คราวที่แล้วเล่าถึงการนั่งรถส่องไฟยิง ไม่รู้ว่ามีใครได้อ่านมั่งป่าวนะ ? ใครจะอ่านหรือป่าวไม่รู้แต่อยากเล่าง่ะ
คราวนี้จะเล่าถึงการเดินส่องไฟมั่งละกันนะครับ เดี๋ยวจะพาไปส่องกบภูเขา
อุปกรณ์ที่ใช้ก็ใกล้เคียงกันกับคราวก่อน แต่มีเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบนิดหน่อย
-รถขับเคลื่อน 4 ล้อเหมือนเดิม (คราวนี้เอาไว้ขับเข้าป่าพาเราไปส่งที่ริมลำห้วย)
-ไฟสปอร์ตไลน์เปลี่ยนจากแบบที่ต่อกับแบตเตอรี่รถยนต์ มาเป็นไฟฉายคาดหัวที่ใช้กับแบตเตอรี่แห้งขนาด 6 โวลท์ก็พอ ใช้ขนาด 12 โวลท์มันใหญ่ไป หนัก.... แล้วก็ถ้าเลือกได้ให้ใช้แบตฯชนิดที่ไม่ต้องเติมน้ำกรดนะครับ แบบนั้นเวลาเดินถ้ามันหกใส่เสื้อผ้า กางเกงล่ะก็ โอยยย หมดกัน ทะลุเป็นรูล่ะคับ
-ปืนครับปืน คราวนี้ไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ เอาขนาด .22 ก็พอ ติดๆรถไป หรือแค่ปืนสั้นก็พอ (เดี๋ยวจะบอกว่าเอาไปมากมันไม่ดียังไง)
-(อันนี้สำคัญครับ) ฉมวกไง คราวนี้ฉมวกเป็นพระเอก ปืนเป็นพระรองไปแล้ววววว
-แล้วก็สิ่งสำคัญชนิดที่ลืมไม่ได้เลยนะครับ ต้องย้ำว่าอย่าลืม เหล้าครับเหล้า ถ้าจะให้เข้าบรรยากาศต้อง 40 ดีกรี ดองด้วยเสือ 11 ตัว อืมมมมม เปี๊ยวปาก อย่าลืมเป็นอันขาด ถ้าลืม...หมดสนุก..
-นี่ก็เหมือนกัน พยายามติดไปด้วยเวลาดึกๆเอาไว้รองท้อง กาแฟ มาม่า ไวไว
-เป้ คราวนี้ต้องใช้เป้แล้วครับเพราะเราต้องเดิน เอาไว้ใส่อุปกรณ์ต่างๆที่บอกมาล่ะครับ ฉมวกอย่าไปใส่หล่ะเดี๋ยวชักไม่ทัน ฮ่ะๆ
พร้อมแล้วไปกันดีกว่าครับ ขึ้นรถเลยอย่าช้าเดี๋ยวจะเสียเวลา เวลาเดินทางก็กะเวลาอย่าให้มืดเกินไปเพราะจะต้องไปอุ่นเครื่องกันก่อนที่จะเดินส่อง เดี๋ยวของที่เตรียมไปจะเหลือ พูดถึงกบภูเขา(แถวๆที่บ้านเขาเรียกกบธูปไม่รู้ว่าที่อื่นเรียกอย่างไร) ไม่ทราบว่าเคยเห็นหรือเคยกินกันป่าวครับ สำหรับคนที่ไม่เคยอยากจะบอกว่า อืม....