ได้ความรู้จากท่านมะขิ่น อย่างต่อเนื่องครับ
เท่าที่ผมอ่านดูพบว่า
ปืน G11 เริ่ม ทำประมาณ ปี 1960 ตอนนั้นทางเยอรมันตะวันตก ต้องการทำปืน rifle ที่เบา และยิงแม่นกว่า มาแทนปืน G3
ตอนเริ่มแรก แนวคิดคือ caliber ต้องเล็กๆ ยิงได้เร็วมากๆๆ โดยใช้กระสุนที่ไม่มีปลอก และเพื่อให้อำนาจหยุดยั้ง และอำนาจสังหาร ของปืนมีมาก เพราะฉะนั้นปืนต้องมีความสามารถยิงเร็วเป็นสามเท่า และจุกระสุนได้มากในแมกกาซีน
ปืน G11 เกิดขึ้นจากการร่วมมือกันของ HK และ บริษัท dynamit nobel โดย HK ทำปืน dynamit nobel ทำกระสุนไร้ปลอก
หลักการของปืน G11 คือ
ตำแหน่งกระสุนป้อนเข้า อยู่ท้ายลำกล้องปืน บิดได้ 90 องศา
กระสุนในแมกกาซีน จะโหลด เหนือ ลำกล้อง กระสุนจะตกลงมาใน chamber หรือ รังเพลิง
chamber จะหมุน 90 องศา เพื่อให้ทิศทางกระสุน ตรงกับลำกล้องพอดี หลังจากนั้นกระสุน ถูกยิงออกไป
chamber จะหมุนกลับมาตำแหน่งเดิม เพื่อนำกระสุนนัดต่อไปเข้ารังเพลิง พร้อมยิง
กรณีกระสุนด้าน กระสุนที่ด้านจะถูกดันให้ตกลงมา โดยกระสุนนัดถัดไป โดยการใช้มือหมุนคันโยก ที่อยู่ด้านข้างปืน
ตัวโยกนี้จะไม่เคลื่อน ขณะยิง
จุดที่น่าสนใจ อีกอย่างคือ ลำกล้อง ,ชุดป้อนกระสุนหมุนได้ ที่ท้ายปืน,ตัวป้อนกระสุน , แมกกาซีน ถูกทำให้เป็นชุดเดียวกัน ใน housing และสามารถเคลื่อนที่ ไปข้างหน้า และ หลัง ตอนที่ประกอบอยู่ในปืน rifle ได้
ตอนยิง single shot ชุดนี้ จะเคลื่อน ไปหลังและกลับไปหน้า ทุกครั้งที่ยิง
ตอนยิง full auto ชุด housing นี้ก็เลื่อน ไปหลัง และกลับไปหน้า ทุกครั้งที่ยิง โดยประมาณแล้ว คือ 600 นัด ต่อ นาที แต่ว่า ........ปืนG11 ทำมาในระบบ three round bursts ( ประมาณว่า ยิงเร็วกว่าปกติ สามเท่า) กระสุนนัดที่สอง และ สาม จะ ถูกป้อน และ ยิงทันทีตอนที่ รังเพลิงพร้อม กระสุนนัดที่สามพุ่งพ้นลำกล้อง ก่อนที่ ชุด housing จะเคลื่อนมาถึง ตำแหน่ง ท้ายสุด การออกแบบ แบบนี้ทำให้ยิงได้เร็วมาก เป็นผลให้รูปแบบที่เรียกว่า three shot bursts สามารถยิงได้ประมาณ 2000 นัดต่อนาที
ปืน rifle G11 มีการติดตั้งกล้อง และมีเป้าวงกลม กระบอกที่เป็นต้นแบบ แมกกาซีน จุได้ 50 นัด ทำด้วย polymer กระบอกที่ถูกพัฒนาขั้นสุดท้าย จุได้ 45 นัด ในแมกกาซีน อันที่จะใช้งานก็ load ใส่ไว้ใน ชุด housing ที่เคลื่อนที่ได้ พร้อมยิง อีกสองอัน ก็เป็นspare จะอยู่ด้านบนของ rifle
กระสุนไร้ปลอก ตอนแรก ถูกออกแบบ เป็นก้อนของดินปืน โดย สารไวไฟ ไปหุ้มที่ ดินปืน แล้วเอา หัวกระสุน + prime ไปติดบนก้อน ดินปืน ด้วยกาว
กระสุนไร้ปลอก ตัวสุดท้าย คือ DM11 ซึ่งเกินขึ้นกลางปี 1980 ความเร็วประมาณ 930-960 เมตร ต่อวินาที
ตอนท้านปี 1980 กองทัพเยอรมัน ทดสอบภาคสนาม ปืน G11 แล้วก็มีการปรับปรุง เช่น การ ย้ายตำแหน่ง กล้องเล็ง ติดตั้ง spare แมกกาซีน สองอัน บน rifle และ มีการติดตั้ง ขาตั้งสองขา ที่ปากกระบอกปืน
ตัวที่ modified แล้ว เรียกว่า G11K2 ทดสอบในปี 1989 พบว่า อย่างน้อย ก็แม่นยำกว่า G3 ถึง 50%
ล็อตแรกประมาณ 1000 กระบอก ของ G11K2 ถึงกองทัพเยอรมัน ปี 1990
แต่ว่ามีเหตุผลบางอย่าง ทำให้รัฐบาลเยอรมัน ยกเลิกโครงการ นี้ทั้งหมด
ผู้เขียนให้ทรรศนะว่า น่าจะมาจาก ความเห็นที่ไม่ลงตัวกัน เมื่อรวมเยอรมัน ตะวันตก และ ออก เข้าด้วยกัน
และ อีกเหตุผลหนึ่งคือ มันขัดกับนโยบาย ของ NATO ในเรื่องของการออกแบบกระสุน และ แมกกาซีน ปืน rifle
หลังจากนั้นมีการ modified ปืน G11 อีกเล็กน้อย และทดสอบ ที่ USA ปี 1990 แต่ทางกองทัพสหรัฐ ไม่มีแนวคิดที่จะนำปืน G11 นี้ไปประจำการแต่อย่างใด แค่ทดสอบดูว่า เทคโนโลยี ใหม่ รวมกับ การออกแบบใหม่ ให้ผลเป็นอย่างไรบ้าง ผลคือ ปืน G11 แม่นยำมาก พกพาได้ง่าย ยิงง่าย และเป็นปืนที่ไว้ใจได้
