยู่มาฝึกจริงๆจังๆมากกว่า