เลือกซื้อจากท่านที่ควรไว้ใจครับ
สังเกตุจากสถานะของสมาชิกครับ ถ้าท่านที่เก๋าๆ จะมีดาวเยอะๆ และมีสถานะเป็น Family Member อะไรประมาณนี้ แสดงว่าท่านเหล่านั้น เป็นสมาชิกมานานครับ
เห็นด้วยกับหลายท่านที่บอกว่า ซื้อปืนควรได้เห็น ได้ดูก่อนค่อยซื้อ แต่ถ้าทำไม่ได้ และอยากได้จริงๆ และมันอยู่ไกลมากๆ ก็ลองใช้หลักการต่อไปนี้ดูก็น่าจะใช้ได้ ครับ
1. สอบถามรายละเอียด ทางโทรศัพท์ ให้ได้มากที่สุด ไม่ต้องเกรงใจ ถ้าผู้ขายอยากขายจริงๆ และปืนที่ไม่มีปัญหา ผู้ขายย่อมไม่รังเกียจที่จะบอกรายละเอียด
- หมายเลขตัวปืน ยี่ห้อ
- หมายเลขทะเบียนปืน
- ชื่อเจ้าของ
- อำเภอที่ออก ป.4
- หมายเลข ป.4
และประเภทที่บอกว่า ปืนไม่อยู่ที่ตัว บอกรายละเอียดไม่ได้ หรือดูรายละอียดไม่เป็น บอกไม่ได้
ให้ห่างๆ ไว้ครับ น่ากลัว ผิดวิสัยของผู้ที่ต้องการจะขายปืน
2. นำรายละเอียดที่ได้ โทรติดต่อทาง อำเภอที่ออก ป.4 ทางโทรศัพท์ เพื่อเช็คความถูกต้องเบอร์โทรฯ ที่ว่าการ อำเภอต่างๆ หาได้จาก เนต ง่ายมาก ถ้า ป.4 ตรงตามรายละเอียดที่ได้ก็ลุยเลย
3. ขอดูรูป โดยละเอียด หลายๆ มุม เท่าที่จะทำได้ มุมที่นิยม
- โชว์ตัวเต็มด้านซ้าย ด้านขวา
- โชว์ เกลียวลำกล้อง ช่องโม่
- โชว์การแขวนสไลด์ หรือเปิดบานพับ
ฯลฯ
4. ให้ส่งทางพัสดุ เก็บเงินปลายทาง รับประกัน โดย ตั้งราคาให้เหลือไว้บางส่วน (ถ้าผู้ขายยอม) เช่น ราคาปืน 5 หมื่น ให้แยกส่งเป็น 2 กล่อง กล่องละ 2 หมื่น (เพราะไปรษณีย์ กำหนดไว้เท่านี้ ห้ามเกิน) ที่เหลือ 1 หมื่น ให้โอนให้เมื่อได้รับของเรียบร้อยแล้ว เป็นต้น
- อย่าซื้อขายทางการโอนเงินผ่านธนาคาร โดยที่ยังไม่ได้รับของ น้ำตาตกมานักต่อนักครับ
5. การเจรจาพูดคุย ตกลงเงื่อนไข ต่างๆ พยายามถามชื่อสกุลจริง อย่าใช้นามแฝงใน web เพราะนามแฝงก็คือนามแฝง เมื่อมีปัญหา หาตัวตนจริงๆ ยากมาก
6. ถ้าขอสำเนาบัตร ผู้ขายได้ก็จะเป็นการดี โดยเราต้องแสดงความจริงใจเหมือนกันโดยส่งสำเนา ป.3 (ในกรณีถือ ป 3 ไว้แล้ว) สำเนาบัตร ให้ก่อนซื้อ ก็จะดีครับ สบายใจทั้งสองฝ่าย
7. ตกลงระยะเวลาในการตัดโอนให้ดีครับ ว่าผู้ขายจะเป็นผู้อำนวยความสะดวกให้หรือเปล่า
ในระยะเวลา เท่านั้น เท่านี้ แต่ไม่ควรเกิน 6 เดือน
ไม่ว่าจะใช้หลักการใหนๆ ที่สำคัญต้องมีความจริงใจ ต่อกันทั้งสองฝ่ายครับ สังคมคนรักปืนจะได้อบอุ่นและยั่งยืนตลอดไป