อร่อยยยยมากกกกกกก เนื้อแน่น แต่ไม่เหนียว รูปร่างหน้าตาก็คล้ายๆเขียดนะครับ คือผิวหนังจะเรียบไม่ขรุขระเหมือนกบท้องนา ตัวใหญ่กว่ากบตามท้องนามาก ถ้าใหญ่ๆก็ตัวละประมาณครึ่งกิโล "ครับ 2ตัวโล" เชื่อป่าว? จริงๆนะคับ ครั้งหนึ่งเคยไปเที่ยวป่าลึกพอสมควร เอาตะข่ายไปหาปลาตามลำห้วยตอนกลางวัน เจอลูกอ๊อดของกบภูเขาเต็มลำห้วยไปหมด เชื่อหรือป่าวว่าลูกอ๊อดของกบที่ยังมีหางอยู่นะครับยังว่ายอยู่ในน้ำเลย ตัวขนาดนิ้วโป้งเท้าของคนเราเนี่ยแหละครับเต็มลำห้วยไปหมด โอยยยย เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็น ตอนกลางคืนเดินส่องไปตามลำห้วยเจอตัว นั่งหน้าแฉล้มอยู่บนขอนไม้คางขาวจั๊ว ตัวขนาดกระป๋องเป๊บซี่ล่ะครับ เลยซัดด้วย .22 หงายหลังลงไปเลย ปรากฏว่าไงรู้ไม๊ครับ พวกกระโดดลงน้ำไปเฉยเลย ไอ้ตายน่ะตายแน่ แต่มันไม่คาที่นี่แหละครับเชื่อหรือป่าว?.22เอาไม่อยู่ (ความอึดของสัตว์ป่าเนี่ยเอาไว้จะเล่าให้ฟังถึงความอึดของหมีควาย ว่ามันอึดขนาดไหน) ฤดูกาลที่เหมาะสมในการหากบภูเขาก็อยู่ในช่วงต้นหนาว ประมาณเดือน พฤศจิกายนนี่แหละครับ กบจะออกจากที่จำศีลใต้ขอนไม้ ตามเนินเขาใกล้ๆกับแถวๆลำห้วยที่จำศีลอยู่ล่ะครับ พอสักประมาณ 3 ทุ่มก็จะเริ่มลงมาที่ลำห้วยเพื่อผสมพันธ์ ช่วงนี้แหละครับที่เรามาคอยจ้องจับ (เฮ้อ!!! ยังไม่ได้ลิ้มรสความสุขเลย ตายซะแล้วววว) วิธีการจับก็คือ เดินไปตามลำห้วย (ต้องเดินด้วยความระมัดระวังหน่อยนะครับเพราะลำห้วยในป่าน่ะมันมีทั้งตื้นทั้งลึกแบบว่าสังเกตุไม่รู้เลยเนื่องจากน้ำใสมากๆ) ใช้ไฟส่องหาไปเรื่อยๆตามแนวลำห้วย ริมๆตลิ่งนะครับ การจะสังเกตุว่าอันไหนกบ อันไหนก้อนหิน ก็สังเกตเอาจากดวงตา ตากบจะสะท้อนแสงออกส้มๆเหลืองๆ และจะเห็นคางของกบ ขาววววว ยังกะขานางงามเชียวแหละ !!อึ่ยยยยน้ำลายไหล อยากกกกินกบ!! คราวนี้ก็แค่เอาฉมวกแทงลงไปแล้วกดลงกับดินให้แน่น ไม่งั้นมันจะพาเอาฉมวกของท่านกลับบ้านไปด้วย เพราะว่า กบภูเขาแข็งแรงมาก กล้ามขายังกะนักเพาะกาย ถึงที่แล้วครับ ลงไปเดินส่องกันได้แล้ว
- พี่!! โอ้โห น้ำในห้วยเย็นเจี๊ยบเลยง่ะ เอาเหล้ามาอุ่นเครื่องหน่อยดิ
- เออ!! เอาดิ อยู่ในเป้หลังน่ะ
- อืมมมม ค่อยยังชั่วหน่อย เอาเก็บไว้ที่พี่นะ เดินดีๆหล่ะระวังอย่าให้ลื่นล้มเปียกน้ำล่ะ ปืนสั้นกับเสบียงอยู่ในเป้ด้วย
- จ๋อม!! สวบบบ บุ๋งๆๆๆ
- อ้าววว เฮ้ยยยย ไอ้เวร!! เตือนเราซะดิบดี เปียกไปแล้ว เมิงเอ๊ยยยยย
ฮ่ะๆๆ เห็นมะ เอาปืนไปด้วยมันไม่ดีตรงที่ มันจะเปียกน้ำเอา